“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2016

ระลึกถึง น.เยโรม พระสงฆ์และนักปราชญ์

ยบ 38:1,12-21; 40:3-5………………..
1พระยาห์เวห์ทรงตอบโยบจากกลางลมพายุว่า
12ตั้งแต่วันที่ท่านเกิดมา ท่านเคยสั่งรุ่งอรุณ
และเคยกำหนดสถานที่ให้รุ่งอรุณอยู่หรือ


13รุ่งอรุณจะได้จับชายแผ่นดินไว้
และสลัดคนชั่วออกไป
14แผ่นดินเปลี่ยนไปเหมือนดินเหนียวถูกตราประทับ
และมีสีต่างๆ เหมือนเสื้อผ้า
15แสงสว่างถูกถอนไปจากคนชั่ว
เพราะแขนของเขาที่เงื้อขึ้นเพื่อทำร้ายย่อมถูกหัก
16ท่านเคยเข้าไปจนถึงตาน้ำแห่งทะเล
หรือเดินเข้าไปในขุมลึกแล้วหรือ
17มีใครแสดงให้ท่านเห็นประตูแห่งความตาย
หรือท่านได้เห็นประตูเงาแห่งความตายแล้วหรือ
18ท่านรู้ความกว้างใหญ่ของแผ่นดินหรือ
ถ้าท่านรู้ทุกสิ่งแล้ว ก็จงบอกมา
19หนทางไหนนำไปสู่ที่พำนักของความสว่าง
และที่ไหนเป็นสถานที่ของความมืด
20ท่านจะได้นำทั้งแสงสว่างและความมืดไปอยู่ในเขตแดนของตน
หรืออย่างน้อยก็ชี้ทางให้มันกลับไปบ้านได้
21แน่นอน ท่านต้องรู้ เพราะเวลานั้นท่านเกิดมาแล้ว
จำนวนวันของท่านก็มากมาย

3โยบทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า
4“ดูเถิด ข้าพเจ้าไม่ใช่คนสำคัญ จะทูลตอบพระองค์ได้อย่างไร
ข้าพเจ้าเอามือปิดปาก
5ข้าพเจ้าได้กราบทูลครั้งหนึ่งแล้ว และจะไม่กราบทูลอีก
ข้าพเจ้ากราบทูลสองครั้งแล้ว จะไม่กราบทูลต่อไป”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• โยบบทที่ 3-37 ถ้าได้อ่านทั้งหมดดีเราจะสามารถเรียกได้ว่า เพื่อนๆโยบทั้งสี่คน รวมทั้งเจ้าหนุ่มเอลีฮูต่างพูดพล่ามกันเหลือเกินเรื่องความเจ็บป่วยของโยบ
o เพื่อนสามคนก็พยายามสุดกำลังที่จะเอาโยบให้ยอมจำนนกับความผิด แต่เขาไม่ผิด พยายามจะหา “เหตุผล” มาโถมให้โยบยอมรับแต่โยบก็ไม่จำนนได้เพราะเอาไม่อยู่
o สรุปว่า ปัญญามนุษย์เป็นเรื่องที่ยากเกินปัญญาที่จะเข้าใจ.... ขนาดเพื่อน 3 คน จำนวนเลข 3 คือเลขแห่งความสมบูรณ์ พูดกันคนละสามรอบมั้ง ก็เอาไม่อยู่ ทำให้โยบยอมจำนนไม่ได้
o หมายความว่า เรื่องความเจ็บป่วยของมนุษย์นั้น อันที่จริงไม่ใช่เรื่องของเหตุผลทางปัญญาหรือปรีชาญาณของมนุษย์ที่จะสามารถตอบหาเหตุผลได้ ไม่ใช่กฎแห่งกรรม หรือเหตุผลอื่นๆที่เพื่อนๆโยบพยายามมากที่จะให้โยบรับว่าตนผิด หรือไม่ก็ต้องมีเหตุ...พ่ออาจจะยังไม่ได้บอกว่า โยบมาจากไหนหนอ..

• เรากลับมาดูพระคัมภีร์โยบกันครับ...
o “มีชายคนหนึ่งชื่อโยบ อยู่ในแผ่นดินอูส เขาเป็นผู้ชอบธรรมและเป็นคนดีพร้อม ยำเกรงพระเจ้าและหลีกเลี่ยงความชั่วร้าย 2เขามีบุตรชายเจ็ดคนและบุตรหญิงสามคน” (ยบ 1:1-2) ก็โยบเปอร์เฟคซะขนาดนี้ครับ
o เขาอยู่ในแผ่นดินอูส Uz เมืองนี้อันที่จริงไม่ได้เน้นที่ภูมิศาสตร์ครับ แต่เน้นทางภาษาวรรณกรรม “อูส” ผันคำมาจากคำว่า “แอสา”
o อันที่จริงคำๆนี้เป็นภาษาฮีบรูทางเหนือ หรือเป็นภาษาที่ยืมมาจากภาษาทางเหนือ อูส จึงมีรากที่ แปลว่า “ปรีชาญาณหรือความฉลาด” (Wisdom)
o ถ้าจะตีความคงต้องตีความว่า โยบคือคนที่ฉลาดที่สุดที่มาจากเมืองของคนฉลาดที่สุด แปลว่า เขาฉลาดสุดแล้วครับ ยังหาเหตุผลเรื่องความเจ็บป่วยนี้ได้เลย...

• โยบร่ำรวยและครบครัน เรียกว่า เปอร์เฟค...
o บุตรชาย 7 คน เลขสมบูรณ์มาก
o บุตรสาว 3 คน เลขสมบูรณอีกเช่นกัน...
o เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้าด้วยครับ

• เอาเป็นว่า โยบเปอร์เฟคมากครับ แต่ แต่ แต่ ทำไมต้องมาเจอกับความป่วยไข้หนักหนาเช่นนี้...
o เพื่อนๆ สามคนเป็นเครื่องหมายแห่งความสมบูรณ์ทางด้านปรีชาญาณหรือความฉลาด มาหาโยบ มาสนทนา มาหาเหตุผล พยายามหาเหตุผลก็เอาไม่อยู่ครับ ทุกคนพยายาม “พล่ามคำพูด” หาเหตุผลยกแม่น้ำหลายสาย ก็ไม่สามารถใช้เหตุผลนั้นจำนนโยบลงได้... จนสามคนก็เงียบไป ไม่มีคำตอบ ไม่มีคำอธิบาย
o เจ้าหนุ่มน้อยที่ดูเหมือนนั่งฟังอยู่นาน... เอลีฮูเข้ามาแทรก ขอแจมด้วย (ยบ 32-37) ชายหนุ่มเลือดร้อนนั่งฟังปรีชาญาณของเพื่อนๆโยบ เขาเป็นเด็กหนุ่ม เขาปล่อยให้คนอายุมากกว่าพล่ามพูดกันจนจบแต่ก็เกินทน จึงระเบิดอารมณ์ออกมา...

• มาอ่านเรื่องราวตอนนี้กันหน่อยนะครับ... เขาโมโหมาก และพยายามพูดบ้าง... แต่ที่สุด ก็ไม่ต่างกัน เอาไม่อยู่เหมือนกัน... อ่านโยบบทที่ 32 กันครับ
o 1ชายทั้งสามคนนั้นหยุดโต้ตอบกับโยบ เพราะโยบคิดว่าตนเป็นผู้ชอบธรรม 2แต่เอลีฮู บุตรของบาราเคล ชาวบุซี จากตระกูลราม โกรธมาก เขาโกรธโยบ เพราะโยบอ้างว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมมากกว่าพระเจ้า
o 3เขาโกรธเพื่อนทั้งสามคนของโยบด้วย เพราะทั้งๆ ที่เขาทั้งสามคนยืนยันว่าโยบมีความผิด แต่ก็หาเหตุผลมาโต้ตอบไม่ได้ 4เอลีฮูรอให้ทั้งสามคนพูดกับโยบจบก่อน เพราะมีอายุมากกว่าตน 5เมื่อเอลีฮูเห็นว่าเขาทั้งสามคนไม่มีอะไรจะตอบอีกแล้ว ก็โกรธ 6เอลีฮู บุตรของบาราเคล ชาวบุซี พูดว่า

“ข้าพเจ้ายังเยาว์วัย
แต่ท่านสูงอายุแล้ว
ข้าพเจ้าจึงเกรงใจ
ไม่กล้าแสดงความคิดของข้าพเจ้าแก่ท่าน
7ข้าพเจ้าคิดว่า ผู้สูงอายุควรพูดก่อน
ผู้มีอายุมากกว่าย่อมสอนปรีชาญาณ
8ใช่แล้ว มีจิตในมนุษย์
การดลใจของพระผู้ทรงสรรพานุภาพทำให้มนุษย์มีความเข้าใจ
9อายุมากไม่ทำให้คนฉลาด
ผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องเข้าใจความถูกต้องเสมอไป
10เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงพูดว่า จงฟังข้าพเจ้าเถิด
ให้ข้าพเจ้าแสดงความรู้ของข้าพเจ้าให้ท่านฟัง
11จนถึงบัดนี้ ข้าพเจ้าได้คอยฟังคำพูดของท่าน
ได้เงี่ยหูฟังเหตุผลของท่าน
ขณะที่ท่านสรรหาว่าจะพูดอะไร
12ข้าพเจ้าตั้งใจฟังสิ่งที่ท่านพูด
และเห็นว่าไม่มีท่านใดพิสูจน์ได้ว่าโยบพูดผิด
ไม่มีท่านใดตอบคำพูดของโยบได้
13ท่านอย่าเพิ่งพูดว่า ‘เราได้พบปรีชาญาณแล้ว
พระเจ้าจะทรงชนะเขาได้ มิใช่มนุษย์’
14โยบไม่ได้โต้ตอบกับข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะไม่ใช้ถ้อยคำของท่าน โต้ตอบกับเขา
15เขาทั้งสามคนตกตะลึง ไม่ตอบอีก
เขาไม่มีถ้อยคำจะพูดอีกแล้ว
16ข้าพเจ้ารอคอย แต่เพราะเขาไม่พูดอีก
และยืนอยู่ที่นั่น ไม่ตอบอะไร
17ข้าพเจ้าจึงจะตอบ
จะแสดงความคิดเห็นของข้าพเจ้าด้วย
18ข้าพเจ้ามีถ้อยคำมากมายที่จะพูด
จิตใจภายในข้าพเจ้าผลักดันให้ข้าพเจ้าพูด
19ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเหมือนเหล้าองุ่นที่กำลังหมักอยู่
ซึ่งทำให้ถุงหนังใหม่จวนจะระเบิด
20ข้าพเจ้าจะพูด แล้วจะสบายใจ
ข้าพเจ้าจะเปิดริมฝีปากและตอบ
21ข้าพเจ้าจะไม่เห็นแก่หน้าผู้ใด
จะไม่ประจบสอพลอผู้ใด
22เพราะข้าพเจ้าประจบสอพลอไม่เป็น
มิฉะนั้น พระผู้สร้างของข้าพเจ้าจะกำจัดข้าพเจ้าในไม่ช้า”

• แต่ถ้าอ่านต่อไป จะพบว่า เอลีฮูก็ไม่ได้มีอะไรใหม่เหมือนกัน...

• เพื่อนสามคนพูดจนต้องเลิกพูดหมดปัญญาจะตอบหาเหตุผลเรื่องความเจ็บป่วย เรียกว่าทั้งสามคนต้องเป็นใบ้ไป

• เอลีฮูดูว่าเข้ามาอย่างแรง โกรธอย่างแรง (โยบ 32-27) ดูว่าน่าจะตอบอะไรได้ น่าจะหาเหตุผลได้แต่ก็ใบ้ไปในที่สุด...

• แล้วใครล่ะพูดคนสุดท้าย....
o คำตอบ คือ พระเจ้าครับ พระเจ้าครับ พระเจ้าครับ
o ดูเหมือนว่าพระองค์ทรงประทับนั่งฟังมาตั้งแต่ต้น พระองค์อยู่ด้วยมาตลอด ทรงฟังมาตลอด และคงจะขำในพระทัยมาตลอดจริงๆ กับคำพล่ามพูดและควาพยายามของพวกเพื่อนๆของโยบ

• จนในที่สุดพระเจ้าตรัสจากลมหมุน... (โยบ 38) พระคัมภีร์ที่เราอ่านในวันนี้... เป็นพระเจ้าที่ทรงตรัสถามคำถามมากมายแก่โยบ คำถามเกี่ยวกับโลกจักรวาล สรรพสัตว์ และสิ่งสร้าง...ผลคือ อึ้งเลยโยบ และทุกคนก็อึ้งกันหมด...
o มีคำถามมากมาย ความจริงมากมายที่มนุษย์ไม่มีทางรู้ได้....และแน่นอนหนึ่งในความจริงที่เกินความสามารถของมนุษย์จะรู้ได้คือ.....เรื่องความเจ็บป่วยของโยบ หรือเรื่องความเจ็บป่วยของมนุษย์นั่นเอง
o มนุษย์ คนฉลาดเช่นโยบจากเมืองอูสเมืองของคนฉลาด เพื่อนๆทั้งสามของโยบก็มาจากความชาญฉลาด...
o พวกเขาก็พยายามตอบหาเหตุผลเรื่องความเจ็บป่วยหรือชะตากรรมของโยบกันสุดๆ... พยายามพูดหาเหตุผลกันมากเกินไปจนลืมที่จะเงียบและฟัง และไตร่ตรองนั่นเอง..

• อ่านพระวาจาวันนี้นะครับ บางส่วนจากการตอบของพระเจ้าจากลมพายุ และท่าทีที่โยบต้องเอามือปิดปากและเลิกพยายามตอบ เลิกพยายามพูดกันเสียที

• อ่านต่อนะครับ และถ้าวันต่อไปไม่ใช่วันฉลองนักบุญเทเรซา ก็จะเป็นตอนจบครับ... หนังสือโยบนี้ยาวมากๆ อาจเป็นเพราะเป็นธรรมชาติที่คนเราชอบอธิบายเรื่องของความเจ็บป่วย ชอบพูดกันมากเหลือเกิน แม้ไม่ได้เข้าใจจริงๆ...

• สูตรที่ชอบกันมากๆ เวลาไปเยี่ยมคนเจ็บหนัก... หรือคนที่ต้องป่วยอย่างคาดไม่ถึง.. สูตรประจำเลย ชอบพูดกันนัก...
o “กางเขนนะ ใช้โทษบาปนะ
o ช่วยพระเยซูแบกรับทรมาน
o ร่วมทุกข์กับพระเยซูนะ
o พระเจ้ารักนะจึงให้แบกกางเขน
o มีบุญนะที่ได้ใช้โทษบาปขอคนอื่นๆทั้งโลกเลยนะ...

• เอาเข้าไปว่ากันเหมือนเพื่อนๆ โยบเลย... เอ ถ้าโดนเองจะว่าอย่างไรหนอ...

• ไม่ง่ายนะครับ... บางทีทำเหมือนพระเจ้าดีกว่าครับ
o เมื่อพบคนเจ็บหนักๆ รัก เงียบ ไม่ต้องพูดมาก แต่ฟังคนเจ็บมากๆ และ
o อยู่เงียบๆ เป็นเพื่อน การอยู่มีค่ามากๆครับ...
o พระเจ้าอยู่เสมอทำให้โยบยอมรับและรักพระเจ้าครับ...

 

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2024
วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกาบทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 13:26-33) ในครั้งนั้น เมื่อเปาโลมาถึงเมืองอันทิโอกในแคว้นปีสิเดีย ท่านกล่าวในศาลาธรรมว่า “พี่น้อทั้งหลาย ผู้เป็นบตรจากเชื้อสายของอับราฮัม และท่านที่เคารพยำเกรงพระเจ้า พระเจ้าทรงส่งข่าวเรื่องความรอดพ้นนี้แก่เรา ชาวเยรูซาเล็มและบรรดาหัวหน้าไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า จึงตัดสินลงโทษพระองค์ ทำให้ข้อความของบรรดาประกาศกที่อ่านทุกวันสับบาโตเป็นจริง แม้ว่าเขาไม่พบเหตุผลที่จะประหารพระองค์ได้ เขาก็ยังขอปีลาตให้ประหารพระองค์ เมื่อทำให้ทุกสิ่งที่เขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์เป็นจริงแล้ว เขาจึงปลดพระองค์ลงจากไม้กางเขน และนำไปวางไว้ในพระคูหา แต่พระเจ้าทรงบันดาลให้พระองค์กลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย...
วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2024 ฉลองนักบุญมาระโก ผู้นิพนธ์พระวรสารบทอ่านจากจดหมายนักบุญเปโตรอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง (1ปต 5:5ข-14) ท่านที่รักทั้งหลาย...
วันพุธที่ 24 เมษายน 2024 นักบุญฟีเดลิส แห่งซิกมาริงเก็น พระสงฆ์และมรณสักขีบทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 12:24 -13:5ก)...
วันอังคารที่ 23 เมษายน 2024 นักบุญยอร์จ มรณสักขีบทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 11:19-26) การเบียดเบียนที่เกิดขึ้นสมัยสเทเฟน ทำให้บรรดาศิษย์กระจัดกระจายไป...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)
การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)+++++++++++วันที่ 14 มีนาคม 2024 7 โมงเช้าวันนี้ ซิสเตอร์...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)
การประชุม CBF -SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)13 มีนาคม 2024 + 9...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)อังคารที่ 12 มีนาคม เริ่มเช้าวันใหม่...
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง++++++++++11 มีนาคม 2024 อาร์คบิชอป ไซม่อน โป แห่งอัครสังฆมณฑล คูชิง...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย ครั้งที่ 1 /2024
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) สมัยสามัญ ครั้งที่ 1 /2024 วันจันทร์ที่ 4...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 8 วันพุธที่...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” (1)
“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” 88. พระคูหาว่างเปล่า ข่าวดีจากทูตสวรรค์ (มก 16:1-8) 161เมื่อวันสับบาโตล่วงไปแล้ว...
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (2)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พระธรรมล้ำลึกยิ่งใหญ่แห่งความเชื่อคือ การที่พระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์...
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (1)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (มก 15:42-47) 1542วันนั้นเป็นวันเตรียม คือวันก่อนวันสับบาโต 43ครั้นถึงเวลาเย็น โยเซฟชาวอาริมาเธียซึ่งเป็นสมาชิกน่านับถือคนหนึ่งของสภาซันเฮดรินและกำลังรอคอยพระอาณาจักรของพระเจ้า...
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ” (2)
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ” 86. กลุ่มสตรีที่เนินกัลวารีโอ (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ในสตรีเหล่านี้ เราเห็นความรักมั่นคง ความซื่อสัตย์...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์