“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

หนังสือประกาศกโยนาห์

  1. บทที่ 1
  2. บทที่ 2
  3. บทที่ 3
  4. บทที่ 4

โยนาห์ไม่ยอมปฏิบัติภารกิจที่พระเจ้าทรงบัญชา

1 1พระยาห์เวห์ตรัสกับโยนาห์บุตรของอามิททัยว่า 2“จงลุกขึ้น ไปยังกรุงนีนะเวห์นครใหญ่ และประกาศแก่เมืองนั้นว่าความชั่วของเขาขึ้นมาถึงเรา” 3แต่โยนาห์ลุกขึ้นหนีจากพระพักตร์พระยาห์เวห์ไปยังเมืองทารชิชa เขาลงไปถึงเมืองยัฟฟา และพบเรือลำหนึ่งกำลังไปเมืองทารชิช เขาจึงชำระค่าโดยสาร และลงเรือเดินทางพร้อมกับคนอื่นไปยังเมืองทารชิชให้พ้นจากพระพักตร์พระยาห์เวห์

          4แต่พระยาห์เวห์ทรงส่งลมแรงเหนือทะเลทำให้เกิดพายุใหญ่ในทะเล จนน่ากลัวว่าเรือจะอับปาง 5บรรดาลูกเรือมีความกลัว ต่างร้องหาเทพเจ้าของตนb และโยนข้าวของในเรือลงทะเล เพื่อให้เรือเบาลง ส่วนโยนาห์ลงไปใต้ท้องเรือ นอนลงและหลับสนิท 6นายเรือมาหาเขา พูดว่า “อะไรกัน ท่านยังนอนหลับได้หรือ จงลุกขึ้น เรียกพระเจ้าของท่าน บางทีพระองค์จะทรงคิดถึงพวกเราบ้าง เราจะได้ไม่ต้องพินาศ” 7แล้วทุกคนพูดกันว่า “มาเถอะ เราจงจับสลากกัน เพื่อจะรู้ว่าใครเป็นเหตุทำให้ภัยนี้เกิดแก่เรา” เขาจึงจับสลาก สลากก็ตกแก่โยนาห์c 8เขาเหล่านั้นจึงถามโยนาห์ว่า “บอกเราซิว่า ทำไมท่านจึงเป็นเหตุให้ภัยนี้เกิดแก่เราd ท่านทำอาชีพอะไร ท่านมาจากไหน แผ่นดินของท่านอยู่ที่ไหน ท่านเป็นชนชาติใด” 9เขาจึงตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวฮีบรู ข้าพเจ้านมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของสวรรค์ ผู้ทรงสร้างทะเลและแผ่นดินแห้ง” 10คนเหล่านั้นมีความกลัวมาก ถามเขาว่า “ทำไมท่านจึงทำเช่นนี้” เพราะคนเหล่านั้นรู้แล้วว่าโยนาห์กำลังหนีจากพระพักตร์พระยาห์เวห์ เพราะเขาได้บอกแล้ว

          11บรรดาลูกเรือจึงถามเขาว่า “เราจะต้องทำอย่างไรกับท่าน เพื่อทะเลจะได้สงบลงสำหรับเรา” เพราะทะเลยิ่งปั่นป่วนมากขึ้น 12โยนาห์จึงตอบว่า “จงจับข้าพเจ้าโยนลงไปในทะเล ทะเลก็จะสงบลงสำหรับท่าน เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าเป็นความผิดของข้าพเจ้าที่พายุใหญ่เกิดขึ้นแก่ท่านเช่นนี้” 13พวกลูกเรือพยายามแจวเรืออย่างสุดกำลังเพื่อนำเรือกลับเข้าฝั่ง แต่ไม่สำเร็จ เพราะทะเลยิ่งปั่นป่วนต้านเขามากขึ้น 14เขาทั้งหลายจึงร้องหาพระยาห์เวห์ พูดว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ได้ทรงโปรดเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลายวอนขอพระองค์อย่าทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องพินาศ เพราะชีวิตของชายผู้นี้เลย อย่าให้ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องรับผิดชอบความตายของผู้บริสุทธิ์ เพราะพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ได้ทรงกระทำตามที่พอพระทัย” 15เขาทั้งหลายจึงจับโยนาห์โยนลงไปในทะเล ความปั่นป่วนของทะเลก็สงบลง 16คนเหล่านั้นมีความกลัวพระยาห์เวห์ยิ่งนัก เขาจึงถวายบูชาแด่พระยาห์เวห์และบนบานต่อพระองค์e

 

1 a “ทารชิช” (ดู 1 พกษ 10:1 เชิงอรรถ a; สดด 48:7 เชิงอรรถ c) สำหรับชาวฮีบรู “ทารชิช” ถูกคิดว่าเป็นสุดปลายของโลก

b บรรดาลูกเรือมาจากชนชาติต่างกัน แต่ละคนนับถือเทพเจ้าของตน แต่ก็ยังเชื่อในอานุภาพของเทพเจ้าอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

c ความเชื่อที่ว่าเรือต้องอยู่ในอันตราย เพราะมีคนผิดอยู่ในเรือลำนั้นพบได้ทั่วไปในสมัยโบราณ

d “ทำไมท่านจึงเป็นเหตุให้เกิดภัยนี้แก่เรา” ต้นฉบับภาษากรีกละวลีนี้ หลายคนคิดว่าข้อความนี้เป็นวลีที่ผู้คัดลอกเสริมเข้ามาจากข้อก่อนหน้านั้น **** “ท่านทำอาชีพอะไร” ตามตัวอักษรว่า “อะไรคือธุระของท่าน” วลีนี้ยังอาจแปลได้อีกว่า “อะไรคือจุดประสงค์การเดินทางของท่าน”

e ผู้แต่งเน้นความเลื่อมใสศรัทธาของลูกเรือต่างศาสนา เขาทั้งหลายรู้สึกตกใจที่โยนาห์บังอาจไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์ (ข้อ 10) พวกเขายังรู้สึกกังวลใจ ไม่ต้องการจะถูกโทษจากพระพิโรธของพระยาห์เวห์เช่นเดียวกัน ไม่ว่าโดยปกป้องโยนาห์ หรือโดยโยนเขาลงไปในทะเล (ข้อ 14) และยังถวายบูชาแด่พระเจ้าของโยนาห์ซึ่งเขายอมรับพระอานุภาพด้วย (ข้อ 16)

พระเจ้าทรงช่วยโยนาห์ให้รอดชีวิต

2 1พระยาห์เวห์ทรงจัดให้ปลาใหญ่ตัวหนึ่งกลืนโยนาห์เข้าไป โยนาห์อยู่ในท้องปลาเป็นเวลาสามวันสามคืนa 2จากท้องปลา โยนาห์อธิษฐานภาวนาต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของตนว่าb

          3“ในยามทุกข์ยาก ข้าพเจ้าร้องหาพระยาห์เวห์

พระองค์ก็ทรงตอบข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าร้องหาพระองค์จากท้องแดนผู้ตาย

พระองค์ก็ทรงฟังเสียงของข้าพเจ้า

4เพราะพระองค์ทรงเหวี่ยงข้าพเจ้าลงไปในที่ลึก

ในท้องทะเล

น้ำก็ท่วมล้อมรอบข้าพเจ้าไว้

กระแสคลื่นทั้งที่เรียบรื่นและแตกฟองของพระองค์กลบข้าพเจ้าแล้ว

5ข้าพเจ้าจึงทูลว่า ‘ข้าพเจ้าถูกขับไล่ให้พ้นจากพระพักตร์พระองค์

แล้วข้าพเจ้าจะเงยหน้ามองพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้อีกหรือ’c

6น้ำล้อมข้าพเจ้าขึ้นจนถึงคอ

ทะเลลึกล้อมรอบข้าพเจ้า

สาหร่ายทะเลพันรอบศีรษะข้าพเจ้า

7ข้าพเจ้าลงไปถึงรากภูเขาทั้งหลายd

แผ่นดินลั่นดาลประตูปิดกั้นข้าพเจ้าไว้ตลอดไป

แต่พระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า

พระองค์ทรงนำชีวิตของข้าพเจ้าขึ้นมาจากขุมลึก

8เมื่อชีวิตของข้าพเจ้ากำลังอ่อนเปลี้ย

ข้าพเจ้าระลึกถึงพระยาห์เวห์

คำอธิษฐานของข้าพเจ้ามาถึงพระองค์

ในพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

9ผู้กราบไหว้รูปเคารพไร้สาระ

ละทิ้งความจงรักภักดีต่อพระองค์

10แต่ข้าพเจ้าจะถวายบูชาแด่พระองค์

ด้วยบทเพลงขอบพระคุณ

ข้าพเจ้าบนบานอะไรไว้ ข้าพเจ้าก็จะแก้บนตามนั้น

ความรอดพ้นมาจากพระยาห์เวห์”

          11แล้วพระยาห์เวห์ตรัสสั่งปลาให้สำรอกโยนาห์ออกไว้บนแผ่นดินแห้ง

 

2 a เรื่องปลาและอัศจรรย์อื่นๆ ที่ผู้แต่งชอบ ดู “ความรู้เกี่ยวกับประกาศก” ข้อ 28

b บทประพันธ์บทนี้เป็นการนำข้อความจากเพลงสดุดีต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกันเหมือนโมเสค ในรูปแบบของเพลงสดุดีขอบพระคุณ โดยบรรยายถึงความทุกข์ที่ได้รับ และความช่วยเหลือให้รอดพ้นจากความทุกข์เหล่านั้น สำหรับผู้นิพนธ์เพลงสดุดี อันตรายยิ่งใหญ่คือ “ความตาย” และความช่วยเหลือให้รอดพ้นเป็น “การกลับคืนชีพ” (ดูที่นี่ ข้อ 6, 7, 8) “ทะเล” ซึ่งเป็น “ศัตรูเอก” ของพระเจ้า (ดู โยบ 7:12 เชิงอรรถ f) ถูกมองว่าเป็นเหมือนอาณาจักรของความตายเอง หรืออย่างน้อยเป็นหนทางนำไปสู่ความตาย เพราะเหตุนี้ บทประพันธ์จึงน่าเร้าใจ ทำให้พระเยซูเจ้าตรัสถึงการผจญภัยของโยนาห์ใน มธ 12:40; ลก 11:30 มาใช้เปรียบเทียบกับการที่ทรงอยู่ “ในท้องแผ่นดิน” (ซึ่งหมายถึง “แดนผู้ตาย” มากกว่า “หลุมศพ” เทียบ ยนา 2:2-3) เป็นเวลาสามวัน อาณาจักรแห่งความตายได้รับการบรรยายถึงประหนึ่งว่าเป็นสัตว์ประหลาดตะกละที่ไม่อาจยึดพระเยซูเจ้าไว้ได้ ต้องปล่อยพระองค์ไป (=การกลับคืนพระชนมชีพ) การที่ศีลล้างบาปของคริสตชนมีความคล้ายกันกับการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า จึงทำให้ภาพของโยนาห์ถูกนำมาใช้ในคำอธิบายถึงรูปแบบของศีลล้างบาปด้วย

c “แล้วข้าพเจ้า...ได้อีกหรือ” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ถึงกระนั้นข้าพเจ้ายังจะเห็น...”

d “รากภูเขาทั้งหลาย” อาจหมายถึง “ก้นทะเล” ซึ่งเป็นที่ตั้งรากฐานของแผ่นดิน

ชาวนีนะเวห์กลับใจ

3 1พระยาห์เวห์ตรัสกับโยนาห์อีกครั้งหนึ่งว่า 2“จงลุกขึ้นไปยังกรุงนีนะเวห์นครใหญ่ และประกาศเรื่องที่เราจะบอกท่านแก่เมืองนั้น” 3โยนาห์ก็ลุกขึ้นไปยังกรุงนีนะเวห์ตามพระวาจาของพระยาห์เวห์ กรุงนีนะเวห์เป็นนครใหญ่มากa ถ้าจะเดินข้ามเมืองก็กินเวลาสามวัน 4โยนาห์เริ่มเดินเข้าไปในเมืองเป็นระยะทางเดินหนึ่งวัน ร้องประกาศว่า “อีกสี่สิบวันb กรุงนีนะเวห์จะถูกทำลาย” 5ชาวกรุงนีนะเวห์เชื่อฟังพระเจ้า และประกาศให้อดอาหาร สวมผ้ากระสอบทุกคน ตั้งแต่คนยิ่งใหญ่ที่สุดจนถึงคนต่ำต้อยที่สุดc 6ข่าวนี้ลือไปถึงกษัตริย์กรุงนีนะเวห์ พระองค์ทรงลุกขึ้นจากพระบัลลังก์ ทรงเปลื้องฉลองพระองค์ออก ทรงสวมผ้ากระสอบและประทับนั่งบนกองขี้เถ้าd 7กษัตริย์ทรงประกาศกฤษฎีกาในกรุงนีนะเวห์พร้อมกับข้าราชบริพารชั้นสูงว่า “ทั้งคนและสัตว์ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก อย่ากินสิ่งใด อย่ากินหญ้าหรือดื่มน้ำเลย 8ทั้งคนและสัตว์จงสวมผ้ากระสอบและร้องหาพระเจ้าสุดกำลัง แต่ละคนจงกลับใจจากความประพฤติชั่วและเลิกใช้การกระทำที่รุนแรง 9ใครจะรู้ได้ พระเจ้าอาจทรงเปลี่ยนพระทัย ทรงพระเมตตา และคลายพระพิโรธที่รุนแรง เพื่อเราจะไม่ต้องพินาศ” 10พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นความพยายามของเขา ที่จะกลับใจไม่ประพฤติชั่วอีกต่อไป พระเจ้าทรงพระเมตตาไม่ลงโทษตามที่ตรัสไว้ว่าจะทรงลงโทษเขา

 

3 a “ใหญ่มาก” แปลตามตัวอักษรว่า “ใหญ่สำหรับพระเจ้า” ซึ่งเป็นวิธีเปรียบเทียบขั้นสูงสุดในภาษาฮีบรู ยังมีการพูดเกินความจริงคล้ายกันอีกที่ว่า “ถ้าจะเดินข้ามก็กินเวลาสามวัน” เพื่อช่วยให้คิดถึงขนาดใหญ่มหึมาของกรุงนีนะเวห์

b “สี่สิบวัน” ชวนให้คิดถึง 40 วันของน้ำวินาศ หรือ 40 ปีที่ชาวอิสราเอลเดินทางในถิ่นทุรกันดาร (ดู 1 พกษ 19:8 ด้วย) ต้นฉบับภาษากรีกอ่านว่า “อีกสามวัน” (เทียบ 2:1)

c ตัวอย่างการกลับใจของชาวนีนะเวห์ถูกกล่าวถึงในพระวรสาร (มธ 12:41; ลก 11:32) ที่นี่ เช่นเดียวกับในพระวรสาร การกลับใจของชาวนีนะเวห์อยู่ตรงข้ามกับการไม่ยอมเชื่อของชาวยิว

d การบรรยายทั้งหมดนี้ถึงการเป็นทุกข์กลับใจ ตรงกันข้ามกับ ยรม 36 (ดู “ความรู้เกี่ยวกับประกาศก” ข้อ 28) ข้อความตอนนี้ยังมีวลีต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของประกาศกเยเรมีย์

โยนาห์ไม่พอใจที่พระเจ้าทรงพระกรุณา

4 1โยนาห์ไม่พอใจอย่างมากและมีความโกรธเคือง 2เขาอธิษฐานภาวนาต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ เมื่อข้าพเจ้ายังอยู่ในแผ่นดินของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดแล้วมิใช่หรือว่าจะเป็นไปเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงรีบหนีไปยังเมืองทารชิช เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้เมตตาและกรุณา ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักมั่นคง และกลับพระทัยไม่ลงโทษ 3บัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอพระองค์ทรงเอาชีวิตของข้าพเจ้าไปเถิด เพราะข้าพเจ้าตายเสียยังดีกว่ามีชีวิตอยู่” 4แต่พระยาห์เวห์ตรัสตอบว่า “ท่านต้องโกรธขนาดนี้เทียวหรือ”

          5โยนาห์จึงออกจากเมืองไปนั่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง เขาสร้างเพิงแล้วไปนั่งในร่มที่นั่น คอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเมืองนั้น 6พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงจัดให้ต้นละหุ่งต้นหนึ่งงอกขึ้นมาเหนือโยนาห์เพื่อให้ร่มบังศีรษะของเขา ทำให้เขาคลายความกลัดกลุ้ม โยนาห์จึงยินดียิ่งนักเพราะต้นละหุ่งต้นนี้ 7แต่วันต่อมาเมื่อตะวันขึ้น พระเจ้าทรงจัดให้หนอนตัวหนึ่งมากัดกินต้นละหุ่งต้นนั้นจนเหี่ยวไป 8เมื่อตะวันขึ้นแล้ว พระเจ้าทรงจัดให้ลมตะวันออกที่ร้อนจัดaพัดมา แสงแดดก็แผดเผาศีรษะของโยนาห์จนเป็นลม เขาจึงทูลขอให้ตาย พูดว่า “ข้าพเจ้าตายเสียยังดีกว่ามีชีวิตอยู่” 9พระยาห์เวห์จึงตรัสกับโยนาห์ว่า “ท่านต้องโกรธขนาดนี้เพราะต้นละหุ่งต้นนั้นเทียวหรือ” โยนาห์ทูลตอบว่า “ใช่แล้ว พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าโกรธมากจนอยากตาย” 10แต่พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ท่านสงสารต้นละหุ่งต้นนั้นที่ท่านไม่ได้ลงแรงปลูกหรือทำให้มันงอกขึ้น มันโตขึ้นในคืนเดียว แล้วก็ตายไปในคืนเดียว 11แล้วเราจะไม่ต้องสงสารกรุงนีนะเวห์นครยิ่งใหญ่นั้น ซึ่งมีประชาชนมากกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นคนที่แยกไม่ออกว่าข้างไหนมือขวาข้างไหนมือซ้าย และมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากbด้วยละหรือ”

 

4 a “ร้อนจัด” ตามต้นฉบับภาษากรีก (ตามตัวอักษรว่า “ลมของการเผาไหม้”) ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน

b บทที่ 4 เน้นถึงการที่พระเจ้าทรงเมตตาสงสารต่อมนุษย์ทุกคน พระเจ้าทรงเมตตาสงสารต่อโยนาห์ในทะเล (2:7) ต่อชาวนีนะเวห์ที่เป็นทุกข์กลับใจ (3:10) ต่อประกาศกที่สงสารตนเอง (4:6) และในที่สุด (4:10-11) พระองค์ทรงอธิบายโดยประชดประชันอย่างอ่อนๆ ว่าทรงเอาพระทัยใส่แม้กับสัตว์เลี้ยงด้วย ดังนั้น พระองค์จะต้องทรงสงสารมนุษย์ทั้งชายหญิงและเด็กๆ “ที่แยกไม่ออกว่าข้างไหนมือขวาข้างไหนมือซ้าย” มากกว่าสักเท่าใด หนังสือโยนาห์ทั้งหมดจึงเตรียมทางสำหรับการเปิดเผยในพระวรสาร คือ “พระเจ้าทรงเป็นความรัก”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก