วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2016

สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา

อมส 5:14-15,21-24
14จงแสวงหาความดี อย่าแสวงหาความชั่ว
แล้วท่านจะมีชีวิต
พระยาห์เวห์จอมจักรวาลจะสถิตกับท่านดังที่ท่านอ้าง

15จงเกลียดชังความชั่ว จงรักความดี
จงตั้งความยุติธรรมไว้ที่ประตูเมือง
บางทีพระยาห์เวห์จอมจักรวาล
จะทรงสงสารพงศ์พันธุ์โยเซฟที่เหลืออยู่
21“เราเกลียด เรารังเกียจเทศกาลฉลองของท่าน
เราไม่พอใจการประชุมสง่างามของท่าน
22แม้ท่านทั้งหลายถวายเครื่องเผาบูชา
เราก็ไม่พอใจธัญบูชาของท่าน
เราไม่มองสัตว์อ้วนพีที่ท่านถวายเป็นศานติบูชา
23จงให้เสียงอึกทึกของบทเพลงของท่านอยู่ห่างจากเรา
เราทนฟังเสียงพิณใหญ่ของท่านไม่ได้
24แต่จงให้ความยุติธรรมหลั่งไหลลงเหมือนน้ำ
และให้ความชอบธรรมเป็นเหมือนธารน้ำที่ไม่มีวันเหือดแห้ง

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• นานมาแล้วพ่อจำได้ว่า พระสันตะปาปายอห์นปอลที่สองเคยทรงได้เรียกร้องและตำหนิสังคมด้วยมโนธรรมของพระศาสนจักร
o ในเวลานั้น พระองค์ทรงมีความวิตกกังวลเรื่องประชาชนในประเทศอาฟริกาที่กำลังลำบากด้วยการขาดแคลนอาหาร และมีเด็กอดตายนับเป็นหมื่นๆคน และสะสมเป็นแสนคนต่อปีที่มีเด็กต้องตายเพราะความขาดแคลน ความกันดารอาหาร ความแห้งแล้งในประเทศบางประเทศในอาฟริกา...

• พระสันตะปาปายอห์นปอลที่สองทรงเคยได้แสดงออกซึ่งความทุกข์ใจ เพราะในประเทศยุโรมีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ เช่นสุนัข แมว มากมาย อาหารของสัตว์เหล่านี้ราคาแพงๆ เป็นอาหารกระป๋อง อาหารกล่อง หรืออาหารถุง หลายยี่ห้อโฆษณาว่าทำจากเนื้อปลาชั้นดี และสามารถมีรสชาติให้เลือกหลายหลากรส
o เรียกว่าแมวสามารถเลือกกินปลาได้แต่ละวัน เนื้อปลาที่ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละวัน และล้วนแต่เป็นปลาทะเลแพงๆทั้งสิ้น พระองค์เคยย้ำว่า “มนุษย์ไม่มีสิทธิ์ผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์เหล่านี้อย่างดี อย่างแพง และฟุ่มเฟือยในการเลี้ยงสัตว์ ในขณะที่มนุษย์ เพื่อนพี่น้องร่วมโลก เด็กในอาฟริกาและในโลกยังอดตายหรือขาดแคลนอาหารจำนวนมาก”...
o ฟังดูก็น่าสะเทือนใจครับ แมวยังมีรสชาติอาหารให้เลือกหลายรสหลากชนิด แต่พี่น้องเพื่อนมนุษย์ของเรา พี่น้องของเรา ไม่มีอาหารกิน และอดตาย ขาดสารอาหารอย่างน่าเสียใจจริงๆ จริงๆนะครับ

• ไม่ต่างกัน ในประเทศไทยและทั่วโลก สุนัข แมว กำลังมีเกียรติยศสูงส่งมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เรียกว่า ถ้าพวกเราเดินผ่านๆไปแล้วจะเข้าร้านตัดผม หรือจะเข้าไปสระไดร์หรือเข้าไปทำสปา เข้าร้านเสริมสวยประเทืองความงามต่างๆ เราต้องดูให้ละเอียดดีพอสมควรเชียวแหละ สังเกตให้ชัดว่าเป็นร้านเสริมสวยสำหรับมนุษย์หรือของสุนัขของแมว....
o และที่แปลก คนปัจจุบันก็ติดปากเรียกสัตว์เหล่านี้ว่า “น้องหมา” “น้องแมว” ฟังน่ารักดีครับ เรามนุษย์เริ่มมีน้องเป็นสุนัขหมาแมวแล้วครับ
o แต่ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือมนุษย์ด้วยกันกับบ่อยครั้งเรียกเพื่อนๆ พี่น้องของตนว่า “ไอ้......(เดาเองได้ยินบ่อยเลยแหละ)” ซึ่งดูว่าไม่ค่อยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นมนุษย์สักเท่าใด
o สุนัขบางตัวนอนกรงงาม นอนห้องแอร์ และมีคนรับใช้คอยเลี้ยงดูทำความสะอาดปัดกวาด ขณะที่คนรับใช้ของเราไม่เคยได้นอนห้องแอร์มาเลยชั่วชีวิต.... ต้องแต่งตัวให้สุนัข อาบน้ำให้ สระขนด้วยน้ำยาราคาแพง สบู่แพง พ่อเคยได้ยินว่ายาสีฟันสำหรับสุนัขบางหลอดราคาหลักพันบาทเชียวแหละ... แต่คนรับใช้เราไม่เคยได้มีเงินแม้แต่จะซื้อยาสระผมดีๆใช้...

• พ่อว่าสถานการณ์แบบนี้ถ้าให้ความใส่ใจกับสัตว์เลี้ยงมากจนเกินไป พ่อคิดว่านี่เป็นบาปนะครับ
o ถ้าเราดูและสุนัขดีกว่าคน...เพราะคนมีความเหมือนพระเจ้าทุกคน แต่สุนัขไม่มีเลย...แล้วสุนัขบางตัวสวมเสื้อแบรนด์ดังๆ มีเครื่องประดับราคาแพงด้วยทั้งๆที่มันมีขนอยู่แล้วเต็มตัว แต่พี่น้องของเราไม่มีแม้แต่เศษเสื้อผ้าเก่าๆปกปิดร่างกาย สุนัขบางตัวมีเครื่องประดับเพชรด้วย เข็มกลัดทองฝังเพชรราคาเป็นแสนๆเชียวครับ สงสัยสลับกันใส่กับเจ้าของหรือเปล่าเท่านั้น....

• ครับ วันนี้พ่อเขียนเรื่องเหล่านี้เพราะสมัยของประกาศกอาโมสมีประเด็นที่น่าคิดมากๆ
o ประชาชนคนยากจนถูกรังแก ถูกลดทอนคุณค่ามากๆ จนเขาซื้อคนจนกันด้วยรองเท้าแตะคู่เดียวทีเดียว...
o เจ็บครับ ถ้าคน หรือภาพลักษณ์ของพระเจ้าจะถูกมองข้ามไป พระเยซูเจ้าเคยตรัสแม้คนละบริบทก็ตาม แต่คำเด็ด “ให้ลูกๆ กินอิ่มก่อน แล้วค่อยโยนเศษที่เหลือให้ลูกสุนัข” แต่บ่อยครั้งในชีวิตจริงปัจจุบัน สุนัขหลายตัวอยู่อย่างได้รับการประคบประหงมมากกว่า “คน” เป็นไปได้อย่างไร
o พ่อไม่ได้เกลียดสุนัขนะครับ รักด้วย น่ารักและเห็นความน่ารักของสุนัขมากๆ แต่ “คน” อย่างไรก็มีค่ามากกว่าแบบเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยจริงๆ
o ตรงนี้แหละที่พ่ออยากแบ่งปันความคิด เพื่อเราจะได้ปฏิรูปชีวิตสังคมของเรา จะได้ไม่หลงประเด็นหรือเข้าใจผิด และคิดว่า “คน” มีค่าน้อยเกินไปในสายตาของสังคม หรือของพวกเรา

• พี่น้องครับ เราคริสตชนต้องให้เกียรติมนุษย์มากที่สุดนะครับ เราจะปล่อยให้สังคม โลก กระแสโลก ค่านิยมผิดๆพาไปไม่ได้เด็ดขาด พระเจ้าเรียกร้องอย่างยิ่งคือ ความยุติธรรม และความดี ความยุติธรรมนี้คือการแสวงหาและยืนยันความจริงครับ และความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสังคมมนุษย์คือ “มนุษย์คือภาพลักษณ์ของพระเจ้า มีศักดิ์ศรีสูงสุด ไม่สามารถจะถูกลดทอนลงได้ หรือจะยกย่องสรรพสัตว์อื่นและดูและจนลืมเพื่อนมนุษย์ไม่ได้เด็ดขาดครับ”

• ขอเล่าเรื่องเก่าอีกหน่อยครับ... “หลุยส์รุ่น ตองปูด็อง”

o จบด้วยประสบการณ์เล็กของพ่อครับ พ่อเองก็มีกระเป๋าหิ้วแบรนเนมเหมือนกันครับ หลานสาวที่ทำงานต่างประเทศเขาซื้อให้ ยี่ห้อไม่ต้องพูดถึงครับ..ชื่อกษัตริย์ฝรั่งเศสเลยแหละ
o วันหนึ่งพ่อไปทานอาหารแถวๆ สมุทรสาครกับหลายๆ คน พ่อวางกระเป๋าที่เขาว่ากันว่าหรูไว้เก้าอี้ข้างๆ ดั๊นเปิดไว้ด้วย มีเด็กเสริฟครับเป็นนักเรียนชายน่าจะเรียนประมาณชั้นมัธยมหนึ่งหรือสอง เขาดูแลโต๊ะเราดีมาก ทุกคนชอบเขา และแน่นอนคนที่ไปกับพ่อก็เตรียมให้เงินพิเศษกับเด็กคนนี้ครับเพราะรู้ๆเดาๆได้ว่าเขาน่าจะเป็นนักเรียกมาทำงานหารายได้พิเศษ
o ตอนเก็บโต๊ะ..เจ้ากรรมครับ จานส้มตำปูม้าดอง (พ่อไม่ได้ทานเพราะไม่ทานปูดองครับ) เด็กเขาก็ยกผ่านกระเป๋าหรูของพ่อ (ซึ่งกระเป๋านั้นก็เปิดอยู่ด้วยครับ)
o นั่น..จนได้...หลุยส์ของพ่อรับจากจานส้มตำปูดองเข้าไปเต็มๆ เปียกโชกทั้งภายนอกและภายนอก...ทุกคนในโต๊ะตกใจรีบมาช่วยกันซับน้ำตำปูดองกันใหญ่เลยครับ ก็มันลงไปเยอะใช้ได้ครับ พ่อก็รีบเช็ดเหมือนกันช่วยกันใหญ่

o ส่วนเจ้าเด็กหนุ่มคนนั้นพูดไม่ออกเลยครับ เขาเห็นหลายคนช่วยกันเช็ดกระเป๋าให้พ่อ เขาทำอะไรไม่ถูก...
o น่าสงสารเขาครับกระเป๋าไมต้องสงสารเพราะมันไม่เจ็บหรอก เด็กเขาดูตกใจและอึ้ง... ส่วนพ่อก็จัดการเช็ดทำความสะอาดกันตรงนั้นไปครับ แต่ที่แน่ๆ กระเป๋าพ่อไม่เหมือนใครครับ เป็นหลุยส์รุ่นพิเศษไปแล้วครับ ไม่มีใครเหมือนยูนี๊คมากๆ พ่อขนามนามเป็นภาษาฝรั่งเศสว่าหลุยส์รุ่น “ตองปูดอง” หรือ “ตำปูดอง” ครับ ยังใช้จนทุกวันนี้ ไม่ได้ส่งซักด้วยครับ แค่เอาน้ำเช็ดๆเท่านั้น ก็โอเคแล้วครับ..

o เจ้าเด็กคนนั้นเขาขอโทษพ่อแบบตกใจแหละ เจ้าของร้านก็สั่งให้ขอโทษและเขาก็โดนดุ คนที่ไปกับพ่อหลายคนก็เสียดายกระเป๋า แนะนำให้ส่งซักส่งทำความสะอาด (ความจริงคือไม่ได้ส่งครับยังคงรุ่นตองปูดองจนทุกวันนี้)

• กับเจ้าหนุ่มน้อยหน้าซีดนั้น...
o พ่อก็บอกว่า “ไม่เป็นไรลูก”... เมื่อมีจังหวะพ่อก็เรียกเขามาว่านี่ (เขาตกใจครับ) พ่อกอดคอเขาและกระซิบที่หูว่า “ลูก กระเป๋าใบนี้แพงนะลูก ถ้าทำพลาดแบบนี้อีกกับของคนอื่นเขาอาจตำหนิหรือเรียกร้องค่าเสียหายจากทางร้านได้นะครับ.... ระวังมากๆ นะลูก อย่าให้เกิดกับลูกค้าคนอื่นอีกนะครับ...”
o เขายกมือไหว้พ่อใหญ่เลยครับ สำหรับพ่อกระเป๋ามันก็ไม่เป็นไรจริงๆ จำได้ว่าตอนออกจากร้านเขามายืนไหว้ส่งกลุ่มเรา พ่อก็เดินเข้าไปกระซิบเขาย้ำคำเดิม “ระวังนะลูก ใบนี้ไม่เป็นไรนะครับ แต่ระวังมากๆ อย่าให้เกิดกับใครอีกนะครับ...” แถมให้ทิปเขาด้วย เพราะเราชื่นชมเขามาแต่แรก เพราะเขาเป็นนักเรียนมาทำงานหาเงิน...
o ไม่โกรธหรอกครับและไม่ได้เสียหายอะไรครับ ยังใช้ได้ดี ไม่ได้ซักด้วยแค่เอาน้ำซับๆนิดหน่อย เพราะที่สุดกระเป๋าใบนี้ รุ่นนี้ของพ่อน่าจะเป็นใบเดียวในโลกที่เคยผ่านน้ำตำปูดองมาแล้วครับ ราคาน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่มีใครเหมือนครับ

• ประสบการณ์ของพี่น้องก็คงมีมาก ขอให้เป็นประสบการณ์แห่งความรักเมตตาคนที่มีโอกาสน้อยกว่าเราเสมอนะครับ จงแสวงหาความดีเสมอ... อ่านอาโมสนะครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ.....

• พี่น้องที่รัก จากคำสอนของพระสันตะปาปานักบุญของเรา และจากประสบการณ์เล็กๆของพ่อ เรากลับมาอ่านประกาศกอาโมสกันอีกหน่อยครับ... พ่อเห็นว่า พระเจ้าต้องการ “ความใจดีและความยุติธรรม” จริงๆครับ
o พระเจ้าตรัสผ่านประกาศกอาโมส เป็นคำตัดพ้อต่อว่าจริงๆต่อความอยุติธรรม ต่อกิจการที่กระทำให้ดูดีแต่ขาดไร้ซึ่งความรักและความจริงใจต่อคนยากไร้
o เป็นคนที่ถือศาสนา ถวายบูชามากมาย และกลับไม่ความรักและความเมตตาจริงๆเอาเสียเลย นั่นคือประเด็น อ่านดีๆสิครับ เสียงตำหนิของพระเจ้าต่อชีวิตที่อยุติธรรม
o พระเจ้าทรงสั่งผ่านอาโมส ให้แนวทางและเรียกร้องจริงๆต่อชีวิตของประชากรของพระเจ้า พ่อคิดว่าเสียงของพระวาจานี้ต้องเป็นเสียงมโนธรรมสำหรับเราให้ได้ครับ ย้ำคำสั่งต่อประชาชนในยุคของอาโมสอีกครั้งนะครับ
1. จงแสวงหาความดี อย่าแสวงหาความชั่ว
2. จงเกลียดชังความชั่ว
3. จงรักความดี
4. จงตั้งความยุติธรรมไว้ที่ประตูเมือง
5. จงให้ความยุติธรรมหลั่งไหลลงเหมือนน้ำ และให้ความชอบธรรมเป็นเหมือนธารน้ำที่ไม่มีวันเหือดแห้ง

• พี่น้องที่รักครับ... อ่านอาโมสมาถึงวันนี้ พ่อเห็นว่า
o “ความยุติธรรม สันติ และความรักเมตตา” เราต้องการมากๆสำหรับโลกปัจจุบันของเราจริงๆครับ... พ่อเชิญชวนพวกเรา ให้เรากล้าจริงๆ ที่จะแสวงหาความยุติธรรม ปฏิบัติความยุติธรรม ความรักและเมตตาให้เต็มที่ในยุคสมัยของเรา
o พ่อรู้สึกว่าเราต้องห่วงใย รักเพื่อนมนุษย์จริง ไม่ค้าขายเพื่อนมนุษย์ด้วยเงิน เพราะศักดิ์ศรี ภาพลักษณ์ และความเหมือนพระเจ้าของเราทุกคนนั้น ช่างแตกต่างจากบรรดาสัตว์ทุกชนิด เราสูงส่งเพราะเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้า ดังนั้น ขอให้เราปฏิบัติความรักเมตตาต่อกัน เกื้อกูลกันให้มากที่สุด เพื่อสร้างสังคมที่เปี่ยมด้วยความรักและสันติสุขแท้จริงครับ
o อย่าให้คุณค่ากับทรัพย์สิน เงินตรา และสรรพสัตว์ใดๆมากกว่ามนุษย์เลย เพราะมนุษย์งดงามที่สุดแล้วครับ