วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2016
สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา
ฟป 1:18-26…
              พระคริสตเจ้าก็ทรงได้รับการประกาศแล้ว เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงมีความยินดี และจะยินดีต่อไป 19ข้าพเจ้ารู้ว่า สิ่งนี้จะทำให้ข้าพเจ้ารอดพ้น ด้วยคำอธิษฐานภาวนาของท่านทั้งหลายและด้วยความช่วยเหลือของพระจิตแห่งพระเยซูคริสตเจ้า 20ตามที่ข้าพเจ้ามุ่งมั่นรอคอยอย่างกระตือรือร้นและหวังว่า ข้าพเจ้าจะไม่อับอายเลย แต่จะพูดอย่างกล้าหาญว่า พระคริสตเจ้าจะทรงได้รับเกียรติในร่างกายของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ เหมือนกับในอดีต ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเป็นหรือตายก็ตาม

21ข้าพเจ้าคิดว่าการมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสตเจ้า และการตายก็เป็นกำไร 22หากการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นโอกาสให้ข้าพเจ้าทำงานได้ผลแล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าจะเลือกสิ่งใดดี 23ข้าพเจ้ารู้สึกลังเล คือปรารถนาจะพ้นจากชีวิตนี้ไปเพื่ออยู่กับพระคริสตเจ้า ซึ่งจะเป็นการดีกว่ามาก 24แต่การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปก็จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านทั้งหลาย 25เมื่อข้าพเจ้ามั่นใจเช่นนี้แล้วข้าพเจ้าก็รู้ว่าข้าพเจ้าจะอยู่ต่อไปและอยู่เคียงข้างท่านทุกคน เพื่อช่วยให้ท่านก้าวหน้าและชื่นชมในความเชื่อ 26เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ภูมิใจพระคริสตเยซูยิ่งขึ้น เพราะข้าพเจ้าได้กลับมาอยู่กับท่านอีกครั้งหนึ่ง

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “ดื้อดึงดันมุ่งมันต่อไปในความดี”...
o ยากไหมหนอที่จะเจริญชีวิตในโลกปัจจุบัน... ในสังคมปัจจุบัน...
o เคยได้ยินเขากล่าวกันในสำนวนไทยตั้งแต่พ่อเป็นเด็กๆ และคงจะกล่าวกันมาตลอด “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”... คนไทยเชื่อแบบนี้ เชื่อแบบนี้มายาวนาน... แต่ก็นะ เราก็เห็นกันอยู่ทนโท่ จนเขากล่าวกันเชิงประชดประชันว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน... ทำชั่วได้ดีมีถมไป” เจ้าสำนวนประชดประชันแบบนี้แหละที่ดูว่ามันจริงขึ้นทุกวัน...
o เราก้าวมาสู่ยุคหนึ่งที่เรียกว่าพยายามี่จะ “กระจายอำนาจ” สู่ท้องถิ่น มาสู่ยุคที่ประชาสัมพันธ์กันเพื่อกระจายอำนาจสู่ถ้องถิ่น พ่อจำได้ติดตา(คาใจ) เมื่อช่วงแรกๆที่เรากำลังแย่ลงทางเศรษฐกิจ มีโฆษณา ประกาศพร้อมท่าเต้น “เงินกำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป...” ฟังดูดีจังเจ้าเงินหมุนไปนี่หนอ

• บ้านเราเมืองเรา ได้จัดให้มีการทำพิธีกดปุ่มคอมพิวเตอร์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลหลายปีมาแล้ว... กดปุ่มปล่อยเงินกองทุนหมู่บ้านพ่อจำได้ว่ากดครั้นนั้นเป็นข่าวใหญ่ซ้ำไปซ้ำมา กดจิ๊ก(ตั้งใจใช้คำว่า “จิ๊ก” เดียว เพราะจิ๊กปัจจุบันหมายถึงจิ๊กกะไบท์ แต่ขณะเดียวกัน “จิ๊ก” แปลว่าลักขโมยหรือคอรัปชั่นด้วยเช่นกัน) กดจิ๊กเดียวครั้งนั้นหกพันกว่าล้านบาท แล้วเงินนั้นก็ไหลไป... มีการกดเงินให้ไหลไป ไหลไป เอาเงินเป็นตัวตั้งเป็นตัวล่อ... โครงการรถคันแรกแจกความจนไปกันทั่วหน้า... โครงการจำนำข้าว หรือโครงการทั้งหลาย ก็เอาเงินเป็นตัวตั้งกันทั้งสิ้น... กดจิ๊กเดียวไปโลด

• พ่อจำได้ว่านอกจากการย้ำโฆษณาในอดีต เน้นกันมาก ปัจจุบัน ก็มีร้านรวงที่เขียนว่า “เงินด่วน” “เงินติดล้อ มีบ้าน มีรถ มีเงิน” ทั้งหมดนี้คืออะไรกันจริงๆ.... “เงินกำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป” จำได้ไหมครับ อ้อ และปัจจุบันนี้มีโฆษณาทางทีวีทุกวันเป็นโฆษณาอะไรมากที่สุดเคยสังเกตไหม ป้ายโฆษณาอะไรมีมากขึ้นเป็นดอกเห็ด เรามาดูความจริงกัน เอาความจริงมาวางต่อหน้ากันครับ... เรื่องของเรื่องคือ “เงิน เงิน เงิน”
o ประเภท “เงินติดล้อ เงินด่วน เงินกู้ มีรถมีเงิน
o ลูกจะเข้าเรียนก็ต้องจ่ายค่าเทอมต้องเอารถไปเปลี่ยนเป็นเงิน เงินด่วน
o ลูกสาวจะทำงานวันแรกแม่ก็ต้องกดบัตรเงินกู้... และมีคำพูดสวยๆว่า “เรารู้... ทุกการใช้จ่ายของคุณมีเหตุผลเสมอ...” ว้าว ภาษาหรูมาก “เหตุผล”
o ลูกชายโหนรถเมล์ก็ส่งมอเตอร์ไซค์คันใหม่ให้บิดาที่มีรถอยู่แล้วแต่เก่าหน่อย แต่ลูกก็ใช้เงินกู้หลวงพ่อตู้เอทีเอ็ม... คุณพ่อบ้านจะออกรถ ก็บ่นกับทางบริษัทขายรถว่าจะหาเงินที่ไหนได้ทันเพราะวันนี้วันอาทิตย์... ลูกเล็กๆ ก็บอกว่า “ไปที่...ซิ วันอาทิตย์ก็ไม่หยุด...”
o เงิน เงิน เงิน วันอาทิตย์ไม่หยุดธนาคารมาตั้งนานแล้วครับทุกห้างสรรพสินค้า สะดวกซื้อและหลวงพ่อตู้เอทีเอ็ม... ทุกย่างเปลี่ยนเป็นเงินได้หมดครับ... นี่คือกลไกลปัจจุบันพ่อไม่ทราบว่าเราสังเกตกันหรือเปล่า...

• ผลตามมาคือ “หนี้” หรือ “ทาส” เงินตรา
• คนไทยเราปัจจุบัน และอีกหลายประเทศ แต่พ่อว่าไทยแลนด์เนี่ยอาการหนักครับ “หนี้” คนเป็นหนี้เยอะ แทบทุกคนเป็นหนี้ หนี้ประชาชาติก็พุ่งสูงเราเป็นหนี้ตั้งแต่เกิดมาแล้วครับ
o เมื่อก่อนตอนเด็กๆ พ่อจำได้ว่าพ่อเกิดมาก็เป็นหนี้คนละหลักพันบาท แต่ปัจจุบัน เป็นหลักเกือบสองหมื่นแล้วกระมังครับ... อันนี้หนี้ประชาชาชาติ แต่หนี้บุคคล “หนี้ในระบบ”... และหนี้อีกประเภทเรียกให้หรู “หนี้นอกระบบ” (มาเฟียเงินกู้) อีกมากมาย และทั้งในและนอกระบบก็จับมือกัน... กู้งดงามดูไฮโซ...เวลาตามคืนโลโซมาก ดูโฆษณาพวกไล่ตามหนี้ก็โจรจริงๆ นั่นเอง เพราะมีบริษัทชั้นต่ำรับตามหนี้และกินเปอร์เซ็นต์และใช้คนใช้ความรุนแรง กรรโชก ติดตามเงิน สังคมเป็นแบบนี้
o เอาเป็นว่า “ทุนนิยม ประชานิยม หรือแม้แต่ประชาธิปไตยแบบไม่มีวุฒิภาวะหรือมีความโลภครอบงำ” ไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุด หรือเป็นระบบที่มันกลางๆ ใช้ได้...แต่ แต่ แต่ จะใช้ได้ดีกับประเทศที่มีประชากรที่ “ดี” ประชาการที่ “มีการศึกษาเพียงพอ”
o ที่สำคัญที่สุด ประชากรที่ “ไม่โกง ไม่เอาแต่ได้” แต่ความจริงเราต้องตั้งคำถามเราเองก่อนว่าประเทศของเราเป็นเช่นนี้ไหม “เรามีการศึกษาพอไหม” มีกี่คนที่เข้าใจระบบการเงิน บริหารเงิน มีคนที่มีความรู้พอจริงๆ และมีความรู้พอแล้ว เรามีคุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาลพอไหม.. พ่อคิดว่าสังคมไทยและสังคมโลก ก้าวสู่ทางตันขึ้นทุกวัน
o ผลตามมาคือ คนที่เอาแต่ได้ คอรัปชั่น ก็รวย รวย รวย ได้ดี การเมืองก็ได้ดีแต่คนที่เป็นคนการเมืองและชิงอำนาจมาได้ (ด้วยเงินและอำนาจที่กระจายออกไป) คนชั้นสูงร่ำรวยคือคนที่ได้อำนาจทางการเมือง และบริวาร... ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น บ้านหลังใหญ่ก็เป็นของนักการเมืองท้องถิ่นอีก... นี่คือประเทศไทย... สังคมที่เข้าใจไม่ยากแต่ยากที่จะเข้าใจจริงๆ

• เราคริสตชนคนดีลูกของพระเจ้า จะร่ำรวยก็ดีมากแต่ต้องยิ่งมีคุณธรรมสูงมากๆ น่ารักมากๆ เรา คริสตชนเราจะต้องทำอย่างไร...
o เราจะ “เอากับเขาด้วย” ไหลตามกระแส หรือจะทวนกระแส กระแสโลกนิยม กระแสวัตถุนิยม กระแสการอำนาจนิยม กระแสเชิงนโยบาย(คอรัปชั่น)นิยมที่เรียกหรูว่า “คอรัปชั่นเชิงนโยบาย” ภาษาโบราณหน่อยเขาเรียกว่า “กินตามน้ำ”...
o เราจะเอาอย่างไรกับเรื่องเหล่านี้ จะเป็นหนี้ไปด้วย จะเป็นทาสไปด้วย หรือจะเป็นอิสระดีหนอ

• สิ่งทั้งหลายที่พ่อกล่าวมาวันนี้คือสรุปได้ว่านี่แหละคือ “บาป” กระแสของความ “อยาก” อยากได้ อยากมี อยากโกง อยากเอาเปรียบ โฆษณาปัจจุบันมีแต่ปลุกกระแสความบาปทั้งนั้นเลยจริงๆ นะ ภาษาที่ชัด ตรง เก่าหน่อย คือ “บาป”
o บาปที่โลกปัจจุบันมักจะบอกว่า “มันก็แล้วแต่” ไม่บาป ไม่มีบาป มีโอกาส ทำได้ “มันแล้วแต่” ที่พระสันตะปาปาเตือนให้ระวัง “สัมพัทธ์นิยม” (Relativism) ไม่มีอะไรผิดหรอก ทำได้ก็ทำ มีโอกาสจะโง่ทำไม
o สรุปก็คือ “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป”... นั่นแหละคือปัญหาต้นตอของทุกอย่าง ทำอะไรก็ไม่ผิด กินเปอร์เซ็นต์จากงบประมาณก็ไม่ผิด ค่าลายเซ็นของท่านคือยี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ผิดทั้งๆที่ก็รับเงินเดือนจากภาษีอยู่แล้ว... นี่งัย “บาป” ของโลกปัจจุบัน...

• พ่ออยากให้อ่านพระวาจาวันนี้ ไตร่ตรองพระวาจาเสมอ และเราจะเห็นว่า
o เราต้องสู้ทนต่อไป
o ทวนกระแสต่อไป
o อย่าหมดอาลัยกับโลกสังคม แต่ต้องยืนหยัดต่อไปในความเชื่อ
o เราต้องเห็นความจริง มีความรู้ รู้ความจริงและมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปด้วยความเชื่อของเราครับ กล้าหาญ เดินทวนกระแสได้ และไม่ไหลตามไปกับเขาอีกคนนะครับ เพราะเราเป็นคริสตชน เราจะต้องหลีกหนีบาป และไม่ยอมให้กับมันนะครับ...
o ขอพระเจ้าอวยพรครับ ให้เราอ่านพระคัมภีร์และช่วยกันกระทำความดีต่อไปนะครับ....