"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2016
วันเสาร์ในอัฐมวารปัสกา

กจ 4:13-21….
13เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นว่าเปโตรและยอห์นพูดอย่างกล้าหาญ ทั้งรู้ว่าทั้งสองคนไม่เคยได้รับการศึกษา และไม่มีความรู้พิเศษใด ๆ ก็ประหลาดใจและระลึกได้ว่าทั้งสองคนเคยอยู่กับพระเยซูเจ้า 14เมื่อเห็นคนที่หายจากโรคยืนอยู่กับเปโตรและยอห์น เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร 15จึงสั่งให้ทั้งสองคนออกไปนอกห้องประชุม แล้วเริ่มปรึกษากันว่า 16”เราจะทำอย่างไรกับทั้งสองคนนี้ดี” เพราะเขาทำการอัศจรรย์เด่นชัด ทุกคนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มรู้ว่าเขาทำเครื่องหมายอัศจรรย์นี้อย่างเปิดเผย เราไม่อาจปฏิเสธได้ 17แต่เราต้องขู่เขา อย่าให้กล่าวถึงนามนั้นแก่ผู้ใด เพื่อเรื่องนี้จะได้ไม่เล่าลือแพร่หลายไปในหมู่ประชาชนมากยิ่งขึ้น”


18เขาจึงเรียกเปโตรและยอห์นเข้ามา สั่งอย่างเด็ดขาดมิให้พูดหรือสอนในพระนามของพระเยซูเจ้าอีก 19เปโตรและยอห์นย้อนถามว่า “ท่านทั้งหลายจงตัดสินเถิดว่าอะไรเป็นการถูกต้องเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าจะฟังท่านหรือจะฟังพระเจ้า 20เราจำเป็นต้องพูดถึงสิ่งที่เราได้เห็นและได้ยินมา” 21ที่ประชุมขู่สำทับทั้งสองคนอีกครั้งหนึ่งแล้วปล่อยไป เพราะไม่พบสาเหตุที่จะลงโทษและเพราะกลัวประชาชน ทุกคนต่างถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• พ่อจำแผนอภิบาลของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย 2010-2015 ซึ่งพ่อเป็นคนยกร่างเองด้วย และพระศาสนจักรไทยได้ประกาศไว้ มีเนื้อหาข้อใหญ่ใจความที่พ่อจะต้องคัดมาให้อ่านในการขึ้นต้นเพื่ออธิบายไตร่ตรองพระคัมภีร์วันนี้ครับ ความว่า....

• “พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย ต้องกล้าเป็นประจักษ์พยานถึงข่าวดีด้วยชีวิต ทุกขณะจิต ทุกเวลา โอกาส สถานที่ ถึงความรักมั่นคงและความเมตตาของพระเจ้า” (แผนอภิบาลฯ 2012-2015 ข้อ 38)
o พ่อจำแผนอภิบาลฉบับนี้ได้ดีจริงๆ เพราะพ่อมีส่วนอย่างมากในการยกร่างแผนนี้ตั้งแต่แรกจนจบครับ
o พ่อจำได้ว่าเมื่อมาถึงข้อที่ 38 เรื่องงานธรรมทูตที่ยกมาข้างต้นนี้ กว่าพ่อจะได้คำว่า “ต้องกล้า” คำนี้มานั้นต้องบอกว่า เวลานั้นในการประชุมสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ที่พ่อไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องหรอกครับ เป็นเด็กรับใช้ยกร่างสิ่งที่ประชุมสัมมนากันมาและให้พ่อไปเป็นเด็กรับใช้พวกท่านเพื่อยกร่างแผนทิศทางในฉบับนี้...พ่อจำได้ว่า... เลือดตาแทบกระเด็น...
o พ่อจำได้ว่าเมื่อเรายกร่างเสร็จแล้ว เราต้องนำเสนอต่อสภาพระสังฆราชฯ และวันนั้น พ่อเป็นผู้นำเสนอเองทีละข้อๆ อ่านให้พวกท่านฟังไปพร้อมกับพร้อมกับคำอธิบายและชี้แจ้งถ้ามีข้อซักถามหรือข้อสงสัย... เพื่อขอความเห็นชอบและการรับรอง

• เราเป็นกรรมการยกร่างและเป็นผู้ยกร่างมากับมือ เมื่อพ่ออ่านไปที่ละข้อพร้อมกับให้เหตุผลอธิบายต่อหน้าบรรดาพระสังฆราชทั้งสิบของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย

• พ่อจำได้ว่าเวลานั้น พ่อเหมือนคนที่ตัวหดเหลือเล็กนิดเดียว แม้ตัวจริงจะใหญ่ทางกายภาพใช้ได้เลยก็ตาม แต่ทว่า...เมื่ออยู่ในสภาพระสังฆราชฯ ต่อหน้าบรรดาพระสังฆราชทั้งสิบในเวลานั้น พวกท่านทุกองค์ของเราก็เมตตา รับฟัง และพิจารณากันอย่างหนักเป็นชั่วโมงๆ

• พ่อจำได้ว่า เมื่อเสนอมาถึงข้อ 38 พ่ออ่านให้ฟัง... และมีคำว่าพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย “ต้องกล้า”

o ข้อนี้ถูกหยุดอยู่ชั่วขณะ มีคำถามว่า ทำไมต้องใส่คำว่า “ต้องกล้าเป็นประจักษ์พยานถึงข่าวดี” เพียงแต่ใช้คำว่า “ต้องเป็นประจักษ์พยานถึงข่าวดี” เท่านั้นไม่พ่อหรือ???
o ครับขณะนั้น เหมือนโลกหยุดหมุนสำหรับพ่อเมื่อพระคุณเจ้าบางท่านแย้งและถามเป็นประเด็น พ่อหย่อนตัวหดลงไหลไปกับเก้าอี้เล็กน้อยเพื่อให้พวกท่านได้คุยกัน เพราะได้มีการถกกันอย่างกว้างขวางของบรรดาพระคุณเจ้าของเราว่า จำเป็นต้องมีคำว่า “กล้า” หรือไม่

• ครับมีหลากหลายความคิด พระคุณเจ้าบางองค์บอกว่าไม่จำเป็น บางท่านบอกว่าดีแล้ว บางท่านเงียบ... และบางท่านก็ชี้มาที่พ่อและถามพ่อว่าทำไมต้องเน้นคำว่า “กล้า” เขาถามพ่อถึงเหตุผลว่าทำไมต้องใส่คำว่า “กล้า” ลงไปด้วย...

• ในใจพ่อนะจะทำอย่างไรดีหนอ เรามีเจตนาที่จะให้พระศาสนจักรคาทอลิกไทยเราต้องถึงเวลา ต้อง
o กล้าหาญในการประกาศข่าวดี
o ต้องกล้าเป็นประจักษ์พยานจริงๆนี่นา...

• มีการถกกันอยู่ยาวนานพอสมควร พ่อเองก็ให้เหตุผลหลายอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าคำนี้จำเป็นจริงๆ... พ่อจำได้ว่า พ่อแทบจะตกเป็นจำเลยที่กำลังถูกสอบสวนเจตนาและเหตุผลและหาความจริงจากพ่อ... เงียบและปล่อยให้พวกท่านถกกันเองเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่พ่อเป็นเหมือนกำลังถูกตรวจสอบ หรือประหนึ่งกับลังสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก เพราะอาจารย์คือพระสังฆราชทั้งสิบทีเดียว... สู้ครับ สู้สุดชีวิต... ต้องกล้าสิ เพราะจำเป็นต้องกล้าหาญ...

• ที่สุด พ่อเรียนบรรดาพระคุณเจ้าว่า อันที่จริงที่ยกร่างและใส่คำนี้เพราะเห็นว่า

o จากนี้ไปเราต้องเอาจริง พวกเราคริสตชนคาทอลิกไทยต้องกล้าจริงกับการเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิตทุกขณะจิต ทุกเวลา ทุกสถานที่ ต้องกล้าเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสตเจ้า...

• ที่สุด พ่อก็กล้าหาญใจดีสู้พระคุณเจ้าทั้งหลายและพ่อสรุปว่า “ที่ผ่านมา เราคาทอลิกไม่ค่อยมีความกล้าหาญในเรื่องนี้ครับ...” และเป็นความจริงว่า เราต้องการความกล้าหาญที่จะประกาศข่าวดี ที่ต้องดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานอย่างจริงจังเต็มที่

• แผนอภิบาลนี้ต้องตรงกับความต้องการกับปัจจุบันอย่างมาก.... แม้จนถึงปัจจุบันนี้ เวลาที่พ่อเขียนนี้ก็ยังไม่ค่อยกล้ากันก็ตาม แต่อย่างน้อยแผนอภิบาลได้ยืนยันว่าเราต้องกล้าแล้ว... พูดเสร็จแล้วก็ไหลตัวลงไปกับเก้าอีกให้ตัวเองที่กล้าขึ้นมาเมื่อสักครู่รอรับผลที่จะตามมา... ไม่กลัวครับเพราะ “เขียนแล้วก็เขียนแล้ว แต่ถ้าจะให้ลบคำว่า “กล้า” ออกไปก็จะลบครับ แต่จะกล้าลบกันหรือ”

• ที่สุด พ่อจำได้ว่า พระคุณเจ้าประธานสภาพพระสังฆราช... ได้สรุปว่า “เก็บคำนี้ไว้ดีแล้วตามที่เขายกร่างมา เพราะอันที่จริง ที่ผ่านมาเราก็ไม่ค่อยกล้าจริงๆ”

• ครับ สรุปว่าในที่สุดในแผนอภิบาลของเราเราได้คำนี้มากปรากฏในแผนอภิบาลของสภาพระสังฆราชคาทอลิกฉบับดังกล่าวครับ และอันที่จริง พ่อเห็นว่า พระศาสนจักรไทยเราทันสมัยและล้ำสมัยมากๆ เพราะ ณ เวลานี้ ปีนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสได้เน้นให้เราสมาชิกพระศาสนจักรทั้งโลกต้อง “กล้า” อันที่จริงแผนนี้เราเขียนก่อนที่เราจะมีพระสันตะปาปาฟรังซิสหลายปีอยู่คับ ต้องถือว่า เราทันสมัยมากๆ ต้องขอบคุณพระเจ้าที่พระสังฆราชคาทอลิกในประเทศไทยได้ประกาศให้เราต้อง “กล้า” กล้าหาญเป็นประจักษ์พยานประกาศข่าวดี

• แต่หลังจากนั้นจนบัดนี้ สมัชชาฯที่ผ่านมา คำว่ากล้าหาญ กล้าเปิดขอบฟ้าใหม่แห่งการประกาศข่าวดี กลายเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและจริงๆจัง ความกล้าหาญเป็นพลังของคนที่มีความเชื่อจริงๆ ไม่ใช่หรือ ถ้าเชื่อในพระเยซูต้องกล้าประกาศ กล้าเป็นประจักษ์พยานเหมือนกับพระองค์สิครับ... กล้าหาญ ความเชื่อ ความรัก ความหวัง เกี่ยวข้องกันอย่างแยกจากกันไม่ได้เลยจริงๆนะครับ

• พ่อเล่าให้ฟังเพราะพ่อเห็นว่า ถึงเวลาหรือยังครับที่เราจะกล้าแสดงตนเป็นคริสตชนเต็มที่กล้าประกาศข่าวดีเต็มกำลังและความสามารถ
o กล้าเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิตทุกเวลา ทุกสถานที่ ทุกขณะจิต ถึงเวลาแล้วไม่ใช่หรือที่เราต้อง “กล้า” ประกาศและเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้า รู้จักพระองค์ ประกาศพระองค์ ไม่กลัวใครเลยในการยืนยันถึงความจริง ความรัก ความยุติธรรม และความถูกต้องเที่ยงตรง
o ถึงเวลาหรือยังที่เราคาทอลิกจะกล้าหาญในการประกาศพระคริสตเจ้าด้วยชีวิตจิตใจ ทุกลมหายใจ
o และต้องไม่ลืมว่าเรามีพันธกิจที่จะต้องประกาศพระคริสตเจ้า....
o ไม่หยุดยั้งที่จะประกาศข่าวดี และกล้า กล้า กล้า เป็นประจักษ์พยานถึงความรักและความจริงของพระองค์....

กลับมาที่พระวาจาวันนี้ครับ

• บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้า คือ เปโตรและยอห์น ต่างไม่กลัวเลย เพราะบรรดาศิษย์ได้รู้จักพระองค์ เป็นพยานถึงพระองค์ และไม่กลัวที่จะประกาศข่าวดีถึงพระองค์ในเรื่องที่เขาได้รู้ ได้รู้จัก และได้มีประสบการณ์ชีวิตกับพระคริสตเจ้า...

• แม้เปโตรและยอห์น คือศิษย์ของพระเยซูเจ้าทั้งสองไม่ได้มีความรู้พิเศษหรือการศึกษาอบรมพิเศษ แต่พูดอย่างกล้าหาญได้
o เหตุผลสำคัญคือเพราะเป็นประสบการณ์ตรงกับพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพ
o และมีประจักษ์พยานแห่งความสามารถในการรักษา เพราะมีอัศจรรย์เด่นชัดเพียงพอที่ไม่อาจปฏิเสธได้...

• แม้บรรดาสมณะและผู้ใหญ่ของศาสนา จะได้เรียกทั้งสองมาสั่งเด็ดขาดห้ามประกาศ แต่ท่านทั้งกล้าเด็กขาดเช่นกันว่าเขาทั้งสองต้องฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์...

• พี่น้องครับ ความกล้าในการประกาศถึงพระคริสตเจ้าจำเป็นครับ เราต้องกล้าจริงๆ นะครับ ถ้าเรามีอัศจรรย์และมีผลงานที่น่าทึ่งเพียงพอ...

• เราคาทอลิกในประเทศไทยมีกิจการน่าทึ่งเพียงพอแล้วหรือ...
1. งานเมตตา
2. งานสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือคนด้อยโอกาส
3. งานรักษาคนเจ็บไข้ในโรงพยาบาลที่เมตตาช่วยเหลือ
4. การดูแลผู้ป่วย
5. คนชรา
6. เด็กกำพร้า....
7. และอีกมากมายที่เราพบได้ในกฤษฎีกาสมัชชาฯ 2016

• พ่อมีคำถามคือว่า พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยของเรา เราได้มีงานเหล่านี้ที่เห็นได้ว่า เป็นอัศจรรย์แห่งความรักและความเมตตาเพียงพอแล้วหรือยัง...
o ถ้ายัง ก็แปลว่า ณ ปัจจุบัน เราคงยังยากอยู่ที่จะกล้าประกาศข่าวดีเต็มที่ ทั้งนี้เพราะประจักษ์พยานของเราอาจจะยังไม่พอ...

• คำถามต่อไป คือ...
o โรงเรียนต่างๆ ที่เรามีนั้น โรงเรียนคาทอลิกของเราได้เป็นข่าวดีแห่งความรักเมตตาพอแล้วหรือ..
o องค์กรกิจกรรมคาทอลิกต่างๆ มีประจักษ์พยานแห่งความรักเมตตาจนเห็นได้ว่าเป็นอัศจรรย์แห่งความรักพอแล้วหรือ..

• คำถามเหล่านี้จะช่วยเราให้ทบทวนการประกาศข่าวดี ทบทวนความกล้า ความกล้าประกาศ ความกล้าเป็นประจักษ์พยานได้อย่างแท้จริง...

• พ่อเชื่อว่า งานประกาศข่าวดีจำเป็น ต้องกล้า กล้าเสียสละ กล้าประกาศความเมตตา กล้าลงมือเสียสละ แบ่งปันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และเราต้องไม่กลัวว่าเราจะสามารถหมดกำลังเพื่อความเมตตา
• ไม่ต้องกลัวหมด เพราะความรักเมตตาไม่มีเหือดแห้ง... พระเจ้าจะช่วยเหลือแน่นอน...

• ดังนั้น เราต้องกล้าจริงๆ แล้วครับ... ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ ขอให้เราเป็นศิษย์ที่มีประสบการณ์ความรักของพระคริสตเจ้าที่จะแบ่งปันเสมอไปครับ...

• พระสันตะปาปาย้ำคำสอนแก่เรา ใน Evangelii Gaudium ว่า
o คริสตชนทุกคน ทุกคนจริงๆ เราทุกคนต้องรู้สึกให้ได้ถึงความจำเป็น รู้สึกจริงๆว่าต้องนำความรักของพระคริสต์ไปยังผู้อื่น และต้องทำให้เป็น “พันธกิจถาวร” ของเราทุกคน เราต้องเอาชนะความยากของปัจจุบัน คือ โลก กระแสโลก ที่หยิบยื่นปัจเจกนิยมให้กับเรา แต่เราต้องเอาชนะด้วยการออกไปเพื่อนำความรักไปจริงๆ (EG 2)
o พระสันตะปาปาเรียกร้องให้ผู้อ่านคำสอนนี้ ได้ค้นพบความสดชื่นแท้จริงที่มาจากพระวรสาร... ต้องค้นพบหนทางใหม่ที่สร้างสรรค์ โดยไม่ทำให้ข่าวดีของพระเยซูเจ้าต้องถูกเก็บเงียบไปเป็นอันขาด (EG 11)
o เราทุกคนได้รับเรียกสู่การออกเดินทางธรรมทูตครั้งใหม่ คริสตชนทุกคนและชุมชนทั้งหมด จะร่วมกันพิเคราะห์แยกแยะว่า หนทางใดที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกร้องเรา อย่างไรก็ตาม เราทุกคนได้รับเชิญให้ยอมรับเสียงเรียกนี้ คือการออกจากความสะดวกสบายปลอดภัยของตนเอง และมีความกล้าหาญที่จะไปยังทุกพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างแห่งพระวรสาร (20-24)
o การฟื้นฟูนี้ พระศาสนจักรต้องไม่กลัวที่จะตรวจสอบทบทวนตนเอง เจาะลึกถึงตนเองจริงๆ ถึงธรรมเนียมชีวิตที่เป็นๆกันอยู่ ดังนั้นอะไรก็ตาม ที่ขัดหรือไม่ตรงกับหัวใจของพระวรสาร แม้หลายอย่างอาจจะหยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์แล้วก็ต้องกล้าทบทวนจริงๆ (43)
o พระสันตะปาปาฟรังซิสย้ำเตือนตรงๆ ต่อต้านท่าทีที่ยอมแพ้ของพระศาสนจักรต่อการวิกฤตที่ท้าทาย(84) และทรงเร่งรัดคริสตชน เราพระศาสนจักรต้องเป็นเครื่องหมายแห่งความหวังให้จงได้ อย่าอ่อนกำลัง อย่ายอมแพ้ (86) ที่สำคัญ ต้องนำการปฏิรูปความอ่อนโยนของพระศาสนจักรสุดกำลัง (88)

• เป็นคริสตชน ยอมแพ้กับความกลัวไม่ได้ ต้องกล้า ปรารถนาสุดกำลังจะประกาศถึงพระองค์ให้จริงจังเสมอ หงอไม่ได้ ยอมไม่ได้

• พ่อมั่นใจครับ ถ้าเราได้รู้จักพระเยซูเจ้า ถ้าเราได้รัก ได้มีความหวังและเชื่อในพระเยซูเจ้าจริงๆ เราจะไม่กลัวเลย บรรดาอัครสาวกถูกจับมาเฆี่ยน กำชับให้เลิกประกาศถึงพระเยซูเจ้า แต่ พวกเขาเลือกครับ “เลือกยำเกรงพระเจ้ามากกว่าเลือกที่จะกลัวหน้ามนุษย์”

 

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2025
วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2025 สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากหนังสืออพยพ (อพย 17:8-13) พี่น้อง อับราฮัมไม่สงสัยเพราะความไม่เชื่อในพระสัญญาของพระเจ้า แต่กลับได้รับพละกำลังจากความเชื่อ และถวายเกียรติแด่พระองค์ โดยเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าสิ่งใดที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ พระองค์ย่อมมีพระอำนาจที่จะทำสิ่งนั้นให้เป็นจริงตามพระสัญญาได้ “นี่คือความเชื่อซึ่งนับได้ว่าเป็น ความชอบธรรมสำหรับเขา” ประโยคนี้มิได้เขียนขึ้นโดยหมายถึงอับราฮัมเท่านั้น แต่หมายถึงเราทุกคนด้วย ความเชื่อจะนับได้ว่าเป็นความชอบธรรมสำหรับเราเช่นกัน เพราะเราเชื่อในพระองค์ผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพจากบรรดาผู้ตาย พระเยซูคริสตเจ้าทรงยอมสละพระชนมชีพเพราะบาปของเราและทรงกลับคืนพระชนมชีพเพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม...
วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากหนังสืออพยพ (อพย 17:8-13)...
วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2025 ฉลอง น.ลูกา ผู้นิพนธ์พระวรสาร บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงทิโมธี ฉบับที่สอง (2...
วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2025 ระลึกถึง นักบุญอิกญาซิโอ แห่งอันติโอค พระสังฆราช และมรณสักขี บทอ่านจากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวฟิลิปปี...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ แผนกพระคัมภีร์ ครั้งที่ 2/2025
ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ แผนกพระคัมภีร์ ครั้งที่ 2/2025 วันพุธที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 เวลา...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย  สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2025
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) ประชุมกรรมการอำนวยการ สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2025 วันเสาร์ที่ 19...
การศึกษา
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย จัดการศึกษาเนื้อหาของสังคายนาวาติกันที่ 2 ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 (ครั้งที่ 3) "สังฆธรรมนูญเรื่อง การเผยความจริงของพระเจ้า"...
การศึกษาพระคัมภีร์ในพิธีกรรม LITURGICAL BIBLE STUDY
แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดอบรมคอร์สการศึกษาพระคัมภีร์ในพิธีกรรม (Liturgical Bible Study-LBS) เมื่อวันที่ 23-24 พฤษภาคม...
ร่วมประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย
วันพุธที่ 5 มีนาคม 2025 ร่วมประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) ณ ห้องประชุม...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 9 วันพฤหัสบดีที่...
บทภาวนาโอกาสวันพระวาจาของพระเจ้า ครั้งที่ 6
บทภาวนาโอกาสวันพระวาจาของพระเจ้าครั้งที่ 6 หัวข้อ “ข้าพเจ้าหวังในพระวาจาของพระองค์” (สดด. 119:74) วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา ตรงกับวันอาทิตย์ที่...

ศิลปะเพื่อพระเจ้า

Our Lady, Untier of Knots
ชื่อภาพ " Our Lady, Untier of Knots "ภาพ Our Lady, Untier of Knots พร้อมทั้งทำกรอบดอกไม้เหมือนภาพ original ที่ St. Peter am Perlach , Augsburg, GermanyOil on canvas...
Light of Glory
Administrator
ชื่อภาพ " Light of Glory "Oil on canvas ขนาด 50...
 The Holy Spirit
Administrator
ชื่อภาพ " The Holy Spirit "Oil on canvas ขนาด 50...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (10)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (6) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คำอธิษฐานของนักบุญเปาโลเป็นคำภาวนาของธรรมทูตคนหนึ่ง ท่านไม่สามารถคิดและรักพระเจ้าได้...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (9)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (5) - ละทิ้งรูปเคารพมาหาพระเจ้าอย่างไร การยึดมั่นในพระเจ้าหมายความว่า เราละทิ้งรูปเคารพ...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (8)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (4) - โดยท่านได้รับพระวาจา นักบุญเปาโลชี้แจงว่า กิจการแรกที่ชาวเธสะโลนิกาได้ทำในการเลียนแบบเขา...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (7)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (3) - เรารู้ว่า นักบุญเปาโลรู้ดีว่า ตนได้รับพระพรจากพระเจ้า...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 505 พระเจ้าทรงเขียนบทชีวิตให้ลูกอย่างต่อเนื่อง
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 505 พระเจ้าทรงเขียนบทชีวิตให้ลูกอย่างต่อเนื่อง:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 504 วัตถุประสงค์ของชีวิตในวัยนี้
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 504 วัตถุประสงค์ของชีวิตในวัยนี้:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 503 29 ปีแห่งพระพร
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 503 29 ปีแห่งพระพร ::::...
บทสวดของฉัน บทที่ 502 แด่ ... สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ด้วยความเคารพรักสูงสุดและความอาลัยยิ่ง
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 502 แด่ ... สมเด็จพระสันตะปาปา...

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์