"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2015
สัปดาห์ที่สิบแปด เทศกาลธรรมดา

(ฉลองพระคริสตเจ้าประจักษพระวรกาย)
มก 9:2-9…

2ต่อมาอีกหกวัน พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นขึ้นไปบนภูเขาสูงตามลำพัง แล้วพระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขา 3ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวเจิดจ้า ขาวผ่องอย่างที่ไม่มีช่างซักฟอกคนใดในโลกทำให้ขาวเช่นนั้นได้ 4แล้วประกาศกเอลียาห์กับโมเสสแสดงตนสนทนาอยู่กับพระเยซูเจ้า 5เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆ เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิด หลังหนึ่งสำหรับพระองค์ หลังหนึ่งสำหรับโมเสส อีกหลังหนึ่งสำหรับประกาศกเอลียาห์” 6เขาไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรเพราะศิษย์ทั้งสามคนต่างตกใจกลัว 7ครั้นแล้วเมฆก้อนหนึ่งลอยมาปกคลุมเขาไว้ มีเสียงหนึ่งออกมาจากเมฆก้อนนั้นว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด” 8ทันใดนั้น ศิษย์ทั้งสามคนเหลียวมองรอบๆ ไม่เห็นผู้ใดอยู่กับตนนอกจากพระเยซูเจ้าเท่านั้น



อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
 
• ทำไมการแสดงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์บนภูเขาทาบอร์ ต้องเป็น “วันฉลอง” พ่อเพิ่งผ่านการเทศน์เข้าเงียบให้กับสามเณรใหญ่ ปีสี่และปีห้า และเราได้ไตร่ตรองพระคัมภีร์ช่วงจากกาลลิลีสู่เยรูซาเล็ม... มก 8:27-10:52 รวมเกือบสมบท และบทที่ 9:2-8 ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของพระคัมภีร์ช่วงนี้ เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขาทาบอร์

o การศึกษาพระคัมภีร์ของพ่อเสมอมาในเรื่องนี้ พ่อมีความประทับใจมากเสมอเรื่องนี้เพราะต้องถือว่าเป็นเรื่องสุดยอดเสมอ เมื่อพระองค์ทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์น ขึ้นไปบนภูเขาสูงตามลำพัง... และพระองค์ทรงสำแดงพระวรกายต่อหน้าพวกเขา... เรื่องนี้มีศูนย์กลางสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้โดยเด็ดขาดถึงความโดดเด่นของพระ เยซูเจ้าบนภูเขาทาบอร์ ท่ามกลางการประจักษ์มาของเอลียาห์และโมเสส 

o วันนี้พ่อคงต้องย้ำเหมือนๆ ทุกปีที่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม เวียนมาถึง พ่อต้องเน้นอีกถึงความสำคัญ.... เรามาศึกษาไตร่ตรองความสำคัญกันครับ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ และพ่อคงต้องย้ำให้กับพี่น้องได้อ่านทุกๆปีนะครับ ขอเสนอเป็นประเด็นๆดังนี้

• คำถามสำคัญ คือ ทำไมต้องเป็นเฉพาะเปโตร ยากอบ และยอห์น ทำไมมีเพียงสามคนที่ถูกเรียกเป็นพิเศษเพื่อการนี้... สังเกตว่า ทั้งสามคนนี้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญของพระเยซูเจ้าเสมอ (มก 5:37; 14:33) เทียบ มก 3:16 สามคนนี้อยู่ในลำดับแรกของรายชื่ออัครสาวกของพระเยซูเจ้า สามคนนี้คือกลุ่มหัวใจของกลุ่มศิษย์เท่านั้น หรือมีอะไรมากกว่านั้น ที่พระคัมภีร์เน้นถึงความสำคัญของสามคนนี้เสมอๆ

o จำนวนสามเป็นจำนวนที่เกี่ยวกับพยานสำคัญ ซึ่งต้องมีสองคนขึ้นไป จึงจะถือได้ว่าเป็นพยานเพียงพอครบถ้วนกับการเป็นการยืนยันเรื่องใดเรื่อง หนึ่ง

o (เทียบ อพย 24:9 “แล้วโมเสส อาโรน นาดับ อาบีฮู และผู้อาวุโสชาวอิสราเอลเจ็บสิบคนขึ้นไปบนภูเขา”) 

o ดังนั้น เปโตร ยากอบ และยอห์น ทั้งสามคนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเป็นประจักษ์พยานถึงความรุ่งโรจน์ของพระเยซู เจ้า และใจความสำคัญของเหตุการณ์นี้คือเสียงจากเมฆที่ให้ต้องฟังพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็น “บุตรสุดที่รักของพระเจ้า”

• ทำไมต้องขึ้นไปบนภูเขาสูตามลำพัง... คำว่า “บนภูเขาสูง ตามลำพัง” ภูเขาสูง เราไม่เคยทราบจริงๆว่าเป็นภูเขาลูกไหนจริงๆ แต่ธรรมประเพณีก็ชี้ให้เห็นว่ามีภูเขาสูที่ยืนอยู่ตามลำพัง คือ ยืนอยู่โดดๆลูกหนึ่ง ที่ธรรมประเพณีถือกันมานานว่าเป็นภูเขาในกาลิลีที่ชื่อว่า “ทาบอร์” ที่เป็นสถานที่นั้นที่ปัจจุบันมีวัดที่เราไปแสวงบุญกันทุกวันนี้

• แน่นอนว่าเราไม่เคยรู้แน่ๆหรอกว่าภูเขาลูกไหนจริงๆที่พระองค์เสด็จขึ้นไป ประจักษ์พระวรกาย แต่การศึกษาทางภูมิศาสตร์และตัวบทพระคัมภีร์ “ภูเขาสูงตามลำพัง” ก็ไม่น่าจะไกลจากความจริงที่เราเห็นในปัจจุบันนัก และที่แน่ๆ ณ ภูเขาที่ชื่อว่าทาบอร์ในปัจจุบัน คือ สถานที่ตามธรรมประเพณีคือสถานที่รทงสำแดงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์นั้นเอง 

o ความหมายของการขึ้นไปบนภูเขาสูงนี้มีความหมายทางเทววิทยาอย่างไร 

o ตรงนี้ต่างหากที่เป็นประเด็นำคัญ เพราะความหมายของการขึ้นไปบนภูเขานั้นมีความหมายทางพระคัมภีร์ว่า ภูเขาคือสถานที่ๆ ประทับของพระเจ้า เป็นที่มนุษย์ขึ้นไปพบกับพระเจ้า

o ดังนั้น การขึ้นไปบนภูเขาครั้งนี้ คือ การขึ้นไปเพื่อพบกับพระเจ้า พบกับความรุ่งโรจน์ และพระสุรเสียงของพระเจ้า (เหมือนกันโมเสส ขึ้นไปบนภูเขาซีนัย อพยพ 24 การขึ้นไปเพื่อฟังพระเจ้า และรับพระบัญญัติของพระเจ้านั่นเอง)

• “พระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าพวกเขา” 

o ถ้าจะแปลให้ตรงกับต้นฉบับคงต้องแปลว่า “พระวรกายของพระองค์ถูกเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา...” 

o ลักษณะของคำกริยาที่กล่าวถึงการเปลี่ยนไปนี้เป็นรูปกริยาแบบ Passive ซึ่งเน้นว่าการประจักษ์พระวรกายนี้เป็นการกระทำของพระเจ้าพระบิดา “Divine Passive” เป็นความสามารถของพระเจ้าผู้ทรงกระทำให้พระเยซูเจ้ารุ่งโรจน์ เจิดจ้า เกินความสามารถของมนุษย์ที่จะทำได้...

o ประเด็นที่เน้นเพื่อให้เห็นว่าเป็นการกระทำของพระเจ้า คือ “ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวเจิดจ้า ขาวผ่องอย่างที่ไม่มีช่างซักฟอกคนใดในโลกทำให้ขาวเช่นนั้นได้” 

o และนี่คือผลของการกระทำของพระเจ้าซึ่งเกินกว่าความสามารถของมนุษย์ 

o พระวรสารนักบุญมัทธิวและลูกาเน้นที่พระพักตร์ของพระองค์ขาว 

o แต่มาระโกเน้น ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวเจิดจ้า

• สองคนที่ปรากฏมาตัวมาสนทนากับพระเยซูเจ้าคือ “เอลียาห์กับโมเสส” นี่เป็นประเด็นสำคัญ เป็นภาพสำคัญมากๆที่เราสามารถจะอธิบายเรื่องราวของการประจักษ์พระวรกายบน ภูเขาทาบอร์ครั้งนี้


• เอลียาห์และโมเสส ทั้งสองเป็นผู้ยิ่งใหญ่สุดๆของพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมในประวัติศาสตร์ของอิสราเอลประชากรของพระเจ้า


• กล่าวได้เลยว่าทั้งเอลลียาห์และโมเสส เป็นสองสถาบันหลักหรือเสาหลักสองต้นที่ประคับประคองชีวิตของชาวอิสราเอลให้ ปฏิบัติตนซื่อสัตย์ต่อยาห์เวห์ โมเสสคือผู้มอบกฎหมาย และเอลียาห์คือผู้ตำหนิติเตียนความนอกใจของประชากร (เทียบ มลค 3:22-23 Hebrew Bible)

• แต่ข้อสังเกตคือ ทั้งสองปรากฎตัวมาสนทนากับพระเยซูเจ้าบนภูเขาทาบอร์ ภาพนี้สำคัญที่สุด เน้นให้เห็นเจตนาของพระวรสารตอนนี้มากที่สุดเลย... เพราะ

o โมเสส เป็นผู้นำด้านกฏหมาย โมเสสคือผู้รับพระบัญชาและกฎหมายของพระเจ้า และมอบให้กับประชาชน ทุกคนต้องฟังโมเสส การฟังโมเสส เท่ากับฟังพระเจ้า การไม่ฟังโมเสส คือ ไม่ฟังพระเจ้า และโมเสสเป็นบุคคลที่ถือว่าสุดยอดแล้วของพันธสัญญาเดิม (ดู อพย)

o เอลียาห์ เป็นยอดประกาศกที่ซื่อสัตย์ต่อยาห์เวห์ ประกาศกที่ทำลายความเท็จเทียมของพระบาอัลในยุคที่ความเท็จเทียมเข้ามาใน แผ่นดิน โดยพระนางเยเซเบล เมื่อบรรดาประกาศกทั้งหลายหลงไปกับกระแสของความเท็จเทียมของพระบาอัล เอลียาห์คือผู้ที่เป็นเครื่องหมายของความซื่อสัตย์จนถึงที่สุด ที่หันหัวใจของทุกคนให้กลับใจมาหาพระเจ้า (ดู 1พกษ)

o สรุปว่า ทั้งสองคือสุดยอดจริงๆ แล้วที่ประชาชนต้องเชื่อฟัง ตลอดพันธสัญญาเดิมหรือแม้แต่พันธสัญญาใหม่

• แต่ ณ ภูเขาทาบอร์นี้ 

o เมื่อมีเมฆก้อนหนึ่งลอยมาปกคลุมเขาไว้

o มีเสียงหนึ่งออกมาจากก้อนเมฆ 

o หมายถึงเสียงที่มาจากเมฆนั้นคือเสียงของพระเจ้า.. เป็นการชี้ให้เห็นการประทับอยู่อย่างซ่อนเร้นของพระเจ้า

• เสียงจากภูเขาทาบอร์นี้แหละที่บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าจะ “ต้องฟัง” และนี่คือเหตุผลที่วันนี้ต้องเป็นวันฉลอง.... เสียงนั้นคือเสียงของพระบิดา... คือ “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด” นี่คือคำประกาศที่สำคัญที่สุด ใช่แล้วในอดีตที่ผ่านมาของพันธสัญญาเดิมนั้น

o โมเสสเป็นผู้นำด้านกฏหมาย ก็จริงแต่โมเสสก็เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า

o เอลียาห์เป็นยอดประกาศกที่ซื่อสัตย์ต่อยาห์เวห์ แต่เอลียาห์ก็เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า

o ทั้งสองคนนี้ คือผู้ที่ประชาชนในพันธสัญญาเดิมเคยติดตามเชื่อฟังเสมอมา

• แต่ที่นี่ ณ ภูเขาทาบอร์ ณ เวลาที่สำคัญที่เสียงของพระบิดาประกาศถึงพระเยซูเจ้า หนักแน่น ชัดเจน และไม่มีใครสำคัญเท่าอีกแล้ว 
o นั่นคือพระเยซูเจ้าผู้นี้ ผู้กำลังประจักษ์พระวรกาย และมีโมเสสและเอลียาห์ปรากฎมากสนทนากับพระองค์นี้ ทำให้เห็นชัดว่า จากนี้ไป “พระเยซูเจ้าเท่านั้นที่ทรงเป็น “บุตรสุดที่รัก” ของพระบิดา” 

o คำสั่งที่ตามมา เป็นคำสั่งเด็ดขาด และถือว่าเป็นบัญญัติสำคัญที่สุดก็ว่าได้คือ นับจากนี้ไป “จงเชื่อฟังท่านเถิด”...

• พี่น้องที่รักนี่คือจุดสำคัญที่สุด เพราะเหตุว่า ในอดีตชาวอิสราเอลเคยท่องบท Shema คือ “อิสราเอลเอ๋ย จงฟัง” เป็นบทสำคัญที่สุด แต่ว่าบัดนี้ Shema “จงฟัง” ได้เปลี่ยนไปแล้ว จากกฎของยาห์เวห์ที่ประทานทางโมเสสและตอกย้ำทางเอลียาห์ที่อิสราเอลต้อง เชื่อฟังที่สุดนั้น 

o บัดนี้บรรดาศิษย์ต้องฟัง ฟังแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งหมายถึงเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระเยซูพระบุตรของพระเจ้า


• แน่นอนที่สุดโมเสสและเอลียาห์ยิ่งใหญ่มาก แต่ทว่าทั้งสองเป็นเพียงผู้รับใช้ของพระเจ้า แต่ที่นี่บนภูเขาทาบอร์ พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้า จึงสำคัญที่สุด และต้องฟังพระองค์มากที่สุด


• พระคัมภีร์วันนี้สรุปว่า “ทันใดนั้น ศิษย์ทั้งสามคนเหลียวมองรอบ ๆ ไม่เห็นผู้ใดอยู่กับตนนอกจากพระเยซูเจ้าเท่านั้น” เป็นการยืนยันว่า ต่อไปนี้ไม่ใช่โมเสส และไม่ใช่เอลียาห์ ที่บรรดาศิษย์ของพระคริสตเจ้าต้องเชื่อฟัง... แต่ “พระเยซูคริสตเจ้าเท่านั้น” ที่บรรดาศิษย์ต้องเชื่อฟัง และติดตามพระองค์

• พี่น้องที่รักครับ นี้คือเหตุผลที่เราต้องฉลองครับ ฉลองเหตุการณ์การสำแดงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์ เพราะนี่คือเวลานั้นที่เป็นการประกาศพระเยซูเจ้าคือผู้ที่บรรดาศิษย์ และเราทุกคนต้องเชื่อฟังพระองค์ ฟังบัญญัติของพระองค์แต่เพียงผู้

• พี่น้องที่รัก ฉลองพระเยซูเจ้าประจักษ์พระวรกายวันนี้ มีคำสั่ง “จงเชื่อฟัง” พ่อเชิญชวนเราต้อง “เชื่อฟัง ฟังพระเยซู” ผู้นี้ผู้เดียวตลอดไป... 

o พี่น้องได้เชื่อฟังพระเยซูเจ้าจริงๆไหม โดยเฉพาะเชื่อฟังพระเยซูเจ้าในพระบัญญัติแห่งความรักของพระองค์

o เราเชื่อฟังพระองค์จริงๆไหม เมื่อพระองค์บอกกับเราเสมอให้ “เราจงมีใจเมตตากรุณา” 

o เราเชื่อฟังพระองคจริงๆไหม เมื่อพระองค์สอนย้ำให้เรา “ให้อภัย ให้เราคืนดี ให้เราไม่แก้แค้น ไม่เกลียดชัง”

o เราเชื่อฟังพระองค์จริงๆไหม และปฏิบัติตามพระองค์จริงๆไหม ที่จะหยิบยืนความช่วยเหลือเพื่อนผู้อ่อนแอโดยเฉพาะบรรดาผู้ยากไร้

o ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ....

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันอังคารที่ 23 กันยายน 2025
วันอังคารที่ 23 กันยายน 2025 น.ปีโอ แห่งปีเอเตรลชีนา พระสงฆ์ บทอ่านจากหนังสือเอสรา (อสร 6:7-8, 12ข, 14-20) ในเวลานั้น กษัตริย์ดาริอัสได้มีพระราชหัตถเลขาถึงบรรดาผู้ปกครองดินแดนที่อยู่ทางอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสว่า “จงปล่อยให้ผู้ปกครองและบรรดาผู้อาวุโสชาวยิว ดำเนินงานก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าหลังนี้ต่อไป ให้เขาก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าขึ้นใหม่ในสถานที่เดิม เรายังสั่งท่านทั้งหลายอีก ให้ช่วยเหลือบรรดาผู้อาวุโสของชาวยิว ในการก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าขึ้นใหม่ ค่าใช้จ่ายในงานนี้ให้จ่ายเต็มจำนวนแก่คนเหล่านี้ จากท้องพระคลังหลวง คือจากเงินภาษีที่เก็บได้ในแคว้นตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส เพื่องานก่อสร้างจะได้ไม่หยุดชะงัก และขอให้พระเจ้าผู้ทรงเลือกกรุงเยรูซาเล็มให้เป็นที่พำนัก...
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2025 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากหนังสือเอสรา (อสร 1:1-6)...
วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2025 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากหนังสือประกาศกอาโมส (อมส 8:4-7)...
วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2025 ระลึกถึง น.อันดรูว์ กิม เตก็อน พระสงฆ์ น.เปาโล...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ แผนกพระคัมภีร์ ครั้งที่ 2/2025
ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ แผนกพระคัมภีร์ ครั้งที่ 2/2025 วันพุธที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 เวลา...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย  สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2025
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) ประชุมกรรมการอำนวยการ สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2025 วันเสาร์ที่ 19...
การศึกษา
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย จัดการศึกษาเนื้อหาของสังคายนาวาติกันที่ 2 ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 (ครั้งที่ 3) "สังฆธรรมนูญเรื่อง การเผยความจริงของพระเจ้า"...
การศึกษาพระคัมภีร์ในพิธีกรรม LITURGICAL BIBLE STUDY
แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดอบรมคอร์สการศึกษาพระคัมภีร์ในพิธีกรรม (Liturgical Bible Study-LBS) เมื่อวันที่ 23-24 พฤษภาคม...
ร่วมประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย
วันพุธที่ 5 มีนาคม 2025 ร่วมประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) ณ ห้องประชุม...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 9 วันพฤหัสบดีที่...
บทภาวนาโอกาสวันพระวาจาของพระเจ้า ครั้งที่ 6
บทภาวนาโอกาสวันพระวาจาของพระเจ้าครั้งที่ 6 หัวข้อ “ข้าพเจ้าหวังในพระวาจาของพระองค์” (สดด. 119:74) วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา ตรงกับวันอาทิตย์ที่...

ศิลปะเพื่อพระเจ้า

Our Lady, Untier of Knots
ชื่อภาพ " Our Lady, Untier of Knots "ภาพ Our Lady, Untier of Knots พร้อมทั้งทำกรอบดอกไม้เหมือนภาพ original ที่ St. Peter am Perlach , Augsburg, GermanyOil on canvas...
Light of Glory
Administrator
ชื่อภาพ " Light of Glory "Oil on canvas ขนาด 50...
 The Holy Spirit
Administrator
ชื่อภาพ " The Holy Spirit "Oil on canvas ขนาด 50...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (10)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (6) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คำอธิษฐานของนักบุญเปาโลเป็นคำภาวนาของธรรมทูตคนหนึ่ง ท่านไม่สามารถคิดและรักพระเจ้าได้...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (9)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (5) - ละทิ้งรูปเคารพมาหาพระเจ้าอย่างไร การยึดมั่นในพระเจ้าหมายความว่า เราละทิ้งรูปเคารพ...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (8)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (4) - โดยท่านได้รับพระวาจา นักบุญเปาโลชี้แจงว่า กิจการแรกที่ชาวเธสะโลนิกาได้ทำในการเลียนแบบเขา...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (7)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (3) - เรารู้ว่า นักบุญเปาโลรู้ดีว่า ตนได้รับพระพรจากพระเจ้า...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 505 พระเจ้าทรงเขียนบทชีวิตให้ลูกอย่างต่อเนื่อง
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 505 พระเจ้าทรงเขียนบทชีวิตให้ลูกอย่างต่อเนื่อง:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 504 วัตถุประสงค์ของชีวิตในวัยนี้
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 504 วัตถุประสงค์ของชีวิตในวัยนี้:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 503 29 ปีแห่งพระพร
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 503 29 ปีแห่งพระพร ::::...
บทสวดของฉัน บทที่ 502 แด่ ... สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ด้วยความเคารพรักสูงสุดและความอาลัยยิ่ง
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 502 แด่ ... สมเด็จพระสันตะปาปา...

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์