“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ค. บทเพลงของโมเสสa

32 1สวรรค์เอ๋ย จงฟังเถิด ข้าพเจ้ากำลังจะพูด

แผ่นดินเอ๋ย จงฟังถ้อยคำจากปากของข้าพเจ้า

2ให้คำสอนของข้าพเจ้าหยดลงดุจเม็ดฝน

และคำปราศรัยของข้าพเจ้าลงมาดุจน้ำค้าง

ดังฝนพรำลงบนต้นหญ้า

ดังสายฝนโปรยลงบนหญ้าอ่อน

3ข้าพเจ้าจะประกาศพระนามพระยาห์เวห์

จงสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของเราเถิดb

4พระองค์ทรงเป็นศิลา พระราชกิจของพระองค์ก็ดีพร้อม

หนทางทั้งหลายของพระองค์ล้วนเที่ยงธรรม

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์

ไม่ทรงหลอกลวง

พระองค์ทรงความเที่ยงธรรมและยุติธรรม

5บรรดาลูกดื้อรั้นทำบาปผิดต่อพระองค์

เป็นพงศ์พันธุ์ชั่วร้ายและคดโกงc

6ชนชาติโง่เขลาและเบาปัญญาเอ๋ย

ท่านจะตอบสนองพระยาห์เวห์เช่นนี้หรือ

พระองค์มิใช่พระบิดาผู้ประทานชีวิตแก่ท่านดอกหรือd

พระองค์ทรงสร้างท่านและทรงพยุงท่านไว้มิใช่หรือ

7จงระลึกถึงวันในอดีต

จงคำนึงถึงปีที่ผ่านมาหลายยุคสมัย

จงถามบิดาของท่าน และเขาจะบอกให้ท่านรู้

จงถามบรรดาผู้อาวุโสของท่าน และเขาจะเล่าให้ท่านฟัง

8เมื่อพระผู้สูงสุดทรงแบ่งแผ่นดินให้เป็นมรดกแก่ชนชาติต่างๆ

เมื่อทรงแบ่งมนุษยชาติให้แยกย้ายกันไป

พระองค์ทรงกำหนดเขตแดนให้ชนชาติทั้งหลาย

ตามจำนวนบุตรของพระเจ้าe

9แต่พระยาห์เวห์ทรงสงวนประชากรอิสราเอลไว้เป็นของพระองค์

ทรงทำให้ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์

10พระองค์ทรงพบเขาในถิ่นทุรกันดาร

ในที่รกร้างที่มีแต่เสียงลมเหมือนเสียงสุนัขหอน

พระองค์ทรงโอบล้อมและทรงดูแลเขา

ทรงปกป้องเขาไว้ดั่งแก้วตาของพระองค์

11ดังนกอินทรีที่สอนลูกในรังให้บิน

บินร่อนอยู่เหนือลูกน้อยของมัน

พระองค์ทรงกางปีกรองรับเขาไว้

ให้เกาะอยู่บนปีกของพระองค์

12พระยาห์เวห์พระองค์เดียวทรงนำเขา

ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอยู่กับเขา

13พระองค์ทรงนำเขาขึ้นสู่ที่สูงของแผ่นดิน

ประทานผลิตผลจากทุ่งนาเลี้ยงดูเขา

ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากก้อนหิน

และเก็บมะกอกเทศจากดินแข็งดุจหิน

มาทำน้ำมันมะกอกเทศ

14พระองค์ประทานนมเปรี้ยวจากฝูงโค

น้ำนมจากฝูงแพะแกะ

ประทานเนื้อลูกแกะอ้วนพี

เนื้อแกะแห่งบาชานและเนื้อแพะ

รวมทั้งแป้งสาลีอย่างดี

และเหล้าองุ่นแดงที่ท่านดื่ม

15ยาโคบได้กินจนอิ่มf

เยชูรูนอ้วนพีขึ้นแล้วพยศg

ใช่แล้ว ท่านกินอิ่ม อ้วนท้วน มีแต่ไขมัน

เขาละทิ้งพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขามา

ลบหลู่ศิลาซึ่งเป็นความรอดพ้นของเขา

16เขาไปนมัสการเทพเจ้าอื่น ทำให้พระองค์ทรงหึงหวง

ไปกราบไหว้รูปเคารพน่ารังเกียจ ทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ

17เขาถวายบูชาแก่จิตชั่วร้าย ซึ่งไม่ใช่พระเจ้า

ถวายบูชาแก่เทพเจ้าที่เขาไม่เคยรู้จัก

เป็นเทพเจ้าองค์ใหม่ที่เพิ่งเกิด

ซึ่งบรรพบุรุษไม่เคยยำเกรง

18ท่านไม่ใส่ใจศิลาที่ให้กำเนิดท่าน

ท่านลืมพระเจ้าที่ทำให้ท่านเกิดมา

19พระยาห์เวห์ทรงเห็นและทรงรังเกียจ

ทรงพระพิโรธบุตรชายหญิงของพระองค์

20พระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่ให้เขาเห็นหน้าเรา

เราจะคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา

เขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่โลเล

เป็นบุตรที่ไม่ซื่อสัตย์

21เขาไปนมัสการสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้า ทำให้เราหึงหวง

เขาไปกราบไหว้รูปเคารพไร้ค่า ทำให้เราโกรธ

เราจะรักประชากรที่ไม่ใช่ของเรา ทำให้เขาหึงหวง

จะใช้ชนชาติที่โง่เขลา ทำให้เขาโกรธh

22ความโกรธของเราลุกเป็นไฟ

เผาผลาญจนถึงขุมแดนผู้ตาย

ทำลายแผ่นดินและผลิตผลในนั้น

ลุกไหม้รากฐานของภูเขา

23เราจะสุมภัยพิบัติไว้เหนือเขาทั้งหลาย

เราจะยิงลูกธนูจนหมดแล่ง

24เขาจะหมดแรงเพราะความหิว

ทรุดโทรมเพราะไข้และโรคระบาดร้ายแรง

เราจะส่งสัตว์ป่ามากัดกินเขา

และส่งงูพิษที่เลื้อยในผงคลีมาฆ่าเขา

25ในกลางแจ้ง ดาบจะฆ่าบุตรของเขา

ในบ้าน ความสยดสยองจะครองอยู่

ทุกคนจะต้องตาย ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาว

ทั้งทารกและคนชรา

26เราพูดว่า “เราตั้งใจจะทำลายล้างเขา

และจะลบชื่อของเขาจากความทรงจำของมนุษย์

27แต่เรากลัวว่าศัตรูจะเยาะเย้ยเรา

เกรงว่าศัตรูจะเข้าใจผิด

พูดว่า “พวกเรามีชัยชนะเพราะพลังของพวกเรา

พระยาห์เวห์ไม่ทรงกระทำอะไรเลย”

28ผู้คิดเช่นนี้เป็นชาติที่โง่เขลา

เขาไม่เข้าใจอะไรเลย

29ถ้าเขาฉลาด ก็คงจะเข้าใจ

เขาคงจะรู้ชะตากรรมของตนi

30เป็นไปได้อย่างไร ที่คนเดียวจะขับไล่คนนับพัน

หรือคนสองคนจะขับไล่คนนับหมื่น

ถ้าไม่ใช่เพราะเราซึ่งเป็นศิลาได้ขายอิสราเอล

เราซึ่งเป็นพระยาห์เวห์มอบเขาแก่ศัตรู

31บรรดาศัตรูน่าจะเข้าใจว่า

พระที่ปกป้องเขาไม่เหมือนเราซึ่งเป็นศิลาแห่งอิสราเอล

32เถาองุ่นของเขามาจากตอแห่งโสโดม

มาจากสวนแห่งโกโมราห์

ผลองุ่นของเขามีพิษ

พวงองุ่นมีรสขม

33เหล้าองุ่นของเขาเหมือนพิษของงู

เป็นพิษร้ายแรงของงูเห่า

34เราจะเก็บเรื่องนี้ไว้ในความทรงจำjของเรา

จะประทับตราไว้ในคลังสมบัติของเรา

35การแก้แค้นและการลงโทษเป็นของเราk

เมื่อเท้าของศัตรูจะลื่นพลาด

วันแห่งหายนะของเขาอยู่ใกล้แล้ว

ชะตากรรมlกำลังรีบเข้ามาหาเขา

36พระยาห์เวห์จะประทานความยุติธรรมแก่ประชากรของพระองค์

จะทรงพระเมตตาต่อผู้รับใช้ของพระองค์

เมื่อทอดพระเนตรเห็นว่าเขาทั้งหลายหมดแรง

ไม่มีใครเหลือทั้งทาสและผู้เป็นอิสระ

37แล้วพระองค์จะตรัสว่า “เทพเจ้าของท่านอยู่ไหน”

“ศิลาที่ท่านเข้าหลบภัยได้นั้นอยู่ที่ไหน”

38“บรรดาเทพเจ้าที่กินไขมันของเครื่องบูชาของท่าน

และดื่มเหล้าองุ่นที่ท่านเทถวายอยู่ที่ไหน”

ให้เทพเจ้าเหล่านี้ลุกขึ้นมาช่วยท่านทั้งหลาย

เป็นศิลาที่ท่านสามารถเข้าหลบภัยได้

39บัดนี้ ท่านทั้งหลายต้องยอมรับว่าเราเพียงผู้เดียวคือผู้เป็น

นอกจากเรา ไม่มีเทพเจ้าอื่นใด

เราฆ่าให้ตาย และประทานชีวิต

เราทำให้บาดเจ็บ และรักษาให้หาย

ไม่มีผู้ใดจะช่วยให้พ้นจากมือของเราได้

          40เราชูมือขึ้นสู่สวรรค์

สาบานว่า เรามีชีวิตอยู่เป็นนิจฉันใด

41เราลับดาบวาววับของเรา

มือถือดาบพร้อมจะพิพากษา

เราจะลงโทษศัตรูของเรา

และตอบแทนผู้ที่เกลียดชังเราฉันนั้น

42เราจะให้ลูกธนูของเราเมาโลหิต

จากเลือดของผู้ที่ถูกฆ่าและของเชลย

จะให้ดาบของเรากินเนื้อ

จากศีรษะบรรดาผู้นำของศัตรู

43mสวรรค์เอ๋ย จงยินดีกับพระยาห์เวห์เถิด

บุตรทั้งหลายของพระเจ้าเอ๋ย จงนมัสการพระองค์เถิด

ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย จงยินดีกับประชากรของพระองค์

ทูตของพระเจ้า จงประกาศพระอานุภาพของพระองค์

เพราะพระองค์จะทรงแก้แค้นแทนโลหิตของบรรดาผู้รับใช้พระองค์

พระองค์จะทรงลงโทษศัตรู

จะทรงโต้ตอบผู้ที่เกลียดชังพระองค์

จะทรงชำระแผ่นดินของประชากรของพระองค์ให้บริสุทธิ์n

          44โมเสสพร้อมกับโยชูวาoบุตรของนูนออกมาต่อหน้าประชากร และประกาศถ้อยคำทั้งหมดของเพลงบทนี้แก่ชาวอิสราเอล

 

ธรรมบัญญัติ บ่อเกิดแห่งชีวิตp

45เมื่อโมเสสประกาศถ้อยคำทั้งหมดนี้ให้ชาวอิสราเอลฟังจบแล้ว 46ก็พูดว่า “จงจดจำถ้อยคำทั้งหมดที่ข้าพเจ้าประกาศเป็นพยานต่อหน้าท่านในวันนี้ ท่านจะต้องสั่งสอนลูกหลานให้ปฏิบัติตามพระบัญชาทุกคำของธรรมบัญญัตินี้อย่างเคร่งครัด 47ธรรมบัญญัตินี้ไม่ใช่ถ้อยคำเหลวไหล ไร้ความหมาย แต่เป็นชีวิตจิตใจของท่านทั้งหลาย ถ้าปฏิบัติตาม ท่านจะมีชีวิตยืนนานในแผ่นดินที่ท่านกำลังข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปครอบครอง”

 

พระเจ้าตรัสถึงความตายของโมเสสq

48วันเดียวกันนั้นพระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า 49“จงไปที่เทือกเขาอาบาริม ในแผ่นดินโมอับ ตรงข้ามกับเมืองเยรีโค จงขึ้นไปบนยอดเขาเนโบ แล้วมองดูแผ่นดินคานาอันที่เราจะมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวอิสราเอล 50ท่านจะตายบนภูเขาที่ท่านขึ้นมานี้ และไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของท่าน เหมือนกับที่อาโรนพี่ชายของท่านตายบนภูเขาโฮร์ และไปอยู่รวมกับบรรพบุรุษของเขา 51เพราะท่านทั้งสองคนไม่ซื่อสัตย์ต่อเราในหมู่ชาวอิสราเอลที่บ่อน้ำเมรีบาห์คาเดชในถิ่นทุรกันดารศิน ท่านไม่ได้รับรู้ความศักดิ์สิทธิ์ของเราต่อชาวอิสราเอลทั้งปวง 52แผ่นดินที่เราจะให้แก่ชาวอิสราเอลนั้น ท่านจะเห็นแต่ไกล แต่จะไม่ได้เข้าไป”

 

32 a บทเพลงยิ่งใหญ่ของโมเสสเฉลิมฉลองพระอานุภาพเด่นเฉพาะของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล พระเจ้าเที่ยงแท้แต่พระองค์เดียว โครงสร้างของบทเพลงมีดังนี้ (1) อารัมภบทซึ่งมีลีลาแบบวรรณกรรมปรีชาญาณ (ข้อ 1-2) (2) ประกาศกิจการยิ่งใหญ่ของพระเจ้า (ข้อ 3-7) (3) ความเอาใจใส่ของพระองค์ต่ออิสราเอล (ข้อ 8-14) (4) ตรงข้ามกับการกบฏของประชากร (ข้อ 15-19) (5) พระองค์จึงต้องตัดสินลงโทษ (ข้อ 19-25) (6) แต่พระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งอิสราเอลไว้ในเงื้อมมือของศัตรู (ข้อ 26-35) (7) แต่จะทรงมาช่วยเหลือประชากรของพระองค์ (ข้อ 36-42) (8) ข้อ 43 เป็นบทสรรเสริญลงท้าย เพลงบทนี้น่าจะมีอยู่แล้วก่อนที่จะนำมารวมเข้าใน ฉธบ เป็นการยากที่จะกำหนดว่าเพลงบทนี้เขียนขึ้นเมื่อใด รายละเอียดโบราณบางประการทำให้นักวิชาการพระคัมภีร์คิดว่าน่าจะเขียนขึ้นในสมัยแรก เมื่อผู้กดขี่อิสราเอลคือชาวฟีลิสเตีย (ศตวรรษที่ 11 ก่อนคริสตกาล) แต่ก็ยังมีรายละเอียดคล้ายคลึงกับในเพลงสดุดีและหนังสือบรรดาประกาศก โดยเฉพาะอิสยาห์ที่สอง และ ยรม ทำให้นักวิชาการคิดว่าบทเพลงนี้เขียนขึ้นในภายหลัง เมื่อผู้กดขี่ชาวอิสราเอล คือ ชาวบาบิโลน (ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล)

b ข้อ 1-3 เป็นคำเชิญชวนสิ่งสร้างทั้งมวลให้สรรเสริญพระเจ้า

c ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน แปลโดยคาดคะเน โดยแท้จริงแล้ว อิสราเอลเป็นบุตรของพระเจ้า แต่เพราะได้ทำชั่วจึงทำตนเป็นลูกดื้อรั้น

d ตั้งแต่ข้อนี้จะเป็นบทสรุปประวัติศาสตร์แห่งความรอดพ้น ดู สดด 78 และ 105 ด้วย

e “บุตรของพระเจ้า” แปลตามต้นฉบับภาษาฮีบรูบางฉบับ และต้นฉบับภาษากรีก แต่ต้นฉบับภาษาฮีบรูส่วนใหญ่ว่า “บุตรของอิสราเอล” “บุตรของพระเจ้า” หมายถึง ทูตสวรรค์ (โยบ 1:6 เชิงอรรถ f) ข้าบริพารของพระเจ้า (ข้อ 43 และ สดด 29:1; 82:1; 89:6 ดู ทบต 5:4 เชิงอรรถ b) “ทูตสวรรค์” ในที่นี้หมายถึงทูตสวรรค์ซึ่งดูแลแต่ละชาติ (ดู ดนล 10:13 เชิงอรรถ b) ถึงกระนั้นพระยาห์เวห์ทรงสงวนอิสราเอลไว้สำหรับพระองค์ เป็นประชากรที่ทรงเลือกสรร (ดู ฉธบ 7:6 เชิงอรรถ d)

f แปลตามต้นฉบับภาษากรีกและต้นฉบับของชาวสะมาริตัน บรรทัดนี้ไม่มีในต้นฉบับภาษาฮีบรู

g “เยชูรูน” เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกอิสราเอล (ที่นี่ และ 33:5, 26) เราไม่รู้ความหมายแท้จริงของคำนี้ บางคนคิดว่ามาจากคำ shor (โค) เพราะโคเมื่อถูกขุนอ้วนพีแล้วมักดื้อด้าน

h พระยาห์เวห์ไม่ทรงเลือกประชากรใหม่แทนอิสราเอล แต่ทรงลงโทษอิสราเอลโดยใช้ชนชาติหนึ่งซึ่งพระองค์ไม่ประทานปรีชาญาณให้ ชนชาตินี้อาจหมายถึงชาวฟีลิสเตียหรือชาวบาบิโลน

i ต้นฉบับภาษากรีกว่า “เขาจะรับสิ่งนั้นในอนาคต”

j สิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงเก็บไว้เป็นความลับ คือ การที่ทรงช่วยอิสราเอล “เขา” หมายถึง อิสราเอลที่พระเจ้ายังคงรักษาไว้เป็นของพระองค์ บทเพลงที่จุดนี้พูดถึงการช่วยให้รอดพ้นและทรงลงโทษศัตรูของอิสราเอล (ดู อสย 14; 47; 51 และ คำทำนายกล่าวโทษนานาชาติของประกาศกเยเรมีย์และเอเสเคียล)

k ในข้อนี้ถ้อยคำที่บรรดาประกาศกมักใช้ตักเตือนอิสราเอล เช่น การแก้แค้น การลงโทษ หายนะ ฯลฯ ถูกนำมาใช้กับศัตรูของอิสราเอล (ดู อสย 10:3; ยรม 18:17)

l “ชะตากรรม” แปลตามตัวอักษรได้ว่า “สิ่งที่เตรียมไว้สำหรับเขา”

m ข้อนี้แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ส่วนต้นฉบับภาษาฮีบรูมีว่า “ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย จงสรรเสริญประชากรของพระองค์ เพราะพระองค์จะทรงแก้แค้นโลหิตของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์จะทรงลงโทษศัตรูและประชากรของพระองค์ จะชำระแผ่นดินของพระองค์ให้บริสุทธิ์” สำหรับวลีที่ว่า “บุตรทั้งหลายของพระเจ้า” ดู ข้อ 8 เชิงอรรถ e

n แปลตามตัวอักษรว่า “จะกระทำพิธีชดเชยสำหรับ” เป็นวลีที่มักใช้ในหนังสือพิธีต่างๆ (อพย 25:17 เชิงอรรถ h)

o “โยชูวา” ภาษาฮีบรูว่า “โฮเชยา” (เขาช่วยให้รอด) ซึ่งเป็นชื่อเดิมของเขาก่อนที่โมเสสเปลี่ยนเป็น “โยชูวา” (พระยาห์เวห์ทรงช่วยให้รอดพ้น) ดู กดว 13:16

p ข้อความนี้ต่อเนื่องจาก 31:27 เพราะพูดถึงถ้อยคำของธรรมบัญญัติ (ข้อ 46, 47 ) ไม่ใช้ถ้อยคำของบทเพลง ข้อความในข้อ 44 จะต่อในข้อ 48

q ข้อความนี้ (ข้อ 48-52) มาจากตำนานสงฆ์ เป็นการพูดซ้ำถึงเรื่องใน กดว 27:12-14

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก