“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

II. ประมวลกฎหมายเฉลยธรรมบัญญัติa

 

12 1ต่อไปนี้คือข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ที่ท่านจะต้องเอาใจใส่ปฏิบัติตาม ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านทรงมอบให้ท่านเข้าไปยึดครอง ตราบเท่าที่ท่านมีชีวิตอยู่บนแผ่นดิน

 

สถานที่นมัสการพระยาห์เวห์b

2ท่านทั้งหลายจะต้องทำลายสถานที่ทุกแห่งทั้งบนภูเขาสูง บนเนินเขาและใต้ต้นไม้ร่มรื่นที่ชนชาติต่างๆ ซึ่งท่านกำลังจะขับไล่ออกไปนั้น ใช้สำหรับนมัสการบรรดาเทพเจ้าของตน 3ท่านจะต้องรื้อแท่นบูชา ทุบเสาหินศักดิ์สิทธิ์ให้แตก เผาเสาไม้ศักดิ์สิทธิ์ และสับรูปเคารพของเทพเจ้าของเขา เพื่อจะลบชื่อของเทพเจ้าเหล่านั้นออกไปจากสถานที่นั้น

4ท่านจะต้องไม่นมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามแบบอย่างของเขา 5แต่จะต้องแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ในสถานที่ที่พระองค์ทรงเลือกสรรจากสถานที่ของเผ่าต่างๆ เพื่อประดิษฐานพระนามพระองค์ และทรงพำนักอยู่ที่นั่น ท่านจะต้องไปนมัสการที่นั่น 6ท่านจะต้องนำเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาต่างๆ ไปถวายที่นั่น รวมทั้งของถวายหนึ่งส่วนจากสิบส่วนที่ท่านมี ของถวายส่วนตัว ของถวายเพื่อแก้บน ของถวายตามใจสมัคร ลูกโคและลูกแพะแกะตัวแรก 7ท่านจะต้องกินเลี้ยงฉลองเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่นั้น ท่านและครอบครัวของท่านจะชื่นชมผลงานที่ท่านได้ทำ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงอวยพรท่านc

8ท่านจะต้องไม่ปฏิบัติดังที่พวกเรากำลังทำอยู่ในวันนี้ ที่นี่แต่ละคนทำตามใจตนเอง 9เพราะบัดนี้ ท่านยังไปไม่ถึงสถานที่พักผ่อนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะมอบให้เป็นมรดกแก่ท่าน 10แต่เมื่อท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดน เข้าไปอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงมอบให้เป็นมรดกแล้ว พระองค์จะทรงรักษาท่านให้ปลอดภัยพ้นจากศัตรูทั้งหลายที่อยู่รอบข้าง ท่านจะอยู่อย่างสงบสุข 11พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกเป็นที่พำนักสำหรับพระนามพระองค์ ท่านจะต้องนำทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าสั่งมาถวายพระองค์ที่นั่น ทั้งเครื่องเผาบูชา เครื่องบูชาต่างๆ ของถวายหนึ่งส่วนจากสิบส่วนที่ท่านมี ของถวายส่วนตัว และของถวายพิเศษที่ท่านบนไว้แด่พระยาห์เวห์ 12ท่านจะต้องชื่นชมเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่นั่น พร้อมกับบุตรชาย บุตรหญิง บ่าวไพร่ชายหญิง และชนเลวีที่อาศัยในเมืองของท่าน เพราะชนเลวีไม่มีที่ดินเป็นมรดกของตนในหมู่ท่านทั้งหลาย

 

กฎระเบียบการถวายบูชาd

13ท่านทั้งหลายจงระวัง อย่าถวายเครื่องเผาบูชาในสถานที่ใดๆ ที่ท่านเห็นชอบ 14แต่จงถวายเครื่องเผาบูชาในสถานที่ที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกจากเผ่าต่างๆ

15ทุกครั้งที่ท่านปรารถนา ท่านฆ่าสัตว์และกินเนื้อนั้นได้ในทุกเมืองตามที่พระยาห์เวห์ทรงอวยพรประทานให้ท่าน ทุกท่านทั้งที่มีมลทินและไม่มีมลทินก็กินเนื้อนั้นได้ดังที่กินเนื้อละมั่งหรือกวางd 16แต่ต้องไม่กินเลือด จงเทเลือดลงดินเหมือนเทน้ำ

17ท่านต้องไม่กินข้าวสาลี เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอกเทศ หนึ่งในสิบส่วนที่แยกไว้ถวายแด่พระเจ้าในเมืองของท่าน รวมทั้งลูกโค ลูกแพะแกะตัวแรก ของถวายที่ท่านบนไว้แด่พระเจ้า และของถวายส่วนตัว 18ท่านจะต้องกินสิ่งเหล่านี้เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ในสถานที่ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกไว้เท่านั้น ท่านทั้งหลายพร้อมกับบุตรชาย บุตรหญิง บ่าวไพร่ชายหญิง และชนเลวีที่อาศัยอยู่ในเมืองของท่าน ท่านจะต้องชื่นชมผลงานทุกอย่างที่ท่านได้ทำเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 19จงระวังให้ดี อย่าละเลยชนเลวี ตราบเท่าที่ท่านยังมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินของท่าน

20เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงแผ่ขยายเขตแดนของท่านออกไปดังที่ทรงสัญญาไว้ ท่านอาจพูดว่า “ข้าพเจ้าอยากกินเนื้อ” ถ้าท่านปรารถนาจะกินเนื้อ ท่านก็กินได้ตามต้องการ 21ถ้าสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกไว้ เพื่อประดิษฐานพระนามพระองค์นั้นอยู่ไกลเกินไป ท่านฆ่าโคหรือแพะแกะที่พระยาห์เวห์ประทานให้ได้ดังที่ข้าพเจ้าสั่งท่าน ท่านกินได้ตามต้องการในเมืองของท่าน 22เพียงแต่ท่านจะต้องกินเนื้อนั้นดังที่กินเนื้อละมั่งหรือกวาง ทั้งผู้ที่มีมลทินและไม่มีมลทินกินเนื้อนั้นได้ 23แต่จงงดกินเลือด เพราะเลือดคือชีวิต ท่านจะต้องไม่กินชีวิตพร้อมกับเนื้อ 24ท่านจะต้องไม่กินเลือด แต่จงเทเลือดลงดินเหมือนเทน้ำ 25ท่านจะต้องไม่กินเลือด เพื่อท่านและบุตรหลานในภายหลังจะอยู่อย่างมีความสุข เพราะท่านได้ทำสิ่งที่ถูกต้องเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ 26ท่านจะต้องนำของศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านแยกไว้ และของที่ท่านบนไว้แด่พระเจ้า มาถวายในสถานที่ที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกไว้ 27ท่านจะต้องถวายเครื่องเผาบูชาทั้งเนื้อและเลือดบนพระแท่นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านจะต้องเทเลือดของสัตว์ที่ถวายเป็นเครื่องบูชาชนิดอื่นๆ บนพระแท่นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ส่วนเนื้อนั้นท่านจะนำไปกินได้ 28จงปฏิบัติตามคำสั่งเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าให้ไว้ทุกประการอย่างเคร่งครัด แล้วท่านกับลูกหลานในภายหลังจะอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป เพราะท่านได้ทำสิ่งที่ดีและถูกต้องเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

 

การร่วมศาสนพิธีของชาวคานาอัน

29เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงทำลายชนชาติต่างๆ ต่อหน้าท่าน ขณะที่ท่านกำลังเข้าไปยึดครองแผ่นดินของเขา และเมื่อท่านจะขับไล่เขาออกไปและตั้งหลักแหล่งในแผ่นดินของเขาแล้ว 30จงระวัง อย่าถูกลวงไปปฏิบัติตามแบบอย่างของเขา หลังจากที่เขาถูกทำลายต่อหน้าท่าน อย่าถามถึงเทพเจ้าของเขาว่า “ชนชาติเหล่านี้รับใช้เทพเจ้าของเขาอย่างไร ข้าพเจ้าจะได้ทำแบบเดียวกันด้วย” 31ท่านจะต้องไม่รับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามวิธีนั้น เพราะวิธีที่เขารับใช้เทพเจ้าของเขานั้นเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงเกลียดชัง เขาเผาแม้กระทั่งบุตรชายบุตรหญิงของตน ถวายเป็นบูชาแด่เทพเจ้าเหล่านั้น”

 

12 a ประมวลกฎหมายในบทที่ 12-26 รวมประมวลกฎหมายจากแหล่งต่างๆ โดยไม่มีลำดับที่แน่ชัด ประมวลกฎหมายเหล่านี้ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอาณาจักรเหนือ และคงถูกนำมาใช้ในอาณาจักรยูดาห์หลังจากที่กรุงสะมาเรียถูกทำลายแล้ว ประมวลกฎหมายเหล่านี้สะท้อนให้เห็นสภาพทางสังคมและทางศาสนาที่พัฒนาขึ้นแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับประมวลกฎหมายเดิม คือประมวลกฎหมายแห่งพันธสัญญา ซึ่งประมวลกฎหมายใหม่นี้ต้องการเข้ามาแทนที่ในสาระสำคัญ ประมวลกฎหมายฉบับนี้น่าจะเป็นฉบับเดียวกันกับธรรมบัญญัติที่ค้นพบในพระวิหารสมัยกษัตริย์โยสิยาห์ (2 พกษ 22:8ฯ)

b กฎหมายเกี่ยวกับสถานที่นมัสการจะมีบทบาทสำคัญในศาสนาของชาวอิสราเอล มีแรงจูงใจจากความคิดแบบเดียวกันกับความคิดของบรรดาประกาศก มีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาคารวกิจต่อพระยาห์เวห์ไม่ให้ศาสนพิธีของชาวคานาอันเข้ามาปลอมปน จึงสั่งให้ทำลายสถานที่สูงที่ใช้ประกอบศาสนพิธีเหล่านี้ของชาวคานาอัน และให้มีศาสนสถานแห่งเดียวเพื่อนมัสการพระยาห์เวห์ วลีที่ว่า “สถานที่ซึ่งพระองค์จะทรงเลือก...เพื่อประดิษฐานพระนามพระองค์” (ข้อ 5, 21) หรือ “เป็นที่พำนักพระนามพระองค์” (ข้อ 11 ดู 14:23; 16:11) หรือ “สถานที่ที่พระองค์ทรงเลือกให้ท่านระลึกถึงพระนามพระองค์” (อพย 20:24) อาจหมายถึงสถานที่ใดก็ได้ที่พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ เป็นการรับรองว่าสถานที่นั้นเป็นสถานนมัสการพระยาห์เวห์ได้ (เช่น ดู ยรม 7:12 สำหรับชิโลห์) และชาวอิสราเอลก็เข้าใจเช่นนี้เป็นเวลาตลอดมาหลายศตวรรษ เมื่อเขาประกอบศาสนพิธีนมัสการพระยาห์เวห์ในสักการสถานหลายแห่ง (ดู ยชว 6:24, 28; 13:16; 1 พกษ 3:4) แต่ใน ฉธบ วลีดังกล่าวจำกัดความหมายลงว่า หมายถึงพระวิหารที่เยรูซาเล็มเท่านั้น กฎหมายเกี่ยวกับสักการสถานเพียงแห่งเดียวนี้จะเป็นสาระสำคัญเรื่องหนึ่งในการปฏิรูปทางศาสนาในสมัยกษัตริย์โยสิยาห์ (2 พกษ 23)

c ประมวลกฎหมายเฉลยธรรมบัญญัติเน้นบ่อยๆ เรื่องความชื่นชมเมื่อร่วมงานเลี้ยงในศาสนพิธี และในวันฉลองต่างๆ (ดู ข้อ 12, 18; 16:11, 14)

d เมื่อมีกฎให้มีสักการสถานเพียงแห่งเดียว จึงมีการแยกแยะระหว่างการฆ่าสัตว์เพื่อกิน และการฆ่าสัตว์เพื่อถวายบูชาแด่พระเจ้า การฆ่าสัตว์เพื่อกินทำที่ใดก็ได้ แต่การฆ่าเพื่อถวายบูชาจะต้องทำในสักการสถานที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้เท่านั้น แต่ ลนต 17:3ฯ ไม่แยกแยะกรณีทั้งสองนี้ (ดู ลนต 17:4 เชิงอรรถ b; และ 1 ซมอ 14:32ฯ)

d ไม่มีข้อห้ามสำหรับเนื้อสัตว์ป่าที่ล่ามาได้

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก