“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ปรีชาญาณยกย่องตนเองa

24 1ปรีชาญาณยกย่องตนเอง

                    ประกาศสิริรุ่งโรจน์ในหมู่ประชากรของตน

          2ปรีชาญาณเปิดปากกล่าวในที่ประชุมของพระผู้สูงสุด

                    ยกย่องตนเองเฉพาะพระพักตร์พระผู้ทรงสรรพานุภาพว่า

          3“ข้าพเจ้าออกมาจากพระโอษฐ์พระผู้สูงสุด

                    และปกคลุมแผ่นดินเหมือนหมอก

          4ข้าพเจ้าตั้งกระโจมอยู่ในที่สูง

                    บัลลังก์ของข้าพเจ้าอยู่ในกลุ่มเมฆb

          5ข้าพเจ้าโคจรไปทั่วท้องฟ้าตามลำพัง

                    เดินเตร่ไปจนถึงเหวลึกที่สุด

          6ข้าพเจ้ามีอำนาจเหนือcคลื่นของทะเล และทั่วแผ่นดิน

                    เหนือประชาชนและชนทุกชาติ

          7ข้าพเจ้าแสวงหาที่พักผ่อนในหมู่ชนเหล่านี้

                    ดูว่าจะตั้งค่ายพักในดินแดนของใคร

          8แล้วพระผู้ทรงเนรมิตสรรพสิ่งทรงมีพระบัญชาแก่ข้าพเจ้า

                    พระผู้ทรงเนรมิตข้าพเจ้าทรงกำหนดสถานที่ให้ข้าพเจ้าตั้งกระโจม

          พระองค์ตรัสว่า “จงตั้งกระโจมของท่านในยาโคบ

                    จงรับอิสราเอลเป็นมรดกของท่าน”

          9แต่แรกเริ่ม พระองค์ทรงเนรมิตข้าพเจ้าก่อนกาลเวลา

                    และข้าพเจ้าจะดำรงอยู่ตลอดนิรันดร

          10ข้าพเจ้ารับใช้เฉพาะพระพักตร์พระองค์dในกระโจมศักดิ์สิทธิ์

                    ข้าพเจ้าจึงตั้งที่พำนักอยู่ในศิโยน

          11พระองค์ทรงให้ข้าพเจ้าพักผ่อนในนครที่ทรงรัก

                    อำนาจของข้าพเจ้าอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม

          12ข้าพเจ้าหยั่งรากในประชากรรุ่งเรือง

                    ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกไว้เป็นมรดกของพระองค์

          13ข้าพเจ้าเติบโตขึ้นเหมือนต้นสนในเลบานอน

                    เหมือนต้นไซเปรสบนภูเขาเฮอร์โมน

          14ข้าพเจ้าเติบโตดุจต้นปาล์มที่เอนเกดีe

                    ดุจต้นกุหลาบที่เมืองเยรีโค

          ดุจต้นมะกอกเทศงดงามในทุ่งราบ

                    ข้าพเจ้าเติบโตดุจต้นเพลน

          15ข้าพเจ้าส่งกลิ่นหอมเหมือนอบเชยและกระถินเทศ

                    ให้กลิ่นหอมเหมือนมดยอบชนิดเยี่ยม

          เหมือนมหาหิงคุ์ ชะมดเชียงและกำยาน

                    เหมือนควันกำยานในกระโจมf

          16ข้าพเจ้าแผ่กิ่งก้านเหมือนต้นมะขามเทศ

                    กิ่งก้านของข้าพเจ้าสง่างามและอ่อนช้อย

          17ข้าพเจ้าเป็นเหมือนเถาองุ่นที่แตกกิ่งอ่อนงดงาม

                    ดอกของข้าพเจ้าให้ผลงามจำนวนมากg (18)

                19ท่านที่ปรารถนาอยากได้ข้าพเจ้า จงมาหาข้าพเจ้าเถิด

                    จงกินผลของข้าพเจ้าให้อิ่ม

          20เพราะความระลึกถึงข้าพเจ้าหวานกว่าน้ำผึ้ง

                    การได้ข้าพเจ้าเป็นมรดกหวานยิ่งกว่ารวงผึ้ง

          21ผู้ที่กินข้าพเจ้าแล้วจะหิวอยากกินอีก

                    ผู้ที่ดื่มข้าพเจ้าแล้ว ก็จะกระหายอยากดื่มข้าพเจ้าอีก

          22ผู้ที่เชื่อฟังข้าพเจ้าจะไม่อับอาย

                    ผู้ที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้าพเจ้าก็จะไม่ทำบาป”

ปรีชาญาณและธรรมบัญญัติh

          23ทั้งหมดนี้เป็นหนังสือพันธสัญญาของพระเจ้าสูงสุด

                    เป็นธรรมบัญญัติที่โมเสสประกาศใช้

          เป็นมรดกสำหรับบรรดาชุมชนของยาโคบi (24)

                25ธรรมบัญญัติเปี่ยมล้นด้วยปรีชาญาณเหมือนแม่น้ำปิโชนj

                    และเหมือนแม่น้ำไทกริสในฤดูที่ต้นไม้ออกผลแรก

          26ธรรมบัญญัติให้ความเข้าใจท่วมล้นดั่งแม่น้ำยูเฟรติส

                    ดังแม่น้ำจอร์แดนในฤดูเก็บเกี่ยว

          27ธรรมบัญญัติให้การสั่งสอนท่วมล้นดั่งแม่น้ำไนล์k

                    ดั่งแม่น้ำคีโฮนในฤดูเก็บผลองุ่น

          28มนุษย์คนแรกไม่มีวันเข้าใจปรีชาญาณได้ทั้งหมด

                    มนุษย์คนสุดท้ายก็จะยังค้นคว้าปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์ไม่ได้เช่นเดียวกัน

          29เพราะความคิดของปรีชาญาณนั้นกว้างกว่าทะเล

                    แผนการของปรีชาญาณลึกกว่าห้วงสมุทรที่ลึกที่สุด

          30ข้าพเจ้า บุตรสิราl เป็นเหมือนลำคลองแยกมาจากแม่น้ำ

                    เหมือนธารน้ำที่ออกมาเพื่อรดสวน

          31ข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะรดสวนของข้าพเจ้า

                    ข้าพเจ้าจะรดแปลงดอกไม้ของข้าพเจ้าให้ชุ่มฉ่ำ

          แต่แล้ว ลำคลองของข้าพเจ้าก็กลายเป็นแม่น้ำ

                    และแม่น้ำของข้าพเจ้าก็กลายเป็นทะเลm

          32ข้าพเจ้าทำให้คำสอนของข้าพเจ้าทอแสงดุจรุ่งอรุณ

                    ให้ส่องสว่างจนสุดแดนไกล

          33ข้าพเจ้าจะหลั่งคำสั่งสอนดุจการประกาศพระวาจา

                    จะมอบให้เป็นมรดกแก่อนุชนทุกรุ่นในอนาคต

          34ดูซิ ข้าพเจ้ามิได้ทำงานเพื่อข้าพเจ้าเพียงผู้เดียว

                    แต่ทำงานเพื่อทุกคนที่แสวงหาปรีชาญาณ”

24 a เราต้องเปรียบเทียบข้อความนี้กับคำปราศรัยอื่นๆ ของปรีชาญาณ ที่กล่าวถึงตนเอง (สภษ 1:20-33; 8:1-36; 9:1-9) และข้อความที่ยกย่องปรีชาญาณ (โยบ บทที่ 28; บรค 3:9–4:4) ข้อความในบทนี้มีความสำคัญที่สุดในหนังสือบุตรสิรา เพราะสรุปคำสอนทั้งหมดเกี่ยวกับปรีชาญาณ โดยกล่าวพาดพิงบ่อยๆ ถึงข้อความอื่นๆ ในพระคัมภีร์ ซึ่งผู้เขียนให้ความหมายใหม่ตามความคิดของตน ข้อความบางประโยคในบทนี้ชวนให้คิดถึงคำสอนเรื่องพระตรีเอกภาพมากกว่าที่พบได้ในหนังสือสุภาษิต คือ ปรีชาญาณเป็นหนึ่งเดียวอย่างแน่นแฟ้นกับพระเจ้า แม้จะแตกต่างจากพระองค์ มีลักษณะซึ่งในภายหลังจะประยุกต์ใช้กับพระวจนาตถ์และพระจิตเจ้า ดูเหมือนว่าข้อความนี้เป็นแรงบันดาลใจของอารัมภบทในพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น ซึ่งกล่าวถึงพระวจนาตถ์ว่ามีคุณลักษณะและกิจการหลายประการของปรีชาญาณ

b “กลุ่มเมฆ” ข้อความเก่าแก่ที่สุดในพระคัมภีร์กล่าวถึง “กลุ่มเมฆ” ว่า เป็นการแสดงว่าพระยาห์เวห์ประทับอยู่ที่นั่น

c “มีอำนาจเหนือ” แปลตามสำเนาโบราณภาษากรีกฉบับหนึ่งและตามสำนวนแปลโบราณภาษาซีเรียคและภาษาละติน ต้นฉบับภาษากรีกว่า “ได้รับมาเป็นกรรมสิทธิ์”

d บุตรสิราคิดว่าพิธีกรรมในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มเป็นผลงานอีกประการหนึ่งของปรีชาญาณ เพราะว่าพิธีกรรมแสดงถึงความบริบูรณ์ของพระเจ้าเช่นเดียวกับระเบียบในจักรวาล หรือเพราะว่าธรรมบัญญัติซึ่งเป็นผลของปรีชาญาณกำหนดรายละเอียดต่างๆ สำหรับพิธีกรรมด้วย (ดู 24:23ฯ)

e “เอนเกดี” แปลตามสำเนาโบราณภาษากรีก 2 ฉบับ ตัวบทภาษากรีกที่ใช้กัน (Textus receptus) ว่า “ที่ชายทะเล”

f ปรีชาญาณมีบทบาทในพิธีกรรมของพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม (24:10 เชิงอรรถ d) หลังจากกล่าวถึงเครื่องหอมตามธรรมชาติชนิดต่างๆ แล้ว บุตรสิราก็เปรียบปรีชาญาณกับควันกำยานที่ใช้ในพิธีกรรม * ชื่อเครื่องหอมเหล่านี้ยากที่จะแปลให้ถูกต้องได้ จึงเป็นการแปลโดยคาดคะเน เครื่องหอมหลายชนิดได้มาจากยางไม้ที่มีกลิ่นหอม เมื่อเผาจึงมีควันหอมคล้ายกำยานที่ใช้ในพิธีกรรม (เทียบ อพย 30:23, 34)

g สำเนาโบราณภาษากรีก Gk 248 และสำนวนแปลโบราณภาษาละตินเสริมว่า “18ข้าพเจ้าเป็นมารดาแห่งความรักบริสุทธิ์ ความยำเกรง ความรู้ และความหวังแน่วแน่” สำเนาโบราณภาษากรีก Gk 248 ยังเสริมต่อไปว่า “พระเจ้าประทานข้าพเจ้าซึ่งดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดรให้แก่บรรดาบุตรที่ทรงเลือกสรร” ส่วนสำนวนแปลโบราณภาษาละตินอ่านข้อความสุดท้ายนี้ว่า “ในข้าพเจ้ามีพระหรรษทานทุกประการที่ให้ชีวิตและความจริง ในข้าพเจ้ามีความหวังทุกประการที่นำชีวิตและพละกำลัง” ข้อความนี้อาจเป็นคำอธิบายของผู้คัดลอกที่กล่าวพาดพิงถึง ยน 14:6 เพราะคิดว่าพระคริสตเจ้าคือพระปรีชาญาณ

h คำปราศรัยของปรีชาญาณจบลงที่นี่ ผู้เขียน (บุตรสิรา) อธิบายว่าปรีชาญาณก็คือธรรมบัญญัติที่พระเจ้าประทานแก่ชาวอิสราเอลทางโมเสสนั่นเอง

i สำเนาโบราณภาษากรีก Gk 248 เสริมว่า “24อย่าเลิกที่จะรับพลังจากองค์พระผู้เป็นเจ้า จงยึดมั่นในพระองค์ พระองค์จะได้ประทานพลังแก่ท่าน องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงอานุภาพแต่พระองค์เดียวเป็นพระเจ้า ไม่มีผู้ช่วยให้รอดพ้นใดนอกจากพระองค์”

j ในข้อความตอนนี้ ผู้เขียนคิดถึงสวนเอเดนที่มีแม่น้ำสี่สาย (ปฐก 2:10ฯ) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์

k “ท่วมล้นดั่งแม่น้ำไนล์” แปลตามสำนวนแปลโบราณภาษาซีเรียค ต้นฉบับภาษากรีกว่า “ส่องแสงเหมือนแสงสว่าง”

l “ข้าพเจ้า บุตรสิรา” แปลตามตัวอักษรว่า “ข้าพเจ้า” แต่จากบริบท เราเข้าใจว่าผู้พูดเวลานี้คือผู้เขียน ซึ่งได้แก่บุตรสิรา กำลังแสดงตนเป็นเหมือน “คลองส่งน้ำ” ที่ผันน้ำเข้ามาในสวนเล็กๆ ของตนจากแม่น้ำใหญ่ ซึ่งได้แก่ปรีชาญาณที่ส่งน้ำให้ชีวิตแก่ชนอิสราเอลทั้งชาติ

m ผู้เขียนขยายการเปรียบเทียบว่าพระกรุณาของพระเจ้าทำให้น้ำในคลองของตนเพิ่มปริมาณอย่างมาก จนตัวเขาเป็นเสมือนประกาศกที่ประกาศพระวาจาแก่อนุชนชาวอิสราเอลในอนาคตอีกด้วย (ข้อ 33) ผู้เขียนคงได้รับความคิดนี้มาจากข้อความใน อสย 11:9 และ อสค 47:1-12 * สำนวนแปลภาษาละตินเข้าใจว่าผู้พูดในที่นี้คือ “พระปรีชาญาณ” ซึ่งได้แก่พระคริสตเจ้า จึงเสริมข้อความว่า “ข้าพเจ้าจะเข้าไปในขุมลึกของแผ่นดิน จะไปพบทุกคนที่กำลังนอนหลับอยู่ จะส่องแสงทุกคนที่มีความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้า”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก