"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์

Bible Diary เดือนตุลาคม 2024

bible diary 2024วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2024     
ระลึกถึง น.เทเรซา แห่งอาวีลา พรหมจารีและนักปราชญ์
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย (กท 5:1-6)                       

          พี่น้อง พระคริสตเจ้าทรงปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระแล้ว ฉะนั้น จงยืนหยัดมั่นคง และอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย

           จงฟังเถิด ข้าพเจ้า เปาโลขอบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านเข้าสุหนัต พระคริสตเจ้าก็จะไม่มีประโยชน์อะไรกับท่าน ข้าพเจ้าขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งกับทุกคนที่เข้าสุหนัตว่าจำเป็นต้องปฏิบัติตามธรรมบัญญัติทุกข้อด้วย ท่านที่คิดว่าเป็นผู้ชอบธรรมอาศัยธรรมบัญญัติ ก็แยกตัวออกไปจากพระคริสตเจ้า และขาดจากพระหรรษทาน ส่วนเรานั้น พระจิตเจ้าทรงนำเราให้รอคอยความชอบธรรมที่หวังจะได้รับจากความเชื่อ เพราะในพระคริสตเยซูนั้น การเข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัตนั้นไม่สำคัญ เรื่องที่สำคัญก็คือมีความเชื่อที่แสดงออกเป็นการกระทำอาศัยความรัก

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 11:37-41)

           เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสจบแล้ว ชาวฟาริสีคนหนึ่งทูลเชิญพระองค์ไปเสวยพระกระยาหารที่บ้าน พระองค์จึงเสด็จเข้าไปประทับที่โต๊ะ ชาวฟาริสีคนนั้นประหลาดใจเมื่อเห็นว่าพระองค์ไม่ได้ทรงล้างพระหัตถ์ตามธรรมเนียมก่อนเสวยพระกระยาหาร องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขาว่า “ชาวฟาริสีเอ๋ยท่านล้างถ้วยชามด้านนอก แต่ใจของท่านเต็มไปด้วยของที่ขโมยมาและความชั่วร้าย คนโง่เอ๋ย พระเจ้าผู้ทรงสร้างภายนอกมิได้ทรงสร้างภายในด้วยหรือ ถ้าจะให้ดีแล้ว จงให้สิ่งที่อยู่ภายในเป็นทานเถิด แล้วทุกสิ่งก็จะสะอาดสำหรับท่าน”

 

 

bible diary 2024วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2024     
น.กัลลิสตัสที่ 1 พระสันตะปาปาและมรณสักขี
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย (กท 4:22-24,26-27,31-5:1)                       

          พี่น้อง มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าอับราฮัมมีบุตรสองคน คนหนึ่งเกิดจากหญิงทาส อีกคนหนึ่งเกิดจากหญิงอิสระ เด็กที่เกิดจากหญิงทาสนั้นเกิดตามธรรมชาติ ส่วนเด็กที่เกิดจากหญิงอิสระนั้นเกิดตามพระสัญญา เรื่องนี้กล่าวไว้เป็นอุปมา หญิงสองคนนี้หมายถึงพันธสัญญาทั้งสองฉบับ ฉบับหนึ่งจากภูเขาซีนาย คือนางฮาการ์ ซึ่งให้กำเนิดบุตรมาเป็นทาส แต่กรุงเยรูซาเล็มที่อยู่เบื้องบนนั้นเป็นอิสระ และเป็นมารดาของเรา

           เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า จงชื่นชมเถิด หญิงหมันผู้ไม่มีบุตร จงเปล่งเสียงโห่ร้องเถิด ท่านที่ไม่เคยเจ็บครรภ์คลอดบุตร เพราะบุตรของหญิงที่ถูกทอดทิ้งมีมากกว่าบุตรของหญิงที่ยังมีสามีอยู่ด้วย ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย เรามิใช่บุตรของหญิงทาส แต่เป็นบุตรของหญิงอิสระ
พระคริสตเจ้าทรงปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระแล้ว ฉะนั้น จงยืนหยัดมั่นคง และอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา (ลก 11:29-32)

           เวลานั้น เมื่อประชาชนมาชุมนุมกันมากขึ้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “คนยุคนี้เป็นคนชั่วร้าย อยากเห็นเครื่องหมาย แต่จะไม่มีเครื่องหมายใดให้เห็นนอกจากเครื่องหมายของประกาศกโยนาห์เท่านั้น โยนาห์เป็นเครื่องหมายสำหรับชาวนีนะเวห์ฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะเป็นเครื่องหมายสำหรับคนยุคนี้ฉันนั้น ในวันพิพากษา พระราชินีแห่งทิศใต้จะทรงลุกขึ้นและทรงกล่าวโทษคนยุคนี้ เพราะพระนางเสด็จมาจากสุดปลายแผ่นดิน

           เพื่อฟังพระปรีชาสุขุมของกษัตริย์ซาโลมอน แต่ที่นี่มีผู้ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ซาโลมอนอีก ในวันพิพากษา ชาวนีนะเวห์จะลุกขึ้นและกล่าวโทษคนยุคนี้ เพราะชาวนีนะเวห์ได้กลับใจเมื่อได้ฟังคำเทศน์ของประกาศกโยนาห์ แต่ที่นี่มีผู้ยิ่งใหญ่กว่าโยนาห์อีก”

 

bible diary 2024วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024     
สัปดาห์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านจากหนังสือปรีชาญาณ (ปชญ 7:7-11)                       

          ข้าพเจ้าอธิษฐานขอความรอบรู้ แล้วพระเจ้าก็ประทานให้ ข้าพเจ้าวอนขอ แล้วจิตแห่งปรีชาญาณก็มาหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าประมาณค่าปรีชาญาณเหนือกว่าคทาและราชบัลลังก์ ข้าพเจ้าคิดว่าทรัพย์สมบัติไม่มีค่าใดเลยเมื่อเปรียบกับปรีชาญาณ แม้เพชรล้ำค่า ข้าพเจ้าคิดว่าด้อยกว่าปรีชาญาณ ทองทั้งโลก เมื่อเปรียบกับปรีชาญาณ ก็เหมือนทรายหยิบมือเดียว เงิน

           เมื่อเปรียบกับปรีชาญาณ ก็เหมือนดินโคลน ข้าพเจ้ารักปรีชาญาณมากกว่าสุขภาพและความสวยงาม ข้าพเจ้าคิดว่าปรีชาญาณมีค่ามากกว่าแสงสว่าง เพราะรังสีของปรีชาญาณไม่มีวันอับแสง สิ่งดีทั้งหลายมาถึงข้าพเจ้าพร้อมกับปรีชาญาณ ทรัพย์สมบัติล้ำค่าอยู่ในมือของปรีชาญาณ

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู (ฮบ 4:12-13)

          พี่น้อง พระวาจาของพระเจ้าเป็นพระวาจาที่มีชีวิตและบังเกิดผล คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุเข้าไปถึงจุดที่วิญญาณและจิตใจแยกจากกัน ถึงเส้นเอ็นและไขกระดูก วินิจฉัยความรู้สึกนึกคิดภายในใจได้ จึงไม่มีสรรพสิ่งใดๆ ซ่อนเร้นไว้เฉพาะพระพักตร์ แต่ทุกสิ่งเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อสายพระเนตรของพระผู้ซึ่งเราจะต้องทูลถวายรายงาน

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก (มก 10:17-30)

           ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว”

         พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก จึงจากไปด้วยความทุกข์ พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า”

         บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครจะรอดพ้นได้” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง” เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียน และในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร”

 

 

bible diary 2024วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2024     
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย (กท 3:22-29)                       

        พี่น้อง พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ทุกสิ่งถูกจองจำไว้ใต้อำนาจของบาป เพื่อพระสัญญาจะประทานแก่ผู้ที่มีความเชื่อโดยอาศัยความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า

       ก่อนที่ความเชื่อจะมาถึง ธรรมบัญญัติควบคุมดูแลเราอย่างเคร่งครัด จนกว่าความเชื่อจะถูกเปิดเผย ดังนั้น ธรรมบัญญัติจึงเป็นเหมือนครูพี่เลี้ยง นำเราไปพบพระคริสตเจ้า เพื่อเราจะได้เป็นผู้ชอบธรรมโดยอาศัยความเชื่อ แต่เมื่อความเชื่อมาถึงแล้ว เราก็ไม่ถูกครูพี่เลี้ยงควบคุมดูแลอีกต่อไป ท่านทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า โดยอาศัยความเชื่อในพระคริสตเยซู เพราะท่านทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปในพระคริสตเจ้า ก็สวมพระคริสตเจ้าไว้ ไม่มีชาวยิวหรือชาวกรีกไม่มีทาสหรือไทย ไม่มีชายหรือมีหญิงอีกต่อไป เพราะท่านทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสตเยซู และถ้าท่านเป็นของพระคริสตเจ้าแล้ว ท่านก็เป็นเชื้อสายของอับราฮัม เป็นทายาทตามพระสัญญา

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 11:27-28)

        ขณะที่พระเยซูเจ้ากำลังตรัสอยู่นั้น สตรีผู้หนึ่งร้องขึ้นในหมู่ประชาชนว่า
“หญิงที่ให้กำเนิดและให้นมเลี้ยงท่านช่างเป็นสุขจริง” แต่พระองค์ตรัสตอบว่า “คน
ทั้งหลายที่ฟังพระวาจาของพระเจ้าและปฏิบัติตามย่อมเป็นสุขกว่านั้นอีก”

 

bible diary 2024วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2024     
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย (กท 3:1-5)                       

           พี่น้อง ท่านทั้งหลายจงรู้เถิดว่า คนที่มีความเชื่อนั่นแหละคือบุตรของอับราฮัม พระคัมภีร์เห็นล่วงหน้าแล้วว่า พระเจ้าจะโปรดให้คนต่างศาสนาเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ พระองค์จึงทรงประกาศข่าวดีล่วงหน้าแก่อับราฮัมว่า อาศัยท่านนานาชาติจะได้รับพระพร ดังนั้น ผู้ที่มีความเชื่อจึงได้รับพระพรร่วมกับอับราฮัมผู้มีความเชื่อ

           ผู้ใดที่พึ่งการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติย่อมถูกสาปแช่ง เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ทุกคนที่ไม่มั่นคงในการปฏิบัติตามทุกสิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติย่อมถูกสาปแช่ง เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่มีผู้ใดเป็นผู้ชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าได้เพราะธรรมบัญญัติ เพราะผู้ชอบธรรมจะดำรงชีวิตอยู่โดยความเชื่อธรรมบัญญัติมิได้มาจากความเชื่อ ยิ่งกว่านั้น ผู้ที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ ก็จะพบชีวิตอาศัยการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติเหล่านั้น พระคริสตเจ้าทรงไถ่กู้เราให้รอดพ้นจากการสาปแช่งของธรรมบัญญัติโดยทรงถูกสาปแช่งแทนเรา เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ทุกคนที่ถูกแขวนประจานบนต้นไม้ จงถูกสาปแช่ง เพื่อพระพรที่อับราฮัมได้รับจะได้ผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้าไปถึงคนต่างศาสนาด้วย เพื่อเราจะได้รับพระจิตเจ้าตามพระสัญญาโดยอาศัยความเชื่อ

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 11:14-26)

           เวลานั้น พระเยซูเจ้ากำลังทรงขับไล่ปีศาจซึ่งทำให้คนเป็นใบ้ เมื่อปีศาจออกไปแล้ว คนใบ้ก็พูดได้ ประชาชนต่างประหลาดใจ บางคนกล่าวว่า “เขาขับไล่ปีศาจ ด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล เจ้าแห่งปีศาจนั่นเอง” บางคนต้องการจับผิดพระองค์ จึงขอให้พระองค์ทรงแสดงเครื่องหมายจากสวรรค์ พระเยซูเจ้าทรงทราบความคิดของเขาจึงตรัสว่า “อาณาจักรใดแตกแยกภายใน อาณาจักรนั้นย่อมพินาศ บ้านเรือนย่อมพังทลายทับกัน ถ้าซาตานแตกแยกกันเอง อาณาจักรของมันจะตั้งอยู่ได้อย่างไร เพราะท่านบอกว่า เราขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล ถ้าเราขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล พวกพ้องของท่านขับไล่มันด้วยอำนาจของใคร พวกพ้องของท่านจะเป็นผู้ตัดสินลงโทษท่าน แต่ถ้าเราขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของพระเจ้า ก็หมายความว่าพระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงท่านแล้ว เมื่อคนแข็งแรงมีอาวุธครบมือเฝ้าบ้านของตน ทรัพย์สมบัติของเขาก็ปลอดภัย แต่ถ้าผู้ใดแข็งแรงกว่าเข้ามาโจมตีและเอาชนะเขาได้ ก็ย่อมริบอาวุธที่เขามั่นใจนั้น และแบ่งปันข้าวของที่ปล้นได้

           ผู้ใดไม่อยู่กับเรา ย่อมเป็นปฏิปักษ์กับเรา ใครไม่รวบรวมสิ่งต่างๆ ไว้กับเรา ย่อมทำให้สิ่งเหล่านั้นกระจัดกระจายไป

           เมื่อปีศาจออกไปจากมนุษย์แล้ว มันท่องเที่ยวไปในที่แห้งแล้งเพื่อหาที่พัก เมื่อไม่พบ มันจึงคิดว่า ‘ข้าจะกลับไปยังบ้านที่ข้าจากมา’ เมื่อกลับมาถึง มันพบว่า บ้านนั้นปัดกวาดตกแต่งไว้เรียบร้อย มันจึงไปพาปีศาจอีกเจ็ดตนที่ชั่วร้ายยิ่งกว่ามันเข้ามาอาศัยที่นั่น สภาพสุดท้ายของมนุษย์ผู้นั้นจึงเลวร้ายกว่าเดิม”

 

bible diary 2024วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2024     
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย (กท 3:1-5)                       

         ชาวกาลาเทียโง่เขลาเอ๋ย ใครสะกดท่านให้มึนงงไปได้ ทั้งๆ ที่ภาพของพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนปรากฏอยู่ต่อหน้าท่านแล้ว ข้าพเจ้าอยากรู้จากท่านเพียงข้อเดียวเท่านั้นว่า ท่านได้รับพระจิตเจ้าเพราะท่านปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ หรือเพราะท่านเชื่อการประกาศข่าวดี ท่านโง่เขลาถึงเพียงนี้เทียวหรือ ท่านเริ่มต้นด้วยพระจิตเจ้า แต่บัดนี้ท่านจะมาจบลงด้วยการกระทำตามธรรมชาติอีก ประสบการณ์มากมายที่ท่านได้รับมานั้น ไร้ประโยชน์แล้วหรือ ก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์แล้วจริงๆ พระองค์ผู้ประทานพระจิตเจ้าให้ท่าน และทรงแสดงการอัศจรรย์ต่างๆ ในหมู่ท่านทั้งหลาย ทรงกระทำเช่นนั้นเพราะท่านปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ หรือเพราะท่านยอมเชื่อการประกาศข่าวดี

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 11:5-13)

         เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “สมมติว่าท่านคนหนึ่งมีเพื่อน และไปพบเพื่อนนั้นตอนเที่ยงคืนกล่าวว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ให้ฉันขอยืมขนมปังสักสามก้อนเถิด เพราะเพื่อนของฉันเพิ่งเดินทางมาถึงบ้านของฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้เขากิน’ สมมติว่าเพื่อนคนนั้นตอบจากในบ้านว่า ‘อย่ารบกวนฉันเลย ประตูปิดแล้ว ลูกๆ กับฉันก็เข้านอนแล้ว ฉันลุกขึ้นให้สิ่งใดท่านไม่ได้หรอก’ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนนั้นไม่ลุกขึ้นให้ขนมปังเพราะเป็นเพื่อนกัน เขาก็จะลุกขึ้นมาให้สิ่งที่เพื่อนต้องการเพราะถูกรบเร้า

        เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน เพราะคนที่ขอย่อมได้รับ คนที่แสวงหาย่อมพบ คนที่เคาะประตูย่อมมีผู้เปิดประตูให้ ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ ถ้าลูกขอไข่ จะให้แมงป่องหรือ แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่วยังรู้จักให้ของดีๆ แก่ลูก แล้วพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานพระจิตเจ้าแก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ”

 

bible diary 2024วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2024     
น.ดิโอนีซิโอ และเพื่อนมรณสักขี
น.ยอห์น เลโอนาร์ดี พระสงฆ์   
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย (กท 2:1-2,7-14)                       

         พี่น้อง สิบสี่ปีต่อมา ข้าพเจ้าขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มอีกพร้อมกับบารนาบัส และพาทิตัสไปด้วย
ข้าพเจ้าไปตามที่พระเจ้าทรงเปิดเผย ชี้แจงให้บรรดาพี่น้องที่นั่นรู้ข่าวดีที่ข้าพเจ้าประกาศแก่คนต่างศาสนา เล่าให้คนสำคัญฟังเป็นการส่วนตัว เพื่อข้าพเจ้าจะไม่วิ่งโดยไร้ประโยชน์
ยิ่งกว่านั้น บุคคลสำคัญเหล่านี้เห็นว่าข้าพเจ้าได้รับมอบหน้าที่ให้ประกาศข่าวดีแก่ผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัต เช่นเดียวกับเปโตรได้รับมอบหน้าที่ให้ประกาศแก่ผู้ที่เข้าสุหนัตแล้ว

          เพราะพระเจ้าผู้ทรงบันดาลให้เปโตรเป็นธรรมทูตไปพบผู้ที่เข้าสุหนัตแล้ว ก็ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้าไปพบคนต่างศาสนาเช่นเดียวกัน ดังนั้น เมื่อยากอบ เคฟาสและยอห์น ซึ่งได้รับความนับถือว่าเป็นหลัก รู้เรื่องพระหรรษทานที่พระเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าแล้วก็จับมือกับข้าพเจ้าและบารนาบัส แสดงความเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ตกลงกันว่า เราจะไปพบคนต่างศาสนา ส่วนพวกเขาจะไปพบผู้ที่เข้าสุหนัตแล้ว เขาเหล่านี้ขอเพียงแต่ไม่ให้เราลืมคนยากจน คำขอนี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาจะทำอยู่แล้ว

           เมื่อเคฟาสมาที่เมืองอันทิโอก ข้าพเจ้าคัดค้านเขาซึ่งๆ หน้า เพราะเขาเป็นฝ่ายผิด ก่อนที่คนของยากอบจะมา เคฟาสกินอาหารร่วมกับคนต่างชาติ แต่ครั้นพวกนั้นมา เขาก็ปลีกตัวและแยกออกมา เพราะกลัวพวกที่เข้าสุหนัต ชาวยิวคนอื่นจึงแสร้งทำตามเขาบ้าง แม้กระทั่งบารนาบัสเองก็หลงแสร้งทำตามพวกเขาไปด้วย

           เมื่อข้าพเจ้าเห็นว่าเขาเหล่านั้นประพฤติตนไม่ถูกต้องตามความหมายแท้จริงของข่าวดี ข้าพเจ้าจึงพูดกับเคฟาสต่อหน้าทุกคนว่า “ท่านเป็นชาวยิว ยังประพฤติตนอย่างคนต่างชาติ มิใช่อย่างชาวยิว แล้วเหตุไฉนท่านจึงบังคับคนต่างชาติให้ประพฤติตนอย่างชาวยิวเล่า”

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา (ลก 11:1-4)

             วันหนึ่ง พระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อทรงอธิษฐานจบแล้ว ศิษย์คนหนึ่งทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า โปรดสอนเราให้อธิษฐานภาวนาเหมือนกับที่ยอห์นสอนศิษย์ของเขาเถิด” พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐานภาวนา จงพูดว่า

             ‘ข้าแต่พระบิดา พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ
พระอาณาจักรจงมาถึง
โปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายทุกวัน
โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
เหมือนข้าพเจ้าทั้งหลายให้อภัยแก่ผู้อื่น
โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายไม่ให้แพ้การผจญ’”

 

bible diary 2024วันอังคารที่ 8 ตุลาคม 2024      
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา     
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย (กท 1:13-24)                       

           พี่น้อง ท่านทั้งหลายต้องเคยได้ยินเรื่องความประพฤติในอดีตของข้าพเจ้า เมื่อยังยึดถือลัทธิยิวว่า ข้าพเจ้าเคยเบียดเบียนพระศาสนจักรของพระเจ้าอย่างรุนแรง และพยายามทำลายด้วย ข้าพเจ้าเคร่งครัดในลัทธิยิวมากกว่าเพื่อนชาวยิวรุ่นเดียวกันหลายคน และมีความกระตือรือร้นอย่างยิ่งในการรักษาประเพณีของบรรพบุรุษ แต่พระเจ้าผู้ทรงเลือกสรรข้าพเจ้าไว้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์มารดา ก็ทรงเรียกข้าพเจ้าเดชะพระหรรษทานของพระองค์ และพอพระทัยที่จะสำแดงพระบุตรของพระองค์ในตัวข้าพเจ้า

            เพื่อข้าพเจ้าจะได้ประกาศข่าวดีถึงพระบุตรแก่บรรดาคนต่างศาสนา ข้าพเจ้าไม่ได้ปรึกษามนุษย์ผู้ใดเลย และไม่ได้ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อพบกับผู้เป็นอัครสาวกก่อนข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าออกเดินทางไปยังอาราเบีย และกลับมายังเมืองดามัสกัสอีก สามปีต่อมา ข้าพเจ้าขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อทำความรู้จักกับเคฟาส และพักอยู่กับเขาเป็นเวลาสิบห้าวัน ข้าพเจ้าไม่พบอัครสาวกอื่นๆ นอกจากยากอบ ผู้เป็นน้องชายขององค์พระผู้เป็นเจ้า

              ข้าพเจ้าขอสาบานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนนี้มิใช่ความเท็จ หลังจากนั้น ข้าพเจ้าไปในดินแดนแคว้นซีเรียและซีลีเซีย พระศาสนจักรต่างๆ ในแคว้นยูเดียยังไม่เคยรู้จักกหน้าข้าพเจ้าเลย เขาเหล่านั้นเคยแต่ได้ยินว่า “ผู้ที่เคยข่มเหงพวกเรา บัดนี้กลับมาประกาศความเชื่อที่เขาเคยพยายามจะทำลาย” เขาเหล่านั้นจึงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะข้าพเจ้า

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา (ลก 10:38-42)

          เวลานั้น ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินพร้อมกับบรรดาศิษย์ พระองค์เสด็จเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง สตรีผู้หนึ่งชื่อมารธารับเสด็จพระองค์ที่บ้าน นางมีน้องสาวชื่อมารีย์ซึ่งนั่งอยู่แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า คอยฟังพระวาจาของพระองค์ มารธากำลังยุ่งอยู่กับการปรนนิบัติรับใช้จึงเข้ามาทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวปล่อยดิฉันคนเดียวให้ปรนนิบัติรับใช้ ขอพระองค์บอกเขาให้มาช่วยดิฉันบ้าง” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “มารธา มารธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”

 

 

bible diary 2024วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2024       
ระลึกถึงแม่พระแห่งลูกประคำ    
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย (กท 1:6-12)                       

       พี่น้อง ข้าพเจ้าประหลาดใจที่ท่านทั้งหลายหันเหอย่างรวดเร็วจากพระบิดาผู้ทรงเรียกท่านด้วยพระหรรษทานของพระคริสตเจ้า ไปเชื่อข่าวดีอื่น อันที่จริงแล้ว ข่าวดีอื่นนั้นไม่มี แต่มีบางคนก่อความวุ่นวายในหมู่ท่านทั้งหลาย และประสงค์จะบิดเบือนข่าวดีของพระคริสตเจ้า แต่ถ้าเราหรือทูตสวรรค์ประกาศข่าวดีขัดแย้งกับที่เราเคยประกาศแก่ท่าน ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้าขอพูดย้ำสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยพูดไว้ก่อนอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด

       บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามเอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า พี่น้อง ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า ข่าวดีที่ข้าพเจ้าประกาศไปแล้วนั้น มิใช่ข่าวที่มาจากมนุษย์ เพราะข้าพเจ้าไม่ได้รับมาจากมนุษย์ มิได้เรียนรู้จากมนุษย์ แต่ได้รับจากการเปิดเผยของพระเยซูคริสตเจ้า

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา (ลก 10:25-37)  

        ขณะนั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต”

         ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้อง จึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า “ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น

         เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา วันรุ่งขึ้น ชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้

        กล่าวว่า ‘ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา’ ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”

 

bible diary 2024วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา   
บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล (ปฐก 2:18-24)                     

          องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสว่า “มนุษย์อยู่เพียงคนเดียวนั้นไม่ดีเลย เราจะสร้างผู้ช่วยที่เหมาะสมให้เขา” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าจึงทรงเอาดินมาปั้นสัตว์ป่าทุกชนิดและนกทุกชนิดในท้องฟ้า ทรงนำสัตว์เหล่านี้มาให้มนุษย์ เพื่อดูว่าเขาจะตั้งชื่อมันว่าอย่างไร สัตว์แต่ละตัวจะมีชื่อตามที่มนุษย์ตั้งให้ มนุษย์จึงตั้งชื่อให้สัตว์เลี้ยง นกในอากาศ และสัตว์ป่าทั้งหมด แต่มนุษย์ยังไม่พบผู้ช่วยที่เหมาะกับตน

          ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าทรงทำให้มนุษย์หลับสนิท และขณะที่เขากำลังนอนหลับ ก็ทรงเอากระดูกซี่โครงของเขาออกมาหนึ่งซี่ และทรงบันดาลให้เนื้อปิดสนิท องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าทรงเอาซี่โครงนั้นมาสร้างหญิง แล้วทรงนำมาให้มนุษย์ มนุษย์จึงพูดว่า “นี่คือกระดูกจากกระดูกของฉัน และเนื้อจากเนื้อของฉัน นางจะมีชื่อว่าหญิง เพราะนางมาจากชาย” เพราะฉะนั้น ชายจะละบิดามารดาของตนไปผูกพันกับภรรยา และทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู (ฮบ 2:9-11)

          พี่น้อง เราก็เห็นว่า พระเยซูเจ้าผู้ทรงถูกลดฐานะลงต่ำกว่าทูตสวรรค์อยู่ชั่วขณะหนึ่ง ทรงได้รับสิริรุ่งโรจน์และเกียรติยศเป็นมงกุฎ เพราะทรงยอมรับความตาย ดังนี้ โดยอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้า พระองค์ทรงลิ้มรสความตายเพื่อมนุษย์ทุกคน พระเจ้าผู้ทรงสร้างและทรงค้ำจุนทุกสิ่งมีพระประสงค์จะนำบุตรจำนวนมากเข้ามารับพระสิริรุ่งโรจน์ จึงเป็นการเหมาะสมแล้วที่พระองค์จะทรงทำให้ผู้ที่นำมนุษย์ให้รอดพ้นนั้นสมบูรณ์โดยผ่านการทนทุกข์ทรมาน เพราะทั้งผู้ประทานความศักดิ์สิทธิ์และผู้รับความศักดิ์สิทธิ์ต่างก็มาจากแหล่งเดียวกัน พระองค์จึงไม่ทรงอายที่จะเรียกคนเหล่านั้นว่าพี่น้อง

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก (มก 10:2-16)

เวลานั้น ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระเยซูเจ้าว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อแข็งกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน

ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้น สิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”

มีผู้นำเด็กเล็กๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็กๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็กๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร

 

bible diary 2024วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม  2024
สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา   
บทอ่านจากหนังสือโยบ (โยบ 42:1-3, 5-6, 12-17)                     

         โยบจึงทูลตอบองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
“ข้าพเจ้าเข้าใจว่าพระองค์ทรงกระทำได้ทุกสิ่ง
ไม่มีผู้ใดขัดขวางพระประสงค์ของพระองค์ได้
พระองค์เคยตรัสถามว่า ‘ผู้นี้เป็นใครที่ใช้ถ้อยคำไร้ความรู้
ทำให้แผนการของเรามืดไป’
ข้าพเจ้าจึงพูดถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ
และเป็นสิ่งน่าพิศวงเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะรู้ได้
ข้าพเจ้าเคยรู้จักพระองค์เพียงจากคำพูดของผู้อื่น
แต่บัดนี้ดวงตาของข้าพเจ้าแลเห็นพระองค์
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอถอนคำพูด
และเป็นทุกข์เสียใจ โปรยฝุ่นดินและขี้เถ้าบนศีรษะ”

         พระเจ้าทรงอวยพระพรชีวิตใหม่ของโยบมากกว่าชีวิตเดิม เขามีแกะหนึ่งหมื่นสี่พันตัว อูฐหกพันตัว โคเพศผู้หนึ่งพันคู่ และลาเพศเมียหนึ่งพันตัว เขามีบุตรชายเจ็ดคนและบุตรหญิงสามคน เขาเรียกชื่อบุตรหญิงคนแรกว่า “เยมีมาห์” คนที่สองว่า “เคสิยาห์” และคนที่สามว่า “เคเรนหัปปุค” ทั่วแผ่นดินไม่มีหญิงใดงดงามเท่ากับบุตรหญิงของโยบ บิดาให้เธอมีสิทธิรับมรดกเหมือนกับพี่ชายและน้องชายของเธอ

โยบยังมีชีวิตอยู่ต่อมาอีกหนึ่งร้อยสี่สิบปี ได้เห็นบุตร หลาน เหลน ถึงสี่ชั่วอายุ แล้วโยบก็สิ้นชีวิตในวัยชราอันยาวนานและผาสุก

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:17-24)

          เวลานั้น ศิษย์ทั้งเจ็ดสิบสองคนกลับมาด้วยความชื่นชมยินดี ทูลว่า “พระเจ้าข้า แม้แต่ปีศาจก็ยังอ่อนน้อมต่อเราเดชะพระนามพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ จงฟังเถิด เราให้อำนาจแก่ท่านที่จะเหยียบงูและแมงป่อง มีอำนาจเหนือกำลังทุกอย่างของศัตรู ไม่มีอะไรจะทำร้ายท่านได้ อย่าชื่นชมยินดีที่ปีศาจอ่อนน้อมต่อท่าน แต่จงชื่นชมยินดีมากกว่าที่ชื่อของท่านจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว”

          ในเวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงปลาบปลื้มพระทัยเดชะพระจิตเจ้า ตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ ที่พระองค์ทรงปิดบังเรื่องเหล่านี้จากบรรดาผู้ปรีชาและรอบรู้ แต่ทรงเปิดเผยแก่บรรดาผู้ต่ำต้อย ถูกแล้ว พระบิดาเจ้าข้า พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น พระบิดาทรงมอบทุกสิ่งแก่ข้าพเจ้า ไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรทรงเป็นใครนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาทรงเป็นใคร นอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรทรงเปิดเผยให้รู้”

แล้วพระองค์ทรงหันพระพักตร์ไปยังบรรดาศิษย์ ตรัสกับเขาโดยเฉพาะว่า “นัยน์ตาของท่านเป็นสุขที่มองเห็นสิ่งต่างๆ ที่ท่านเห็น เราบอกท่านทั้งหลายว่า ประกาศกและกษัตริย์จำนวนมากปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านได้เห็น แต่ก็ไม่ได้เห็น ปรารถนาจะได้ฟังสิ่งที่ท่านได้ฟัง แต่ก็ไม่ได้ฟัง”

 

bible diary 2024วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม  2024
ระลึกถึง น.ฟรังซิส ชาวอัสซีซี   
บทอ่านจากหนังสือโยบ (โยบ 38:1, 12-21; 40:3-5)                     

          องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบโยบจากกลางลมพายุว่า
“ตั้งแต่วันที่ท่านเกิดมา ท่านเคยสั่งรุ่งอรุณ
และเคยกำหนดสถานที่ให้รุ่งอรุณอยู่หรือ
รุ่งอรุณจะได้จับชายแผ่นดินไว้ และสลัดคนชั่วออกไป
แผ่นดินเปลี่ยนไปเหมือนดินเหนียวถูกตราประทับและมีสีต่างๆ เหมือนเสื้อผ้า
แสงสว่างถูกถอนไปจากคนชั่ว
เพราะแขนของเขาที่เงื้อขึ้นเพื่อทำร้ายย่อมถูกหัก
ท่านเคยเข้าไปจนถึงตาน้ำแห่งทะเลหรือเดินเข้าไปในขุมลึกแล้วหรือ
มีใครแสดงให้ท่านเห็นประตูแห่งความตาย
หรือท่านได้เห็นประตูเงาแห่งความตายแล้วหรือ
ท่านรู้ความกว้างใหญ่ของแผ่นดินหรือ ถ้าท่านรู้ทุกสิ่งแล้ว ก็จงบอกมา
หนทางไหนนำไปสู่ที่พำนักของความสว่าง
และที่ไหนเป็นสถานที่ของความมืด
ท่านจะได้นำทั้งแสงสว่างและความมืดไปอยู่ในเขตแดนของตน
หรืออย่างน้อยก็ชี้ทางให้มันกลับไปบ้านได้
แน่นอน ท่านต้องรู้ เพราะเวลานั้น ท่านเกิดมาแล้ว
จำนวนวันของท่านก็มากมาย”
โยบทูลตอบองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
“ดูเถิด ข้าพเจ้าไม่ใช่คนสำคัญ จะทูลตอบพระองค์ได้อย่างไร
ข้าพเจ้าเอามือปิดปาก ข้าพเจ้าได้กราบทูลครั้งหนึ่งแล้ว
และจะไม่กราบทูลอีก
ข้าพเจ้ากราบทูลสองครั้งแล้ว จะไม่กราบทูลต่อไป”

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:13-16)

          เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วิบัติจงเกิดแก่เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติจงเกิดแก่เจ้าเมืองเบธไซดา ถ้าอัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นในเจ้าได้เกิดขึ้นที่เมืองไทระ และเมืองไซดอนแล้ว เขาเหล่านั้นคงได้นุ่งกระสอบ นั่งบนกองขี้เถ้า กลับใจเสียนานแล้วดังนั้น เมืองไทระและเมืองไซดอนจะรับโทษเบากว่าเจ้าในวันพิพากษา

          ส่วนเจ้า เมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะยกตนขึ้นถึงฟ้าเทียวหรือ เจ้าจะตกลงไปถึงแดนผู้ตาย

          ผู้ใดฟังท่าน ผู้นั้นฟังเรา ผู้ใดสบประมาทท่าน ผู้นั้นสบประมาทเรา ผู้ที่สบประมาทเรา ก็สบประมาทผู้ที่ทรงส่งเรามา”

 

bible diary 2024วันพฤหัสที่ 3 ตุลาคม  2024
สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา   
บทอ่านจากหนังสือโยบ (โยบ 19:21-27)                     

โยบกล่าวว่า
“จงสงสารข้าพเจ้าเถิด เพื่อนเอ๋ย จงสงสารเถิด
เพราะพระหัตถ์ของพระเจ้าได้ตีข้าพเจ้า
ทำไมท่านทั้งหลายจึงเบียดเบียนข้าพเจ้า
เหมือนกับที่พระเจ้าทรงกระทำ
ท่านทำร้ายเนื้อหนังของข้าพเจ้ายังไม่พออีกหรือ
ข้าพเจ้าอยากให้ถ้อยคำของข้าพเจ้าถูกบันทึกไว้
อยากให้จารึกไว้ในหนังสือ
อยากให้ใช้สิ่วเหล็กและตะกั่วสลักไว้บนหินให้คงอยู่ตลอดไป
ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระผู้ปกป้องข้าพเจ้าทรงพระชนม์อยู่
จะทรงลุกขึ้นยืนเป็นคนสุดท้ายบนฝุ่นดิน
เมื่อหนังของข้าพเจ้าถูกทำลาย และไม่มีร่างกายอีกแล้ว
ข้าพเจ้าจะเห็นพระเจ้า
ข้าพเจ้าจะเห็นพระองค์อยู่เคียงข้าง
นัยน์ตาของข้าพเจ้าจะแลเห็นพระองค์ไม่ใช่อย่างคนแปลกหน้า
ข้าพเจ้ารู้สึกมีความมั่นใจเช่นนี้

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:1-12)

          ต่อจากนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งศิษย์อีกเจ็ดสิบสองคน และทรงส่งเขาล่วงหน้าพระองค์เป็นคู่ๆ ไปทุกตำบลทุกเมืองที่พระองค์จะเสด็จ พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ข้าวที่จะเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด จงไปเถิด เราส่งท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะในฝูงสุนัขป่า อย่านำถุงเงิน ย่ามหรือรองเท้าไปด้วย อย่าเสียเวลาทักทายผู้ใดตามทาง

           เมื่อท่านเข้าบ้านใด จงกล่าวก่อนว่า ‘สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้เถิด”’ ถ้ามีผู้สมควรจะรับสันติสุขอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านจะอยู่กับเขา มิฉะนั้น สันติสุขของท่านจะกลับมาอยู่กับท่านอีก จงพักอาศัยในบ้านนั้น กินและดื่มของที่เขาจะนำมาให้ เพราะว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเข้าบ้านนี้ออกบ้านโน้น

           เมื่อท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาต้อนรับท่าน จงกินของที่เขาจะนำมาตั้งให้จงรักษาผู้เจ็บป่วยในเมืองนั้นและบอกเขาว่า ‘พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว’ แต่ถ้าท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาไม่ต้อนรับ ก็จงออกไปกลางลานสาธารณะ และกล่าวว่า ‘แม้แต่ฝุ่นจากเมืองของท่านที่ติดเท้าของเรา เราจะสลัดทิ้งไว้กล่าวโทษท่าน จงรู้เถิดว่า พระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว’ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในวันพิพากษา ชาวเมืองโสดมจะรับโทษเบากว่าชาวเมืองนั้น”

 

bible diary 2024วันพุธที่ 2 ตุลาคม  2024
ระลึกถึง ทูตสวรรค์ผู้อารักขา   
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ (อพย 23:20-23ก)                     

พระเจ้าตรัสดังนี้

           “เราจะส่งทูตสวรรค์ไปข้างหน้าท่าน เพื่อป้องกันท่านตามทาง และนำท่านไปถึงสถานที่ที่เราจัดเตรียมไว้ จงเคารพเชื่อฟังถ้อยคำของทูตสวรรค์นั้น อย่าต่อต้าน เพราะเขาทำไปในนามของเรา และจะไม่ยอมอภัยความผิดของท่านเลย แต่ถ้าท่านเชื่อฟังเขาและทำตามที่เราสั่งทุกประการ เราจะเป็นศัตรูกับศัตรูของท่าน เป็นปฏิปักษ์กับปฏิปักษ์ของท่าน ทูตสวรรค์ของเราจะเดินข้างหน้าและนำท่าน”

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 18:1-5, 10)

           เวลานั้น บรรดาศิษย์เข้ามาเฝ้าพระเยซูเจ้า ทูลถามว่า “ผู้ใดยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์” พระเยซูเจ้าทรงเรียกเด็กเล็กๆ คนหนึ่งให้มายืนอยู่กลางกลุ่มพวกเขา แล้วตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ผู้ใดที่ถ่อมตนลงเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ คนนี้ ผู้นั้นจะยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์

           ผู้ใดต้อนรับเด็กเล็กๆ เช่นนี้ในนามของเรา ผู้นั้นต้อนรับเรา

           จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่นคนธรรมดาๆ เหล่านี้คนใดเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ตลอดเวลาในสวรรค์ ทูตสวรรค์ของเขาเฝ้าชมพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์”

 

bible diary 2024วันอังคารที่ 1 ตุลาคม  2024
ฉลองนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู พรหมจารี   
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ (อสย 66:10-14)                     

          ท่านทั้งหลายจงยินดีกับกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายที่รักกรุงเยรูซาเล็ม จงชื่นชมกับกรุงนี้เถิด ท่านทั้งหลายที่เคยไว้ทุกข์ให้กรุงเยรูซาเล็ม จงร่วมยินดีกับกรุงนี้ด้วยความชื่นบานเถิด ท่านจะได้รับการปลอบโยนอย่างเต็มเปี่ยมจากกรุงเยรูซาเล็ม ทารกมีความยินดีเมื่อดูดนมจากทรวงอกของมารดาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะมีความยินดีจากความอุดมสมบูรณ์ของกรุงนี้ฉันนั้น

           เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า

          "ดูซิ เราจะบันดาลให้สันติสุขหลั่งไหลมาสู่กรุงนี้เหมือนแม่น้ำ จะนำความมั่งคั่งของนานาชาติมายังกรุงนี้เหมือนลำน้ำที่กำลังล้นฝั่ง กรุงนี้จะอุ้มท่านทั้งหลายไว้ และหยอกล้อท่านบนตัก มารดาปลอบโยนบุตรฉันใด เราก็จะปลอบโยนท่านทั้งหลายฉันนั้น” ท่านจะได้รับการปลอบโยนในกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายจะเห็น และใจของท่านจะโลดเต้นยินดี กระดูกของท่านจะสดชื่นขึ้นเหมือนหญ้าอ่อน และพระหัตถ์ของพระเจ้าจะเป็นที่รู้จักแก่ผู้รับใช้ของพระองค์

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว (มธ 18:1-5)

           เวลานั้น บรรดาศิษย์เข้ามาเฝ้าพระเยซูเจ้า ทูลถามว่า “ผู้ใดยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์” พระเยซูเจ้าทรงเรียกเด็กเล็กๆ คนหนึ่งให้มายืนอยู่กลางกลุ่มพวกเขา แล้วตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย เพราะฉะนผั้นู้ใ ดที่ถ่อมตนลงเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ คนนี้ ผู้นั้นจะยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์

           ผู้ใดต้อนรับเด็กเล็กๆ เช่นนี้ในนามของเรา ผู้นั้นต้อนรับเรา”

 

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันอังคารที่ 23 กันยายน 2025
วันอังคารที่ 23 กันยายน 2025 น.ปีโอ แห่งปีเอเตรลชีนา พระสงฆ์ บทอ่านจากหนังสือเอสรา (อสร 6:7-8, 12ข, 14-20) ในเวลานั้น กษัตริย์ดาริอัสได้มีพระราชหัตถเลขาถึงบรรดาผู้ปกครองดินแดนที่อยู่ทางอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสว่า “จงปล่อยให้ผู้ปกครองและบรรดาผู้อาวุโสชาวยิว ดำเนินงานก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าหลังนี้ต่อไป ให้เขาก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าขึ้นใหม่ในสถานที่เดิม เรายังสั่งท่านทั้งหลายอีก ให้ช่วยเหลือบรรดาผู้อาวุโสของชาวยิว ในการก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าขึ้นใหม่ ค่าใช้จ่ายในงานนี้ให้จ่ายเต็มจำนวนแก่คนเหล่านี้ จากท้องพระคลังหลวง คือจากเงินภาษีที่เก็บได้ในแคว้นตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส เพื่องานก่อสร้างจะได้ไม่หยุดชะงัก และขอให้พระเจ้าผู้ทรงเลือกกรุงเยรูซาเล็มให้เป็นที่พำนัก...
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2025 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากหนังสือเอสรา (อสร 1:1-6)...
วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2025 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากหนังสือประกาศกอาโมส (อมส 8:4-7)...
วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2025 ระลึกถึง น.อันดรูว์ กิม เตก็อน พระสงฆ์ น.เปาโล...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ แผนกพระคัมภีร์ ครั้งที่ 2/2025
ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ แผนกพระคัมภีร์ ครั้งที่ 2/2025 วันพุธที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 เวลา...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย  สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2025
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) ประชุมกรรมการอำนวยการ สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2025 วันเสาร์ที่ 19...
การศึกษา
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย จัดการศึกษาเนื้อหาของสังคายนาวาติกันที่ 2 ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 (ครั้งที่ 3) "สังฆธรรมนูญเรื่อง การเผยความจริงของพระเจ้า"...
การศึกษาพระคัมภีร์ในพิธีกรรม LITURGICAL BIBLE STUDY
แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดอบรมคอร์สการศึกษาพระคัมภีร์ในพิธีกรรม (Liturgical Bible Study-LBS) เมื่อวันที่ 23-24 พฤษภาคม...
ร่วมประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย
วันพุธที่ 5 มีนาคม 2025 ร่วมประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) ณ ห้องประชุม...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 9 วันพฤหัสบดีที่...
บทภาวนาโอกาสวันพระวาจาของพระเจ้า ครั้งที่ 6
บทภาวนาโอกาสวันพระวาจาของพระเจ้าครั้งที่ 6 หัวข้อ “ข้าพเจ้าหวังในพระวาจาของพระองค์” (สดด. 119:74) วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา ตรงกับวันอาทิตย์ที่...

ศิลปะเพื่อพระเจ้า

Our Lady, Untier of Knots
ชื่อภาพ " Our Lady, Untier of Knots "ภาพ Our Lady, Untier of Knots พร้อมทั้งทำกรอบดอกไม้เหมือนภาพ original ที่ St. Peter am Perlach , Augsburg, GermanyOil on canvas...
Light of Glory
Administrator
ชื่อภาพ " Light of Glory "Oil on canvas ขนาด 50...
 The Holy Spirit
Administrator
ชื่อภาพ " The Holy Spirit "Oil on canvas ขนาด 50...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (10)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (6) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คำอธิษฐานของนักบุญเปาโลเป็นคำภาวนาของธรรมทูตคนหนึ่ง ท่านไม่สามารถคิดและรักพระเจ้าได้...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (9)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (5) - ละทิ้งรูปเคารพมาหาพระเจ้าอย่างไร การยึดมั่นในพระเจ้าหมายความว่า เราละทิ้งรูปเคารพ...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (8)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (4) - โดยท่านได้รับพระวาจา นักบุญเปาโลชี้แจงว่า กิจการแรกที่ชาวเธสะโลนิกาได้ทำในการเลียนแบบเขา...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (7)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (3) - เรารู้ว่า นักบุญเปาโลรู้ดีว่า ตนได้รับพระพรจากพระเจ้า...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 505 พระเจ้าทรงเขียนบทชีวิตให้ลูกอย่างต่อเนื่อง
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 505 พระเจ้าทรงเขียนบทชีวิตให้ลูกอย่างต่อเนื่อง:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 504 วัตถุประสงค์ของชีวิตในวัยนี้
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 504 วัตถุประสงค์ของชีวิตในวัยนี้:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 503 29 ปีแห่งพระพร
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 503 29 ปีแห่งพระพร ::::...
บทสวดของฉัน บทที่ 502 แด่ ... สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ด้วยความเคารพรักสูงสุดและความอาลัยยิ่ง
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 502 แด่ ... สมเด็จพระสันตะปาปา...

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์