วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2017
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา
อ่านพระคัมภีร์หนังสือกิจการอัครสาวกกันต่อ ดูเปาโลเมื่อกลับใจแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนและหลังการรู้จักพระคริสตเจ้าจริงๆ เป็นอย่างไร น่าทึ่งกับ “ความเปลี่ยนแปลง” ในท่านนักบุญเปาโลครับ
กจ 11:1-18……
1หลังจากนั้น เปาโลออกจากกรุงเอเธนส์ไปเมืองโครินธ์ 2เขาพบชาวยิวคนหนึ่ง ชื่ออาควิลา ชาวแคว้นปอนทัส เพิ่งมาจากอิตาลีพร้อมกับภรรยาชื่อปริสซิลลา เพราะพระจักรพรรดิคลาวดิอัสทรงออกพระราชกฤษฎีกาให้ชาวยิวทุกคนออกจากกรุงโรม เปาโลไปพบเขาทั้งสองคน 3พักอยู่และทำงานร่วมกัน เพราะมีอาชีพเดียวกันคือเป็นช่างทำกระโจม 4ทุกวันสับบาโตเปาโลถกเถียงในศาลาธรรม พยายามชักชวนชาวยิวและชาวกรีกให้มีความเชื่อ

5เมื่อสิลาสและทิโมธีกลับมาจากแคว้นมาซิโดเนียแล้ว เปาโลอุทิศตนเต็มที่ในการประกาศพระวาจา เป็นพยานยืนยันแก่ชาวยิวว่าพระเยซูเป็นพระคริสตเจ้า 6แต่เมื่อชาวยิวเหล่านั้นต่อต้านและพูดดูหมิ่นพระเจ้า เปาโลก็สะบัดฝุ่นจากเสื้อผ้าเป็นการตอบโต้ พูดกับเขาว่า “ถ้าท่านไม่รอดพ้น ก็เป็นเรื่องของท่าน ข้าพเจ้าไม่รับผิดชอบแล้ว ตั้งแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะไปหาคนต่างศาสนา”
7เปาโลออกจากศาลาธรรมไปยังบ้านของทิธีอัส ยุสตัส ผู้เลื่อมใสในพระเจ้า บ้านของเขาอยู่ติดกับศาลาธรรม 8คริสปัสหัวหน้าศาลาธรรมและทุกคนในครอบครัวมีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า ชาวโครินธ์หลายคนที่ฟังเปาโลก็มีความเชื่อและรับศีลล้างบาปด้วย
9คืนหนึ่ง องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เปาโลในนิมิตว่า “อย่ากลัว จงพูดต่อไป อย่าเงียบเลย 10เพราะเราสถิตอยู่กับท่าน ไม่มีใครกล้าทำร้ายท่าน เพราะหลายคนในเมืองนี้เป็นประชากรของเราแล้ว” 11เปาโลพักอยู่ที่นั่นและสั่งสอนพระวาจาของพระเจ้าแก่เขาทั้งหลายเป็นเวลาหนึ่งปีหกเดือน
12ขณะที่กัลลิโอเป็นผู้ว่าราชการแคว้นอาคายา ชาวยิวช่วยกันจู่โจมจับเปาโลและนำเขาไปขึ้นศาล 13กล่าวฟ้องว่า “ชายผู้นี้ชักชวนประชาชนให้นมัสการพระเจ้าอย่างผิดกฎหมาย”
14เปาโลกำลังจะกล่าวตอบ กัลลิโอก็พูดกับชาวยิวว่า “ชาวยิวเอ๋ย ถ้าเป็นเรื่องอาชญากรรมหรือการฉ้อฉลเลวร้าย ข้าพเจ้ายินดีจะรับฟังคำร้องของท่านอย่างแน่นอน 15แต่ถ้าเป็นเพียงปัญหาเรื่องคำสอน เรื่องถ้อยคำ เรื่องชื่อ และเรื่องธรรมบัญญัติของท่าน ท่านจงไปจัดการกันเองเถิด ข้าพเจ้าไม่ต้องการเป็นผู้พิพากษาตัดสินในเรื่องเช่นนี้” 16กัลลิโอจึงสั่งชาวยิวเหล่านั้นให้ออกไปจากศาล 17ทุกคนจับโสสเธเนสหัวหน้าศาลาธรรม และโบยตีต่อหน้าศาล แต่กัลลิโอมิได้สนใจเลย 18เปาโลพักอยู่ในเมืองโครินธ์อีกหลายวัน แล้วลาบรรดาพี่น้องแล่นเรือไปยังแคว้นซีเรีย พร้อมกับปริสซิลลาและอาควิลา ก่อนออกเรือที่เมืองเคนเครียเปาโลโกนศีรษะเพราะได้บนขอไว้

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง...
• “จอมเบียดเบียนกลายเป็นผู้ประกาศพระคริสตเจ้าตัวยงไปเสียแล้ว”
o พ่อเคยคิดว่าถ้าไม่มีคนแบบเปาโล พระศาสนจักรจะเป็นอย่างไรหนอ??? จะจบที่เยรูซาเล็มเท่านั้นหรือ???

• เปาโลช่างกลายเป็นเครื่องมือที่ยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าใช้เพื่อประกาศพระนามของพระองค์จริงๆ ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ
o จอมเบียดเบียน จอมวายร้ายประกาศตัวเล่นงานคริสตชนทุกคนที่เชื่อในพระเยซู ทุกคนที่เดินในหนทางของพระเยซู
o เปาโลประกาศจะเล่นงานทุกคนจับมาเยรูซาเล็มให้ลงโทษเสียให้เข็ดให้ได้ ไม่ยอมย่อเข่าให้กับพระนามพระเยซูเจ้าโดยเด็ดขาด...
o แต่พระเจ้าก็สามารถจริงๆ จากเซาโลเปลี่ยนเป็นเปาโล ภาษากรีก Παῦλος อ่านเปาลอส Paulos เปาโลอันที่จริงแปลว่า “ตัวเล็ก” หรือ “เจ้าจิ๋ว” หรือแปลว่า “เล็กน้อย สุภาพ ถ่อมตน” ก็ได้
o จากความเล็กน้อย... แต่พระเจ้าสามารถใช้เขาให้เป็นพลังของการประกาศข่าวดีของพระองค์ ให้เขาได้พบพระองค์ ได้กลับใจและใช้เขาเป็นพลังเพื่อการประกาศข่าวดีของพระองค์อย่างทรงพลังจริงๆ

• อ่านกิจการอัครสาวกวันนี้พ่อชอบพระวาจาของพระเจ้าที่ตรัสกับเปาโลจริงๆ... “อย่ากลัว จงพูดต่อไป อย่าเงียบเลย เพราะเราสถิตอยู่กับท่าน ไม่มีใครกล้าทำร้ายท่าน เพราะหลายคนในเมืองนี้เป็นประชากรของเราแล้ว”

• พ่ออยากเจาะประเด็นหนึ่งคำว่า “อย่ากลัว”
o อย่ากลัวที่จะเป็นคริสตชน
o อย่ากลัวที่จะเป็นประจักษ์พยานว่าเราเชื่อศรัทธาในพระเยซูคริสตเจ้า...

• สิ่งหนึ่งพ่อได้ยินเสมอในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อเราต้องไปต่างประเทศ ไปประชุมต่างประเทศ ไปเทศน์ที่ต่างประเทศ ไม่ว่าสักกี่ครั้งที่เรากล่าวถึงประเทศไทย กล่าวถึงการเป็นคริสตชนในประเทศไทย พ่อเองและเราก็มักจะกล่าวว่า พวกเราเป็นคนกลุ่มน้อยในประเทศไทย... เรามีคาทอลิกในประเทศไยเพียงแค่สามแสนคนเท่านั้น
o พ่อจำได้ว่า เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน พ่อไปเรียนที่โรม ใครๆถามถึงจำนวนคริสตชนคาทอลิกในประเทศไทย... พ่อก็บอกว่า ประเทศไทยเรามีคริสตชนคาทอลิกแค่สามแสนคน... และกี่ปีกี่ปีผ่านมาเราก็บอกว่า เรามีคาทอลิกพียงสามแสนคน (300,000)
o ตัวเลขนี้เกือบจะเป็นตัวเลขศักดิ์สิทธิ์ประจำประเทศไทยไปแล้ว... เราต้องพยายามเปลี่ยนตัวเลข ขยายจำนวนคริสตชนให้มากยิ่งขึ้น ให้มากที่สุด... ไม่ทราบว่าปัจจุบันมีเท่าไรจริงๆ สุสานเราก็ขยายขึ้นทุกปี เด็กเกิดใหม่ก็น้อยลงกระมัง...
• ตัวเลขจริงๆ จะเป็นเท่าไรหนอ... พ่อไม่ทราบ แต่พ่อคิดว่าเอาเถอะ การเป็นคนกลุ่มน้อยไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การเป็นคนกลุ่มน้อยที่มีพลังความเชื่อสำคัญกว่า จำนวนไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพซึ่งคุณภาพนั้นสำคัญกว่าแน่นอน... การเป็นคริสตชนที่มีคุณภาพนี่แหละที่สำคัญที่สุด... คือเรามีความเชื่อมั่นคง มีชีวิตในความรัก และรักในความจริง เจริญชีวิตอย่างมีพลังแห่งความกล้าในการประกาศข่าวดี ตรงนี้ที่สำคัญที่สุด...

• เราจะเป็นคริสตชนที่แท้จริงมากขึ้นได้อย่างไร พ่อคิดว่า
o เราไม่ต้องกลัวกับความเล็กน้อยของจำนวนของเรา “เปาโล” แปลว่า “เล็กน้อย จิ๋ว ตัวเล็ก” พ่อบอกแล้วแต่ต้น พ่ออยากใหเรามองดูท่านนักบุญเปาโลจริงๆ ท่านเป็นตัวอย่างแก่เราอย่างดียิ่งในการประกาศข่าวดี โดยเฉพาะในการกลับใจ...
o พ่อจำได้ว่าหลายปีก่อนเรามี “ปีนักบุญเปาโล” หนึ่งปีเพื่อการประกาศข่าวดี เราฉลอง เราจัดกิจกรรม เราแสวงบุญ เราทำหลายอย่าง... พ่อคิดว่า ดี ดีมาก แต่มีอย่างหนึ่งที่พ่ออยากสานต่อและไม่ให้จบไป แต่เป็นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของเราตลอดไปคือ เราต้องเชื่อมั่นใน “การกลับใจของนักบุญเปาโล”
o เราต้องยอมรับว่าการกลับใจนั้นมีพลังมากมายเหลือเกินจริงๆ นะครับ.. “กลับใจ” คือ การเดินทางใหม่ “ทางของพระเยซู” ทางของพระเจ้า ทางของพระเจ้าคืออะไร “ทางแห่งความรัก เมตตาและให้อภัย” เราคริสตชนต้องพยายามเดินทางนี้นะครับ “ทางแห่งความรัก” จริงๆ

• พ่อกลับมาดูสมัชชาใหญ่ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย เรื่องสำคัญที่สุดก็เป็นเรื่อง การกลับใจอีก คำถามพ่อคือแล้วเมื่อไรเราจะกลับใจกันจริงๆเสียที
o คริสตชนผู้ปฏิบัติศาสนกิจและผู้ละทิ้งการปฏิบัติฯ รวมทั้งบุคคลผู้สนใจเป็นคริสตชน เมื่อได้ลองจุ่มชีวิตลงในความรักของพระเจ้าโดยเข้าร่วมในชุมชนคริสตชนย่อยที่มีบรรยากาศอารยธรรมแห่งความรัก และได้เริ่มเจริญชีวิตตามบทบัญญัติแห่งความรักของพระคริสตเจ้า จนเกิดเป็นประสบการณ์ความเชื่อ ได้พบพระคริสตเจ้า ได้สัมผัสความรักของพระองค์แล้ว การกลับใจ (metanoia) จะเกิดตามมา เขาเองจะเปิดใจไตร่ตรองชีวิตของตน สำนึกในสภาพจริง ความกลวง ความว่างเปล่า ความล้มเหลว ความผิดพลาดบกพร่อง ความท้อใจในอดีต และจะก้าวเข้าสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญยิ่งในชีวิต ที่จะเป็นการตอบรับและจัดให้พระเจ้าองค์ความรักที่เขาได้สัมผัส เป็นเป้าหมายแรกและสำคัญสูงสุดของชีวิตเขา
o สำหรับผู้ที่ได้รับศีลล้างบาปแล้ว เขาจะได้รับการหล่อเลี้ยงให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในความเชื่อต่อไป ในที่สุดเขาจะเปิดขอบฟ้าใหม่ชีวิตความเชื่อของตน ก้าวสู่พันธกิจการนำข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าไปแบ่งปันให้กับทุกคน โดยดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานแก่ผู้อื่นตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อน และ ณ เวลาอันเหมาะสม ก็จะเชิญชวนบุคคลผู้สนใจความเชื่อเหล่านั้นให้มาลองสัมผัสความรักของพระเจ้าในชุมชนคริสตชนย่อยที่มีบรรยากาศอารยธรรมใหม่นี้ รวมทั้งพวกเขาเองก็จะร่วมมือกันในกิจการความรักเมตตาภาคปฏิบัติ ให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือแก่พี่น้องผู้ยากไร้และบุคคลชายขอบสังคมในวงกว้างกว่าเดิมตามกำลังความสามารถด้วย

• พี่น้องที่รักครับ เราต้องเป็นเหมือนเปาโล “จิ๋วแต่แจ๋ว” ต้องเป็นคริสตชนที่มีคุณภาพ... จำทำและเป็นได้อย่างไร... พ่อคิดเสมอ
o การเป็นคริสตชนที่ดีต้องเริ่มจากคนเป็นคนดี... คำถามสำคัญ เราเป็นคนดีไหม...
o เราเป็นคนดีจริงๆ ไหม...
o อดีตเราอาจจะไม่ดีนัก ไม่น่ารักนัก ไม่เป็นไร ถ้าเราพบพระเยซูเจ้าจริงๆ ถ้าเราศรัทธาในพระเจ้าจริงๆ เราต้อง “กลับใจ” เปลี่ยนทางเดินของชีวิตมาสู่หนทางแห่งความดี

• “คริสตชนต้องเป็นคนดีไม่ใช่หรือครับ” พ่อต้องอธิบายไหมว่าเป็นคนดีเป็นอย่างไร??? คงไม่จำเป็น เพราะเราทราบกันดี คนดีดูง่ายๆ คือ เขาไม่เป็นภัยกับใคร รักทุกคน เคารพ ให้เกียรติ และซื่อสัตย์ จริงใจ ไร้วาระซ่อนเร้น คดโกงหรือเห็นแก่ตัวและเอาเปรียบ นอกจากมีความรักที่ซ่อนเร้นและเผยออกมาตลอดเวลาอย่างไม่น่าเชื่อ จนน่าอัศจรรย์ว่า “โหๆๆ เขาดีจังเลย”... นอกจากนั้น

• “ชีวิตคริสตชนทุกคนต้องเป็นพลเมืองดีของชาติ” ย้ำ (Good Christians must be Good Citizens)
o คริสตชนคาทอลิกที่ดีต้องรักชาติ รักแผ่นดิน รักความดีส่วนรวมของชาติ รักษากฎหมาย
o กล่าวง่ายๆ คริสตชนที่ดีต้องเป็นพลเมืองดีจริงๆ นะครับ...
o เอาง่ายๆ เราต้องไม่แซงคิวคนอื่นบนถนน ไม่ฝ่าไฟแดงในการขับขี่ ไม่ทำผิดกฎหมายไม่ว่าในรูแบบใด ไม่โกงภาษี ไม่คอรัปชั่น ไม่ฉ้อโกงหรือประเภทโกงเนียนดูดีตามนโยบาย โกงแล้วกลับได้รับการยกย่องเพราะโกงแล้วให้ประโยชน์แบบประชานิยม ไม่ครับ โกงคือโกง เราจะชินกับการโกงและเอากับเขาด้วย ตามน้ำ ไม่ได้ครับ โกงคือบาป เลว แล้วก็ขัดกับความเป็นคริสตชน
o เราคนไทยที่ผ่านมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปหรือ คนโกง ซื้อเสียง สร้างพรรคสร้างพวก ได้อำนาจ โหวตเอาอะไรก็ได้ เพราะเสียงข้างมากที่ซื้อเข้าพรรคมารกันมา... จำไว้พ่อย้ำ เสียงข้างมากไม่ได้บอกความถูกต้องหรือศีลธรรม บอกได้แค่ความอยากของพวกพ้องเท่านั้น ถ้าโหวตให้ทำแท้งได้ไม่ได้แปลว่าไม่บาป ถ้ายกมืออนุมัติเงินมหาศาลเพื่อกิจการใหญ่แล้วได้เปอร์เซนต์หรือผลประโยชน์นั่นยิ่งโกงน่าเกลียด แบ่งตำแหน่งหน้าที่กันก็ใช้คำว่าหั่นเค้ก จริงๆคือร่วมกันรุมทึ้งเหมือนฝูงแร้ง...แม้อาจใช้ภาพพญาอินทรีย์ก็ตาม โกง ก็ น่าเกลียดจริงๆ เสมอ แน่นอนครับเปาโลสอนเรื่องการเป็นคริสตชนที่ดีนี้ไว้ดีมากๆ

• พี่น้องที่รัก แม้เรามีจำนวนน้อย เราจิ๋วแต่เราต้องแจ๋วจริงๆ อย่ากลัวที่เรามีจำนวนน้อย เป็นสามแสนหรือสองแสนในหกเจ็ดสิบล้าน เรื่องเล็กครับ
o พ่อเชื่อว่า ความมืด แม้มืดมาก แต่ถ้าจะเทียนเล่มเล็กๆเล่มเดียวก็เห็นชัดครับ ทำให้มีความหวัง มีความสว่างครับ พอครับ และเหลือเฟือครับ...

• เราทุกคนได้รับแสงสว่างจากพระคริสตเจ้าในวันรับศีลล้างบาปไม่ใช่หรือ.. เราทุกคนได้จุดเทียนที่เราถือไว้จากไฟของเทียนปัสกา (พระคริสตเจ้า) ทุกๆปีมิใช่หรือ...
• แล้วเราจะกลัวอะไร เราต้องเหมือนเปาโลครับ กลับใจ หันไปหาพระคริสตเจ้า และประกาศพระองค์ด้วยความมั่นใจตลอดไป...
o ดังนั้น อย่ากลัวนะครับ ที่จะเป็นแสงสว่าง
o อย่ากลัวที่จะเป็นคนดีที่จะเป็นข่าวดี
o อย่ากลัวที่จะเป็นคริสตชน แต่
o จงกล้าประกาศพระคริสตเจ้าต่อไปเสมอไปนะครับ... ขอพระเจ้าอวยพรครับ....