"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดี ที่ 5 มกราคม 2017   
เทศกาลพระคริสตสมภพ
• วันนี้เรามาอ่านความรัก เข้าใจความรักในพระคัมภีร์กันแบบยาวๆ สรุปเรียบเรียงมาให้มากที่สุดเท่าที่พ่อจะทำได้ ให้เห็นว่า ตลอดพระคัมภีร์คือความรักเพื่อสอนเราให้รักตลอดไปเพราะพระเจ้าคือความรัก ปี 2017 เข้าใจความรัก เรียนรู้ความรัก คือ เรียนรู้ที่จะรักพระเจ้าและรักพี่น้องของเราตลอดไป

• คำสอนของยอห์นอัครสาวกลึกซึ้งมากๆและการพรรณนาเรื่อง “ความรัก” ก็ต้องถือว่างดงามที่สุดเหมือนกัน อันที่จริง คงไม่แปลกถ้าธรรมประเพณีจะย้ำว่า ยอห์นอัครสาวกผู้นิพนธ์พระวรสารและนิพนธ์บทจดหมายนักบุญยอห์นนี้ คือ บุคคลที่พระวรสารโดยนักบุญยอห์นเรียกตนเองว่า “ศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรัก” (the Beloved Disciple) จึงไม่แปลกใจอะไรเลยที่ท่านนักบุญยอห์นสามารถเขียนถึงความรัก เขียนถึงพระเจ้าองค์ความรักได้อย่างลึกซึ้งและเต็มไปด้วยพลังแห่งพระวาจาของพระเจ้าจริงๆ พ่อได้พาพี่น้องให้อ่านมาตลอดในจดหมายฉบับนี้.. วันนี้ก่อนจบเรื่องราว “กำเนิดของความรัก” พ่อจะขอนำเสนอคำสอนการค้นคว้าของพ่อเรื่อง “ความรัก” ในพระคัมภีร์ให้อ่านโดยสรุปสักหน่อยนะครับ “ความรัก” คืออะไรในพระคัมภีร์ทั้งพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ พ่อจะขอนำเสนอสักหน่อยนะครับ

เข้าใจความประวัติศาสตร์ของพันธสัญญาเดิมในฐานะที่เป็น “ประวัติศาสตร์แห่งความรัก” (ภาษาฮีบรู (hb'êh]a;) = ’ahaba) ของพระยาห์เวห์
ความรักของพระเจ้าในประวัติศาสตร์แห่งความรอด
ความหมายของ “ความรัก” ทางนิรุกติศาสตร์ที่ปรากฏในพระคัมภีร์
• ภาษาฮีบรู “ ’ahabah ” ตรงกับความหมายของคำว่า “ความรัก” หรือ “Love” ในภาษาที่เราใช้ในปัจจุบันมากที่สุด บ่อยครั้งในภาษาฮีบรูปรากฏในรูปกริยาคือ “ ’ahab ”
• อีกคำหนึ่งในภาษาฮีบรูที่ใช้น้อยกว่า แต่มีความหมายคล้ายกันคือคำว่า “hapes” ซึ่งหมายถึงความรักในความหมายที่เกี่ยวกับ “การพึงพอใจใน...(สดด 51:6)” ซึ่งความหมายนี้ใช้ในใจความที่พระเจ้าเป็นประธาน ในใจความว่าพระองค์ทรงสงสาร เช่น อพย 33:19 หรืออาจหมายถึงประชาชนมีความรักต่อพระเจ้า สดด 18:1
• “’ahab” บ่อยครั้งหมายถึงความรักตามธรรมชาติที่บิดามีต่อบุตร (ปฐก 22:2) หรือความรักฉันคู่บ่าวสาว (24:67) นอกนั้นยังสามารถหมายถึงความรักแบบมิตรภาพ (1ซมอ 18:1, 3) หรือความรักที่ทาสให้ความรักและความภักดีต่อนาย (อพย 21:5)
• ขณะเดียวกันหมายถึงความรักเพื่อนบ้าน (ลนต 19:18) หรือความรักต่อคนแปลกหน้า (19:34)
• เหนืออื่นใดหลังจากหนังสืออพย “’ahab” ใช้เพื่อหมายถึง ความรักซึ่งพระเจ้ามีต่อมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชากรอิสราแอล (ฉธบ 4:37) “หรือเคยมีพระเจ้าองค์ใดบ้างที่กล้าไปเลือกชนชาติหนึ่งออกจากอีกชนชาติหนึ่ง ทรงใช้วิธีการต่างๆคือ เครื่องหมายอัศจรรย์ ปาฏิหาริย์และสงคราม ทรงใช้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และพระอานุภาพอันยิ่งใหญ่ บันดาลให้ทุกคนหวาดกลัว ดังที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน ทรงกระทำในประเทศอียิปต์ต่อหน้าต่อตาของท่าน”
• คำว่า “’ahab” นี้ พระคัมภีร์ฉบับภาษากรีก LXX แปลคำฮีบรูคำนี้เป็นภาษากรีกโดยใช้คำว่า “eros หรือ erasthai” จำนวนครั้งหรือสองครั้ง แม้ว่าภาษากรีกคำนี้จะใช้บ่อยๆ ในภาษากรีกคลาสสิกก็ตาม และแม้ว่าคำว่า “philia และ philein” จะใช้บ่อยๆ ด้วยก็ตาม แต่ต้องไม่หลงประเด็นว่า คำ “eros หรือ erasthai” เป็นคำแปลที่ถูกต้องเพียงคำเดียวเท่านั้น
• ในภาษากรีก คำที่ตรงกับคำภาษาฮีบรูที่ชัดกว่าคือ “agapesis หรือ agapan” เป็นคำที่ใช้กว้างขวางกว่ามาก และที่สำคัญมีความหมายมีลักษณะของอารมณ์น้อยกว่าคำภาษากรีกที่อ้างมากก่อนหน้านี้
• คำว่า “agape” นี้พบว่าแม้ใช้นอกบริบทของพระคัมภีร์ก็มีความหมายที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อน ซึ่งหมายความว่า เป็น “ความรัก” ชนิดที่มีระดับคุณค่าสูง เช่นการที่คนๆ หนึ่งให้คุณค่ากับเพื่อนมนุษย์อีกคนหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือการรับสิ่งต่างๆว่ามีคุณค่า
• ในบริบทของพระคัมภีร์ การใช้คำนี้มีความหมายทางศาสนาอย่างชัดเจน ดังนั้นในบริบทของพระคัมภีร์เราจะพิจารณา และสืบค้นความหมายของคำว่า “ความรัก” ในใจความของ “agape” นี้ พ่อจะเน้นความหมายของ “ความรัก” ในบริบทของพันธสัญญาเดิม ทั้งนี้เพื่อจะได้เห็นว่า ตลอดประวัติศาสตร์แห่งความรอดที่เปิดเผยในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมจนมาถึงการบังเกิดของพระเยซู “พระเจ้าองค์ความรักในพันธสัญญาใหม่” นั้น เราจะเห็นว่าความรักของพระเจ้าปรากฏชัดโดยตลอด และเป็นสาระสำคัญหรือรากฐาน หรือแก่นสารของประวัติศาสตร์แห่งความรอดของพระคัมภีร์นี้ ซึ่งสามารถเรียกได้ว่า นี่คือประวัติศาสตร์แห่งความรักของพระบิดาเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์และสรรพสิ่งอย่างชัดเจน

“ความรัก” ในพันธสัญญาเดิม
พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ ถ้าเราจะนิยามแนวความคิดหลักพระคัมภีร์ อาจเรียกได้ว่าเป็น พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของเนื้อหา “Theocentrically” โดยใจความสรุปคือ พระคัมภีร์มีศูนย์กลางหรือแก่นสำคัญคือ พระเจ้าในฐานะเป็นพระผู้สร้างและเป็นเจ้านายเหนือสรรพสิ่ง และขณะเดียวกันทรงเป็นพระผู้ทรงตัดสินที่ยุติธรรมของมนุษยชาติ ด้วยเหตุผลนี้ที่เป็นพื้นฐานของพระคัมภีร์ที่เปิดเผยความหมายของพระเจ้า และความหมายที่แท้จริงของมนุษยชาติให้แก่เรา เราจึงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความหมายของคำว่า “ความรัก” ซึ่งเป็นความรักของพระเจ้าที่เป็นศูนย์กลางของพระคัมภีร์ที่เราจะพิจารณา ศึกษา และไตร่ตรอง

ความรักของพระเจ้าต่อเรามนุษย์
ตั้งแต่เริ่มต้นพระคัมภีร์ทีเดียว เรื่องความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์นี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในพระคัมภีร์ เพราะว่าในพระคัมภีร์นั้นคำศัพท์นี้ปรากฏบ่อยๆ ครั้ง สามารถพบได้ในเรื่องราวต่างๆ ของพระคัมภีร์ตั้งแต่เริ่มแรกทั้งทางตรงและทางอ้อมที่แสดงออกให้เห็นความหมายของความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์โดยตลอด
ให้เราพิจารณาจากตัวบทของพระคัมภีร์ในพันธสัญญาเดิม และไตร่ตรองถึงรายละเอียด ทังนี้เพื่อเราจะเห็นว่า “ความรักของพระเจ้า” ตลอดประวัติศาสตร์แห่งความรอดในพระคัมภีร์ และแสดงออกแม้แต่ในตำนานธรรมที่เล่าเรื่องก่อนประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน
• ในเรื่อง “การสร้าง” นั้นทำให้เราเห็นว่า การสร้างของพระเจ้านั้นเป็นงานแห่งความรักและความเมตตาของพระเจ้าพระผู้สร้าง (ปฐก 1:4, 10, 31 ดู สดด 136:1-9)
• ศูนย์กลางของการสร้างของพระเจ้านั้นคือ “มนุษย์” ซึ่งพระองค์ทรงสร้างตามภาพลักษณ์ของพระองค์ ให้เหมือนพระองค์ (ปฐก 1:26f; 9:6: ปชญ 2:23) มนุษย์ถูกสร้างอย่างพิเศษด้วยความรัก และทรงนำมนุษย์มาไว้ในสวนแห่งความสุข (ปฐก 2:7ff แหล่งธรรมประเพณี J หรือ E และดู ปชญ 9:2ff; บสร 17:1-14)
o แม้ว่ามนุษย์จะได้ละเมิดต่อพระเจ้า กระทำสิ่งชั่วร้าย และต้องตกต่ำอันเนื่องมาจากบาป แต่พระเจ้าไม่ได้ลงโทษโดยปราศจากพระกรุณา แต่พระองค์ทรงสัญญาจะประทานการช่วยให้รอดพ้นในอนาคต (ปฐก 3:14f)
o ในท่ามกลางความสิ้นหวัง ความผิดหวังของพระเจ้าเพราะความเลวร้ายของมนุษย์ในสมัยของโนอาห์ ซึ่งพระองค์ปรารถนาจะกวาดล้างทุกสิ่งที่ทรงสร้าง แต่ว่าโนอาห์เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า “found grace (hen ฮีบรูอ่านว่า “เค็น”) in the eyes of Yahweh” (6:8)
• หลังจากน้ำวินาศโนอาห์และครอบครัวได้เป็นคู่สัญญากับพระเจ้า พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับโนอาห์กับลูกหลาน และสรรพสิ่งบนแผ่นดินได้รับพรจากพระเจ้า เหมือนเมื่อครั้งการสร้างครั้งแรก (9:1-17)
• “อับราฮัม” พระเจ้าทรงเลือกสรรอับราฮัมโดยเฉพาะ พิเศษ และเจาะจง ทรงนำเขามาสู่การพิทักษ์รักษาของพระองค์ และทรงกระทำพันธสัญญากับเขา ซึ่งพันธสัญญานี้วางรากฐานอยู่บนความจริงที่ว่า พระยาห์เวห์ทรง “ซื่อสัตย์” (’emeth ภาษาฮีบรูอ่านว่า “เอเม็ธ” 15:6)
• พระยาห์เวห์ทรงรื้อฟื้นพันธสัญญานี้ตลอดทุกสมัยของบรรดาอัยกา กับอิสอัค 26:3-6 และกับยาโคบ 28:13ff; 35:11ff)
• “ความรักของพระเจ้าฉันบิดาต่อบุตร” ซึ่งพระยาห์เวห์ได้ทรงแสดงออกต่อประชากรอิสราแอล “บุตรหัวปี” (อพย 4:22) ความรักนี้แสดงออกอย่างเด่นชัดในการช่วยปลดปล่อยประชากรของพระองค์ให้รอดพันโดยอัศจรรย์มากมาย พระองค์ทรงปลดปล่อยพวกเขาออกจากประเทศอียิปต์ จากแดนทาสที่พวกเขาถูกกดขี่อย่างสาหัส ดู ฉธบ 1:30ff
• การกอบกู้นี้เองที่ทำให้เสียงเพลงแห่งความยินดี และชัยชนะถูกเปล่งร้องจากประชากรของพระเจ้า (อพย 15:1-18) และเป็นพื้นฐานของการให้กำลังใจต่อประชากรของพระเจ้า (ฉธบ 4:32ff; 32:1-47; ยชว 24:2-13)
• “พันธสัญญาที่ภูเขาซีนาย” เป็นพันธสัญญาที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกประชากรอิสราแอลนี้เพื่อพระองค์ เพื่อให้อิสราเอลได้เป็น
- “ทรัพยสมบัติพิเศษของพระองค์” เพื่อเป็น
- “อาณาจักรแห่งสงฆ์ (a kingdom of priests)” และเพื่อเป็น
- “ประชากรศักดิ์สิทธิ์ (a holy people)
• สิ่งสำคัญที่สุดที่เราเห็นได้จากการเลือกสรรแบบพิเศษที่ภูเขาซีนายนี้ เป็นการแสดงออกซึ่งความเมตตากรุณาและความใจดีของพระเจ้า (อพย 19:4ff; 34: 9f; ฉธบ 4:31;7:7f)

ปรากฏการณ์ตรงที่แสดงออกถึงความรักของพระยาห์เวห์ในหนังสือปัญจบรรพ
• คำว่า “‘ahab” ถูกใช้เพื่อหมายถึง “ความรักของพระเจ้า” เป็นความรักด้วยพระทัยอิสระของพระเจ้าที่ทรงเลือกสรรประชากรของพระองค์ในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ (4:37; 7:7f 10:15)
• แต่ความรักของพระเจ้ายังปรากฏในรูปคำว่า “hen” (ภาษาฮีบรูออกเสียงว่า “เค็น” แปลว่า ทรงพอพระทัย โปรดปราณ ทรงประทานพระหรรษทาน ปฐก 6:8; 19:19 อพย 33:12f, 16f)
• คำว่า “hanan” (ภาษาฮีบรูเช่นกัน ออกเสียงว่า “คานัน” แปลว่าทรงโปรดปรานต่อ.. ปฐก 33:5, 11; 43:29 Ex 33:19)
• จากนั้น คำสำคัญมากๆ ที่เป็นแก่นแสดงความรักของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์คือ คำว่า “hesed” (อ่านว่า “เคเสด” แปลว่า ความรักมั่นคง ความโปรดปราน ความดี ปฐก 19:19; อพย 20:6; ฉธบ 5:107:9, 12; การให้อภัยความผิด กดว 14:19f)
• ในเมื่อพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า ที่ทรงทำพันธสัญญาแห่งความจริง และความสัตย์ซื่อ “พระองค์ทรงเป็นศิลา พระราชกิจของพระองค์ก็ดีพร้อม หนทางทั้งหลายของพระองค์ล้วนเที่ยงธรรม พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์ ไม่ทรงหลอกลวง พระองค์ทรงความเที่ยงธรรมและยุติธรรม! (ฉธบ 32:4)”
• การปกครองของพระยาห์เวห์ถูกเปิดเผยในพระคัมภีร์ ในฐานะที่ทรงเป็นพระเจ้า “องค์ความรัก ทรงพระเมตตา kindness และทรงเป็นความจริง truth” (hesed we’emeth อ่านว่า “เคเสด เวอะเอเม็ธ” = Kindness and truth ความเมตตาและความซื่อสัตย์) ดู ปฐก 24:27; และดู 24:12 ด้วย
• ความหมายของพระยาห์เวห์พระเจ้าองค์ความรักเมตตาและทรงความสัตย์จริงนี้ ได้พัฒนาความหมายขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงรูปแบบของการประกาศอย่างสง่าถึงลักษณะของพระเจ้า เป็นการแสดงออกซึ่งความหมายของการเป็นพระเจ้าอย่างเป็นภาษาทางการ (2ซมอ 2:6; สดด 25:10; 40:11; 57;3; 89:14, 24, 33; มีคา 7:20)
• ดังนั้น สำหรับความหมายของพระยาห์เวห์ในอิสราแอลโบราณจึงสรุปได้ว่า “พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงพระเมตตาและกรุณา (a merciful [rahum] and gracious [hannun] God) ซึ่งเห็นได้ชัดจากตัวบทต่อไปนี้ 'เราเป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เมตตาและกรุณา ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักมั่นคง และความซื่อสัตย์ เรารักษาความรักมั่นคงของเราไว้แก่ชนหลายพันชั่วอายุคน และอภัยความผิด อภัยการล่วงเกินและอภัยบาป แต่เราไม่ละเลยที่จะลงโทษ เราจะลงโทษความผิดของบิดาในลูกหลานเหลนจนถึงสามสี่ชั่วอายุคน!' (อพย 34:6) ดู สดด 86:15; 103:8; 111:4; etc
• ดังนั้นในหนังสือพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมในช่วงแรกๆ ดูเหมือนว่า ความรักของพระเจ้า หรือความรักของพระยาห์เวห์นี้ได้เป็นที่รู้จักในใจความที่ว่า ความรักของพระเจ้าแสดงออกมาเป็นความเมตตา และการอภัยโทษความผิดนั่นเอง (ดู กดว 14:17ff)
• และเราเห็นความจริงประการดังกล่าวที่ว่า ความรักของพระเจ้าคือ ความเมตตาและการอภัยความผิด คือ แม้ว่าประชากรของพระองค์กระทำความผิด และพระองค์ทรงส่งการตีสอนลงโทษมาให้ และความจริงก็คือพระประสงค์ของพระองค์ในการตีสอนลงโทษดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำเพื่อโน้มน้าวจิตใจ และโน้มนำพวกให้กลับใจมาหาพระองค์ โดยเลิกเดินทางผิดๆ ของตนเอง (ลนต 26:40-45; กดว 14:20-25; ฉธบ 4:25-31; 30:1-10)
• โดยธรรมชาติของความรักของพระเจ้านั้น พระองค์ย่อมสามารถรักเป็นอิสระอย่างยิ่ง และไม่ได้ต้องการอะไรเป็นการตอบแทนจากมนุษย์ (อพย 33:19) แต่ทว่าโดยธรรมชาติของพันธสัญญานั้น พระเจ้าย่อมต้องการและเรียกร้องให้มนุษย์รับใช้พระเจ้า และถือตามพระบัญญัติของพระเจ้า และที่สำคัญในเงื่อนไขของพันธสัญญานั้น มนุษย์ย่อมต้องรักพระองค์เป็นการตอบแทน
• ก่อนหน้านี้เราทราบจากตัวบทแล้วว่า ความรักของพระเจ้านั้นได้รับการประกาศอย่างสง่าว่า “เพราะเรา คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าที่ไม่ยอมให้มีคู่แข่ง เป็นพระเจ้าที่ลงโทษความผิดบิดาที่เกลียดชังเรา ไปถึงลูกหลานจนถึงสามสี่ชั่วอายุคน แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักเราและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา จนถึงพันชั่วอายุคน” (อพย 20:5f; ดู ฉธบ 5:9f; 7:9-15)
• “พระเจ้าที่ไม่ยอมให้มีคู่แข่ง” (Jealousy) ในที่นี้มีเป้าหมายเพื่อหมายถึงความลึกสุดหยังได้แห่งความรักของพระเจ้า เป็นความรักที่ลึกซึ้งและไม่มีความรักใดสามารถมาเป็นคู่แข่งหรือเปรียบเทียบได้
• “เป็นพระเจ้าที่ลงโทษความผิดบิดาที่เกลียดชังเรา ไปถึงลูกหลานจนถึงสามสี่ชั่วอายุคน แต่เราแสดง “ความรักมั่นคง” ต่อผู้ที่รักเราและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา จนถึงพันชั่วอายุคน”
o แม้การลงโทษนั้นจำเป็นเพื่อแสดงความยุติธรรมของพระเจ้า
o แต่ข้อความสำคัญอย่างยิ่งที่ตามมาคือ “ความรักมั่นคง” (hesed)

ความรักของพระเจ้าในช่วงเวลาต่อมาของประวัติศาสตร์ในสมัยประกาศก
ในช่วงเวลาต่อๆ มาของประวัติศาสตร์ที่เราพบในพระคัมภีร์นั้น เราเห็นว่า ความรักของพระเจ้าปรากฏเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ประชากรของพระเจ้ามั่นใจ และเห็นถึงความรักอันมั่นคงของพระเจ้า ความรักของพระเจ้าเปิดเผยออกเป็นแง่มุมต่างที่เราพบได้เช่น
- การเลือกสรรประชากร Election
- พระหรรษทาน Grace
- การอภัยความผิด Forgiveness

แง่มุม หรือทัศนะต่างๆ ที่กล่าวมาเกี่ยวกับความรักของพระเจ้านี้ มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ ประชากรอิสราแอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อดาวิดและบัลลังก์ของเขาต่อๆ มา ซึ่งการตอบสนองของประชากรต่อความรักของพระเจ้า คือ เพราะพวกเขาซื่อสัตย์ในการถือพระบัญญัติของพระเจ้า แม้ประชากรส่วนใหญ่ได้ละเลย และละทิ้งต่อบัญญัติของพระเจ้า ได้ทอดทิ้งพระยาห์เวห์ แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เหลืออยู่แม้เล็กน้อยที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระเจ้า โดยไม่ได้เอาใจออกห่างจากพระยาห์เวห์และหันเหไปหาพระเจ้าอื่นๆ (ตัวอย่าง 1 ซมอ 2:1-10; 2 ซมอ 7:14ff; 1พกษ 13:23; นหม 1:5-11; 9:17-33)
• แต่ประเด็นสำคัญที่เราพบมากเป็นพิเศษคือ ในหนังสือประกาศกทั้งหลาย “ความรักของพระเจ้า” เป็นความจำเป็นเพื่อชีวิต ซึ่งบรรดาประกาศกได้เทศน์สอน ประกาศด้วยความหนักแน่น จริงจัง และมั่นใจอย่างยิ่ง
• เช่นใน ยรม 11:12 เป็นการประณามให้เห็นความแตกต่างกับบรรดาพระเท็จเทียม ซึ่งพระเท็จเทียมเหล่านี้ไม่มีความหมายอะไร
• อสย 2:8 ยาห์เวห์เท่านั้นที่สามารถประทานความรอดพ้นได้ (อสย 38:6; ยรม 16:9; 42:11; ฮชย 1:7; อสค 13:21)
• เหตุว่าพระเมตตากรุณาของพระองค์ (hesed) ดำรงเป็นนิจ (ยรม 33:11) แม้ว่าจำเป็นที่จะต้องเกี่ยวข้องผูกพันกับเรื่องของพระยุติธรรม (sedaqah) ก็ตาม (ยรม 9:24; ดู 32:18 ด้วย)
• อีกใจความหนึ่ง “ความรักของพระเจ้า” นี้บ่อยครั้งเกี่ยวข้องกันกับเรื่องความเมตตาสงสาร “Compassion: rahamim ภาษาฮีบรู อ่านว่า (ราคามีม)” (ฮชย 2:21 [19]; อสย 54:8; 60:10; 63:7; ซคย 1:16)
o ซึ่งความรักของพระเจ้านี้แสดงออกโดยการให้อภัยความผิด (อสย 55:7; มีคา 7:19)
o ถึงแม้ว่าการให้ความรักและการอภัยนี้แสดงออกเมื่อประชากรของพระองค์ เป็นทุกข์กลับใจ (ฮชย 1:6; ยรม 18:8; 21:4-7; อสค 18:27)
• ดังนั้น ประกาศกฮาบากุกได้ผูกมัดพระพิโรธของพระเจ้าและความเมตตากรุณาเข้าด้วยกัน (3:2; ดู นฮม 1:2f) โดยเน้นหนักที่เมื่อประชากรของพระองค์ได้สบประมาท หรือไม่ถวายเกียรติต่อพระนามของพระเจ้า (ฮชย 11:9; อสค 36:22f, 32)

สรุปประเด็นสำคัญเรื่องความรักของพระเจ้าในประวัติศาสตร์นี้เราพบว่า
เรื่อง “ความรักของพระเจ้า” นี้ สำหรับมนุษย์นั้นไม่ใช่เพียงแต่จะหมายถึงความรักที่แสดงออกในการสร้าง ซึ่งหมายถึงการที่ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นเอกและสำคัญที่สุดในสิ่งสร้างของพระองค์เท่านั้น (อสย 43:1-7, 21) แต่สิ่งที่เราเห็นได้มากกว่านั้น คือ
• “เป็นความรักฉันบิดาต่อบุตร” ซึ่งน่าจะเน้นด้วยว่า พระเจ้าทรงรักเรามนุษย์ประดุจว่าเราเป็นบุตรแต่คนเดียวคือรักมากที่สุด ความรักทั้งหมดทุ่มเทให้กับประชากรของพระองค์ (ฮชย 11:1-4; เทียบ อสย 1:4; 30:1, 9; ยรม 3:19; 31:20)
• ซึ่งอันที่จริงนั้นต้องกล่าวว่า ความรักของพระเจ้านี้ “เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่กว่ามารดารักบุตรของนาง” (อสย 49:15; เทียบ 33:13; มลค 1:6)

ความรักของพระเจ้าในหนังสือเพลงสดุดีและวรรณกรรมประเภทปรีชาญาณ
สาระสำคัญของหนังสือเพลงสดุดี และวรรณกรรมประเภทปรีชาญาณได้รับอิทธิพลความเชื่อและแรงดลใจจากความจริงของความเชื่อที่ว่า พระเจ้าพระยาห์เวห์นี้เป็นพระเจ้าที่ทรงความรักมั่นคง ทรงพระเมตตา และซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระองค์ พระองค์ซื่อสัตย์เสมอต่อประชากรของพระเจ้าในฐานะคู่สัญญาของพระองค์ ซึ่งเราได้ทราบแล้วจากหนังสือปัญจบรรพและหนังสือประกาศก นอกนั้นเราพบว่า
• ความจริงแห่งความเชื่อเหล่านี้สะท้อนในเพลงสดุดีและวรรณกรรมประเภทปรีชาญาณ (ตัวอย่าง สดด 89:4ff; 103:7f; ปชญ 12:19-22 บสร 50:19-24)
• และขณะเดียวกันความหมายของความรักของพระเจ้านี้ ยังเด่นชัดในความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์เป็นรายปัจเจกบุคคลด้วย (ดังเช่น สดด 4:125:6f; 119:76f; 143:12 146:8)
• ดังนั้นบุคคลเหล่านี้ที่ได้สัมผัสกับความรักของพระเจ้า ก็ได้มอบตนเองด้วยความวางใจเต็มเปี่ยมต่อความเอาใจใส่ดูแลของพระเจ้า และดังนั้น พวกเขาจึงเป็น
o “ลูกๆ ของพระเจ้า (Children)” (สดด 29:1; ปชญ 5:5; 16:26)
o “เพื่อนของพระเจ้า (Friends of God)” (สดด 60:7; 108:6; 127:2; ปชญ 7:27; ดู 7:14 ด้วย; บสร 4:10)

• “ความรักมั่นคงของพระองค์” (สดด 100:5; 136) ไม่เพียงแต่มีต่อมนุษย์เท่านั้น แต่ยังขยายออกไปสู่สิ่งสร้างทั้งหลายของพระเจ้าด้วย (สดด 86:5; 145:9, 16 ปชญ 11:24-6; 15:1)
• พระยุติธรรมของพระเจ้า ไม่เคยปราศจากอีกสิ่งที่ต้องมีมาคู่กันเสมอ คือ พระเมตตากรุณาที่แสดงออกโดยการให้ความช่วยเหลือมนุษย์ (hesed) พระยุติธรรมที่พร้อมเสมอที่จะแสดงพระเมตตาโดยพร้อมที่จะให้อภัย (ตัวอย่าง สดด 36:7ff; 145:7-12; ปชญ 12:8-18; บสร 17:23f; 18:1-14)

พี่น้องที่รัก สรุปว่าอ่านสิ่งที่พ่อเสนอมาอย่างยาวเรียกว่าพ่อพาสำรวจ “ความรักของพระเจ้า” ในพันธสัญญาเดิมแล้ว พี่น้องอ่านมาถึงที่นี่แล้วเราได้อะไร.... คำตอบคือ เราค่อยได้เห็นความหมายของการเปิดเผยทีละเล็กที่ละน้อย เราได้เห็นความหมายของ “ความรักของพระเจ้าตลอดประวัติศาสตร์ของพันธสัญญาเดิม” ความรักที่เผยแสดงมาโดยตลอด จนกระทั่งมาสมบูรณ์ในการบังเกิดมาของพระเจ้าองค์ความรักในพันธสัญญาใหม่

ที่สุดเรามั่นใจได้เลยครับ...ว่า พระเยซู พระกุมารน้อยจอมราชาที่เราฉลองมาจนถึงวันนี้ในเทศกาลพระคริสตสมภพ พระองค์ คือ “ความรักของพระเจ้า” ที่มนุยษชาติได้เรียนรู้การเปิดเผยอย่างต่อเนื่องสองพันปีมาจนถึงพระเยซูเจ้าทรงบังเกิดมานี้เอง ที่ท่านนักบุญยอห์นย้ำเตือนเราว่า นี่คือ “กำเนิดของความรัก” พี่น้องที่รักครับ พ่อเสนอให้อ่านเพื่อเราจะได้ศึกษา “ความรัก” อย่างลึกซึ้งที่สุดในพันธสัญญาเดิมนะครับ ขอให้เราอิ่มในความรักนะครับ...ขอพระเจ้าองค์ความรักอวยพรครับ อ่านพระคัมภีร์ด้วยนะครับ อ่านความหมายของความรักในพันธสัญญาเดิมแล้วจะละลายไปกับคำสอนของยอห์นในพันธสัญญาใหม่ของวันนี้เลยล่ะครับ อ่านต่อไปเลยสิครับ...

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันอังคารที่ 23 กันยายน 2025
วันอังคารที่ 23 กันยายน 2025 น.ปีโอ แห่งปีเอเตรลชีนา พระสงฆ์ บทอ่านจากหนังสือเอสรา (อสร 6:7-8, 12ข, 14-20) ในเวลานั้น กษัตริย์ดาริอัสได้มีพระราชหัตถเลขาถึงบรรดาผู้ปกครองดินแดนที่อยู่ทางอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสว่า “จงปล่อยให้ผู้ปกครองและบรรดาผู้อาวุโสชาวยิว ดำเนินงานก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าหลังนี้ต่อไป ให้เขาก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าขึ้นใหม่ในสถานที่เดิม เรายังสั่งท่านทั้งหลายอีก ให้ช่วยเหลือบรรดาผู้อาวุโสของชาวยิว ในการก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าขึ้นใหม่ ค่าใช้จ่ายในงานนี้ให้จ่ายเต็มจำนวนแก่คนเหล่านี้ จากท้องพระคลังหลวง คือจากเงินภาษีที่เก็บได้ในแคว้นตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส เพื่องานก่อสร้างจะได้ไม่หยุดชะงัก และขอให้พระเจ้าผู้ทรงเลือกกรุงเยรูซาเล็มให้เป็นที่พำนัก...
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2025 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากหนังสือเอสรา (อสร 1:1-6)...
วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2025 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากหนังสือประกาศกอาโมส (อมส 8:4-7)...
วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2025 ระลึกถึง น.อันดรูว์ กิม เตก็อน พระสงฆ์ น.เปาโล...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ แผนกพระคัมภีร์ ครั้งที่ 2/2025
ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ แผนกพระคัมภีร์ ครั้งที่ 2/2025 วันพุธที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 เวลา...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย  สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2025
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) ประชุมกรรมการอำนวยการ สมัยสามัญ ครั้งที่ 2/2025 วันเสาร์ที่ 19...
การศึกษา
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย จัดการศึกษาเนื้อหาของสังคายนาวาติกันที่ 2 ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 (ครั้งที่ 3) "สังฆธรรมนูญเรื่อง การเผยความจริงของพระเจ้า"...
การศึกษาพระคัมภีร์ในพิธีกรรม LITURGICAL BIBLE STUDY
แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดอบรมคอร์สการศึกษาพระคัมภีร์ในพิธีกรรม (Liturgical Bible Study-LBS) เมื่อวันที่ 23-24 พฤษภาคม...
ร่วมประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย
วันพุธที่ 5 มีนาคม 2025 ร่วมประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) ณ ห้องประชุม...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 9 วันพฤหัสบดีที่...
บทภาวนาโอกาสวันพระวาจาของพระเจ้า ครั้งที่ 6
บทภาวนาโอกาสวันพระวาจาของพระเจ้าครั้งที่ 6 หัวข้อ “ข้าพเจ้าหวังในพระวาจาของพระองค์” (สดด. 119:74) วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา ตรงกับวันอาทิตย์ที่...

ศิลปะเพื่อพระเจ้า

Our Lady, Untier of Knots
ชื่อภาพ " Our Lady, Untier of Knots "ภาพ Our Lady, Untier of Knots พร้อมทั้งทำกรอบดอกไม้เหมือนภาพ original ที่ St. Peter am Perlach , Augsburg, GermanyOil on canvas...
Light of Glory
Administrator
ชื่อภาพ " Light of Glory "Oil on canvas ขนาด 50...
 The Holy Spirit
Administrator
ชื่อภาพ " The Holy Spirit "Oil on canvas ขนาด 50...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (10)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (6) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คำอธิษฐานของนักบุญเปาโลเป็นคำภาวนาของธรรมทูตคนหนึ่ง ท่านไม่สามารถคิดและรักพระเจ้าได้...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (9)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (5) - ละทิ้งรูปเคารพมาหาพระเจ้าอย่างไร การยึดมั่นในพระเจ้าหมายความว่า เราละทิ้งรูปเคารพ...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (8)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (4) - โดยท่านได้รับพระวาจา นักบุญเปาโลชี้แจงว่า กิจการแรกที่ชาวเธสะโลนิกาได้ทำในการเลียนแบบเขา...
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 1”  (7)
“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1” 2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (3) - เรารู้ว่า นักบุญเปาโลรู้ดีว่า ตนได้รับพระพรจากพระเจ้า...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 505 พระเจ้าทรงเขียนบทชีวิตให้ลูกอย่างต่อเนื่อง
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 505 พระเจ้าทรงเขียนบทชีวิตให้ลูกอย่างต่อเนื่อง:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 504 วัตถุประสงค์ของชีวิตในวัยนี้
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 504 วัตถุประสงค์ของชีวิตในวัยนี้:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 503 29 ปีแห่งพระพร
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 503 29 ปีแห่งพระพร ::::...
บทสวดของฉัน บทที่ 502 แด่ ... สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ด้วยความเคารพรักสูงสุดและความอาลัยยิ่ง
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 502 แด่ ... สมเด็จพระสันตะปาปา...

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์