“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

โยเซฟพบบรรดาพี่ชายเป็นครั้งแรกa

42 1ยาโคบรู้ว่ามีข้าวในอียิปต์ จึงถามบรรดาบุตรว่า “ทำไมลูกๆ จึงมัวแต่มองหน้ากัน ไม่ทำอะไรเล่า 2พ่อได้ยินว่ามีเสบียงอาหารในอียิปต์ จงไปซื้อข้าวจากที่นั่นมาให้เราเถิด เราจะได้รอดชีวิต ไม่อดตาย” 3พี่ชายทั้งสิบคนของโยเซฟจึงเดินทางไปซื้อข้าวในอียิปต์ 4แต่ยาโคบไม่อนุญาตให้เบนยามินน้องชายของโยเซฟไปด้วย เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่เขา

          5บุตรของอิสราเอลมาซื้อข้าวพร้อมกับคนอื่นๆ เพราะเกิดการกันดารอาหารในแผ่นดินคานาอัน 6โยเซฟในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ก็ขายข้าวให้ประชาชนทั้งปวง 7เมื่อพี่ชายของโยเซฟมาถึง เขาก็กราบคำนับโยเซฟ ศีรษะจรดพื้น โยเซฟเห็นพี่ชายก็จำได้ แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้จัก พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงกระด้างว่า “ท่านทั้งหลายมาจากไหน” บรรดาพี่ชายตอบว่า “เรามาจากแผ่นดินคานาอันเพื่อซื้ออาหาร”

          8โยเซฟจำพี่ชายได้ แต่พี่ชายจำเขาไม่ได้ โยเซฟจึงระลึกถึงความฝันที่ตนเคยฝันแต่ก่อน พูดว่า 9“ท่านทั้งหลายเป็นคนสอดแนม ท่านมาสำรวจดูว่าแผ่นดินนี้มีจุดอ่อนที่ไหนบ้าง” 10เขาเหล่านั้นค้านว่า “นายขอรับ เราไม่ใช่คนสอดแนม ผู้รับใช้ของท่านมาเพื่อซื้ออาหาร 11เราทุกคนเป็นบุตรของบิดาคนเดียวกัน เราเป็นคนซื่อตรง ผู้รับใช้ของท่านไม่ใช่คนสอดแนม” 12โยเซฟพูดกับเขาว่า “ไม่จริง ท่านมาเพื่อสำรวจดูว่าแผ่นดินนี้มีจุดอ่อนที่ไหนบ้าง” 13พวกพี่พูดว่า “ผู้รับใช้ของท่านเป็นพี่น้องสิบสองคน เป็นบุตรของบิดาคนเดียวกันอยู่ในแผ่นดินคานาอัน น้องคนเล็กอยู่กับบิดา ส่วนอีกคนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว” 14โยเซฟจึงว่า “ท่านเป็นคนสอดแนมแน่ๆ เหมือนที่เราพูดไว้ 15เราจะต้องทดสอบท่านอย่างนี้ เราสาบานว่า ถ้าน้องชายคนเล็กของท่านไม่มา ท่านทั้งหลายจะออกจากที่นี่ไม่ได้ 16จงส่งท่านคนหนึ่งไปพาน้องชายมา ส่วนอีกเก้าคนจะถูกจองจำไว้ จะได้เห็นว่าท่านพูดความจริง ถ้าไม่ทำเช่นนี้ เรามั่นใจว่า ท่านเป็นคนสอดแนม” 17โยเซฟจึงสั่งให้ขังทุกคนไว้ในคุกเป็นเวลาสามวัน 18ในวันที่สาม โยเซฟพูดกับพี่ชายว่า “จงทำดังนี้ และท่านจะมีชีวิตรอด เพราะเรายำเกรงพระเจ้า 19ถ้าท่านทั้งหลายเป็นคนซื่อตรง ให้ท่านคนหนึ่งถูกจองจำในคุกที่นี่ ส่วนอีกเก้าคนจงนำข้าวกลับไปให้ครอบครัวที่กำลังอดอยาก 20แล้วท่านจะต้องนำน้องชายคนเล็กมาให้เราดู เพื่อพิสูจน์ว่าท่านพูดความจริง มิฉะนั้นท่านจะต้องตาย” บรรดาพี่ชายก็ยอมทำเช่นนี้ 21แล้วพูดกันว่า “เรากำลังรับโทษเพราะความผิดที่เราได้ทำกับน้องของเราแน่ๆ เราเห็นแล้วว่าเขาเป็นทุกข์แค่ไหน เมื่อเขาอ้อนวอนขอให้เราช่วย แต่เราไม่ยอมฟัง บัดนี้ เราจึงต้องรับทุกข์เช่นเดียวกัน” 22รูเบนจึงพูดว่า “พี่ไม่ได้บอกพวกน้องหรือว่า อย่าทำร้ายเด็กนั้น แต่พวกน้องไม่ยอมฟัง บัดนี้ เราจึงต้องชดใช้หนี้เลือดของเขา” 23เขาไม่รู้ว่าโยเซฟเข้าใจ เพราะโยเซฟใช้ล่ามเมื่อพูดกับเขา 24โยเซฟจึงปลีกตัวไปร้องไห้b แล้วกลับมาพูดกับเขาอีก โยเซฟเลือกสิเมโอน สั่งให้มัดเขาไว้ต่อหน้าบรรดาพี่น้อง

 

บุตรของยาโคบกลับไปแผ่นดินคานาอัน

          25โยเซฟสั่งให้นำกระสอบของบรรดาพี่ชายมาใส่ข้าวจนเต็ม แล้วให้ใส่เงินค่าข้าวคืนไว้ในแต่ละกระสอบ ทั้งยังให้เสบียงอาหารไปกินตามทางด้วย บรรดาพนักงานก็ทำตามที่โยเซฟสั่งทุกประการ 26พี่ชายเอากระสอบข้าวขึ้นบรรทุกบนหลังลาแล้วออกเดินทางจากที่นั่น 27เมื่อถึงที่หยุดพักค้างคืน คนหนึ่งเปิดกระสอบจะเอาข้าวให้ลากิน ก็เห็นเงินอยู่ที่ปากกระสอบ 28จึงพูดกับบรรดาพี่น้องว่า “ฉันได้เงินคืนมา ดูซิ อยู่ในกระสอบนี่ไง” ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจและหวาดกลัว หันไปถามกันว่า “ทำไมพระเจ้าทรงทำกับเราเช่นนี้”c

          29เมื่อกลับมาพบยาโคบผู้บิดาในแผ่นดินคานาอัน เขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้บิดาฟัง 30“ท่านผู้สำเร็จราชการแผ่นดินพูดจาดุดันกับเรา กล่าวหาว่าเราไปสอดแนมแผ่นดินของท่าน 31เราบอกท่านว่าเราเป็นคนซื่อตรง ไม่ได้มาสอดแนม 32เราเป็นพี่น้องกันสิบสองคน เป็นบุตรของบิดาคนเดียวกัน คนหนึ่งเสียชีวิตแล้ว และน้องคนเล็กอยู่กับบิดาในแผ่นดินคานาอัน 33แต่ท่านผู้สำเร็จราชการแผ่นดินบอกพวกเราว่า ‘เราจะรู้ว่าท่านเป็นคนซื่อตรงโดยวิธีนี้ จงปล่อยพี่น้องคนหนึ่งของท่านไว้กับเราที่นี่ และนำอาหารกลับไปให้ครอบครัวที่กำลังอดอยาก 34จงพาน้องชายคนเล็กกลับมาหาเรา เราจะได้รู้ว่าท่านไม่ใช่คนสอดแนม แต่เป็นคนซื่อตรง แล้วเราจะคืนพี่น้องที่ถูกจองจำให้ และท่านจะไปไหนมาไหนได้อย่างเสรีในแผ่นดินนี้’”

          35เมื่อแต่ละคนเทข้าวจากกระสอบก็พบถุงเงินในกระสอบของตน เมื่อเห็นถุงเงิน เขากับบิดาต่างก็กลัว 36ยาโคบจึงพูดว่า “พวกลูกจะไม่ให้พ่อมีลูกเหลืออยู่เลย โยเซฟก็ไม่อยู่แล้ว สิเมโอนก็ไม่อยู่ บัดนี้ ลูกยังต้องการเอาเบนยามินไปอีก พ่อคนเดียวต้องทนทุกข์ทั้งหมดนี้”

          37รูเบนจึงพูดกับบิดาว่า “พ่อจะฆ่าลูกชายสองคนของลูกได้ ถ้าลูกไม่พาเบนยามินกลับมาหาพ่อ พ่อจงมอบให้ลูกเป็นผู้ดูแลเขาเถิด และลูกจะนำเขากลับมาคืนให้พ่อ”d 38แต่ยาโคบตอบว่า “ลูกของพ่อจะลงไปที่นั่นกับพวกลูกไม่ได้ดอก พี่ชายของเขาก็ตายไปแล้ว พ่อเหลือเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นe ถ้าหากเขาเป็นอันตรายไประหว่างทาง ลูกก็จะส่งพ่อซึ่งแก่แล้วลงไปในแดนผู้ตายด้วยความเศร้าโศก”

 

42 a เรื่องนี้มาจากตำนานเอโลฮิสต์เกือบทั้งหมด ส่วนบทที่ 43 มาจากตำนานยาห์วิสต์ ซึ่งพูดถึงการพบปะครั้งแรกนี้ด้วย ดังนั้น เราจึงพบร่องรอยของตำนานยาห์วิสต์ในบทนี้อยู่บ้าง (โดยเฉพาะข้อ 27-28 และ 38)

b บทท้ายๆ ของหนังสือปฐมกาล สนใจต่อความรู้สึกของบุคคลในเรื่องอย่างเห็นได้ชัด

c ข้อ 27-28 มาจากตำนานยาห์วิสต์ เล่าว่าบรรดาพี่ชายของโยเซฟพบเงินที่ปากกระสอบเมื่อหยุดพักในคืนแรก  (ดู 43:21) แต่ตามตำนานเอโลฮิสต์ (ข้อ 35) เขาพบถุงเงินที่ก้นกระสอบเมื่อมาถึงบ้าน ตำนานทั้งสองสอดคล้องกันที่ว่า บรรดาพี่ชายรู้สึกกลัวเมื่อพบถุงเงิน คิดว่าเป็นเหตุการณ์ลึกลับเหนือธรรมชาติ

d ตามตำนานยาห์วิสต์ (ดู 43:8-9)  ยูดาห์ไม่ใช่รูเบน เอาตัวเป็นประกันว่าจะนำเบนยามินกลับมาให้ได้ ในทำนองเดียวกัน ผู้ที่ต้องการช่วยชีวิตของโยเซฟคือยูดาห์ตามตำนานยาห์วิสต์ (37:26) แต่เป็นรูเบนตามตำนานเอโลฮิสต์ (37:22)

e “พ่อเหลือเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น” หมายความว่า เบนยามินเป็นลูกคนเดียวที่เหลืออยู่ของนางราเคลซึ่งยาโคบรักมาก

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก