“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

การเข้าสุหนัตเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาa

17 1เมื่ออับรามอายุเก้าสิบเก้าปี พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระองค์แก่เขา ตรัสว่า “เราคือพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพb จงดำเนินชีวิตตามความประสงค์ของเรา และเป็นคนดีพร้อมเถิด 2เราจะทำพันธสัญญากับท่าน จะให้ท่านมีลูกหลานจำนวนมากยิ่งๆ ขึ้น” 3อับรามจึงกราบลงกับพื้นดิน

          4พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “นี่คือพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับท่าน ท่านจะเป็นบิดาของชนชาติจำนวนมาก 5ชื่อของท่านจะไม่ใช่อับรามอีกแล้ว ท่านจะมีชื่อใหม่ว่าอับราฮัมc เพราะเราจะทำให้ท่านเป็นบิดาของชนชาติจำนวนมาก 6เราจะทำให้ท่านมีลูกหลานจำนวนมากยิ่งๆ ขึ้น จะให้ท่านเป็นชนหลายชาติ และกษัตริย์หลายพระองค์จะเกิดจากท่าน 7เราจะรักษาพันธสัญญาของเราไว้กับท่าน และกับลูกหลานของท่านที่จะตามมารุ่นแล้วรุ่นเล่า เป็นพันธสัญญาที่คงอยู่ตลอดไป เราจะเป็นพระเจ้าของท่าน และเป็นพระเจ้าของลูกหลานของท่านที่จะตามมา 8เราจะให้แผ่นดินที่ท่านอาศัยอยู่อย่างคนแปลกหน้าถิ่นนี้ คือแผ่นดินคานาอันทั้งหมดแก่ท่านและแก่ลูกหลานที่จะตามมาภายหลังท่านเป็นกรรมสิทธิ์ตลอดไป และเราจะเป็นพระเจ้าของเขาทั้งหลาย”

          9พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “ท่านและลูกหลานของท่านที่จะตามมาทุกรุ่นจะต้องรักษาพันธสัญญาของเราไว้ 10นี่คือพันธสัญญาของเราซึ่งท่านจะต้องรักษาไว้ คือพันธสัญญากับท่านและกับลูกหลานของท่านที่จะตามมาภายหลัง ผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าสุหนัตd 11ท่านจะต้องขริบหนังหุ้มปลาย
องคชาต เป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับท่าน 12เมื่อมีอายุแปดวัน เด็กชายทุกคน ทุกรุ่น รวมทั้งลูกทาสที่เกิดในบ้าน และทาสที่ซื้อมาจากคนต่างด้าวที่ไม่ใช่เชื้อสายของท่านจะต้องเข้าสุหนัต 13ทุกคนต้องเข้าสุหนัตไม่ว่าจะเกิดในบ้านหรือซื้อมา ดังนั้น พันธสัญญาของเราจะมีเครื่องหมายติดกายของท่าน เป็นพันธสัญญาที่คงอยู่ตลอดไป 14ผู้ชายที่ไม่ได้เข้าสุหนัตคือไม่ได้ขริบหนังหุ้มปลายองคชาต จะถูกตัดออกจากชนชาติของตน เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของเรา”

          15พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “ส่วนนางซารายภรรยาของท่านนั้น ท่านอย่าเรียกนางว่าซารายอีก แต่จงเรียกว่าซาราห์e 16เราจะอวยพรนาง เราจะให้นางมีบุตรแก่ท่านด้วย เราจะอวยพรนางและนางจะเป็นมารดาของชนหลายชาติ กษัตริย์ของชนหลายชาติจะมาจากนาง” 17อับราฮัมกราบลงกับพื้นดิน หัวเราะf คิดในใจว่า “ชายชราอายุหนึ่งร้อยปีจะมีบุตรได้หรือ นางซาราห์อายุเก้าสิบปีแล้วจะคลอดบุตรได้หรือ” 18อับราฮัมทูลพระเจ้าว่า “ขอให้อิชมาเอลมีชีวิตอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด” 19พระเจ้าตรัสว่า “ไม่ใช่ แต่นางซาราห์ภรรยาของท่านจะคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้ท่าน และท่านจะตั้งชื่อเขาว่าอิสอัค เราจะรักษาพันธสัญญาที่เราได้ให้ไว้กับเขาและกับลูกหลานของเขาที่จะตามเขามา เป็นพันธสัญญาที่คงอยู่ตลอดไปg 20สำหรับอิชมาเอลนั้น เราฟังท่านแล้ว เราจะอวยพรเขา จะทำให้เขามีลูกหลานมาก เราจะทวีจำนวนเขายิ่งๆ ขึ้น เขาจะเป็นบิดาของเจ้าชายสิบสององค์ เราจะทำให้เขาเป็นชนชาติใหญ่ 21เราจะรักษาพันธสัญญาไว้กับอิสอัค นางซาราห์จะคลอดอิสอัคให้แก่ท่านในปีหน้า เวลาเดียวกันนี้” 22เมื่อพระเจ้าตรัสกับอับราฮัมแล้ว ก็เสด็จจากเขาไป

          23ในวันเดียวกันนั้น อับราฮัมจัดให้อิชมาเอลบุตรของตน และทาสทุกคนที่เกิดในบ้านหรือที่ซื้อมา คือชายทุกคนในบ้านของอับราฮัมเข้าสุหนัตขริบหนังหุ้มปลายองคชาต ตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชา 24อับราฮัมอายุเก้าสิบเก้าปีเมื่อเข้าสุหนัต 25และอิชมาเอลบุตรชายอายุสิบสามปี 26อับราฮัมและอิชมาเอล บุตรของเขาเข้าสุหนัตในวันเดียวกันทั้งสองคน 27ผู้ชายทุกคนในบ้านทั้งที่เกิดในบ้านและที่ซื้อมาจากคนต่างชาติ ได้เข้าสุหนัตพร้อมกับเขาด้วย

 

17 a บทที่ 17 นี้ เล่าเรื่องพันธสัญญาระหว่างพระยาห์เวห์กับอับราฮัมอีกครั้งหนึ่งตามตำนานสงฆ์ พันธสัญญานี้รับรองพระสัญญาเดียวกันกับที่เราพบในตำนานยาห์วิสต์ในบทที่ 15 แต่ครั้งนี้มีการเรียกร้องให้มนุษย์มีความประพฤติดีบริบูรณ์ (ข้อ 1) มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า (ข้อ 7 และ 19) และกำหนดให้ทำพิธีภายนอก คือ เข้าสุหนัต จงเปรียบเทียบบทนี้กับพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงกระทำกับโนอาห์ ซึ่งมาจากตำนานเดียวกัน (บทที่ 9:9 เชิงอรรถ d)

b “พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ” ภาษาฮีบรู “เอล ชัดดาย” เป็นพระนามเก่าแก่ของพระเจ้าที่บรรดาบรรพบุรุษเคยใช้  (28:3; 35:11; 43:14; 48:3; 49:25) ตำนานสงฆ์และหนังสือโยบเท่านั้นยังรักษาพระนามนี้ไว้ (ดู อพย 6:3) เราไม่รู้แน่ว่า “เอล ชัดดาย” มีความหมายว่าอย่างไร มักจะแปลกันว่า “พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ” บางคนเสนอให้แปลว่า “พระเจ้าแห่งภูเขา” โดยอ้างรากศัพท์จากภาษาอัคเคเดียนว่า shadu แต่บางทีอาจจะต้องแปลว่า “พระเจ้าแห่งทุ่งโล่ง” จากคำภาษาฮีบรูว่า sadeh ดูเหมือนว่าบรรดาบรรพบุรุษได้นำพระนามนี้มาจากเมโสโปเตเมียตอนบน

c สำหรับคนโบราณ ชื่อไม่เพียงแต่ชี้ตัวบุคคล แต่ยังเป็นการทำให้เขาเป็นอย่างที่เป็น การเปลี่ยนชื่อจึงหมายถึงการเปลี่ยนชะตากรรมของเขาด้วย (ดู ข้อ 15 และ 35:10) อับรามและอับราฮัมดูเหมือนจะเป็นวิธีอ่านสองรูปแบบของคำเดียวกัน หมายความว่า “เขายิ่งใหญ่เพราะบิดาของเขา” หรือ “เขามีเชื้อสายของชนชั้นสูง” อย่างไรก็ตาม ในที่นี้ “อับราฮัม” ได้รับการอธิบายความหมายแบบชาวบ้านจากคำว่า ab กับ hamon “บิดาของชนจำนวนมาก”

d การเข้าสุหนัตแต่เดิมเป็นพิธีเตรียมตัวก่อนเข้าพิธีสมรสและเข้าเป็นสมาชิกของเผ่า (34:14; อพย 4:24-26; ลนต 19:23) ในที่นี้พิธีสุหนัตเป็น “เครื่องหมาย” เหมือนกับรุ้งใน ปฐก 9:16-17 เพื่อเตือนพระเจ้าให้ทรงระลึกถึงพันธสัญญา และเตือนมนุษย์ให้ระลึกถึงข้อบังคับที่มาจากการเป็นสมาชิกของประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรร กระนั้นก็ดี ในตัวบทของธรรมบัญญัติเราพบข้อความที่พาดพิงถึงคำสั่งนี้เพียงสองครั้งเท่านั้น (อพย 12:44; ลนต 12:3; ดู ยชว 5:2-8) ชาวยิวให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่พิธีสุหนัตนี้เพียงแค่ในสมัยเนรเทศและสมัยต่อมาเท่านั้น (ดู 1 มคบ 1:63; 2 มคบ 6:10) เปาโลอธิบายว่าพิธีสุหนัตเป็น “เครื่องหมายรับรองความชอบธรรมที่มาจากความเชื่อ” (รม 4:11) เกี่ยวกับ “การเข้าสุหนัตทางใจ” ดู ยรม 4:4 เชิงอรรถ a

e ซาราห์และซารายเป็นวิธีอ่านสองรูปแบบของชื่อเดียวกัน ซึ่งหมายถึง “เจ้าหญิง” ดังนั้น นางซาราห์จะเป็นมารดาของบรรดากษัตริย์ (ข้อ 16)

f เรื่องการหัวเราะของอับราฮัมจะสะท้อนอีกในเรื่องการหัวเราะของนางซาราห์ (18:12) และของอิชมาเอล (21:9 ดู 21:6) แต่ละครั้งเป็นการกล่าวพาดพิงถึงชื่ออิสอัค ที่เป็นคำย่อของคำว่า ytzhq-el ซึ่งหมายความว่า “ขอพระเจ้าทรงพระสรวล ขอพระเจ้าทรงพระทัยดี” หรือ “พระเจ้าทรงพระสรวล พระเจ้าทรงพระทัยดี” การที่อับราฮัมหัวเราะไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เชื่อ แต่เป็นการแสดงความประหลาดใจต่อข่าวพิเศษนี้ การที่อับราฮัมกล่าวถึงอิชมาเอล ซึ่งอับราฮัมคิดว่าจะต้องเป็นทายาทตามพระสัญญาเป็นการเรียกร้องทางอ้อมให้พระเจ้าทรงยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าจะทรงปฏิบัติตามพระสัญญา

g ต้นฉบับภาษากรีกเสริมว่า “ว่าเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และพระเจ้าของลูกหลาน”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก