“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“จงอยู่ที่นี่และตื่นเฝ้าเถิด”  
76. ในสวนเกทเสมนี (3)

b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
          1. ข้อความนี้ละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ เพราะเป็นตอนเดียวเท่านั้นในพระวรสารที่เปิดเผยความรู้สึกของพระเยซูเจ้าด้วยพระวาจาของพระองค์เอง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ทรงมีต่อพระบิดา จึงเป็นเสมือนหน้าต่างบานเดียวที่เรามีในพระคัมภีร์เกี่ยวกับอัตตาของพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าทรงตื่นเฝ้าด้วยการอธิษฐานภาวนาและทรงปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดา ส่วนบรรดาศิษย์นั่งหลับ ปิดตัวไม่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า นี่เป็นรากฐานของบาป นั่นคือมนุษย์ทำทุกอย่างตามอำเภอใจของตนเอง ไม่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า เขาคิดว่าพระเจ้าทรงเป็นปรปักษ์ เพราะทรงจำกัดอิสรภาพของมนุษย์

           2. การทดลองครั้งยิ่งใหญ่ของบรรดาศิษย์คือ การสูญเสียความไว้วางใจในพระเยซูเจ้า ทั้งเพราะการทรมานของพระองค์และความทุกข์ทรมานของตน ทั้งเพราะความอ่อนแอของพระองค์และการที่พระองค์ทรงยอมอยู่ใต้อำนาจของผู้อื่น การทดลองนี้ทำให้มนุษย์สูญเสียความเชื่อ เขาจึงตั้งคำถามว่า เป็นไปได้หรือที่บุรุษผู้รับทรมานและไร้อำนาจผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ พระเจ้าสมควรจะบันดาลให้พระบุตรสุดที่รักพระองค์นี้ทรงพ้นจากการรับทรมานมิใช่หรือ ความทุกข์ทรมานของพระเยซูเจ้าเป็นเครื่องหมายชัดเจนว่า พระองค์ไม่เป็นพระบุตรของพระเจ้าและพระเจ้าไม่ทรงเอาพระทัยใส่กระนั้นหรือ ในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งไม่มีเครื่องหมายใด ๆ ของพระสิริรุ่งโรจน์ปรากฏให้เห็นเลย และดูเหมือนมีเพียงความอ่อนแอตามประสามนุษย์ ความเชื่อในพระเยซูเจ้าในฐานะที่ทรงมีความสัมพันธ์พิเศษกับพระเจ้าจะคงอยู่ต่อไปได้

           3. พระเยซูเจ้าทรงตักเตือนบรรดาศิษย์ว่า “จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะไม่เข้าสู่การประจญ” คำว่า “จงตื่นเฝ้า” คืออย่าหลบหนีโดยการนอนหลับ อย่าหลีกหนีสิ่งที่ต้องเห็นและต้องมีประสบการณ์ อย่าปิดตาต่อความอ่อนแอตามประสาของมนุษย์ของเรา ท่านต้องยอมรับเราดังที่เป็น อย่าสร้างภาพลักษณ์ของเราที่ขจัดทุกอย่างที่ท่านไม่ชอบ พระองค์ตรัสว่า “ท่านทั้งหลายจงอธิษฐานภาวนา ท่านต้องสนทนากับพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง” หมายความว่า เวลานี้เอง ที่ดูเหมือนพระองค์ทรงอยู่ห่างและไม่ทรงสนพระทัยเรา ท่านทั้งหลายต้องรักษาความสัมพันธ์กับพระเจ้าไว้อย่างมีชีวิตชีวา เพราะการอธิษฐานภาวนาเท่านั้นจะสามารถชนะสถานการณ์ทุกอย่างที่ดูเหมือนกำลังจะพังทลายลง

            4. สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงขอร้องจากศิษย์ทั้งสามคน พระองค์ก็ทรงกระทำเองด้วย คือทรงวอนขอต่อพระบิดาเจ้า คำอธิษฐานภาวนาของพระองค์บอกเรามากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูเจ้ากับพระเจ้า และวิธีการที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อช่วยเหลือพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงเห็นชะตากรรมที่รอคอยอย่างชัดเจน บรรดาศัตรูใช้ความรุนแรงทุกวิถีทางและดูหมิ่นพระองค์ เพื่อปฏิเสธงานกิจการทั้งหมดและข้ออ้างอิงของพระองค์ ความรุนแรงจะทำให้กิจการของพระองค์จบลง ซึ่งดูเหมือนเป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้น แม้การเผชิญหน้ากับความตายและความหวังที่ขึ้นอยู่กับความตายก็ดูไร้ความหมาย พระเยซูเจ้าทรงเห็นว่าชะตากรรมนี้กำลังใกล้เข้ามาแล้วเปรียบเสมือนถ้วยที่เต็มไปด้วยความขมขื่น ซึ่งธรรมชาติมนุษย์ของพระองค์ปฏิเสธไม่ยอมดื่ม พระองค์ทรงวอนขอพระบิดาเจ้าว่า "โปรดทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าไม่ทรงปรารถนาที่จะรับความทุกข์ทรมานและการถูกสบประมาท ตรงกันข้าม ทรงพระประสงค์ให้ผ่านพ้นไป พระองค์ทรงยอมรับว่าชะตากรรมนี้ด้วยการกระทำของพระองค์เอง โดยทรงวอนขอพระบิดาให้ช่วยขจัดชะตากรรมนี้ไป

            5. ในสถานการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงถูกคุกคามด้วยความทุกข์ทรมาน การถูกสบประมาท และต้องเผชิญกับความตาย พระองค์ทรงหันไปหาพระเจ้า ผู้เป็นพระบิดาเปี่ยมด้วยความรัก “อับบา พระบิดาเจ้าข้า” และ “ทรงสรรพานุภาพ พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งได้” เป็นไปได้อย่าไรที่พระบิดาทรงอนุญาตให้พระบุตรสุดที่รักทรงมีชะตากรรมเช่นนี้ พระเยซูเจ้าไม่ทรงเรียกร้องให้พระบิดาทรงอธิบาย หรือทรงชี้แจงเหตุผลของเหตุการณ์นี้ พระองค์ไม่ทรงสงสัยว่า ทำไมเหตุการณ์นี้ต้องเกิดขึ้น ไม่ทรงเรียกร้องให้พระบิดาทรงเปิดเผยแผนการของพระองค์ หรือให้ทรงชี้แจงเหตุผลเพื่อทำความเข้าใจ พระเยซูเจ้าไม่ทรงไว้วางใจพระบิดาเพราะสติปัญญามนุษย์ของพระองค์เข้าใจแผนการของพระเจ้า แต่ทรงไว้ใจพระบิดาเพราะเป็นพระเจ้า จากบทภาวนาของพระเยซูเจ้า เราเห็นความมั่นใจโดยปราศจากเงื่อนไขที่พระเจ้าเป็นพระบิดาเปี่ยมด้วยความรัก ทรงสรรพานุภาพ ทรงเป็น(มี)อิสระโดยไม่ขึ้นกับผู้อื่น พระเยซูเจ้าจึงมั่นใจว่าพระองค์ทรงจำเป็นต้องปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดา คือมนุษย์ต้องปฏิเสธเจตนาของตนเอง และทำตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า นี่คือลักษณะพื้นฐานคำอธิษฐานภาวนาของพระเยซูเจ้า ซึ่งควรเป็นลักษณะคำอธิษฐานภาวนาของเราด้วย

             6. ในสวนเกทเสมนี พระเยซูเจ้าทรงแสดงวิสัยทัศน์ใหม่ของพระเจ้า สำหรับพระองค์ผู้ทรงเป็นพระบุตร ความรักและอำนาจสูงส่งของพระเจ้าในฐานะพระบิดา เป็นความจริงที่แน่นอนและปราศจากข้อสงสัย ซึ่งไม่ได้รับการพิจารณาจากผลของการกระทำกับมนุษย์ ความสัมพันธ์ของพระเยซูเจ้ากับพระเจ้า และกับความไว้วางใจในพระองค์ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เหตุผลที่พระเยซูเจ้าทรงมอบความไว้วางใจกับพระเจ้าและทรงรับรู้ว่าพระบิดาทรงรักพระองค์ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของพระองค์เอง หรือเพื่อความปรารถนาของพระองค์จะประสบความสำเร็จ ความรักของพระเจ้ามีคุณค่าสำหรับพระองค์อย่างแท้จริง สิ่งที่จำเป็นคือการไม่ยอมให้สิ่งใดทำให้เราสับสน ไม่ว่าจะมาจากความปรารถนาของตนเองหรือจากประสบการณ์เจ็บปวดอย่างสาหัส รวมทั้งไม่นำเจตจำนงของตนมาต่อต้านพระประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้น ความสัมพันธ์ของพระเจ้ากับมนุษย์ และความสัมพันธ์ของมนุษย์กับพระเจ้า เป็นอิสระจากหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของโลก ในสถานการณ์เช่นนี้ที่พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าไม่ปรากฏ แต่ปรากฏความอ่อนแอตามประสามนุษย์ของพระเยซูเจ้า ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวที่ลบล้างไม่ได้กับพระเจ้าปรากฏขึ้นก็ปรากฏขึ้นในความถ่อมตน

                  ในบ้านของไยรัส ศิษย์ทั้งสามคนได้เห็นพระองค์ทรงมีชัยชนะเหนืออำนาจความตายอย่างเรียบง่าย เมื่อพระองค์ทรงสำแดงความรุ่งโรจน์บนภูเขาทาบอร์ เขาทั้งสามคนได้ยินพระเจ้าทรงประกาศว่า พระองค์เป็น "พระบุตรสุดที่รัก" ในสวนมะกอกเทศ เขาทั้งสามคนเห็นว่าพระองค์ แม้พระเยซูเจ้าทรงมีความกลัวและเศร้าสลดใจ ก็ยังทรงอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้า พระบิดาเปี่ยมด้วยความรัก พระเยซูเจ้าไม่ทรงพาศิษย์ทั้งสามคนไปเพื่อความบันเทิงของเขาหรือของคริสตชน แต่เหตุการณ์เหล่านี้ถูกบันทึกไว้เพื่อผู้อ่านยอมรับว่า พระองค์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของชีวิต ทรงอยู่เหนือความตาย โดยแท้จริงแล้ว ต่อหน้าความตายมนุษย์รู้สึกว่าตนไม่มีอำนาจเลย และพระเยซูเจ้าทรงใช้อำนาจปลุกคนตายให้มีชีวิตใหม่เพียงไม่กี่ครั้ง เพื่อแสดงอำนาจของพระองค์เท่านั้น แต่พระบิดาทรงนำพระองค์ให้เผชิญความตายเหมือนมนุษย์ทุกคน

                7. การมีชัยชนะเหนือพลังทั้งหมดที่ทำร้ายและทำลายมนุษย์ ไม่ขึ้นกับการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย เช่นเดียวกับในกรณีบุตรหญิงของไยรัส สำหรับพระเจ้า ชีวิตประกอบด้วยความรักเยี่ยงบิดาของพระองค์ที่ไม่มีเงื่อนไข สำหรับมนุษย์ ชีวิตประกอบด้วยความไว้วางใจอย่างไม่มีเงื่อนไขในพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ผู้ซึ่งแม้ในประสบการณ์อันเจ็บปวดทั้งหมด พระองค์ยังเป็นพระบิดาที่เปี่ยมด้วยความรัก บรรดาศิษย์ต้องปฏิบัติตามทั้งพระวาจาและการกระทำทั้งหมดของพระองค์ เขาทั้งหลายต้องเรียนรู้จากพระองค์ โดยทำให้ทัศนคติที่พระเยซูเจ้าทรงปฏิบัติต่อพระบิดามาเป็นทัศนคติของตน และต้องยอมรับทัศนคติที่ถูกต้องต่อพระเยซูเจ้าด้วย ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดทรงช่วยให้ข้าพเจ้ารู้จักพิศเพ่งพระธรรมล้ำลึกแห่งการภาวนาของพระองค์ในสวนเกทเสมนีในความเงียบ ด้วยการกราบนมัสการพระองค์ โปรดทรงบันดาลให้ข้าพเจ้าอยู่เคียงข้างพระองค์ เพื่อเข้าใจว่าพระองค์ทรงรักข้าพเจ้ามากสักเพียงใด และทรงมอบพระองค์เพื่อข้าพเจ้า

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก