"เราประกาศให้ท่านรู้ถึงสิ่งที่เราได้เห็น" (1ยน. 1:3)

เพลงสดุดีที่ 19

พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์ในสิ่งสร้างและในธรรมบัญญัติa

ผู้มีตาแหลมเมื่อมองดูสิ่งสร้างตามธรรมชาติจะเห็นว่าโลกจักรวาลเปิดเผยความจริงอย่างเงียบๆให้เราเห็นพระอานุภาพและพระปรีชาของพระเจ้า และยังเป็นบทเพลงถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วย พระองค์ทรงเปิดเผยความจริงเพิ่มเติมเมื่อประทานธรรมบัญญัติแก่ชาวอิสราเอลผ่านทางโมเสส และต่อมาพระองค์ทรงเปิดเผยความจริงให้แก่มวลมนุษย์โดยทางพระเยซูคริสตเจ้า ทำให้การเปิดเผยความจริงในธรรมชาติสำเร็จอย่างสมบูรณ์

สำหรับหัวหน้านักขับร้อง เพลงสดุดีของกษัตริย์ดาวิด

1      ท้องฟ้าประกาศพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า

               แผ่นฟ้าบอกเล่าผลงานจากพระหัตถ์ของพระองค์

2      วันหนึ่งบอกให้อีกวันหนึ่งรู้

               คืนหนึ่งมอบความรู้นี้แก่อีกคืนหนึ่ง

3      ไม่มีคำพูด ไม่มีวาจาใด

               ที่ไม่มีใครไม่ได้ยินเสียงb

4      เสียงของเขาเหล่านี้กระจายไปทั่วแผ่นดิน

               และวาจาของเขาแพร่สะพัดไปจนสุดปลายพิภพ

        บนท้องฟ้าพระองค์ทรงตั้งกระโจมสำหรับตะวัน

5             ที่ผายผันออกมาดุจเจ้าบ่าวจากห้องวิวาห์

               เริงร่าราวนักรบผู้แกล้วกล้าวิ่งตามทางของตนc

6      ตะวันขึ้นมา ณ ขอบฟ้าด้านหนึ่ง

               แล้วโคจรไปยังขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง

               และไม่มีสิ่งใดจะหลบหนีความร้อนของตะวันได้

7      ธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์นั้นสมบูรณ์ทุกประการ

               ให้ความชื่นบานแก่ดวงวิญญาณ

        กฤษฎีกาของพระองค์ก็น่าเชื่อถือ

               ให้ปรีชาญาณแก่ผู้ด้อยปัญญา

8      ข้อบังคับของพระยาห์เวห์นั้นสุจริต

               ทำให้ดวงจิตปีติยินดี

        บทบัญญัติของพระองค์ก็ชัดเจน

               ให้แสงสว่างแก่ดวงตา

9      ความยำเกรงพระยาห์เวห์นั้นบริสุทธิ์

               ดำรงอยู่ตลอดไป

        กฎเกณฑ์ของพระยาห์เวห์ก็สัตย์จริง

               เที่ยงธรรมทุกประการ

10    เป็นที่พึงปรารถนามากกว่าทองคำ

               น่าปรารถนายิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์มากมายd

        หวานล้ำกว่าน้ำผึ้ง

               ที่หยดลงมาจากรวง

11    แม้ผู้รับใช้ของพระองค์ก็ยังยอมรับการอบรมจากกฎเหล่านี้

               และรับบำเหน็จยิ่งใหญ่ในการปฏิบัติตาม

12    ใครเล่าจะรู้ข้อบกพร่องของตน?

               ขอพระองค์ทรงอภัยความผิดที่มองไม่เห็นด้วยเถิด

13    ขอพระองค์ทรงช่วยผู้รับใช้ให้พ้นจากความจองหองe

               อย่าให้ความจองหองนี้ครอบงำข้าพเจ้าเลย

        เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่มีที่ตำหนิ

               บริสุทธิ์พ้นจากบาปหนัก

14    ขอให้ถ้อยคำจากปากและความคิดจากใจข้าพเจ้า

               เป็นที่โปรดปรานfเฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด

        ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเป็นหลักศิลาและผู้กอบกู้ข้าพเจ้าg

19 aเพลงสดุดีบทนี้เป็นบทสรรเสริญพระยาห์เวห์ในฐานะที่ทรงเป็นพระผู้สร้างท้องฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตะวัน (ข้อ 4ข-6) และในฐานะทรงเป็นผู้ประทานธรรมบัญญัติ  ทั้งธรรมชาติและธรรมบัญญัติสำแดงความดีบริบูรณ์ของพระเจ้าได้เป็นอย่างดี ในอารยธรรมตะวันออกกลางโบราณ ดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรม ดู ปชญ 5:6; มลค 3:20 เพราะฉะนั้น เพลงสดุดีบทนี้จึงพยายามรวมเรื่องธรรมชาติและธรรมบัญญัติเข้าด้วยกัน รม 10:18 ยกข้อ 4 มาประยุกต์ใช้กับบรรดาอัครสาวกผู้ประกาศข่าวดีไปทั่วโลก

b“ไม่มีใครไม่ได้ยินเสียง” แปลตามสำนวนแปลโบราณส่วนมาก  คำภาษาฮีบรูอาจแปลได้ว่า “เส้นเขียนที่ไม่ออกเสียง” ตามความคิดของชาวอัสซีเรียและบาบิโลนในสมัยโบราณที่เชื่อว่าทางโคจรของดวงดาราเป็นข้อเขียนเงียบๆของพระเจ้าบนท้องฟ้า

c ผู้ประพันธ์เพลงสดุดียืมสำนวนจากตำนานเทพโบราณของชาวบาบิโลนที่กล่าวถึงพระอาทิตย์เป็นเทพเจ้า แต่มีความคิดแบบชาวอิสราเอลว่าพระอาทิตย์หรือดวงตะวันเป็นเพียงสิ่งสร้างเท่านั้น

d ผู้แปลบางคนเสริมประธานว่า “พระวาจา” (ดู 119:103,127)

e “ความจองหอง” สำนวนแปลโบราณภาษากรีกว่า “เทพเจ้าอื่นๆ”  สดด 119 ย้ำสอนบ่อยๆว่าความจองหองทำให้มนุษย์ไม่ยอมเชื่อฟังปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า

f สำนวนแปลโบราณภาษากรีกเสริมว่า “เสมอ”

g “ผู้กอบกู้” ภาษาฮีบรูว่า “go‘el” ซึ่งหมายถึงญาติใกล้ชิดที่จะต้องแก้แค้นแทนญาติที่ถูกฆ่า (กดว 35:19) และ “ผู้ไถ่”ทรัพย์สินของญาติคืนมา (ลนต 25:25,47-49)  คำนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับพระยาห์เวห์ใน โยบ 19:25; สดด 19:14; 78:35; ยรม 50:34 และ อสย 41:14; 43:14; 44:6,24; 49:7; 59:20 เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นเสมือนญาติใกล้ชิดที่แก้แค้นแทนญาติที่ถูกฆ่า ทรงเป็นพระผู้ไถ่และกอบกู้ประชากรของพระองค์ให้รอดพ้นจากความตาย

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

Sinapis เมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก