“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ชาวสะมาเรียขัดขวางการก่อสร้างพระวิหารในรัชสมัยกษัตริย์ไซรัสa

4         1ศัตรูของชาวยูดาห์และเบนยามินได้ยินว่า ผู้ถูกเนรเทศที่กลับมากำลังจะก่อสร้างพระวิหารถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล 2เขาจึงมาพบเศรุบบาเบลb และบรรดาหัวหน้าครอบครัว พูดว่า “ขอให้พวกเราร่วมก่อสร้างพระวิหารพร้อมกับท่าน เพราะพวกเรานมัสการพระเจ้าของท่านเช่นเดียวกับท่าน พวกเราถวายเครื่องบูชาcแด่พระองค์ตั้งแต่วันที่กษัตริย์เอสารฮัดโดนแห่งอัสซีเรียทรงนำพวกเรามาอยู่ที่นี่d 3แต่เศรุบบาเบล เยชูอา และบรรดาหัวหน้าครอบครัวคนอื่นๆ ในอิสราเอลตอบว่า “การก่อสร้างพระวิหารถวายพระเจ้าของเราไม่ใช่ธุระของท่านทั้งหลาย แต่เป็นธุระของเรา พวกเราจะก่อสร้างพระวิหารถวายพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลโดยลำพัง ตามที่กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียทรงบัญชาไว้” 4ชนท้องถิ่นจึงเริ่มทำให้ชาวยูดาห์ท้อใจและกลัว ไม่กล้าก่อสร้าง 5ยิ่งกว่านั้น เขายังติดสินบนข้าราชการeบางคน ให้ขัดขวางแผนการก่อสร้างตลอดรัชสมัยของกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซีย จนถึงรัชสมัยของกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซีย

 

ชาวสะมาเรียขัดขวางการก่อสร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่f

            6ในรัชสมัยกษัตริย์อาหสุเอรัส เมื่อเริ่มรัชสมัยg ชนท้องถิ่นhเขียนสารกล่าวหาชาวยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็ม

          7และในรัชสมัยของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสi บิชลาม มิทเรดาท ทาเบเอลและเพื่อนข้าราชการเขียนสารไปทูลกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งเปอร์เซียกล่าวหากรุงเยรูซาเล็มj สารนั้นเขียนด้วยอักษรอาราเมอิกเป็นภาษาอาราเมอิก

          8เรคูมผู้ปกครองแคว้นk และชิมชัยอาลักษณ์ เขียนสารฉบับหนึ่งถึงกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสปรักปรำชาวกรุงเยรูซาเล็ม

9ผู้ลงนามสารฉบับนี้มีดังต่อไปนี้ เรคูมผู้ปกครองแคว้น ชิมชัยอาลักษณ์และบรรดาเพื่อนข้าราชการ ผู้พิพากษา ผู้ตรวจราชการ ข้าราชการชาวเปอร์เซีย ชาวเอเรก ชาวบาบิโลน ชาวสุสา คือชาวเอลาม 10และชนชาติอื่นๆ ซึ่งกษัตริย์โอสนัปปาร์ผู้ยิ่งใหญ่และเรืองนามทรงสั่งให้ย้ายจากบ้านเกิดเมืองนอนมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองต่างๆ ของแคว้นสะมาเรีย และดินแดนที่เหลือของแคว้นทางด้านตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติสl

11ข้อความในสาสน์ที่เขาส่งไปมีดังนี้ “ข้าราชบริพารที่อยู่ในแคว้นทางด้านตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส 12บัดนี้ ขอพระราชาทรงทราบว่าชาวยิวที่พระองค์ทรงส่งกลับมาอยู่กับข้าพเจ้าทั้งหลายที่กรุงเยรูซาเล็มนั้น กำลังก่อสร้างเมืองชั่วร้ายที่มักเป็นกบฏขึ้นใหม่ เขากำลังบูรณะรากฐานและสร้างกำแพงเมืองอีก 13บัดนี้ ขอพระราชาทรงทราบว่า ถ้าเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และกำแพงเมืองสร้างเสร็จแล้ว เขาก็จะไม่ยอมส่งเครื่องบรรณาการ ไม่ยอมเสียภาษี ไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียม และเงินรายได้ของหลวงก็จะลดน้อยลงm 14ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นหนี้บุญคุณต่อราชบัลลังก์ ไม่ปรารถนาจะเห็นการล่วงละเมิดเช่นนี้ต่อพระองค์ จึงส่งสารฉบับนี้มากราบทูลให้ทรงทราบ 15ขอพระองค์ทรงสั่งให้ค้นหาหนังสือบันทึกของบรรพบุรุษของพระองค์ แล้วจะทรงพบในหนังสือบันทึกนี้ว่า เมืองนี้เป็นเมืองกบฏ ทำให้กษัตริย์ต้องทรงเดือดร้อนพร้อมกับบรรดาผู้ปกครองแคว้นต่างๆ การกบฏเช่นนี้เคยเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว เพราะเหตุนี้เอง กรุงเยรูซาเล็มจึงถูกทำลาย 16ข้าพเจ้าทั้งหลายขอกราบทูลพระราชาให้ทรงทราบว่า ถ้าเมืองนี้สร้างขึ้นใหม่ และกำแพงเมืองสร้างเสร็จ พระองค์ก็จะไม่มีอำนาจปกครองในแคว้นตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติสอีกเลย”

17กษัตริย์ทรงส่งพระราชสาสน์ตอบไปว่า

“ขอส่งความปรารถนาดีถึงเรคูมผู้ปกครองแคว้น ถึงชิมชัยอาลักษณ์และเพื่อนที่อยู่ในแคว้นสะมาเรีย และในส่วนอื่นของแคว้นทางด้านตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส 18บัดนี้ สารที่ท่านทั้งหลายส่งมาถึงเรา ได้แปลอย่างละเอียดและอ่านให้เราฟังแล้ว 19เราจึงสั่งให้สอบสวนและพบว่าตั้งแต่สมัยโบราณ เมืองนี้ได้กบฏต่อกษัตริย์ มีการปลุกปั่นก่อกวนให้เกิดความวุ่นวายขึ้น 20เคยมีกษัตริย์ทรงอำนาจครองราชย์ที่กรุงเยรูซาเล็ม และทรงปกครองเขตแดนทั้งหมดด้านตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติสn ซึ่งถวายเครื่องบรรณาการ ค่าธรรมเนียมและภาษีแด่พระองค์ 21ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงสั่งให้คนเหล่านั้นหยุดงานก่อสร้าง เมืองนั้นจะต้องไม่สร้างขึ้นใหม่จนกว่าเราจะสั่ง 22จงระวัง อย่าละเลยในเรื่องนี้ มิฉะนั้น กษัตริย์จะต้องได้รับความเสียหายมากยิ่งขึ้น”

23เมื่ออ่านพระราชสาสน์ของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสให้เรคูมผู้ปกครองแคว้นo ชิมชัยอาลักษณ์และเพื่อนข้าราชการแล้ว เขาทั้งหลายก็รีบไปที่กรุงเยรูซาเล็ม ใช้กำลังทหารบังคับให้ชาวยิวระงับงานก่อสร้าง

 

การก่อสร้างพระวิหารหลังใหม่ ปี 520-515 ก.ค.ศ.

            24งานก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็มจึงต้องหยุดชะงัก จนถึงปีที่สองในรัชสมัยกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซียf

 

4 a ฮกก 1:2 กล่าวหาชาวยิวที่ไม่สนใจก่อสร้างพระวิหารให้เสร็จ งานจึงค้างอยู่ตั้งแต่ปี 538 จนถึงปี 520 ก่อน ค.ศ. แต่ผู้เขียนกล่าวหาว่าการไม่ได้ก่อสร้างนี้เกิดจากการขัดขวางของชาวสะมาเรีย

b “เศรุบบาเบล” สำเนาโบราณภาษากรีกบางฉบับเสริมว่า “และเยชูวา”

c “ถวายเครื่องบูชา” แปลตามสำนวนแปลโบราณภาษากรีกและซีเรียค และตามคำแนะนำให้อ่าน (qere) ในต้นฉบับภาษาฮีบรู แต่ตัวบทจริงภาษาฮีบรูเขียนว่า “ไม่ได้ถวายเครื่องบูชา”

d “กษัตริย์เอสารฮัดโดน...นำพวกเรามาอยู่ที่นี่” การอพยพเชลยศึกครั้งนี้คงเกี่ยวข้องกับการที่กษัตริย์เอสารฮัดโดนทรงยกทัพมาโจมตีอียิปต์และยึดได้เมืองไทระในปี 671 ก่อน ค.ศ.

e “ติดสินบนข้าราชการ” คงหมายถึงข้าราชการเปอร์เซียซึ่งปกครองดูแลแคว้นสะมาเรีย

f ตั้งแต่ตรงนี้เริ่มเอกสารภาษาอาราเมอิก ซึ่งจะไปจบลงที่ 6:18 กระนั้นก็ดี ผู้เขียนพงศาวดารสรุปเรื่องราวไว้เป็นภาษาฮีบรูในข้อ 6-7

g “เมื่อเริ่มรัชสมัย” ตรงกับปลายปี 486 หรือต้นปี 485 ก่อน ค.ศ.

h “ชนท้องถิ่น” หมายถึง คนพวกเดียวกับที่กล่าวถึงในข้อ 4

i “กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส” หมายถึงกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสที่ 1 ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ปี 464 ถึง 423 ก่อน ค.ศ.

j “กล่าวหากรุงเยรูซาเล็ม” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูยังอาจแปลได้อีกว่า “โดยเห็นพ้องกับมิทเรดาท

k “ผู้ปกครองแคว้น” ดูข้อ 17 ** กรุงสะมาเรียเป็นเมืองหลวงของแคว้นสะมาเรียแห่งอาณาจักรเปอร์เซีย แคว้นยูดาห์ในขณะนั้นจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแคว้นสะมาเรีย ดังนั้น ผู้ปกครองแคว้นสะมาเรียจึงมีอำนาจปกครองกรุงเยรูซาเล็มด้วย

l “เมืองต่างๆ” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาอาราเมอิกว่า “เมือง” (เอกพจน์) ** รายชื่อชาวสะมาเรียผู้ร้องเรียนรวมรายชื่อของข้าราชการชั้นสูงที่ปกครองแคว้น ข้าราชการชาวเปอร์เซียชั้นผู้นำ และหัวหน้าชนแต่ละกลุ่มที่ถูกนำมาตั้งหลักแหล่งจากประเทศต่างๆ

m “เงินรายได้ของหลวงก็จะลดลง” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาอาราเมอิกว่า “ท่านจะทำร้ายพระราชา”

n “เขตแดนทั้งหมดด้านตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส” ข้อความนี้จงใจขยายขนาดของอาณาจักรที่กษัตริย์ดาวิดและซาโลมอนทรงปกครอง

o “ผู้ปกครองแคว้น” แปลตามสำเนาโบราณภาษาฮีบรู (=อาราเมอิก) 1 ฉบับ ตามต้นฉบับภาษากรีกบางฉบับ และสำนวนแปลโบราณภาษาซีเรียค ต้นฉบับภาษาอาราเมอิกละคำนี้

f ข้อนี้เป็นข้อความที่ผู้เขียนเชื่อมข้อความต่อไปกับ 4:5

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก