วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2016
สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน วว 4:1-11 / ลก 19:11-28
ในปี 1947 มีคนเลี้ยงแกะคนหนึ่ง ได้พบม้วนหนังสัตว์ของทะเลแดงที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ม้วนหนังสัตว์ดังกล่าวได้ลอกข้อความจากพระคัมภีร์ ลงไปเมื่อประมาณ 2000 ปีที่แล้ว และเชื่อว่าพระเยซูเจ้าได้อ่านข้อความด้วยตัวของพระองค์เอง เด็กเลี้ยงแกะคนนั้นได้ขายม้วนหนังสัตว์ แก่ช่างทำหนังสัตว์ที่เบธเลเฮมด้วยราคาที่ถูกมาก
ต่อมาเขาคิดจะใช้ม้วนหนังสัตว์ เพื่อซ่อมรองเท้า แต่เขาคิดว่าม้วนหนังสัตว์นั้นเป็นของที่มีคุณค่ามาก จึงได้นำไปมอบให้แก่ผู้ที่สนใจศีกษาเรื่องพระคัมภีร์ ม้วนหนังสัตว์ที่เรารู้จักในปัจจุบันนี้ คือ สำเนาของพระคัมภีร์ ที่เรายอมรับว่าเป็นพระวาจาของพระเป็นเจ้า และยังช่วยให้นักศึกษาพระคัมภีร์ ให้กำหนดว่าพระคัมภีร์ปัจจุบันนี้เป็นของแท้
ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้ทรงเล่าเรื่อง บุรุษตระกูลสูงผู้หนึ่ง ที่จะออกเดินทางไปเมืองไกล จึงได้เรียกคนใช้เข้ามา และมอบเงินให้คนแรกสิบมินา คนที่สองห้ามินา และคนสุดท้ายหนึ่งมินา พลางสั่งให้นำเงินไปทำประโยชน์จนกว่าเขาจะกลับมา สิ่งที่สำคัญสำหรับเรื่องนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่แต่ละคนได้รับ แต่ขึ้นอยู่กับการนำเงินที่ได้รับนั้นไปทำประโยชน์ได้แค่ไหน คนใช้สองคนแรกได้นำเงินไปทำประโยชน์ได้กำไรสองเท่า มีแต่คนที่สามที่ไม่ได้นำเงินไปทำประโชยน์อันใด เช่นเดียวกันพระเป็นเจ้า ได้มอบพระพรพิเศษให้แก่เราแต่ละคนแตกต่างกันไป ในบั้นปลายของชีวิต เราจะต้องรายงานว่าเราได้ใช้พระพรที่ได้รับมานั้นอย่างไร เราสามารถจะใช้มันให้เป็นประโยชน์ หรือทำให้สูญเปล่า และเราต้องจำไว้ว่า ทุกสิ่งที่เราทำขณะที่อยู่บนโลกนี้ จะส่งผลสำหรับชีวิตนิรันดร “เพราะฉะนั้น ถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเงินทอง ของโลกธรรมแล้ว ผู้ใดจะวางใจมอบสมบัติแท้จริงให้ท่านดูแลเล่า” (ลก 16:11)...
"ผมต่อสู้กับความซื่อสัตย์ในทุกๆวันของชีวิต"...
"ความซื่อสัตย์ คือแก่นแท้ของความสำเร็จทั้งมวล"...
"คุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง นอกจากสิ่งที่คุณทำนั้นมีความซื่อสัตย์ และยึดหลักคุณธรรมเป็นรากฐาน"...
"กิจการทั้งมวล ความซื่อสัตย์สำคัญสุด"...
"จงซื่อสัตย์ต่อตนเอง เช่นเดียวกับที่ซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น"..