วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2017
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา
ฮบ13:15-17,20-21. / มก 6:30-34
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก
เวลานั้น บรรดาอัครสาวกกลับมาเฝ้าพระเยซูเจ้าและทูลรายงานให้ทรงทราบถึงทุกสิ่งที่เขาได้ทำและได้สอนพระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด”
เพราะมีคนไปมาจนเขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะกินอาหารพระเยซูเจ้าจึงทรงลงเรือไปยังที่สงัดตามลำพังพร้อมกับบรรดาอัครสาวกประชาชนหลายคนเห็นพระเยซูเจ้ากับบรรดาอัครสาวกแล่นเรือออกไปก็คาดคะเนได้ว่าพระองค์จะทรงไปที่ใดจึงรีบเดินเท้าออกจากเมืองต่างๆไปที่นั่นและไปถึงก่อนเมื่อเสด็จขึ้นจากเรือทรงแลเห็นประชาชนจำนวนมากก็ทรงสงสารเพราะเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยงพระองค์จึงทรงเริ่มสั่งสอนเขาหลายเรื่อง
(พระวาจาของพระเจ้า)
-----------
การเป็นผู้น้อย ลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา สอนเราเรื่อง "ความเชื่อฟัง"
เพราะความเชื่อฟัง ทำให้เรา "ก้าวหน้า" ในความเชื่อเพราะเหตุว่า เรามีบุคคลชี้แนะ บอกทาง นำไปเป้าหมาย และปรับเปลี่ยนแนะนำ
ที่เป็น "กระบวนของความเชื่อ ที่เติบโตได้ เพราะความเชื่อ อยู่ในบุคคล เสริมสร้างด้วยบุคคล และก้าวหน้าไปยังเป้าหมายด้วยการตกแต่งแนะนำจากการอยู่ร่วมกับบุคคล" เป็นความหมายของพระอาณาจักรสวรรค์
ดังนั้น อย่าท้อใจ ถ้ามีคำแนะนำที่เข้มงวด
อย่าเสียใจ ถ้ามีคำชี้แนะที่โดนใจดำ
อย่าปล่อยมือ ปล่อยใจไปตามอารมณ์ เมื่อมีคำคมโดนกระทบใจ จากผู้ใหญ่ จากใครก็ตาม ที่หวังดีและปรารถนาดีต่อพี่น้องและตัวเรา
ตามจดหมายถึงชาวฮีบรูบอกว่า "
"จงเชื่อฟังและอยู่ใต้อำนาจผู้นำของท่านเพราะเขาเหล่านั้นคอยเอาใจใส่ดูแลวิญญาณของท่านเสมือนผู้ที่ต้องเสนอรายงานเพื่อให้เขาทำงานนี้ด้วยความยินดีมิใช่ด้วยความเศร้าซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์อะไรสำหรับท่านเลย"
ดังแบบอย่างของพระเยซูเจ้าที่ทรงหวังดีและสอนบรรดาศิษย์ "ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด” เพราะมีคนไปมาจนเขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะกินอาหารพระเยซูเจ้าจึงทรงลงเรือไปยังที่สงัดตามลำพังพร้อมกับบรรดาอัครสาวก"
ที่มีคำแนะนำ มีความเชื่อ
ที่มีคำชี้แนะ มีความปรารถนาดีที่จะเสริมสร้าง
ที่มีผู้ใหญ่ เรามีแนวทางเพื่อบรรลุความรอดพ้น