“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

พระคัมภีร์และงานคริสตศาสนิกสัมพันธ์

46.      พระศาสนจักรตระหนักอยู่เสมอว่าตนตั้งรากฐานอยู่บนพระคริสตเจ้า พระวจนาตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ สมัชชานี้จึงอยากเน้นความสำคัญของการศึกษาพระคัมภีร์ให้เป็นหลักของการเสวนาคริสตศาสนิกสัมพันธ์ โดยมุ่งจะให้เกิดเอกภาพสมบูรณ์ของทุกคนที่มีความเชื่อในพระคริสตเจ้า[1] ในพระคัมภีร์เอง เราพบคำภาวนาน่าประทับใจของพระเยซูเจ้าต่อพระบิดาขอให้ศิษย์ทุกคนของพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อโลกจะได้มีความเชื่อ (เทียบ ยน 17:21) ทุกสิ่งเหล่านี้ทำให้เรามั่นใจและเตือนให้เราฟังและตระหนักร่วมกันว่าพระคัมภีร์เชิญชวนให้เราดำเนินชีวิตมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้จะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม[2] "เพราะฉะนั้น การฟังพระคัมภีร์ร่วมกันจึงช่วยให้เกิดมีการเสวนาด้วยความรัก และเพื่อแสวงหาความจริงมากยิ่งขึ้น"[3] การร่วมฟังพระวาจาด้วยกัน การทำ lectio divina โดยใช้พระคัมภีร์ การรู้สึกพิศวงต่อความใหม่ของพระวาจาซึ่งไม่มีวันเก่าหรือเหือดแห้งไป  ล้วนช่วยให้เราเอาชนะความหูหนวกไม่ยอมฟังถ้อยคำที่ไม่ตรงกับความเห็นหรืออคติของเรา เป็นการฟังและพิจารณาพระวาจาภายในขอบข่ายของความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีความเชื่อในทุกสมัย ทั้งหมดนี้เปิดทางที่จะต้องเดินเพื่อเข้าหาเอกภาพในความเชื่อเป็นการตอบสนองต่อการฟังพระวาจา[4] ถ้อยคำของสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 เกี่ยวกับเรื่องนี้จึงมีความสำคัญมาก "ในการเสวนา(เรื่องคริสตศาสนิกสัมพันธ์)พระวาจาในพระคัมภีร์เป็นเครื่องมือที่มีค่ายิ่งในพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อบรรลุถึงเอกภาพที่พระผู้ไถ่ทรงเสนอแก่มวลมนุษย์"[5] เพราะฉะนั้นจึงควรเพิ่มการศึกษา การแลกเปลี่ยนความคิด และการเฉลิมฉลองพระวาจาร่วมกันระหว่างคริสตชนต่างนิกาย โดยให้ความเคารพและรักษากฎเกณฑ์และธรรมประเพณีต่างๆที่ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ต่อไป[6] การเฉลิมฉลองเหล่านี้ล้วนส่งเสริมคริสตศาสนิกสัมพันธ์ และถ้าดำเนินไปอย่างเหมาะสม ย่อมแสดงออกถึงช่วงเวลาการอธิษฐานภาวนาที่แท้จริง เพื่อวอนขอพระเจ้าให้ทรงเร่งวันเวลาที่ทุกคนปรารถนา ที่ทุกคนอาจเข้ามาร่วมโต๊ะเดียวกันและดื่มจากถ้วยเดียวกันได้ ถึงกระนั้น แม้ว่าการส่งเสริมการเฉลิมฉลองพระวาจาเช่นนี้ถูกต้องและน่าสรรเสริญ แต่ก็ต้องระวังไม่เสนอแก่บรรดาสัตบุรุษให้เป็นกิจกรรมที่มาทดแทนการร่วมพิธีบูชามิสซาในวันอาทิตย์หรือวันฉลองบังคับ

ในงานศึกษาและอธิษฐานภาวนานี้ เรามีใจสงบยอมรับความเห็นที่ยังต้องการให้มีการค้นคว้าลึกซึ้งยิ่งขึ้น หรือที่ยังมีความแตกต่างกันอยู่อีกมาก เช่นความเข้าใจเรื่องผู้มีอำนาจในการอธิบายความหมายพระคัมภีร์ในพระศาสนจักร และบทบาทในการตัดสินของผู้มีอำนาจสอนของพระศาสนจักร[7]

ข้าพเจ้ายังใคร่จะเน้นเรื่องที่บรรดาพระสังฆราชแห่งสมัชชากล่าวไว้  ถึงความสำคัญในด้านคริสตศาสนิกสัมพันธ์ คือการแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาต่างๆ เราทราบดีว่าการแปลข้อความไม่เป็นเพียงการทำงานอย่างเครื่องจักร แต่ในด้านหนึ่งยังเป็นส่วนหนึ่งของงานอธิบายความหมายด้วย ในเรื่องนี้ เราควรคิดถึงถ้อยคำของผู้รับใช้ของพระเจ้า***สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ด้วยที่ว่า "ผู้ที่ยังจำได้ว่าการโต้เถียงเรื่องพระคัมภีร์อาจทำให้เกิดความแตกแยกได้มากเพียงไร โดยเฉพาะในพระศาสนจักรทางตะวันตก จะเข้าใจได้ว่าการแปลพระคัมภีร์ร่วมกันเช่นนี้นับเป็นก้าวใหญ่ไม่น้อยเข้ามาพบกัน"[8] การส่งเสริมให้มีการร่วมมือกันแปลพระคัมภีร์จึงเป็นส่วนหนึ่งของงานคริสตศาสนิกสัมพันธ์ ข้าพเจ้าจึงอยากขอบใจทุกคนที่รับผิดชอบในงานสำคัญนี้และให้กำลังใจให้มั่นคงในความพยายามของตน



[1] ถึงกระนั้นยังต้องสังเกตด้วยเกี่ยวกับหนังสือในพันธสัญญาเดิมที่เรียกว่า "สารบบที่สอง" และเรื่องการได้รับการดลใจของหนังสือเหล่านี้ว่าชาวคาทอลิกและออร์โธด๊อกซ์มีสารบบพระคัมภีร์ไม่เหมือนกับชาวอังกลิกันและโปรแตสตันท์

[2] Cf. Relatio post disceptationem, 36.

[3] Propositio 36.

[4] Cf. Benedictus XVI, Allocutio ad XI Ordinarium Consilium Secretariae Generalis Synodi Episcoporum (25 Ianuarii 2007): AAS 99 (2007), 85-86.

[5] Conc.Oecum.Vat.II, Decr.de Oecumenismo Unitatis redintegratio, 21.

[6] Cfr Propositio 36.

[7] Cfr Conc.Oecum.Vat.II, Const.dogm.de divina Revelatione Dei Verbum, 10.

*** "ผู้รับใช้ของพระเจ้า" -- สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงได้รับแต่งตั้งเป็น "บุญราศี" แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2011 - -(ผู้แปล)

[8] Litt.enc. Ut unum sint (25 Maii 1995), 44: AAS 87 (1995), 947.

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก