"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 28 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
วันนี้ อยากให้อ่านพระวาจาบทแรกเป็นพิเศษ เป็นบทที่เป็นจุดหมุนของชีวิต คือ “ความเชื่อ”
ปฐม 15:1-12,17-18….

1หลังจากนั้น พระวาจาของพระยาห์เวห์ได้มาถึงอับรามในนิมิตว่า
“อับรามเอ๋ย อย่ากลัวเลย
เราเป็นโล่ป้องกันท่าน
บำเหน็จรางวัลของท่านจะยิ่งใหญ่มาก”

2แต่อับรามทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ข้าพเจ้าเล่า ถ้าข้าพเจ้ายังคงไม่มีบุตรเอลีเอเซอร์ ชาวดามัสกัสก็จะเป็นผู้รับมรดกของข้าพเจ้า 3อับรามทูลอีกว่า “พระองค์ไม่ได้ประทานบุตรให้แก่ข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นบ่าวที่เกิดในบ้านของข้าพเจ้าก็จะได้รับมรดก” 4แล้วพระวาจาของพระยาห์เวห์มาถึงอับรามอีกว่า “บ่าวผู้นี้จะไม่เป็นผู้รับมรดกของท่าน แต่บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก” 5พระองค์ทรงพาอับรามออกไปข้างนอก แล้วตรัสว่า “จงมองดูท้องฟ้า นับจำนวนดวงดาวเถิด ถ้าท่านนับได้” พระองค์ทรงเสริมว่า “ลูกหลานของท่านจะมีจำนวนมากมายเช่นนี้” 6อับรามเชื่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขา
7พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เราคือพระยาห์เวห์ ผู้พาท่านออกจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย เพื่อจะมอบแผ่นดินนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของท่าน” 8อับรามทูลตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะทราบได้อย่างไรว่า แผ่นดินนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของข้าพเจ้า” 9พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงนำลูกโคตัวเมีย อายุสามปี แพะตัวเมียอายุสามปี และแกะตัวผู้อายุสามปี นกเขาและนกพิราบอย่างละตัว มาให้เรา” 10อับรามก็ไปนำสัตว์เหล่านี้ทั้งหมดมา ผ่าครึ่งตัววางไว้ตรงกันเป็นสองแถว แต่ไม่ได้ผ่านก 11เมื่อแร้งบินลงมาที่ร่างสัตว์เหล่านี้ อับรามก็ไล่มันไป
12ขณะที่ดวงอาทิตย์จวนจะตก อับรามก็หลับสนิท ความมืดมิดที่น่ากลัวอย่างยิ่ง มาครอบคลุมเขาไว้ 17เมื่อดวงอาทิตย์ตกและมืดลงแล้ว ก็มีหม้อไฟที่มีควันพวยพุ่งและคบเพลิงที่ลุกอยู่ลอยผ่านระหว่างกลางสัตว์ที่ผ่าซีกเหล่านั้น 18ในวันนั้นพระยาห์เวห์ทรงกระทำพันธสัญญาไว้กับอับรามว่า “เรามอบแผ่นดินนี้ให้แก่ลูกหลานของท่าน ตั้งแต่แม่น้ำแห่งอียิปต์ ไปจนถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• ปฐมกาลบทที่ 15 เป็นบทที่พ่อโดยส่วนตัวรักมากๆเป็นพิเศษ เพราะได้บรรยายและได้สอนเรื่องนี้หลายครั้ง เรียกว่า นับครั้งไม่ถ้วนจริงๆ และมีประเด็นที่ชวนให้ศึกษาไตร่ตรองมากๆ มากจริงๆ ปฐมกาลบทนี้เขียนขึ้นหลังเนรเทศที่บาบิโลน เป็นการเขียนขึ้นเพื่อให้กำลังใจอย่างมากในความหวาดกลัว กลัวถึงอนาคตที่ลูกหลานอิสราเอลหรือลูกหลานของอับราฮัมกำลังสิ้นหวังอยู่ที่บาบิโลน ไม่มีพระวิหาร ไม่มีแผ่นดินแห่งพันธสัญญาเพราะพวกเขาต้องเนรเทศไป เยรูซาเล็มถูทำลายราบเป็นหน้ากลองทีเดียว แล้วอนาคต แล้วพระสัญญา จะเป็นอย่างไรต่อไป...

• บรรดาลูกหลานคิดถึงประสบการณ์ความสิ้นหวังของอับราฮัมบรรพบุรุษ ในสมัยที่พระเจ้าทรงเรียกท่าน พระเจ้าทรงเรียก ทรงสัญญา เป็นพระเจ้าแห่งพันธสัญญา ดั้งนั้นในความสิ้นหวัง ในความเป็นไปไม่ได้ ในความไม่มีอนาคต อับราฮัมเผชิญความจริงนี้อย่างไร อับราฮัมสามารถผ่านไปได้อย่างอะไร และพระเจ้ามีบทบาทอย่างไร...

คำตอบอยู่ในปฐมกาลบทที่ 15 จริงๆ สวยงามมากๆ พ่อจะให้อรรถาธิบายให้ได้พิจารณาไตร่ตรองด้วยกันนะครับ...
• อับราฮัมไม่มีบุตร และที่สำคัญ โลทหลานชายของอับราฮัมได้แยกจากโลทไปแล้ว เพราะความร่ำรวยและมีทรัพย์สมบัติมาก และเพราะความใจกว้างของอับราฮัมให้โลทเลือกแผ่นดินที่ต้องการ...

• แต่ผลตามมาคืออับราฮัมกับซารายหรือซาราห์ยังไม่มีบุตรและเขาก็ชรามากๆ มากจริงๆ และที่แย่กว่านั้น “จนตรอก จนมุม จนใจ จนความสามารถ” คือ ซาราห์เป็นหมันด้วย... จบกัน จบจริงๆ แล้วจะทำอย่างไรจริงๆ ทำอย่างไรกับอนาคตที่สิ้นหวัง หมดทางเดิน เดินต่อไปไม่ได้ เพราะ “ความจำกัด ความไม่สามารถ ความเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน จนตรอกที่สุด และจนอนาคตที่สุดแล้ว...

• แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับอับราฮัมในนิมิตว่า “อับรามเอ๋ย อย่ากลัวเลย เราเป็นโล่ป้องกันท่าน บำเหน็จรางวัลของท่านจะยิ่งใหญ่มาก” สรุปคือ “พระเจ้าคือคำตอบตลอดไป พระองค์คือความเป็นไปได้ พระองค์คือที่กำบัง เป็นโล่ป้องกัน มีพระเจ้าเป็นกำลัง ดังนั้น คำปลอบใจสำคัญคือ อย่ากลัว อย่ากลัว อย่ากลัว” ไม่มีอะไรต้องกลัวถ้ามีพระเจ้า
o และดูเหมือนว่าอับราฮัมจะตัดพ้อพระเจ้า พระองค์จะประทานอะไรให้ถ้าท่านยังไม่มีบุตร... เอลีเอเซอร์หรือบ่าวที่เกิดในบ้านข้าพเจ้าก็จะเป็นผู้รับมรดก.. อับราฮัมดูเหมือนจนมุมจริง ท่านมองเห็นว่า บ่าวหรือคนใช้ในบ้านจะเอาทุกอย่างไป ท่านไม่มีบุตร ไม่มีอนาคตจะรักษาอะไรต่อไปได้อีก... แต่พระเจ้ายืนยันกับท่าน... “บ่าวผู้นี้จะไม่เป็นผู้รับมรดกของท่าน แต่บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก”
o พระเจ้ายืนยัน... บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก... โอ จะเป็นไปได้อย่างไร จะเชื่อได้อย่างไร อับราฮัมชรามากอายุกว่าเจ็ดสิบห้าปีแล้ว และซารายก็กว่าหกสิบห้าปีแล้ว
o และที่สำคัญนางเป็นหมัน แปลว่าไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลยตามธรรมชาติมนุษย์ ตามความสามารถของอับราฮัมและซารายก็สิ้นหวังที่สุดแล้วอย่างที่พ่อย้ำ จนตรอกที่สุดแล้ว ทางตัน ครรภ์ของนางซารายปิดสนิทที่จะให้กำเนิดบุตรจริงๆ ไม่มีความเป็นไปได้แต่ประการใด และไม่ต้องเลย แม้พยายามอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นผล เพราะเรียกว่า ครรภ์ขอนางซารายปิดสนิทเสียแล้ว....
o พี่น้องครับ พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมมีเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ชายชราและหญิงชราที่เป็นหมัน... สิ้นหวัง แต่ที่สุด ก็มีบุตรในที่สุด... เพราะพันธสัญญาเดิมยืนยันว่า “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า” จริงๆนะครับ

• ปฐมกาลเล่าต่อว่า “พระองค์ทรงพาอับรามออกไปข้างนอก แล้วตรัสว่า “จงมองดูท้องฟ้า นับจำนวนดวงดาวเถิด ถ้าท่านนับได้””
o อับราฮัมอยู่ข้างในบ้านหรือ อยู่ในกระโจมหรือ พระเจ้าจึงพาท่านออกไปข้างนอก และให้นับดวงดาว เป็นภาษาวรรณกรรมแบบ Hyperbole คือพูดเกินสุดๆเพื่อให้เห็นว่า ท่านจะมีบุตรและมีลูกหลานมากมายแบบที่นับไม่ไหวเลยจริงๆ... ยืนยันเด็ดขาดว่า จะต้องเป็นไปได้... ส่วนท่านออกไปข้างนอกกระโจมหรือ???
o เท่านี้หรือ... มีความคิดทางพระคัมภีร์และความคิดของพ่อเองด้วย... อาจจะมากกว่าออกไปข้างนอกกระโจมแน่ๆ พ่อคิดว่า นี่คือการพาออกไปจาก “ความจำกัด ออกไปจากความคิด ความสามารถ เรียกว่าออกจากกระโหลกแห่งความคิดความสามารถของอับราฮัม... ไปดูท้องฟ้าที่เป็นรูปโดมกลมเป็นดังกะโหลกที่ยิ่งใหญ่กว่าความคิดปัญญาของอับราฮัม..” การพาออกไปข้างนอกจึงมีความหมายมาก ออกไปจากความจำกัดของอับราฮัม ไปสู่... สู่ความสามารถ และไปยังพลานุภาพของพระเจ้าที่ไม่จำกัดแต่ประการใดเลย

• หัวใจของเรื่องบุตรและความเป็นไปไม่ได้สำหรับอับราฮัม และจะเป็นไปได้อย่างแน่นอน.. คือ ข้อที่ 6 ของปฐมกาลบทที่ 15 นี้เอง... นั่นคือ “อับรามเชื่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขา”

• ใช่เลยครับ “ความเชื่อ ความเชื่อ ความเชื่อ” จริงๆ ด้วย อับราฮัมหรืออับรามเชื่อยาห์เวห์ “เชื่อ” ทั้งๆที่ “ไม่น่าเชื่อ” ด้วยความเชื่อหรือความสามารถของตนเอง ก็เพราะความเชื่อ มีฐานรากไม่ได้อยู่ที่ความสามารถของตนเอง หรือฐานรากอยู่ที่ความสามารถของมนุษย์ แต่ความเชื่อ มีฐานรากลึกของความเชื่ออยู่ที่ “พระเจ้า” ต่างหาก...

• สรุปได้ว่า สำหรับเราทุกคน “ความเชื่อ” คือเราเชื่อในพระองค์ คือ เราไม่ได้เชื่อความสามารถของเรา แต่เราเชื่อในพระวาจาในคำสัญญาและในความสามารถของพระองค์ พระองค์คือรากลึกแห่งความเชื่อของเรา คือความมั่นคงของเรามนุษย์ผู้มีศรัทธาและมีความเชื่อในพระองค์...

• พี่น้องที่รัก “ความเชื่อ” ชัดเจนไหมครับ...
o เราเชื่อพระเจ้า ฐานรากของเราต้องอยู่ที่พระเจ้าสิครับ ไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา ความคิดเรา ความสามารถที่จำกัดของเรา วันนี้คงอธิบายปฐมกาล 15 ได้เพียงหกข้อนั้นครับ เพราะส่วนที่เหลือคือเรื่องการทำพันธสัญญาเรื่องที่จะได้แผ่นดินเป็นมรดก พ่อคงไม่สามารถให้อรรถธิบายทั้งหมดจะเป็นการทรมานผู้อ่านหรือผู้ฟังเกินไป
o พระวาจาวันนี้ กุญแจสำคัญขอยู่ที่ข้อที่ 6 ดังกล่าวคือ “อับราฮัมเชื่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงถือว่าความเชื่อนี้คือความชอบธรรมสำหรับท่าน...”

• พี่น้องที่รักครับ วันนี้พระวาจาจากปฐมกาลบทที่ 15 ที่เราได้อ่าน ได้ฟัง พ่อมั่นใจว่าฟังแล้วอิ่มใจ และมีความชัดเจนครับ ชัดมากๆ วันนี้เราได้พิจารณาไตร่ตรองเรื่องความเชื่อของเรา โดยเฉพาะยามที่เราจนมุม จนตรอก และสิ้นหวัง เดินต่อไปไม่ได้ แล้วใครบอกว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเรามีความเชื่อในพระเจ้า... พ่อขอให้พระวาจาวันนี้เสริมความเชื่อของเรานะครับ ถ้าจำกัดมาก ไปต่อไม่ไหวด้วยความคิดของเรา... แต่ แต่ ยอมให้พระเจ้าพาเราออกไปข้างนอกครับ นอกความจำกัดของเรา นอกความจำกัดทางปัญญา ความคิดอ่านของเราบ้าง พึ่งพระเจ้า วางใจในพระองค์ เพราะไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับพระองค์โดยเด็ดขาด

• พ่อเชิญชวนให้เราภาวนาเพื่อขอความเชื่อ... ขอให้เราเชื่อในพระองค์ แม้ในยามที่เราหมดหนทางจริงๆ เพราะชีวิตของเราทุกคนที่สุดจะหมดหนทางตามกำลังมนุษย์ เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง แต่เราสามารถออกจากความจำกัดของเรา ไปสู่ความไม่จำกัดของพระเจ้า พระองค์สามารถ และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด ไม่มีความจำกัดอย่างใดเลย... ภาวนานะครับ พระองค์คือโล่ป้องกันเรา ทรงเป็นที่กำบังของเราจริงๆ ครับ “เชื่อ ในพระองค์” นะครับ ขอพระเจ้าโปรดให้เราเชื่อในพระองค์มากขึ้นนะครับ ขอพระเจ้าอวยพร...

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก