"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2016
สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา
วว 4:1-11…
1หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นนิมิต ประตูสวรรค์เปิดบานหนึ่ง และข้าพเจ้าได้ยินเสียงที่เคยได้ยินก่อนนั้นดังดุจเสียงแตร พูดกับข้าพเจ้าว่า “จงขึ้นมาข้างบนนี้เถิด ฉันจะชี้ให้ท่านเห็นเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้” 2ทันใดนั้น ข้าพเจ้าก็ตกอยู่ในภวังค์และเห็นพระบัลลังก์องค์หนึ่งตั้งอยู่ในสวรรค์ ผู้หนึ่งประทับอยู่บนพระบัลลังก์นั้น

3พระผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ ทรงมีลักษณะเหมือนเพชรและทับทิมแดง มีรุ้งลักษณะเหมือนมรกต ล้อมรอบพระบัลลังก์ 4พระบัลลังก์มีบัลลังก์อีกยี่สิบสี่องค์ล้อมอยู่ ผู้อาวุโสยี่สิบสี่คน นั่งอยู่บนบัลลังก์เหล่านั้น แต่ละคนสวมเสื้อขาว มีมงกุฎทองคำบนศีรษะ 5ฟ้าแลบฟ้าร้องและเสียงดัง ออกมาจากพระบัลลังก์ มีตะเกียงเจ็ดดวงจุดสว่างอยู่หน้าพระบัลลังก์ ตะเกียงเหล่านี้คือจิตทั้งเจ้า ของพระเจ้า 6ตรงหน้าพระบัลลังก์มีทะเล ใสดุจแก้วผลึก ตรงกลางและรอบ ๆ พระบัลลังก์มีผู้มีชีวิตสี่ตน ซึ่งมีตาเต็มตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังอยู่ตรงกลางและรอบ ๆ พระบัลลังก์ 7ผู้มีชีวิตตนแรกคล้ายสิงโต ตนที่สองคล้ายโค ตนที่สามใบหน้าเหมือนมนุษย์และตนที่สี่คล้ายนกอินทรีกำลังบิน 8ผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนต่างมีปีกหกปีก ตาอยู่รอบตัวและอยู่ใต้ปีก ต่างร้องสรรเสริญตลอดวันตลอดคืนโดยไม่หยุดเลยว่า
ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ
ผู้ทรงดำรงอยู่ในอดีต ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบันและผู้เสด็จมา
9เมื่อผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนถวายคำสรรเสริญ ถวายพระเกียรติ และขอบพระคุณแด่พระองค์ผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์และทรงพระชนม์ตลอดนิรันดรนั้น 10บรรดาผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนจะกราบลงเฉพาะพระพักตร์พระผู้ประทับบนพระบัลลังก์ และนมัสการพระองค์ผู้ทรงพระชนม์ตลอดนิรันดร และจะวางมงกุฎไว้หน้าพระบัลลังก์ พลางทูลว่า
11ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พระองค์ทรงสมควรจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ พระเกียรติและพระอานุภาพ
เพราะพระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง
และทุกสิ่งถูกสร้างและดำรงอยู่
ตามพระประสงค์ของพระองค์

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• หนังสือวิวรณ์บทที่ 4-5 ต้องอ่านคู่กันไป... สองบทนี้ต่อเนื่องและแสดงการเริ่มต้นเป็นเหมือนการ โหมโรงในสวรรค์ เป็นเหมือนดังฉากของการเปิดศาลเพื่อพิพากษา แต่ละข้อความที่เขียนมีความหมายแบบที่เราต้องจินตนาการให้เห็นว่า วิวรณ์กำลังเตือนเราถึงการที่พระเจ้าจะทรงพิพากษา บนสวรรค์ที่หน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้า มีความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าให้ปรากฏ ถึงเราต้องถอดรหัสตีความบางประเด็นเพื่อความเข้าใจครับ... พ่อจะค่อยๆนำเสนอการถอดรหัสนี้นะครับ คำอธิบายความหมายด้านล่างนี้พ่อนำมาจากพระคัมภีร์ในเชิงอรรถนะครับ เพื่อเข้าใจพระคัมภีร์ตอนนี้มากขึ้น
o พระเจ้าผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ พระองค์ทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์จากบรรดาทูตสวรรค์ผู้เฝ้าอยู่ (บทที่ 4) และหลังจากนั้น ภาพนิมิตก็ขยายกว้างออกไปจนครอบคลุมจักรวาลทั้งมวล
o ม้วนหนังสือที่มีตราผนึกอยู่เป็นสัญลักษณ์หมายถึง ชะตากรรมของจักรวาลที่พระเจ้าทรงมอบไว้กับลูกแกะ (บทที่ 5)
o ยอห์นพยายามจะไม่กล่าวถึงพระเจ้าในรูปของมนุษย์ แต่เลือกที่จะบรรยายถึงพระองค์ในรูปของแสงสว่าง ยน วาดภาพนี้ตาม อสค 1 และ 10 (ดู อสย 6)
o อาวุโสเหล่านี้ทั้งหมดที่ปรากฏในภาพลักษณ์นั้น พวกท่านอยู่รอบพระบัลลังก์ของพระเจ้าเช่นเดียวกันกับที่ผู้อาวุโสจะนั่งรอบพระแท่นในพิธีบูชามิสซาของพระศาสนจักรท้องถิ่น ผู้อาวุโสเหล่านี้มีหน้าที่สมณะและกษัตริย์ หน้าที่สมณะคือสรรเสริญและนมัสการพระเจ้า 4:10; 5:9; 11:16,17; 19:4; และถวายคำอธิษฐานภาวนาของสัตบุรุษแด่พระองค์ หน้าที่กษัตริย์คือช่วยพระเจ้าปกครองจักรวาล (บัลลังก์) และมีส่วนในอำนาจปกครองของพระองค์
o มงกุฎจำนวน 24 คงกำหนดขึ้นให้ตรงกับ 24 กลุ่มของสมณะใน (1 พศด 24:1-19)
o เสียงฟ้าร้องมักเกิดควบคู่กับการปรากฏองค์ของพระเจ้า (ดู อพย 19:16 อสค 1:4,13)
o “จิตทั้งเจ็ด” หมายถึง "ทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดที่อยู่เฉพาะพระพักตร์" “ผู้นำสารของพระเจ้า” (เทียบ วว 5:6; ทบต 12:15; ศคย 4:10; ลก 1:26) ในสมัยกลางมีผู้อธิบายว่า “จิตทั้งเจ็ด” นี้ หมายถึง พระคุณเจ็ดประการของพระจิตเจ้า
o "ผู้มีชีวิต" หมายถึง ทูตสวรรค์สี่องค์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลโลก "สี่" เป็นสัญลักษณ์ หมายถึงจักรวาล
o ตาจำนวนมากหมายถึงความรอบรู้และพระญาณสอดส่องของพระเจ้า ผู้มีชีวิตทั้งสี่ถวายพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้าโดยไม่หยุดหย่อนเพราะพระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง ภาพของสิงโต โค มนุษย์และนกอินทรี หมายถึง สิ่งที่สูงส่งที่สุด เข้มแข็งที่สุด ฉลาดที่สุดและรวดเร็วที่สุดในโลก บรรดาปิตาจารย์ตั้งแต่ น.อิเรเนอัสเป็นต้นมาเข้าใจว่า สิ่งมีชีวิตทั้งสี่นี้เป็นสัญลักษณ์ของผู้นิพนธ์พระวรสารทั้งสี่
o คำถวายพระพรที่บรรดาผู้อาวุโสถวายพระพระพร้อมกับชาวสวรรค์หน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้า ยกมาจากอิสยาห์นี้ ชาวยิวได้นำมาใช้ในพิธีกรรมตามศาลาธรรมอยู่แล้ว และต่อมาคริสตชนก็นำมาใช้ในพิธีกรรมของตนด้วย พิธีกรรมบนแผ่นดินนับว่าเป็นการร่วมพิธีกรรมในสวรรค์
o ผู้อาวุโสถวายคารวะแด่พระเจ้า เพราะเขาได้รับอำนาจปกครองจากพระองค์ ในขณะที่บรรดากษัตริย์ของโลกนี้ปฏิเสธไม่ยอมกระทำเช่นนี้ (17:2)

• แล้วบทอ่านวันนี้ต้องการสื่ออะไรสำหรับเรา... คำตอบที่พ่อให้ได้คือ นี่คือการเตือนให้เราทุกคนเห็นว่า
1. พระเจ้าทรงพลังและอำนาจ พระองค์ควรได้รับการสรรเสริญเหนือสิ่งใดๆทั้งสิ้น บรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายก็กราบนมัสการพระองค์ เราทุกคน คริสตชนทุกคน เราควรให้ความเคารพสูงสุดต่อพระเจ้า นมัสการพระเจ้าสูงสุดจริงๆ ด้วยความรักและความจริง
2. พระองค์ทรงพลังและอำนาจ ล้ำค่าล้ำเลิศกว่าอัญมณีและความลำค่าใดๆ พี่น้องที่รักครับ ปลายปีพิธีกรรมเช่นนี้ พ่อคิดว่า เราควรถามตนเองจริงๆ ว่า พระเจ้าทรงเป็นความล้ำค่าสูงสุดสำหรับชีวิตของเราคริสตชนจริงๆไหม เราได้สรรเสริญพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้า และเราได้ใกล้ชิดสนิทกับพระองค์ด้วย “ศรัทธา” จริงๆ ไหมครับ พระเจ้ามีบทบาทสำคัญในชีวิตของเราจริงๆไหม...
3. อากาศเริ่มมีความเย็นลงมาบ้าง แม้ไมหนาวเลยที่กรุงเทพฯหรือภาคกลาง แต่เป็นสัญญาณบอกกับเราว่า กำลังก้าวเข้าสู่ปลายปี ปลายปีพิธีกรรมแล้ว ปีที่ผ่านมา พ่อเขียนบทเทศน์ทุกวันไม่เคยขาดเลย...ไม่ขาดจริงๆ เราได้หลายท่านได้อ่านเยอะมากๆ คำสอนจากพระคัมภีร์เตือนสอนเราให้มีชีวิตพระเจ้าในชีวิตเรา บัญญัติแห่งความรักของพระเจ้าต้องสำคัญที่สุดในการเจริญชีวิตของรา และความจริงของเราแต่ละคน พ่อด้วยครับ ความจริงของเราเป็นเช่นนั้นไหม พระวาจาของพระเจ้าสำคัญที่สุด พระเจ้าสำคัญที่สุดในชีวิตของใช่ไหม???

• พี่น้องที่รักครับ พ่อคิดว่าเป็นโอกาสดีจริงๆที่เราเป็นคริสตชน... เรามีพระคัมภีร์ เรามีพระวาจาขอพระเจ้าที่คอยสอนเรา ค้ำจุนชีวิตของเราทุกวัน พ่อคิดว่าพวกเราโชคดีที่เราได้เป็นคริสตชน พระศาสนจักรได้จัดพระวาจาประจำวันให้เราได้ตระหนัก ได้ไตร่ตรอง ได้สอนชีวิตแก่เราทุกๆวัน และความจริงเรามีบทสอน มีคำเทศน์สอนของพระศาสนจักรถึงพระวาจาของพระเจ้าที่อบรมสั่งสอนเราทุกวันจริงๆ

• พี่น้องทราบไหมครับว่าสำหรับเรา เราอ่านพระคัมภีร์ เราเป็นคริสตชน... เครื่องหมายสำคัญที่เราต้องกระทำ เราต้องมีให้เห็นชัดเสมอคืออะไร... คำตอบคือ.. “กลับใจ กลับใจ กลับใจ” ละทิ้งบาป ละทิ้งกิจการไม่ดีทั้งหลาย และเดินในทางใหม่เสมอไป..
• ปลายปีพิธีกรรมแล้ว เราได้เห็นฉากโหมโรงการตัดสินในสวรรค์จากหนังสือวิวรณ์ เรามาประเมินตนเองและไตร่ตรองความหมายของ “การกลับใจ” กันนะครับ เราจะได้ดีขึ้น น่ารักขึ้น เป็นคริสตชนที่ดีขึ้นเสมอไปอาศัยการได้เชื่อในพระคริสตเจ้าและได้กลับใจเสมอ หรือกล่าวได้ว่า “เราเป็นคริสตชนที่แท้จริง” นั่นเอง
• พี่น้องที่รัก ปี 2015 เป็นปีแห่งการสมัชชาฟื้นฟูเพื่อการประกาศข่าวดีใหม่สำหรับพระศาสนจักรในประเทศไทย... พ่อขอให้เราเตรียมเริ่มปีแห่งการประกาศข่าวดีใหม่ด้วยการกลับใจนะครับ เรามาทำความเข้าใจ “การกลับใจ” สักหน่อยครับ

ความหมาย “การกลับใจ” ตามคำสอนของ Instrumentum Laboris เพื่อสมัชชาใหญฯของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย (ข้อ 23-26)
• “การประกาศข่าวดีใหม่เริ่มต้นที่การกลับใจ” (metanoia) ตัวอย่างอันล้ำเลิศของท่านนักบุญเปาโลบนถนนไปเมืองดามัสกัส (ดู กจ 9, 22, 26) ท่านได้พบกับพระคริสตเจ้าและท่านได้กลับใจ เพราะเหตุนั้นท่านได้เป็นตัวอย่างของการกลับใจจนกลายเป็นพลังแห่งการประกาศข่าวดีใหม่แท้จริง จากเดิมที่เป็นศัตรูกับคริสตชนท่านกลับใจและกลับกลายเป็นผู้ประกาศพระคริสตเจ้าแม้ต้องแลกด้วยชีวิต นักบุญเปาโลได้กลายเป็นอัครสาวกผู้ทรงพลังที่สุดในการประกาศข่าวดีแบบใหม่ด้วยความยินดีใหม่ ด้วยความสดชื่นเสมอ
• ดังนั้นสำหรับเราคริสตชนหลังจากได้ “พบพระเยซูคริสตเจ้า” ทุกอย่างในชีวิตคริสตชนนั้น “จำเป็น” ต้องเปลี่ยนแปลงไปหมดด้วยการกลับใจ (metanoia) เช่นกัน การกลับใจนี้คือข้อเรียกร้องของพระเยซูเจ้าเอง (เทียบ มก 1:15) ณ จุดของการกลับใจนั้น เรียกร้องให้เราคริสตชนได้พิจารณาชีวิตและพันธกิจของตนในมิติใหม่ทั้งหมด ประกาศชีวิตใหม่ในพระคริสตเจ้า (เทียบ 2ปต 1:4)
• “เพราะฉะนั้นท่านจงเป็นทุกข์กลับใจและหันมาหาพระเจ้าเถิด เพื่อบาปของท่านจะได้รับการอภัย” (กจ 3:19) การกลับใจจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคริสตชน (Paenitemini) การกลับใจหรือการได้พบพระคริสตเจ้าจริงๆ เช่นนี้นั้นสามารถเป็นบ่อเกิดและจุดสูงสุดของการได้เป็นคริสตชน ดังนั้น เราต้องยอมรับความจริงและพลังของการกลับใจจริงๆเท่านั้น การกลับใจอย่างลึกซึ้งและต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ (sine qua non) พระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 เรียกขานการกลับใจนี้ว่าเป็นเหตุผลจำเป็นเพื่อเป็นคริสตชน (Fundamental datum of Christian existence) สรุปได้ว่า “ถ้าไม่มีการกลับใจก็ไม่ได้เป็นคริสตชน” นั่นเอง
• การกลับใจนี้ แท้จริงแล้วคือการเปิดหัวใจคิดไตร่ตรองแบบใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมที่เคยเป็น และเป็นการตัดสินใจเปลี่ยนจากเดิมที่เคยเป็นและไม่ขอกลับไปเป็นแบบเดิมอีก หมายความว่า
o จำเป็นที่คริสตชนจะต้องพบพระคริสตเจ้ามากขึ้นกว่าที่เคย
o ต้องรู้จักพระองค์ในพระวาจาและศีลศักดิ์สิทธิ์และการอธิษฐานภาวนาลึกซึ้งมากขึ้น
o และจากนั้นจึงเปิดขอบฟ้าใหม่ของชีวิตความเชื่อออกไปสู่การพบกับพี่น้องรอบข้าง โดยเฉพาะบรรดาผู้ยากไร้ชายขอบสังคมมากกว่าที่เคย เพราะในบรรดาคนยากไร้คือโอกาสดีที่สุดสำหรับยุคปัจจุบัน และการได้พบกับพวกเขานั้นคือการได้พบพระคริสตเจ้าแท้จริง (เทียบ มธ 25:40 และเทียบ Address in Guatemala by Pope John Paul II) พระสันตะปาปาฟรังซิสก็ได้ทรงเน้นเรื่องนี้เช่นกัน (เทียบ EG 198)

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก