"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2014
สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา
อฟ 6:1-9
1บุตรทั้งหลาย จงเชื่อฟังบิดามารดา ในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะการกระทำเช่นนี้ถูกต้อง 2“พระบัญญัติที่ว่า จงให้เกียรติบิดามารดา” เป็นพระบัญญัติแรกซึ่งมีพระสัญญาควบคู่อยู่ด้วยว่า 3“แล้วท่านจะอยู่บนแผ่นดินอย่างเป็นสุข และมีอายุยืน”
4บิดา อย่าย้ำสอนจนบุตรขุ่นเคือง แต่จงอบรมสั่งสอนและตักเตือนเขาตามหลักธรรมขององค์พระผู้เป็นเจ้า
5ทาส จงเชื่อฟังผู้ที่เป็นนายในโลกนี้ด้วยความเคารพยำเกรงจากใจจริง ประหนึ่งเชื่อฟังองค์พระคริสตเจ้า 6อย่าทำดีรับใช้ต่อหน้าเหมือนจะให้มนุษย์พอใจเท่านั้น แต่จงเป็นเสมือนทาสรับใช้พระคริสตเจ้า กระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าจากใจจริง 7จงรับใช้ด้วยความเต็มใจเหมือนกับรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า มิใช่รับใช้มนุษย์ 8ท่านรู้อยู่แล้วว่าถ้าแต่ละคนทำดีไว้อย่างไร ก็จะได้รับค่าตอบแทนจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าเขาจะเป็นทาสหรือเป็นอิสระก็ตาม
9เจ้านาย จงปฏิบัติต่อทาสเช่นเดียวกัน จงละเว้นการข่มขู่ต่าง ๆ ท่านย่อมรู้อยู่ว่า พระองค์ผู้ทรงเป็นนายทั้งของท่านและของเขานั้นสถิตอยู่ในสวรรค์และไม่ทรง ลำเอียง


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “ความอ่อนโยน ให้เกียรติ อ่อนน้อมเชื่อฟัง” นิสัยถาวรของคริสตชน.. 


• “คริสตชนผู้อ่อนโยนอาจจะกล่าวได้ว่า เขามีเพียง “ความคิดเล็กๆ แต่มีจิตใจ หัวใจที่ยิ่งใหญ่..”

o ในชีวิตของพระศาสนจักรเรามีต้นแบบสำคัญที่สุดแบบเดียว ต้นแบบนั้น คือชีวิตของเรา คือต้นแบบแท้ๆของเราเสมอไปนั่นคือ “พระเยซู” 

o พ่ออยากให้เราได้เห็นลักษณะของพระเยซูเป็นพิเศษในวันนี้หน่อยนะครับ “ความอ่อนโยน” เนื่องจากว่า พ่อคิดว่าสังคมปัจจุบันนั้นคนที่เป็นใหญ่เป็นโต คนที่มีอำนาจหรือที่เรียกว่าเป็นผู้จัดการ เป็นผู้บริหาร หรือเป็นคนที่มีอำนาจมักจะใช้อำนาจบังคับ มักจะใช้ความเป็นใหญ่ในการจัดการกับคนอื่น 

o เราลองมาอ่านคำสอนของพระเยซูเจ้าบางประการ จะบันดาลใจเราให้เกิดพลังของการปฏิรูปชีวิตอย่างมากทีเดียว และพ่อขอเสนอให้อ่านบทวิเคราะห์ของพ่อในคำสอนของนักบุญเปาโลเรื่องความอ่อน โยนด้วย อ่อนโยนมาก ถ้าอ่านแล้วจะอ่อนโยนมากๆเลย ไม่เชื่อลองอ่านดูสิครับ ระยังอย่างเดียว อ่านจบแล้วจะอ่อนโยน ถ่อมตน น่ารัก โดยไม่รู้ตัวทีเดียว เพราะพระวาจาจะเปลี่ยนแปลงเรา....
คำสอนของพระเยซู

• คำสอนของพระองค์เรื่องความเป็นใหญ่... “พระเยซูเจ้าจึงทรงเรียกเขาทั้งหมดมาพบ ตรัสว่า “ท่านทั้งหลายย่อมรู้ว่า คนต่างชาติที่คิดว่าตนเป็นหัวหน้าย่อมเป็นเจ้านายเหนือผู้อื่น และผู้เป็นใหญ่ย่อมใช้อำนาจบังคับ แต่ท่านทั้งหลายไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นใหญ่จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น และผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในหมู่ท่าน ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ทุกคน เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์” (มก 10:42-45) 

o พ่อชอบประโยคนี้มากๆ “แต่ในพวกท่านไม่ควรเป็นเช่นนั้น...”

o วิถีทางของคริสตชนในการเป็นหัวหน้าต้อง “รักและรับใช้”


• คำสอนของพระเยซูเจ้าเรื่องความอ่อนโยนและถ่อมตน....พระเยซูเจ้าเองเน้นว่า พระองค์คือผู้มีใจอ่อนโยน ทั้งจากพระวาจาของพระองค์เองหรือเมื่อพระองค์ทรงอ้างถึงพันธสัญญาเดิมที่ กล่าวถึงพระองค์

o มธ 11:29 จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน

o มธ 21:5 จงบอกธิดาแห่งศิโยนว่า ดูซิ กษัตริย์ของท่านเสด็จมาพบท่าน มีพระทัยอ่อนโยน ประทับบนแม่ลา บนลูกลา สัตว์ใช้งาน
คำสอนของนักบุญเปาโลในจดหมายของท่านหลายแห่ง... ท่านซึ่งเคยเป็นคนร้ายกาจ เรียกว่าแข็งกร้าว.. แต่เมื่อได้พบพระคริสตเจ้า ท่านได้กลับใจและสอนให้เดินตามพระเยซู


• อฟ 4:1ff “1ข้าพเจ้าผู้ถูกจองจำเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า วอนขอท่านทั้งหลายให้ดำเนินชีวิตสมกับการที่ท่านได้รับเรียก 2จงถ่อมตนอยู่เสมอ จงมีความอ่อนโยน พากเพียรอดทนต่อกันด้วยความรัก 3พยายามรักษาเอกภาพแห่งพระจิตเจ้าด้วยสายสัมพันธ์แห่งสันติ 4มีกายเดียวและจิตเดียว ดังที่พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการเดียว 5มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อหนึ่งเดียว ศีลล้างบาปหนึ่งเดียว พระเจ้าหนึ่งเดียว 6ผู้ทรงเป็นพระบิดาของทุกคน พระองค์ทรงอยู่เหนือทุกคน ทรงกระทำการผ่านทุกคน และสถิตอยู่ในทุกคน”


• เพราะมีพระบิดาเดียวนี้เอง ดังนั้นเพื่อที่จะรักษาความเป็นหนึ่งเดียวนั้น เราทุกคนต้องการมากที่สุดคือ “จงถ่อมตนอยู่เสมอ จงมีความอ่อนโยน พากเพียรอดทนต่อกันด้วยความรัก” (อฟ 4:2) 

o และคำสอนของเปาโลที่สอดคล้องกัน คือ “ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่รักของพระองค์ จงเห็นอกเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยนและความพากเพียรอดทนเป็นเสมือนเครื่องประดับตน” (คส 3:12) 

o เหตุผลสำคัญคือที่พวกเขาทุกคนถูกเรียกให้มาสู่ร่างกายเดียวกัน “ขอให้สันติสุขของพระคริสตเจ้าครอบครองดวงใจของท่าน พระเจ้าทรงเรียกท่านทั้งหลายให้รวมเป็นกายเดียวกันก็เพื่อจะได้บรรลุถึง สันติสุขนี้เอง จงระลึกถึงพระคุณนี้เถิด” (คส 3:15)


• เราเห็นว่าคำสอนของเปาโลนั้นเน้นสาระสำคัญที่ ความอ่อนโยนและความถ่อมตนเข้าด้วยกัน ซึ่งนักบุญมัทธิว 11:29 ก็ได้เน้นเช่นเดียวกัน

• ความอ่อนโยนหรือความถ่อมตน คือ

o การละจากการยกตนเองขึ้น การโอ้อวด และความไม่จีรังของตนเอง ไม่ยกตนเองขึ้นเหนือคนอื่นๆ ไม่รู้สึกว่าคนอื่นด้อยกว่าตนเอง แต่ด้วยความสุภาพถ่อมตนนั้นมักจะทำให้เรายกคนอื่นขึ้นสูงกว่าต้นเสมอด้วย “ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน” (ฟป 2:8)

o ดังนั้น จำเป็นต้องเน้นการติดตามพระฉบับของพระคริสตเจ้าที่ถ่อมพระองค์ลงจนถึงที่สุด และนี่เองที่ทำให้เปาโลเน้นถึงเอกภาพของคริสตชนอีกครั้ง “ท่านจงทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างเต็มเปี่ยมโดยการเป็นน้ำหนึ่งใจ เดียวกัน มีความรักแบบเดียวกัน มีความรู้สึกนึกคิดอย่างเดียวกัน” (ฟป 2:2)


• คนอ่อนโยนคือคนที่รู้จักควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตน เมื่อต้องเผชิญต่อความโกรธ สิ่งที่สำคัญมากคือความเพียรทนหรือความอดทนนาน ซึ่งทำให้เราเห็นภาพของชีวิตที่มีความหมายถึง คือ “มีความคิดที่เล็กๆ ตัดสินวิพากษ์น้อยๆ แต่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่” 


• สถานการณ์ที่ชัดเจน คือ การช่วยแก้ไขความผิดหรือการขาดของบางคนนั้น สิ่งที่ต้องการมากอย่างยิ่งคือ “ความอ่อนโยน”

o เปาโลยืนยันที่จะต้องทำเช่นนี้อย่างเป็นรูปธรรม (1 คร 4:21 “ท่านต้องการอะไร ให้ข้าพเจ้ามาพบโดยถือไม้เรียว หรือมาพบด้วยความรักใคร่และมีจิตใจที่อ่อนโยน”) หรือ 

o “ข้าพเจ้าเปาโลขอร้องท่านทั้งหลายด้วยความอ่อนโยน และด้วยพระทัยดีของพระคริสตเจ้า ข้าพเจ้าถูกกล่าวหาว่าถ่อมตนเมื่ออยู่ต่อหน้า แต่ใจกล้าเมื่ออยู่ห่างไกล” (2 คร 10:1)

• เปาโลพูดกับชาวโครินธ์ถึงการตักเตือนของท่าน สำหรับคนผิดพลาดที่นั่น ท่านเน้นว่าจะให้ท่านมาด้วยความอ่อนโยนในความรักหรือมาด้วยไม้เรียว ในที่นี้มีการชี้ให้เห็นการตรงข้ามกันของ

o ไม้เรียว และ

o ความอ่อนโยน


• ไม้เรียว เป็นสัญลักษณ์ถึงการลงโทษ ความรุนแรง และแข็งกร้าว


• ความอ่อนโยน นั้นตรงข้าม เพราะเป็นการแสดงออกซึ่งความรักและเป็นพระหรรษทานของพระจิตเจ้า


• ใน 2 คร 10:1ff เปาโลเน้นความสัมพันธ์ของท่านกับหมู่คณะที่โครินธ์ ดูเหมือนว่าสิ่งที่ต้องการอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดเอกภาพคือ “พลัง” แห่งความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวที่จะลดความขัดแย้งและความรุนแรง


• เปาโลเน้นว่าจำเป็นต้องเดินความจำเป็นที่จะต้องก้าวเดินตามองค์พระจิตเจ้า “ถ้าเรามีชีวิตเดชะพระจิตเจ้าแล้ว เราจงดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้าด้วย อย่าอวดดียั่วยุผู้อื่น หรืออิจฉาริษยากันและกัน พี่น้องทั้งหลาย ถ้าท่านพบว่าใครคนหนึ่งทำผิด ท่านซึ่งมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ จงตักเตือนแก้ไขเขาด้วยความอ่อนโยน จงระวังตัว ท่านอาจถูกทดลองด้วย” (กท 5:26-6:1)


• เปาโลเน้นให้เห็นธรรมชาติสองประการ ธรรมชาติของเนื้อหนัง และธรรมชาติของจิตที่ได้รับจากองค์พระจิตเจ้า โดยองค์พระจิตเจ้า คนที่อ่อนโยนจะสามารถมีสำนึก หรือมีมโนธรรมที่ตระหนักได้ถึงความอ่อนแอของตน ไม่ทำตนเองให้สูงส่งกว่าคนอื่น ดังนั้นเมื่อมีความจำเป็นต้องช่วยเหลือ ตักเตือนเพื่อนพี่น้องที่ผิดพลาดหรืออ่อนแอ คนอ่อนโยนจะสามารถแสดงคนเสมอภาคเป็นเพื่อน ตักเตือนกันฉันพี่น้องได้อย่างแท้จริง


• 2 ทธ 2:23-25 “จงหลีกเลี่ยงการโต้เถียงอย่างโง่เขลา โดยรู้ว่า สิ่งเหล่านั้นทำให้เกิดการวิวาท ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะต้องไม่วิวาทกัน แต่จะต้องอ่อนโยนต่อทุกคน รู้จักสอนและอดทน” การช่วยเหลือแก้ไขตักเตือนเพื่อนพี่น้องจะต้องกระทำด้วยความอ่อนโยน โดยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือทุกคนต่างเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าและที่สำคัญ ทุกคนต่างมีความหวังในพระองค์อย่างแท้จริง

• ขอเพิ่มคำสอนของยากอบ......ภาคปฏิบัติที่ชัดเจนเราพบในจดหมายนักบุญยากอบ

o “พี่น้องที่รัก พึงตระหนักว่า ทุกคนจงฉับไวที่จะฟัง แต่ช้าที่จะพูด และช้าที่จะโกรธ คนที่โกรธย่อมไม่ปฏิบัติตนชอบธรรมตามพระประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้น จงละทิ้งความโสมมทั้งหลาย และความชั่วร้ายที่ยังตกค้างอยู่ จงน้อมรับพระวาจาที่ทรงปลูกฝังไว้ในท่าน พระวาจานั้นช่วยวิญญาณท่านให้รอดพ้นได้” (ยก 1:19-21) 

o ยากอบเน้นหนักมากในเรื่องความเป็นอิสระจากความโกรธ เพราะว่าในความโกรธนั้นทำให้ไม่เป็นอิสระจากความชั่วร้ายและความโสมมทั้ง หลาย และหนทางที่จะสามารถเป็นเช่นนี้ได้อยู่ที่ การรับฟังพระวาจาของพระเจ้า ยอมให้พระวาจาของพระเจ้านั้นปลูกฝังในตนเอง


• ปรีชาญาณแท้คือความสามารถในการควบคุมตนเอง ปรีชาญาณแท้นั้นไม่ได้แสดงออกในคำพูดแต่แสดงออกในกิจการ ซึ่งกิจการนี้แหละคือคุณภาพของปรีชาญาณ และคุณภาพที่แสดงออกชัดที่สุดคือ “ความอ่อนโยน” และสิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาดคือ “ความเมตตา” (Misericordia)

• ความอ่อนโยนคืออิสระภาพจากการใช้อารมณ์ สามารถแสดงออกซึ่งความมั่นคงในความรักและนี่คือสิ่งที่ต้องกลายเป็นบุคลิก ของคนที่มีปรีชาญาณ

พี่น้องที่รัก อ่านพระคัมภีร์วันนี้จะสรุปเอเฟซัสได้ดีครับ คำสอนเรื่องชีวิต “ความอ่อนโยน” ของทุกคนที่รัก ให้เกียรติ และอ่อนโยนต่อกัน พี่น้องครับ “อ่อนโยนนะครับ” อย่าดุหรือเกรี้ยวกาจเลยครับ เพราะจะไม่น่ารักเลย พวกเราเป็นคริสตชนต้องน่ารักต้องอ่อนโยนนะครับ.....

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก