วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2025
สัปดาห์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านจากหนังสือโยชูวา (ยชว 24:1-13)
ในเวลานั้น โยชูวารวบรวมทุกเผ่าของอิสราเอลพร้อมกันที่เชเคม แล้วนั้น เขาได้เรียกชุมนุมผู้อาวุโสทั้งหลายของอิสราเอลพร้อมกับบรรดาผู้นำ ตุลาการ และบรรดานายทหารทั้งหมด พวกเขาได้มาอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า โยชูวาจึงกล่าวกับประชาชนทั้งหมดว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ ‘ตั้งแต่นมนานมาแล้ว บรรพบุรุษของพวกท่านที่ชื่อเทราห์ บิดาของอับราฮัมและนาโฮร์ ได้อาศัยอยู่บริเวณเหนือแม่น้ำขึ้นไป และรับใช้พระเจ้าอื่น หลังจากนั้น เราได้นำอับราฮัมบรรพบุรุษของพวกท่านออกมาจากบริเวณเหนือแม่น้ำ และนำเขาผ่านความยาวความกว้างของคานาอัน เราได้ทวีจำนวนลูกหลานของเขาและให้เขาได้มีบุตรชื่ออิสอัค กับอิสอัค เราได้ให้ยาโคบและเอซาว กับเอซาวเราได้ยกประเทศแถบภูเขาเสอีร์ให้เป็นกรรมสิทธิ์ ยาโคบและบุตรของเขาได้ลงไปอยู่ในประเทศอียิปต์ หลังจากนั้น เราได้ส่งโมเสสและอาโรน และให้อียิปต์ต้องประสบภัยพิบัติด้วยสิ่งอัศจรรย์ทั้งหลาย ที่เราได้กระทำที่นั่น ที่สุด เราได้นำพวกท่านออกมา เราได้พาบรรพบุรุษของพวกท่านออกจากประเทศอียิปต์ และพวกท่านได้มาถึงทะเล ชาวอียิปต์ออกติดตามบรรพบุรุษของพวกท่านด้วยรถรบและทหารม้า จนถึงทะเลไม้อ้อ แล้วนั้นบรรพบุรุษของพวกท่านได้ร้องหาองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ได้ทรงกระจายหมอกหนาทึบ ให้คั่นอยู่ระหว่างพวกท่านและชาวอียิปต์ และได้ทำให้ทะเลไหลกลับท่วมพวกเขา พวกท่านได้เห็นด้วยตาของพวกท่านเองแล้วว่าเราได้กระทำอะไรในอียิปต์ หลังจากนั้นเป็นเวลานาน พวกท่านได้อาศัยอยู่ในทะเลทราย แล้วเราได้นำพวกท่านเข้าไปยังประเทศของคนอาโมไรต์ ซึ่งเคยอาศัยอยู่ทางอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน พวกเขาทำสงครามกับพวกท่าน และเราได้มอบพวกเขาให้ตกอยู่ในอำนาจของพวกท่าน
หลังจากนั้น พวกท่านยังได้เข้ายึดครองประเทศของพวกเขา เนื่องจากเราได้ทำลายพวกเขาไปต่อหน้าพวกท่าน ต่อมา บาลาค บุตรของศิปโปร์ กษัตริย์ของโมอับได้ลุกขึ้นทำสงครามกับอิสราเอล และส่งบาลาอัมบุตรของเบโอร์มาสาปแช่งพวกท่าน แต่เราไม่ฟังบาลาอัม ตรงข้ามเขาต้องกล่าวอวยพรพวกท่าน และเราได้ช่วยเหลือพวกท่านให้รอดพ้นจากอำนาจของเขา’ ”
“หลังจากนั้น พวกท่านได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนและมาถึงเยริโค แต่พลเมืองชาวเยริโคทำสงครามกับพวกท่าน ได้แก่คนอาโมไรต์ เปริสซี คานาอัน ฮิตไทต์ เกอร์กาซี ฮีไวต์และเยบุส และเราได้มอบพวกเขาทั้งหมดให้ตกอยู่ใต้อำนาจของพวกท่าน เราส่งตัวต่อนำหน้าพวกท่านไป ซึ่งทำการขับไล่กษัตริย์อาโมไรต์สองคนไปต่อหน้าพวกท่าน นี่ไม่ได้เป็นผลงานจากดาบของพวกท่านหรือธนูของพวกท่านเลย บัดนี้ เราได้มอบประเทศหนึ่งให้แก่พวกท่าน ซึ่งพวกท่านไม่ได้ทำงานเพื่อได้มา เมืองที่พวกท่านไม่ได้สร้างแต่พวกท่านได้อาศัยอยู่ ไร่องุ่นและสวนมะกอกที่พวกท่านไม่ได้ปลูก แต่ได้รับประทานผลผลิตของมัน”
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 19:3-12)
เวลานั้น ชาวฟาริสีบางคนเข้ามาเพื่อจับผิดพระเยซูเจ้า ทูลถามว่า “เป็นการ
ถูกต้องหรือไม่ ที่ชายจะหย่าร้างกับภรรยาเนื่องด้วยเหตุใดก็ตาม”
พระองค์ทรงตอบว่า “ท่านไมได้อ่านพระคัมภีร์หรือว่า เมื่อแรกนั้นพระผู้สร้าง
ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง และตรัสว่าดังนี้ ‘ชายจะละบิดามารดาไปสนิท
อยู่กับภรรยาของตน และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน’
ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ฉะนั้น สิ่งที่พระเจ้า
ทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าได้แยกเลย”
ชาวฟาริสีจึงทูลถามว่า “แล้วทำไมโมเสสจึงสั่งให้ชายทำหนังสือหย่าร้าง
แล้วหย่าร้างได้เล่า” พระองค์ตรัสว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสส
จึงยอมอนุญาตให้หย่าร้างได้ แต่เมื่อแรกเริ่มนั้นหาเป็นเช่นนี้ไม่
เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดหย่าร้างภรรยาและแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง
เขาก็ทำผิดประเวณี เว้นแต่ในกรณีแต่งงานไม่ถูกต้อง”
บรรดาศิษย์ทูลพระองค์ว่า “ถ้าสภาพของสามีกับภรรยาเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ควร
จะแต่งงานเลย” พระองค์ตรัสว่า “ไม่ใช่ทุกคนเข้าใจคำสอนนี้ คนที่เข้าใจคือคนที่
พระเจ้าประทานให้ เพราะว่าบางคนเป็นขันทีตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บางคนถูก
มนุษย์ทำให้เป็นขันที และบางคนทำตนเป็นขันทีเพราะเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์
ผู้ที่เข้าใจได้ ก็จงเข้าใจเถิด”