บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

สัปดาห์ที่  26  เทศกาลธรรมดา
29  กันยายน  2013
บทอ่าน    อมส  6: 1ก, 4-7  ;  1 ทธ  6: 11-16 ;  ลก  16: 19-31
พระวรสารสัมพันธ์กับ    คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  (CCC)  1859, 2831
จุดเน้น        สิ่งที่เราประสบในชีวิตนี้  ย่อมแตกต่างจากประสบการณ์ชีวิตหน้า


    ปัญหาสำคัญมากประการหนึ่งที่เราควรถามตนเอง  เมื่อเราได้ฟังพระคัมภีร์วันนี้แล้ว  ก็คือ  เราเคยคิดถึงพระพรและความสามารถมากมายที่พระเจ้าทรงประทานให้เราไหม  หากเราต้องประสบการท้าทาย  หรือการเปลี่ยนแปลงกะทันหันต่อวิถีชีวิตปัจจุบัน  อาจเป็นสมาชิกในครอบครัวต้องสิ้นชีวิตโดยมิได้คาดคิด  หรือพบกับปัญหาหนักด้านการเงิน  เราเคยให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกระกำลำบาก  เพื่อให้ปัญหานั้นผ่านไปได้  หากเกิดกับเราบ้าง  เราอาจหวังการช่วยเหลือเช่นนี้จากเพื่อนบ้านของเราด้วยเช่นกัน

    บทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือประกาศกอาโมส  ยกตัวอย่างการเปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวอิสราเอลในศิโยน  (จากการอยู่อย่างสบาย  นอนบนเตียงงาช้าง  มีอาหารมากมาย  ร้องเพลง... เป็นพวกแรกที่เป็นเชลย)  ทำให้เรานึกถึงความสุขแท้  (ที่พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า)  “ผู้มีใจเมตตาย่อมเป็นสุข  เพราะเขาจะได้รับพระเมตตา” (มธ 5: 7)  ถ้ามันเกิดขึ้นว่าวันหนึ่งเราต้องการพระเมตตา  เราก็สมควรได้รับพระเมตตา  การดำเนินชีวิตโดยตระหนักรู้พระเมตตาของพระเจ้าต่อเรา  จึงเป็นกิจการที่น่ายกย่อง  ถ้าเราดำเนินชีวิตด้วยความสุภาพ (ไม่หยิ่งจองหอง)  การแสดงความเมตตาต่อผู้อื่นย่อมทำให้เกิดความยินดีทั้งชีวิตนี้  และช่วยเราให้บรรลุพระสัญญาแห่งชีวิตนิรันดรด้วย

    นักบุญเปาโลให้ข้อสังเกตค่อนข้างชัดเจนในบทจดหมายวันนี้ถึงทิโมธี  เมื่อกล่าวว่า  “ท่านผู้เป็นคนของพระเจ้า  จงมุ่งหน้าหาความชอบธรรม  ความเคารพรักพระเจ้า  ความเชื่อ  ความรัก  ความอดทน  และความอ่อนโยน” (1 ทธ 6: 11)  เพื่อมุ่งหน้าและพัฒนาคุณธรรมเหล่านี้  ค่อนข้างท้าทายวิถีชีวิตแบบอารยธรรมชาวตะวันตก  (ที่เราหลายคนชอบเลียนแบบ)  ที่เน้นความก้าวหน้าส่วนตัว  และการสะสมทรัพย์สินฝ่ายโลก  จงคิดถึงประชาชนมากมายในโลกปัจจุบันที่จะเข้านอน  ทั้งๆ ที่ท้องยังหิวไม่มีอาหารจะกิน  หรือผู้คนมากมายที่ต้องการความยุติธรรม  หรือความเข้าใจ (จากคนรอบข้าง)

    อาจเป็นเรื่องท้าทายเชิญชวนให้เราคิดว่า  เราจะสามารถทำอะไรได้  แม้ดูเหมือนเล็กๆ น้อยๆ หากไปเปรียบกับหน่วยงานมากมายที่พยายามช่วยผู้ที่กำลังลำบากในโลกปัจจุบัน  สิ่งหนึ่งที่เราคริสตชนไม่ว่ามีฐานะเศรษฐกิจอย่างไร  ควรใส่ใจคำพูดของบุญราศีคุณแม่เทเรซา (แห่งกัลกัตตา)  ที่ว่า  “บางทีผู้ที่ยากจนมากที่สุดในโลกใบนี้  ก็ไม่ขาดอาหาร  แต่ขาดความรัก”  คนที่กำลังหิว  มิตรภาพ  ความเห็นใจ  และความใกล้ชิด  ความโดดเดี่ยวว้าเหว่  เป็นเหตุของความกระหายยิ่งใหญ่ในหัวใจของหลายคน  ไม่ควรมีใครเลยต้องพบกับความโดดเดี่ยวว้าเหว่  เมื่อเราได้รับพระหรรษทานของพระเจ้ามาแล้ว

    พระวรสารวันนี้  ช่วยเราให้พยายามออกแรงศึกษาถึงผลของการเมินเฉยคนที่ต้องการความช่วยเหลือ  ที่เราอาจพบกับเขา  แต่เรามองไม่เห็นเขาในชีวิตแต่ละวัน  “ผู้หิวกระหายความชอบธรรม  ย่อมเป็นสุข  เพราะเขาจะอิ่ม”  จงแสวงหาความชอบธรรมในชีวิตนี้   และเราจะพบชีวิตสมบูรณ์ในชีวิตนิรันดร์  ขอพระเจ้าทรงอวยพรพี่น้อง

หมายเหตุ :  วันอาทิตย์นี้  โอกาสปีแห่งความเชื่อ  สมณสภาเพื่อการประกาศพระวรสารใหม่  จัดชุมนุมครูคำสอนจากนานาชาติ  ที่กรุงโรม  เวลา  10.00 น.  สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเป็นประธานมิสซา  กับบรรดาประธานคณะกรรมการคำสอน  ผู้อำนวยการศูนย์คำสอนระดับชาติ  และตัวแทนครูคำสอนจากแต่ละประเทศ  มีพระสงฆ์  6 องค์  ซิสเตอร์  10 ท่าน  และครูคำสอน  32 คน  รวม  48 คน จากประเทศไทย  ร่วมงานนี้

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(กรกฎาคม - กันยายน 2013), หน้า 384-385.