บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

อาทิตย์ ที่ 6 เทศกาลปัสกา
5 พฤษภาคม  2013
บทอ่าน    กจ  15: 1-2, 22-29 ;  วว  21: 10-14, 22-23 ;  ยน  14: 23-29
พระวรสารสัมพันธ์กับ   คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  (CCC)  243, 244, 260, 263, 692, 729, 1099, 2466, 2615, 2623
                                ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)   70, 491, 516
จุดเน้น    ถึงแม้มีการทดลองจากเพื่อนและศัตรู  พระเยซูเจ้ายังคงซื่อสัตย์ต่อความจริง


    ชายสองคนจากวัดเดียวกัน  ได้มีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องพระจิตเจ้า  คนหนึ่งเคยได้ยินการเรียกพระจิตเจ้าเพื่อความช่วยเหลือ  “เชิญเสด็จมา  ข้าแต่พระจิตเจ้า”  ขณะที่อีกคนหนึ่งยอมรับการรู้สึก  การภาวนาสบายๆ ต่อพระเจ้าฐานะพระบิดาและภาวนาต่อพระเยซูเจ้า  ส่วนที่เกี่ยวกับพระจิตเจ้าเนื่องจากไม่เคยมีใครสอนเกี่ยวกับพระจิตเจ้า  จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องภาวนาต่อพระจิตเจ้า  ไม่รู้จะภาวนาอย่างไรจริงๆ      (พี่น้อง) บางทีเราบางคนก็เหมือนกัน  พระจิตเจ้าผู้ที่พระเยซูเจ้ากล่าวถึงนั้น  คือใครกัน

    ในพระวรสารวันนี้  พระเยซูเจ้าบอกบรรดาศิษย์อย่างชัดเจนว่า  พระบิดาจะทรงส่งพระจิตเจ้ามาในนามของพระองค์   เพื่อพระจิตเจ้าจะทรงสอนความจริงแก่พวกเขา   ดังที่พระเยซูเจ้าได้ทำบนโลก     พระเยซูเจ้าทรงเรียกพระจิตเจ้าว่า  พระผู้ช่วยเหลือ  ซึ่งหมายความถึง  ผู้ยืนเคียงข้างเพื่อปกป้อง  คำถามคือ  เราต้องการให้พระองค์ช่วยเหลือ  ปกป้องเรื่องอะไร  คำตอบคือ  เราต้องการปกป้องจากความชั่วร้าย  จากความไม่รู้  และจากบาปของเราเอง

    พระจิตเจ้าทรงทำงาน  3 ด้าน  ในฐานะพระผู้ช่วยเหลือ  คือ ประการแรก  พระจิตเจ้าเป็นการประทับอยู่ของพระคริสตเจ้าในโลก  พระคริสตเจ้าประทับในศีลมหาสนิท  ในผู้แทนบนโลกนี้  และพระคริสตเจ้าประทับอยู่ในการประชุม  (ดังที่พระองค์เคยตรัสว่า  “ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันนามของเรา  เราอยู่ที่นั่นในหมู่ของพวกเขา” - มธ 18:20)  พระจิตเจ้าทรงช่วยให้พระคริสตเจ้าประทับในทุกคน   

หน้าที่ที่สอง  พระจิตเจ้าทรงบอกความจริงและ    หน้าที่ที่สาม  พระจิตเจ้าทำให้เกิดความกลมกลืนในพระศาสนจักร

    ดังนั้น  พี่น้อง  พระจิตเจ้าปฏิบัติงานอย่างไร  พระจิตเจ้าทรงปฏิบัติงาน  ใน  เราและ  โดยอาศัย  เรา  เราต้องทำอะไร  ก็คือ  ตั้งใจฟังพระจิตเจ้า

    พระจิตเจ้าปฏิบัติงานในชุมชนคริสตชนสมัยแรกเริ่ม  ดังที่เราได้ยินจากบทอ่านที่หนึ่ง  เพราะบรรดาศิษย์ได้เผยแผ่พระวาจาของพระเจ้าไปยังคนต่างศาสนา  บรรดาอัครสาวกต้องอธิษฐานภาวนาขอการนำเพื่อรู้ว่าควรทำอะไร  เป็นพิเศษต่อบรรดาชาวยิว  เช่นตามกฎธรรมเนียมยิว  เรียกร้องการเข้าสุหนัตและการอดอาหาร  หรือศีลล้างบาปและการกลับใจ  (มาเป็นคริสตชน)  แล้วต้องงดการกินเนื้อสัตว์ที่ถวายให้รูปเคารพ  และงดเว้นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้อง  เรื่องต่างๆ เหล่านี้มิใช่เรื่องเล็กๆ ที่ละเลยได้  และบรรดาอัครสาวกเชื่อว่าพระจิตเจ้าทรงนำพวกเขาให้ตัดสินใจเลือกถูกต้อง

    พระจิตเจ้าทรงเตือนใจเราให้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้า  พระจิตเจ้ายังเผยแสดงถึงสิ่งที่จำเป็นต้องการในปัจจุบัน  ขณะที่เราพยายามดำเนินชีวิตเหมาะสมกับเป็นพี่น้องชายหญิงของพระเยซูเจ้า  ขณะที่เราต่องานของพระองค์ด้านการสร้างพระอาณาจักรบนโลกนี้  ให้เป็นเหมือนในสวรรค์  ขอให้เราวางใจในพระจิตเจ้า  นำเรา  ให้กลับมาหาพระองค์ในยามที่เราต้องการ  โดยภาวนาว่า  “เชิญเสด็จมา  ข้าแต่พระจิตเจ้า”


พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน – มิถุนายน  2013), หน้า 169-171.