วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน  2012
วันอาทิตย์ที่สี่  เทศกาลปัสกา
บทอ่าน
:กจ  4: 8-12  ;    1 ยน  3: 1-2  ;    ยน  10: 11-18
พระวรสารสัมพันธ์กับ
คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก 60, 553, 606, 609, 614, 649, 754
จุดเน้น พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี  มิใช่ทรงนำเราในชีวิตเท่านั้น  แต่ทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเรา
               ในบทอ่านแรกวันนี้  เราได้ยินว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความรอดพ้น  อาศัยพระองค์เท่านั้นเราจึงได้รับความรอดพ้น  เราจึงสามารถนำข่าวแห่งความรอดพ้นนี้ไปสู่ผู้อื่น  อาศัยพระจิตเจ้า   เมื่อนักบุญเปโตรเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้า  ก็สามารถรักษาผู้ป่วยขาพิการคนหนึ่งให้หาย  อำนาจการรักษามิใช่ของนักบุญเปโตรเอง  ท่านได้รับอำนาจให้ทำเหมือนพระเยซูเจ้าเคยทำ  ในเวลาที่พระองค์ยังทรงอยู่ในโลก  พระคัมภีร์มีตัวอย่างมากมายที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาผู้ป่วย  แสดงถึงความรักของพระเจ้าต่อทุกคนที่พระองค์ทรงพบปะ
                น่าเสียดายที่หลายครั้ง  ข่าวเกี่ยวกับความรอดของพระคริสตเจ้าไม่มีคนสนใจ  (คล้ายเป็นคนหูหนวก)  นี่จึงเป็นเหตุให้นักบุญเปโตรอธิบายให้บรรดาผู้ที่ได้เห็นอัศจรรย์การรักษาว่า  เป็นพระเยซูเจ้าจริงๆ ทรงกระทำ  นักบุญเปโตรได้สอนว่าอาศัยการถูกตรึงกางเขน  พระเยซูเจ้าทรงเป็นศิลาซึ่งท่านทั้งหลายผู้เป็นช่างก่อสร้างขว้างทิ้งเสีย  คือ  ปฏิเสธพระองค์  กระนั้นก็ดี  บัดนี้เป็นที่ชัดแจ้งแล้วว่าพระเยซูเจ้าได้กลายเป็นศิลาหัวมุม  แห่งความรอดของมนุษยชาติ

                 ความคิดเรื่องพระเยซูเจ้าทรงเป็นศิลาหัวมุม  อยู่ในบทเพลงสุดดี  118  วันนี้  ตอนหนึ่งกล่าวว่า  “ลี้ภัยมาพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้า  ย่อมดีกว่าวางใจในมนุษย์  ลี้ภัยมาพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้า  ย่อมดีกว่าวางใจในบรรดาเจ้านาย”  เป็นเช่นนี้จริงๆ  ตลอดเวลาเราสามารถเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น  การรู้ว่าเรามีพระเยซูเจ้าที่เราพึ่งได้  ทำให้เราทุกคนมีความหวัง  เราฉลองความเชื่อนี้ในเทศกาลปัสกา  ผู้ที่วางใจในพระเยซูเจ้าเป็นผู้ที่สามารถยินดีจริงๆ ในชัยชนะของพระองค์  เหนือบาปและความตาย  ดังที่นักบุญยอห์นกล่าวว่า  “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก  จึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์  เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ”  (ยน 3:16)  ประโยคนี้บอกเราชัดเจนเกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้าทรงรักและเมตตาเรามนุษย์

                 เรารู้และสามารถสัมผัสความรักนี้ได้  เราได้รับการเปิดเผยในพระวรสารวันนี้ว่า  พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี  เป็นผู้นำที่สุภาพใจดี  เรามีชีวิตที่สมบูรณ์และมีความสุขได้  ดังบทอ่านที่สอง  นักบุญยอห์นได้ยืนยันว่า  “เราเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว”  พี่น้องลองคิดดูซิครับว่าพ่อแม่ปกป้องเลี้ยงดูลูกอย่างไร  พระเจ้ายิ่งกว่าอีก  พระองค์ทรงเลี้ยงดูและปกป้องคุ้มครองเรา  พระองค์ทรงส่งพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ลงมาในโลก  เพื่อเราจะได้มีความหวังได้รับชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์

                 พระเยซูเจ้าทรงยืนยันในพระวรสาร  เหมือนผู้เลี้ยงแกะที่ปกป้องแกะว่า  พระองค์ยอมสละชีวิตเพื่อฝูงแกะ  พระองค์มิได้เพียงตรัสว่ายอมสละชีวิตของพระองค์เท่านั้น  แต่พระองค์ทรงปฏิบัติด้วย  และทรงกลับคืนพระชนมชีพ  เรากำลังฉลองเทศกาลปัสกา  พระเยซูผู้เลี้ยงแกะที่ดีไม่ปล่อยเราให้หลงทางไกลจากพระองค์  เราเป็นฝูงแกะของพระองค์  และพระองค์ทรงดูแลเราใกล้ชิด  ทรงนำเรากลับไปหาพระบิดา  พระเยซูเจ้าคือความรอดพ้นที่เราแสวงหาและเป็นที่ลี้ภัยแท้  การรู้เช่นนี้ช่วยเราให้มีประสบการณ์พบพระเจ้าในวิธีมหัศจรรย์  ขอถวายพระพรแด่พระนามของพระองค์  บัดนี้และตลอดกาล

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน – มิถุนายน  2012  Vol. 45 No. 2), หน้า 197-198.