วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2012
บทเทศน์สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา
(ปี B)
บทอ่าน : อสย. 43:18-19, 21-22, 24ข-25 ;   2 คร. 1:18-22 ;    มก. 2:1- 12
พระวรสารสัมพันธ์กับ CCC   1421
จุดเน้น พระเมตตาของพระเจ้านำการรักษาและสันติ  โดยอาศัยการอภัยบาปของเรา
              อุบัติเหตุ  โรคภัยไข้เจ็บ  และผลของการมีอายุมากขึ้น  มีผลแก่เรา  ทุกสิ่งของมนุษยชาติเชื่อมโยงมีผลกระทบต่อกันเพราะสภาพของมนุษย์  เราพบว่า  เวลาเป็นปัจจัยการแสวงหาวิธีการเพื่อเยียวยารักษา  ขณะที่เราและคนที่เรารักเผชิญกับเรื่องสุขภาพ  เราเป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกคน  ตลอดทุกยุคทุกสมัย  ในการแสวงหาการเยียวยารักษา  โดยอาศัยบุคคลอื่น  และอาศัยพระเจ้า  เป็นการหาร่วมกันเกี่ยวกับความหวังและความเชื่อ
              พระวรสารวันนี้สอนชัดเจนว่า  พระเยซูเป็นผู้เยียวยารักษาคนหนึ่ง  ประชาชนจำนวนมากมาหาพระเยซูเจ้า  เป็นพิเศษเพื่อหวังการรักษาให้หายจากโรคภัยต่างๆ  เราเห็นกิจกรรมมหัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ  พระวรสารในวันนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งเท่านั้น  ในเรื่องคนอัมพาตนี้  เขามีความทุกข์  มีสี่คนช่วยหามมา  และเขาต้องการหาย  เขาเชื่อในพระเยซูเจ้า  และความเมตตาของพระองค์  เรื่องนี้เปิดเผยความจริงของพระเจ้าลึกซึ้งขึ้นอีก  เมื่อมีพระเยซูเจ้าอยู่ท่ามกลางเรา  เราก็เห็นพระธรรมล้ำลึกของพระเจ้า  คือ  พระเมตตาของพระเจ้ามาถึงเราในพระเยซูเจ้า  ในวิธีการใหม่  ในการประทับอยู่ทางกายภาพของพระบุตร  เราสัมผัสพระเมตตาของพระเจ้า  โดยการเยียวยารักษาของพระเยซูเจ้า

               พระองค์ตรัสว่า  “ลูกเอ๋ย  บาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว”  ดูเหมือนเป็นคำพูดแปลกที่เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโรคฝ่ายกาย  พระเยซูทรงใช้เพื่อให้ความหมายลึกขึ้น  เป็นการเยียวยารักษาทั้งครบ  ทุกมิติ  คือ  ทั้งร่างกายและวิญญาณ  เพราะบาปมีผลกระทบต่อชีวิตของเรา  ดังนั้น  พระเมตตาของพระเจ้าทำให้เกิดผลการรักษา     การให้อภัยและการเยียวยารักษามีความเชื่อมโยงลึกๆ ต่อกัน  พระเมตตาของพระเจ้าเยียวยารักษาในวิธีที่ไม่มีใครสามารถทำได้

               การรักษาโรคภัยไข้เจ็บโดยอาศัยพระเมตตาของพระเจ้า  เป็นเรื่องสำคัญมากที่พระเยซูเจ้าให้พลังพระศาสนจักรในการเยียวยารักษาและในการให้อภัย  หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกยืนยันชัดเจนว่า  “พระเยซูคริสตเจ้า  แพทย์ฝ่ายวิญญาณและฝ่ายร่างกายของเรา  ผู้ซึ่งได้อภัยบาปให้คนอัมพาตและได้คืนสุขภาพทางกายแก่เขา  ทรงพระประสงค์ให้พระศาสนจักรของพระองค์ดำเนินการต่อเนื่อง  งานแห่งการรักษาเยียวยา  และช่วยให้รอด  เดชะพระจิตเจ้า”  (CCC 1421)  พระศาสนจักรทำพันธกิจให้สมบูรณ์  โดยอาศัยศีลอภัยบาปและศีลเจิมคนไข้  พระเจ้าประทานพระหรรษทานเพื่อเยียวยารักษาฝ่ายร่างกาย  จิตใจและวิญญาณ  โดยอาศัยศีลศักดิ์สิทธิ์ทั้ง  2  นั้น

               เราแต่ละคนต้องตื่นตัวต่อการทดลองในชีวิต  อาจเป็นความสงสัย  หรือการต่อต้านวิธีการที่พระเจ้านำพระเมตตา  และการเยียวยารักษาฝ่ายจิตวิญญาณเข้ามาในชีวิต  เราอาจเป็นเหมือนธรรมาจารย์บางคนในพระวรสาร  ที่สงสัยพระเยซูเจ้าทรงอภัยบาปได้  เราอาจสงสัยงานต่างๆ ของพระจิตเจ้าที่เกิดขึ้นโดยอาศัยพระสงฆ์  เราอาจพยายามแสวงหาการอภัยและการรักษาให้ตนเอง  แต่ชัดเจนว่าพระเจ้าทรงเลือกประทานพระเมตตาโดยอาศัยพระบุตรเยซูคริสตเจ้า  ผู้ทรงถวายพระองค์เพื่อเราในหลายวิธี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิธีบูชาขอบพระคุณ  และศีลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ  ให้เราเปิดใจวันนี้และตลอดไป  ต้อนรับความรักและพระเมตตาของพระเจ้าซึ่งเยียวยารักษาเรา  ช่วยไถ่กู้เรา  และทำให้เราสมบูรณ์ขึ้น

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
  (Jan. - Mar. 2012  Vol. 45 No. 1), หน้า  82 - 83.