6. ลูกคู่a 1เธอซึ่งงามที่สุดในหมู่สตรีเอ๋ย
ที่รักของเธอไปไหน
ที่รักของเธอเดินไปทางไหน
พวกเราจะแสวงหาเขาพร้อมกับเธอ
สาวคู่รัก 2ที่รักของดิฉันลงไปในสวนของเขา
ไปที่แปลงปลูกสมุนไพร
เพื่อไปเลี้ยงฝูงสัตว์ในสวน
และเก็บดอกลิลลี่
3ดิฉันเป็นของที่รักของดิฉัน
และที่รักของดิฉันก็เป็นของดิฉัน (= 2:16)
เขากำลังเลี้ยงฝูงสัตว์ในหมู่กอลิลลี่
เพลงบทที่ห้า
หนุ่มคู่รักb 4ที่รักของฉัน เธอช่างงามเหมือนเมืองทีรซาห์
มีเสน่ห์เหมือนกรุงเยรูซาเล็มc
น่าเกรงขามเหมือนกองทัพมีธงประจำd
5จงเบือนนัยน์ตาไปจากฉันเถิด
เพราะนัยน์ตาของเธอทำให้ฉันหลงใหลe
ผมของเธอเหมือนฝูงแพะ
ที่ลงมาตามลาดเขากิเลอาด (= 4:1-3)
6ฟันของเธอเหมือนฝูงแกะ
เพิ่งขึ้นมาจากการชำระล้าง
ทุกตัวเดินมาเป็นคู่
ไม่มีตัวใดขาดคู่เลย
7แก้มของเธอเหมือนผลทับทิมผ่าซีก
เบื้องหลังผ้าคลุมใบหน้า
8ราชินีมีหกสิบองค์ นางสนมมีแปดสิบคน
หญิงสาวมีจำนวนนับไม่ถ้วนf
9แต่นกพิราบของฉันมีเพียงหนึ่ง
เป็นคนงามพร้อมของฉัน
เธอเป็นคนเดียวสำหรับมารดาของเธอ
เป็นสุดที่รักของผู้ให้กำเนิดเธอ
เมื่อบรรดาหญิงสาวเห็นเธอ
ก็แสดงความยินดี
บรรดาราชินีและนางสนมก็สรรเสริญเธอ
10“หญิงสาวผู้นี้เป็นใครหนอที่ปรากฎขึ้นดังแสงอรุโณทัย
งามเหมือนดวงจันทร์ เจิดจ้าดังดวงอาทิตย์g
น่าเกรงขามเหมือนกองทัพมีธงประจำ”
11ฉันลงไปในสวนมันฮ่อ
เพื่อจะดูหน่ออ่อนเขียวในหุบเขา
เพื่อดูว่าเถาองุ่นมีดอกตูมหรือยัง
ดูว่าต้นทับทิมมีดอกแล้วหรือยัง
12ฉันยังไม่ทันรู้ ความปรารถนาของฉันก็โยนฉัน
ขึ้นไปบนรถทรงของอามีนาดีบh
6 a กลุ่มลูกคู่แทรกเข้ามาที่นี่เพื่อเตรียมข้อสรุปในข้อ 2-3 – ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตามหาหนุ่มคู่รักอีก เพราะเขาอยู่ในใจของสาวคู่รักแล้ว – เธอเป็นเหมือน “สวน” ของเขา – ดู 4:12 เชิงอรรถ k – ข้อ 3 กล่าวถึงความรักต่อกันที่มั่นคง โดยใช้คำพูดเกือบเหมือนกับใน 2:16.
b ข้อ 4-10 เป็นบทประพันธ์สั้นๆบทหนึ่ง ดังจะเห็นได้จากปลายของข้อ4 และข้อ 10 ซึ่งกล่าวซ้ำข้อความเดียวกัน – ส่วนข้อ 5ข-7 เป็นการกล่าวซ้ำบางส่วนของ 4:1-2,3ข และอาจเป็นข้อความเสริม - หนุ่มคู่รักกล่าวว่าสาวคู่รักเป็นหญิงเพียงคนเดียวของเขาและมีความหมายสำหรับเขามากกว่าหญิงสาวจำนวนมากมายในฮาเร็มของกษัตริย์ – ข้อ 8 – ดู 1 พกษ 11:3; 2 พศด 11:21; 13:21.
c กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองที่ “งดงามที่สุด เป็นความยินดีของจักรวาล” (พคค 2:15) – เมืองทีรซาห์เป็นราชธานีในสมัยแรกของอาณาจักรเหนือ (1 พกษ 14:17) ถูกกล่าวถึงคู่กับกรุงเยรูซาเล็มเพราะชื่อ “ทีรซาห์” แปลว่า “น่าชื่นชม”
d “น่าเกรงขามเหมือนกองทัพมีธงประจำ” - ความหมายของบรรทัดนี้ไม่แน่ว่าแปลเช่นนี้ถูกต้อง
e “นัยน์ตาของเธอทำให้ฉันหลงใหล” – หนุ่มคู่รักจ้องมองดวงตาของสาวคู่รักซึ่งเจิดจ้ามีเสน่ห์เหมือนดวงอาทิตย์ จนเขาเขาทนความเจิดจ้านั้นไม่ไหว
f “หญิงสาวมีจำนวนนับไม่ถ้วน” - อาจเป็นวลีที่ผู้คัดลอกเสริมเข้ามา
g การเปรียบเทียบความงามกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ – ดู คำชมภรรยาใน บสร 26:16-18 – ซีโมนมหาสมณะเปรียบได้กับดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ (บสร 50:6-7) เพลงรักของชาวอียิปต์บทหนึ่งเปรียบเทียบว่าคู่รักโดดเด่นไม่มีใครเทียบได้ (ดู ข้อ 9) เหมือนกับดาว Sirius (= ดาวหมา?) ซึ่งสุกใสกว่าดาวอื่นๆ
h ข้อ 11-12 ไม่เกี่ยวข้องกับบทประพันธ์ที่อยู่ก่อนหน้านั้นเลย และอธิบายความหมายได้ยาก ไม่แน่ว่าใครเป็นผู้กล่าวถ้อยคำเหล่านี้ – หนุ่มคู่รักเป็นผู้กล่าวถ้า “สวน” ในข้อ 11 หมายถึงสาวคู่รักเหมือนใน 4:12,16; 5:1 – แต่สาวคู่รักอาจเป็นผู้กล่าว ถ้าเราคิดว่าเธอเป็นผู้กล่าวครึ่งหลังของข้อ 11 นี้เหมือนใน 7:13 – ส่วนข้อ 12 เป็นข้อที่เข้าใจยากที่สุดในหนังสือ พซม และไม่มีคำอธิบายใดที่แก้ปัญหาได้ทั้งหมด – “อาบีนาดีบ” อาจเป็นบุคคลในปาเลสไตน์เหมือนกับ “เจ้าชายเมฮี” ซึ่งพบในบทเพลงของชาวอียิปต์ว่าทรงรถม้าและชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องความรักของคนอื่น – แต่บางคนคิดว่าเป็นวลีที่แปลว่า “เจ้านายประชากรของฉัน”