“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

เพลงสดุดีที่ 106

พระกรุณายิ่งใหญ่ของพระเจ้าa

          ชาวอิสราเอลสารภาพความผิดของตน โดยระลึกถึงบาปของบรรพบุรุษในสมัยอพยพในถิ่นทุรกันดาร และเข้ายึดครองแผ่นดินคานาอัน ผู้ประพันธ์กล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆ 8 ครั้งที่อิสราเอลทำบาป พระเจ้าทรงลงโทษและทรงให้อภัยความผิด การกล่าวถึงบาปของบรรดาบรรพบุรุษ ไม่ได้เป็นการกล่าวหาว่าท่านเหล่านั้นเป็นเหตุให้ประชาชนในปัจจุบันต้องได้รับโทษ แต่เป็นการแสดงว่า เราทุกคนในปัจจุบันก็ทำบาปเหมือนกับท่านเหล่านั้นในอดีตด้วย นักบุญเปาโลเตือนให้เราระลึกว่า “ทุกคนได้ทำบาปและขาดพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า” แต่แล้ว “ทุกคนก็ได้รับความชอบธรรมเป็นของประทาน โดยทางพระหรรษทาน” (เทียบ รม 3:23-24) นักบุญยอห์นก็สอนเช่นเดียวกันว่า “ถ้าเรากล่าวว่า ‘เราไม่มีบาป’ เรากำลังหลอกตนเองและความจริงไม่อยู่ในเรา ถ้าเราสารภาพบาป พระองค์ทรงซื่อสัตย์และทรงเที่ยงธรรม พระองค์จะทรงอภัยบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้สะอาดจากความอธรรมทั้งปวง” (1 ยน 1:8-9)

อัลเลลูยา

1จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์พระทัยดี

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

2ผู้ใดจะประกาศพระราชกิจทรงฤทธิ์ของพระยาห์เวห์ได้

        ผู้ใดจะสรรเสริญพระองค์ได้อย่างเหมาะสม

3ผู้รักษากฎเกณฑ์ย่อมเป็นสุข

        เขาปฏิบัติตามความยุติธรรมตลอดเวลา

4ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงระลึกถึงข้าพเจ้าเถิด

        เพราะเห็นแก่ความรักต่อประชากรของพระองค์

โปรดเสด็จมาทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นด้วยเถิด

5ข้าพเจ้าจะได้เห็นความรุ่งเรืองของผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรร

        จะได้ร่วมยินดีกับชนชาติของพระองค์

และภูมิใจพร้อมกับส่วนมรดกของพระองค์

6ข้าพเจ้าทั้งหลายทำบาปเช่นเดียวกับบรรดาบรรพบุรุษ

        ข้าพเจ้าทั้งหลายทำผิด ประพฤติชั่วร้าย

7บรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลายในอียิปต์

        ไม่เข้าใจพระราชกิจน่าพิศวงของพระองค์

เขาไม่ได้ระลึกถึงความรักมั่นคงมากมายของพระองค์

        เขากบฏต่อพระเจ้าสูงสุดbที่ทะเลต้นกก

8แต่พระองค์ทรงช่วยเขาให้รอดพ้นเดชะพระนามพระองค์

        เพื่อสำแดงพระอานุภาพ

9พระองค์ทรงขู่ทะเลต้นกก ทะเลก็แห้งไป

        พระองค์ทรงนำบรรดาบรรพบุรุษให้เดินในทะเลลึกเหมือนเดินในถิ่นทุรกันดาร

10ทรงช่วยเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของผู้เกลียดชังเขา

        ทรงไถ่กู้เขาจากอำนาจของศัตรู

11น้ำไหลท่วมผู้ที่เบียดเบียนเขา

        ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้เพียงคนเดียว

12บรรดาบรรพบุรุษจึงเชื่อพระวาจา

        และขับร้องสรรเสริญพระองค์

13แต่ต่อมาไม่นานเขาก็ลืมพระราชกิจของพระองค์

        และไม่รอให้เป็นไปตามแผนการของพระองค์

14เขามีความโลภไม่รู้จักอิ่มในถิ่นทุรกันดาร

        เขาทดลองพระเจ้าในที่เปลี่ยว

15พระองค์ประทานทุกสิ่งแก่เขาตามที่เขาร้องขอ

        แต่ทรงส่งโรคระบาดcมาทำลายชีวิตของเขา

16เขาอิจฉาโมเสสในค่าย

        และอิจฉาอาโรนผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์

17แผ่นดินแยกออกกลืนดาธาน

        และกลบผู้ร่วมกบฏกับอาบีรัม

18ไฟพลุ่งใส่คนกลุ่มนี้

        เปลวเพลิงเผาผลาญบรรดาคนชั่วร้าย

19บรรดาบรรพบุรุษสร้างรูปลูกโคที่ภูเขาโฮเรบ

        กราบนมัสการรูปโลหะที่หล่อขึ้น

20เขาแลกพระองค์ผู้ทรงเป็นdพระสิริรุ่งโรจน์ของตน

        กับรูปโคที่กินหญ้า

21เขาทั้งหลายลืมพระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาให้รอดพ้น

        ลืมพระองค์ผู้ทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่ในอียิปต์

22คือปาฏิหาริย์ที่ทรงกระทำในแผ่นดินของฮาม

        และกิจการน่าสะพรึงกลัวที่ทะเลต้นกก

23เมื่อพระองค์ทรงคิดจะทำลายเขาทั้งหลาย

        โมเสสผู้ที่ทรงเลือกสรร

ก็มายืนอยู่ตรงกลางเฉพาะพระพักตร์

        เพื่อระงับพระพิโรธมิให้ทรงทำลายล้างเขาเหล่านั้น

24บรรดาบรรพบุรุษไม่ยอมรับแผ่นดินน่าพิสมัย

        ไม่เชื่อพระวาจาของพระองค์

25เขาบ่นในกระโจมของตน

        ไม่ยอมฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์

26พระองค์จึงทรงยกพระหัตถ์ขึ้นเหนือเขา

        ทรงสาบานว่าจะทรงให้เขาล้มตายในถิ่นทุรกันดาร

27ให้เชื้อสายของเขาล้มตายในหมู่นานาชาติ

        ให้เขากระจัดกระจายไปทั่วโลก

28เขายอมรับใช้พระบาอัล-เปโอร์

        กินของถวายแก่ผู้ตาย

29การกระทำของเขาทำให้พระยาห์เวห์กริ้ว

        พระองค์จึงทรงบันดาลให้โรคระบาดเกิดขึ้นในหมู่เขา

30ฟีเนหัสลุกขึ้นมาลงโทษผู้ทำผิด

        โรคระบาดก็หยุด

31การทำเช่นนี้ทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นผู้ชอบธรรม

        ทุกยุคทุกสมัยตลอดไป

32ณ ธารน้ำที่เมรีบาห์ บรรดาบรรพบุรุษทำให้พระยาห์เวห์กริ้ว

        จนโมเสสต้องพลอยรับโทษเพราะเขาไปด้วย

33เขาทั้งหลายทำให้จิตใจของโมเสสขมขื่นe

        ทำให้โมเสสพูดโดยไม่ไตร่ตรอง

34บรรดาบรรพบุรุษมิได้ทำลายประชาชาติ

        ดังที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาไว้

35แต่กลับไปปะปนกับนานาชาติ

        และเรียนวิธีปฏิบัติของเขา

36บรรดาบรรพบุรุษไปรับใช้รูปเคารพของนานาชาติ

        ซึ่งกลายเป็นกับดักสำหรับเขา

37เขาถวายบุตรชายหญิงของตน

        เป็นเครื่องบูชาแก่ปีศาจ

38เขาหลั่งเลือดผู้บริสุทธิ์

        เลือดของบุตรชายหญิงของตน

เพื่อนำไปถวายแก่รูปเคารพของคานาอัน

        ทำให้แผ่นดินแปดเปื้อนเลือด

39เขาทำให้ตนมีมลทินเพราะกิจการของเขา

        เขาประพฤติตนไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าเหมือนหญิงมีชู้f

40พระพิโรธของพระยาห์เวห์จึงพลุ่งขึ้นลงโทษประชากรของพระองค์

        พระองค์ทรงเอือมระอามรดกของพระองค์

41พระองค์ทรงมอบเขาไว้ในเงื้อมมือของนานาชาติ

        ผู้ที่เกลียดชังเขากลับเป็นเจ้านายปกครอง

42บรรดาศัตรูเบียดเบียนข่มเหงเขา

        เขาจึงต้องยอมอยู่ใต้อำนาจของศัตรู

43พระองค์ทรงปลดปล่อยเขาหลายครั้ง

        แต่เขาก็จงใจเป็นกบฏต่อพระองค์

จมลงไปในความผิดของตนมากยิ่งขึ้น

44พระองค์ทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ยาก

        เมื่อทรงได้ยินเสียงร้องของเขา

45ทรงระลึกถึงพันธสัญญาที่ทรงกระทำไว้กับเขา

        ทรงพระกรุณาเพราะความรักมั่นคงยิ่งใหญ่ของพระองค์

46ทรงบันดาลให้เขาได้รับความเมตตา

        จากผู้ที่จับเขาเป็นเชลย

47ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นด้วยเถิด

        ขอทรงรวบรวมข้าพเจ้าทั้งหลายจากหมู่นานาชาติ

ข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้ขอบพระคุณแด่พระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

        และชื่นชมที่จะสรรเสริญพระองค์

48ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล

        นับตั้งแต่แรกเริ่มและตลอดไปเป็นนิตย์

ประชากรทุกคนจงกล่าวว่า “อาเมน”g

        อัลเลลูยา

106 a เพลงสดุดีบทนี้กล่าวถึงอดีตของอิสราเอลตามที่เล่าไว้ในหนังสือ ฉธบ และ กดว มีข้อ 1-5 เป็นบทนำ และข้อ 48 เป็นบทสรุป เพื่อนำมาใช้ในพิธีกรรม เป็นการสารภาพความผิดของชาติ ในพิธีนี้ชาวอิสราเอลระลึกถึงบาปที่บรรดาบรรพบุรุษได้ทำในอดีต และสารภาพความผิดต่อพระเจ้า (เทียบ 1 พกษ 8:33-34; นหม 9:5-37; อสย 63:7 - 64:11; บรค 1:15 - 3:8)

b “พระเจ้าสูงสุด” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ที่ทะเล”

c “โรคระบาด” แปลโดยคาดคะเนตามสำนวนแปลโบราณ ยกเว้นสำนวนแปลภาษากรีกที่ว่า “ความตะกละ” ต้นฉบับไม่ชัดเจน

d “พระองค์ผู้ทรงเป็น” ไม่มีในภาษาฮีบรู แต่น่าจะเพิ่มเข้ามาเพื่อให้เข้าใจว่า “พระสิริรุ่งโรจน์” ของชาวอิสราเอลคือพระยาห์เวห์

e “จิตใจของโมเสส” ต้นฉบับคลุมเครือว่า “จิตของเขา” ซึ่งอาจหมายถึง “จิตของโมเสส” หรือ “พระจิตของพระเจ้า” ก็ได้ * “ทำให้...ขมขื่น” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เป็นกบฏ”

f “หญิงมีชู้” “การมีชู้” หรือ “การล่วงประเวณี” ในภาษาของบรรดาประกาศก หมายถึงความไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า (สดด 73:27; ดู ฮชย 1:2 เชิงอรรถ b)

g ข้อนี้เป็นสูตรยอพระเกียรติ นำมาแทรกไว้ที่นี่เพื่อแสดงว่าจบบรรพที่ 4 * ต้นฉบับภาษากรีกละ “อัลเลลูยา” ที่นี่ นำมาใส่ไว้ในข้อแรกของเพลงสดุดีบทต่อไป (สดด 107)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก