เพลงสดุดีที่ 45
เพลงในวโรกาสอภิเษกสมรสa
สดด บทนี้เป็นบทประพันธ์สำหรับงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์แห่งอิสราเอลพระองค์หนึ่ง กับเจ้าหญิงต่างชาติชาวไซดอนแห่งฟีนีเชีย กล่าวถึงการที่พระเจ้าทรงเลือกสรรกษัตริย์ กล่าวถึงบทบาทของกษัตริย์ ในการปกครองแทนพระยาห์เวห์ กล่าวถึงความสง่างามของพระองค์ ขณะที่ทรงรอคอยเจ้าสาวของพระองค์ บัดนี้พระราชินีจะต้องทรงลืมประชากรของพระนางเพื่อจะทรงเป็นของพระสวามีโดยสิ้นเชิง เมื่อชาวอิสราเอลไม่มีกษัตริย์ปกครองอีกแล้ว เขายังคงใช้เพลงสดุดีบทนี้สรรเสริญ "พระเมสสิยาห์-กษัตริย์" ที่เขากำลังรอคอยว่าจะเสด็จมาสักวันหนึ่ง เราคริสตชนเข้าใจว่า สดด บทนี้กล่าวถึงพิธีอภิเษกสมรสของพระคริสตเจ้า-กษัตริย์ กับพระศาสนจักรซึ่งเป็นเสมือน "เจ้าสาว" ของพระองค์
สำหรับหัวหน้านักขับร้อง ตามทำนองเพลง "ดอกลิลลี่.."b บทกวีสอนใจของลูกหลานโคราห์ เพลงรัก
1 ถ้อยคำอันไพเราะหลั่งไหลออกมาจากใจของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าร้องเพลงถวายพระราชา
ลิ้นของข้าพเจ้าเป็นประดุจปากกาของนักเขียนผู้เชี่ยวชาญ
2 พระองค์ทรงโฉมงามเลิศสุดยิ่งกว่ามนุษย์ใดๆ
พระโอษฐ์เปล่งวาจาไพเราะจับใจ
เพราะพระเจ้าประทานพระพรแก่พระองค์ตลอดกาล
3 ข้าแต่นักรบผู้ทรงพลัง จงคาดพระแสงดาบไว้ข้างพระกาย
จงสวมพระสิริรุ่งโรจน์และพระอานุภาพเป็นอาภรณ์เถิด
4 จงเสด็จนำหน้าอย่างผู้พิชิตc
จงต่อสู้เพื่อความจริง ความอ่อนโยนและความยุติธรรม
จงให้พระหัตถ์ขวาแสดงกิจการน่าพิศวงแก่พระองค์เถิด
5 ลูกธนูของพระองค์นั้นคมกริบ
แทงทะลุใจบรรดาศัตรูของพระราชา
บรรดาประชาชาติจะสยบอยู่ใต้อำนาจของพระองค์
6 พระเจ้าข้าd พระราชบัลลังก์ของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
พระคทาแห่งขัตติยภาพของพระองค์นั้นเป็นคทาแห่งความยุติธรรม
7 พระองค์ทรงรักความยุติธรรมและทรงชังความอธรรม
เหตุฉะนี้ พระเจ้า พระเจ้าของพระองค์จึงทรงเจิมพระองค์ไว้
ด้วยน้ำมันแห่งความปีติยินดีเหนือพระราชาทั้งหลาย
8 พระภูษาของพระองค์หอมกรุ่นด้วยกลิ่นมดยอบ กฤษณาและว่านน้ำ
เสียงพิณนำความสำราญมาสู่พระองค์ที่ปราสาทงา
9 ราชธิดาของพระราชาทั้งหลายเสด็จมาพบพระองค์e
พระราชินีเสด็จเข้ามาประทับอยู่เบื้องพระหัตถ์ขวา ประดับองค์ด้วยทองคำจากโอฟีร์
10 ฟังเถิด ธิดาเอ๋ย จงดูและตั้งใจฟัง
จงลืมชาติของท่านและบ้านบิดาของท่านเถิดf
11 พระราชาจะทรงหลงรักความงามของท่าน
พระองค์ทรงเป็นเจ้าเป็นนายของท่าน จงน้อมกายเคารพ พระองค์เถิด
12 ชาวเมืองไทระนำของกำนัลมาถวาย
บรรดาเศรษฐีในหมู่ประชาชนแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์g
13 พระราชธิดาเสด็จเข้ามาอย่างสง่างาม
ทรงอาภรณ์ผ้าไหมยกทอง
14 ทรงอาภรณ์ปักลวดลายเสด็จมาเฝ้าพระราชา
บรรดาเพื่อนสาวติดตามนางมาเฝ้าพระองค์ด้วย
15 เขาทั้งหลายเดินเป็นขบวนและโห่ร้องด้วยความยินดี
เข้ามาในพระราชวังของพระราชา
16 พระราชโอรสของพระองค์จะมาแทนที่บรรดาบรรพบุรุษ
พระองค์จะทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นเจ้าปกครองทั่วแผ่นดิน
17 ข้าพเจ้าจะประกาศพระนามให้เป็นที่จดจำตลอดไปทุกยุคทุกสมัย
ประชาชาติทั้งหลายจะสรรเสริญพระองค์ตลอดไปชั่วนิรันดร
45 aนักวิชาการพระคัมภีร์บางคนคิดว่าเพลงสดุดีบทนี้เป็นบทกวีทางโลกที่แต่งขึ้นในโอกาสอภิเษกสมรสของกษัตริย์อิสราเอลองค์หนึ่ง อาจจะเป็นกษัตริย์ซาโลมอน กษัตริย์เยโรโบอัมที่ 2 หรือกษัตริย์อาหับ (ซึ่งอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงชาวไทระ 1 พกษ 16:31) แต่ธรรมประเพณีทั้งของชาวยิวและชาวคริสต์เข้าใจว่าเพลงสดุดีบทนี้กล่าวถึงการอภิเษกสมรสของพระเมสสิยาห์กัประชากรอิสราเอล ซึ่งเป้นรูปแบบของพระศาสนจักร ดู พซม 3:11; อสย 62:5; อสค 16:8-13 ในภาคแรกของบทสดุดี (ข้อ 2-9) ผู้ประพันธ์กล่าวกับพระเมสสิยาห์-กษัตริย์ โดยยกย่องว่าทรงมีคุณลักษณะของพระยาห์เวห์ (สดด 145:4-7,12-13) และคุณลักษณะของ "อิมมานูเอล" (อสย 9:5-6) ต่อจากนั้นในภาคหลัง (ข้อ 10-16) ผู้ประพันธ์กล่าวกับพระราชินี
b "ดอกลิลลี่" คำนี้จะพบอีกในคำนำของ สดด 60, 69 และ 80 อาจเป็นชื่อของเพลงซึ่งมีทำนองที่รู้จักกันดี บางคนคิดว่าคำนี้หมายถึงเครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบ คล้ายพิณ
c แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับไม่ชัดเจน
d"พระเจ้าข้า" แปลตามตัวอักษรว่า "ข้าแต่พระเจ้า" ซึ่งอาจหมายถึงกษัตริย์ก็ได้ เพราะคำว่า "พระเจ้า" (เอโลฮิม) นี้เคยใช้เรียกพระเมสสิยาห์ใน อสย 9:5 เรียกผู้นำและผู้พิพากษาใน สดด 82:6; อพย 22:6 และใช้เรียกโมเสสใน อพย 4:16; 7:1 และยังใช้เรียกราชวงศ์ดาวิดด้วยใน ศคย 12:8
e บรรดากษัตริย์ในที่นี้อาจหมายถึงชนชาติอื่นที่หันมาเชื่อในพระเจ้าของอิสราเอล พซม 1:3; 6:8; อสย 60:3ฯ; 61:5 และมานมัสการพระองค์พร้อมกับชาวอิสราเอล
f จากประโยคนี้เราทราบว่าพระราชินีทรงเป็นคนต่างชาติ
g หมายความว่าชนต่างชาติจะเข้ามายอมให้อิสราเอลเป็นผู้นำในสมัยของพระเมสสิยาห์