VI. สุภาษิตของอากูร์

 

30 1ต่อไปนี้คือสุภาษิตของอากูร์บุตรของยาเคห์ชาวเมืองมัสสาa

ชายคนนั้นพูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าเหนื่อย

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าเหนื่อยและหมดแรงb

2ข้าพเจ้าโง่เขลามากกว่าคนอื่น

ข้าพเจ้าไม่มีความเข้าใจอย่างมนุษย์

3ข้าพเจ้าไม่เคยเรียนรู้ปรีชาญาณ

และขาดความรู้ของพระผู้ศักดิ์สิทธิ์c

4ใครเล่าขึ้นไปสวรรค์แล้วลงมา

ใครเล่ารวบรวมลมไว้ในกำมือ

ใครเล่าเอาเสื้อคลุมห่อหุ้มน้ำไว้

ใครเล่ากำหนดเขตสุดปลายแผ่นดินไว้

เขาชื่ออะไร บุตรของเขาชื่ออะไร

ท่านคงรู้ละซิ”

5พระวาจาทุกคำของพระเจ้านั้นพิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริง

พระองค์ทรงเป็นโล่สำหรับผู้ลี้ภัยในพระองค์

6อย่าเพิ่มสิ่งใดเข้ากับพระวาจาของพระองค์

มิฉะนั้นพระองค์จะทรงตำหนิท่าน

และพิสูจน์ว่าท่านเป็นคนมุสา

7ข้าพเจ้าทูลขอสองสิ่งจากพระองค์

ตราบที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่ โปรดอย่าทรงปฏิเสธคำขอนี้เลย

8ขอให้ความมุสาและถ้อยคำเท็จอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า

อย่าประทานความยากจนหรือความร่ำรวยแก่ข้าพเจ้าเลย

แต่โปรดประทานอาหารเท่าที่จำเป็นแก่ข้าพเจ้า

9เพื่อว่าถ้าข้าพเจ้าอิ่ม ข้าพเจ้าจะปฏิเสธพระองค์

พูดว่า “พระยาห์เวห์เป็นใคร”

หรือเพื่อว่าถ้าข้าพเจ้ายากจน แล้วจะไปขโมย

ทำให้พระนามพระเจ้าของข้าพเจ้าถูกลบหลู่

10อย่าใส่ความผู้รับใช้ให้นายของเขาฟัง

ไม่เช่นนั้นเขาจะสาปแช่งท่าน

และท่านจะต้องรับโทษเพราะเรื่องนี้

11บางคนสาปแช่งบิดา

และไม่อวยพรมารดา

12บางคนคิดว่าตนบริสุทธิ์

แต่ไม่ได้ชำระความสกปรกของตน

13บางคนช่างหยิ่งยโส ยกย่องตนเอง

และดูถูกผู้อื่น

14บางคนมีฟันเหมือนดาบ มีเขี้ยวเหมือนมีด

เพื่อจะกัดกินคนยากจนให้หมดไปจากแผ่นดิน

และกัดกินคนขัดสนให้หมดไปจากหมู่มนุษย์d

VII. สุภาษิตใช้ตัวเลขe

 

15ปลิงมีลูกสองตัวชื่อ “ให้ฉัน” กับ “ให้ฉัน”

สามสิ่งไม่เคยอิ่ม

สี่สิ่งไม่เคยพูดว่า “พอแล้ว”

16คือแดนผู้ตาย ครรภ์ของหญิงที่เป็นหมัน

แผ่นดินที่ไม่อิ่มน้ำ

และไฟที่ไม่เคยพูดว่า “พอแล้ว”

17ดวงตาที่มองบิดาอย่างเย้ยหยัน

และดูถูกไม่ยอมฟังมารดา

จะถูกนกกาในหุบเขาจิกออกมา

และถูกลูกนกอินทรีกิน

18สามสิ่งประหลาดเหนือความเข้าใจของข้าพเจ้า

สี่สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ

19คือทางบินของนกอินทรีในอากาศ

รอยเลื้อยของงูบนก้อนหิน

ร่องรอยของเรือในทะเลลึก

และวิถีทางของชายหนุ่มกับหญิงสาวf

20หญิงมีชู้ประพฤติดังต่อไปนี้

คือกินและเช็ดปาก

แล้วพูดว่า “ดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”g

21สามสิ่งทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน

สี่สิ่งที่แผ่นดินทนไม่ได้

22คือทาสที่ได้เป็นกษัตริย์

คนโง่เขลาที่มีทุกอย่างที่เขาอยากกิน

23หญิงนิสัยไม่ดีที่ทุกคนเกลียดชังได้สามี

และหญิงทาสที่ได้ขึ้นเป็นนายแทนนายหญิงของตน

24สี่สิ่งเล็กมากในแผ่นดิน

แต่มีปรีชามากกว่าผู้มีปรีชาh

25คือมด ซึ่งเป็นสัตว์ไม่แข็งแรง

แต่ยังเตรียมอาหารไว้ในฤดูแล้ง

26ตัวไฮแรกซ์iเป็นสัตว์ไม่มีกำลัง

แต่ยังสร้างโพรงตามซอกหิน

27ตั๊กแตนไม่มีกษัตริย์

แต่ยังเดินแถวเป็นขบวน

28จิ้งจก เราใช้มือจับได้

แต่ยังเข้าไปอยู่ในพระราชวัง

29สามสิ่งเดินอย่างสง่างาม

สี่สิ่งย่างก้าวอย่างสง่าผ่าเผย

30คือสิงโตซึ่งเป็นสัตว์มีกำลังมากที่สุด

เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งใดก็ไม่ยอมถอย

31พ่อไก่ที่เดินป้ออยู่ แพะเพศผู้

และกษัตริย์ที่เสด็จนำหน้าประชากรj

32ถ้าท่านเป็นคนโง่เขลา

ยกย่องตนเอง หรือคิดแผนการชั่วร้าย

ก็จงเอามือปิดปากเถิด

33เพราะเมื่อกวนน้ำนม ก็ได้เนย

เมื่อบีบจมูก เลือดก็ออกมา

เมื่อกวนโทสะ ก็ได้การทะเลาะวิวาท

 

30 a “เมืองมัสสา” (ดู 31:1 เชิงอรรถ a) ต้นฉบับภาษากรีกจัดข้อความของ 30:1-14 ไว้ระหว่าง 24:22 และ 24:23 และจัดข้อความของ 30:15–31:9 ไว้หลัง 24:34

b “ข้าแต่พระเจ้า...ข้าพเจ้าเหนื่อยและหมดแรง” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับไม่สมบูรณ์ จึงมีคำแปลอยู่หลายแบบ เช่น ภาษาละตินแปลว่า “นิมิตเล่าโดยชายคนหนึ่งที่พระเจ้าประทับอยู่ด้วย และเขาได้รับความบรรเทา” ต้นฉบับภาษากรีกว่า “นี่เป็นถ้อยคำที่ชายคนหนึ่งพูดกับผู้ที่วางใจในพระเจ้า และข้าพเจ้าหยุด” บางคนแปลว่า “คำทำนายของชายผู้นี้สำหรับอิธีเอลและอูคาล”

c “พระผู้ศักดิ์สิทธิ์” คำนี้ในภาษาฮีบรูอยู่ในรูปพหูพจน์ แปลตามตัวอักษรว่า “บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์” อาจเป็นวิธีการกล่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์ และหมายถึง “พระเจ้า” แต่บางคนแปลว่า “บรรดาผู้มีปรีชา”

d “จากหมู่มนุษย์” ไม่แน่ว่าวลีนี้หมายถึงคนกลุ่มหนึ่ง ชนชาติหนึ่ง หรือชนชั้นหนึ่งในสังคม

e “สุภาษิตใช้ตัวเลข” มีองค์ประกอบทั้งของ “คำคม” “ปริศนา” และ “การเปรียบเทียบ” รวมอยู่ในแบบวรรณกรรมนี้ รูปแบบวรรณกรรมเช่นนี้เคยพบแล้วก่อนหน้านี้ ในรูปแบบที่ยังไม่พัฒนามากนักในวรรณกรรมภาษาฮีบรูของประกาศก เช่น อสย 17:6; อมส 1:3, 6, 9, 11, 13; มคา 5:4 เทียบ สดด 62:11ฯ และพบได้ทั่วไปในหนังสือประเภทปรีชาญาณหลายฉบับ เช่น สภษ 6:16ฯ; 30:15-33; โยบ 5:19; 40:5; ปญจ 4:12(?); 11:2; บสร 23:16ฯ; 25:7; 26:5-7, 28; 50:25; เทียบ 25:1, 2 สุภาษิตใช้ตัวเลขชุดเล็กชุดนี้ (30:15-33) แสดงให้เห็นความสนใจพิเศษต่อสิ่งน่าพิศวงในธรรมชาติและในพฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ

f “วิถีทางของชายหนุ่มกับหญิงสาว” ไม่ได้หมายถึงการเกี้ยวพาราสีเพื่อชนะใจหญิงสาว แต่หมายถึงความลึกลับของการแต่งงานและให้กำเนิดบุตร

g “แล้วพูดว่า ‘ดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิด’” ข้อความในบรรทัดนี้ดูเหมือนจะเป็นข้อความที่ผู้คัดลอกเสริมเข้ามา ไม่สู้จะเข้ากับข้อความในสองบรรทัดก่อนหน้านี้

h “มีปรีชามากกว่าผู้มีปรีชา” แปลตามสำนวนแปลโบราณต่างๆ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ถูกสร้างมาให้มีปรีชา”

i “ตัวไฮแรกซ์” แปลโดยคาดคะเน “ตัวไฮแรกซ์” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ตามซอกหิน จึงจับตัวมันได้ยาก (ดู ลนต 11:5; สดด 104:18)

j “เสด็จนำหน้าประชากร” ต้นฉบับภาษากรีกว่า “ทรงปราศรัยกับประชาชน” บรรทัดแรกของข้อนี้ก็ไม่ชัดเจนเช่นเดียวกัน “พ่อไก่” แปลตามสำนวนแปลภาษาอาหรับ บางคนเสนอคำแปลว่า “จิ้งหรีด” (ตามสำนวนแปลภาษาอัคคาเดียน) หรือแม้กระทั่ง “ม้า” “ม้าลาย” หรือ “สุนัขล่าเนื้อ” ฯลฯ