“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

จ. คำประกาศพระวาจาเรื่องต่างๆ

 

ประกาศกเยเรมีย์ทูลเตือนกษัตริย์เศเดคียาห์a

34 1พระยาห์เวห์ตรัสกับประกาศกเยเรมีย์ เมื่อกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนทรงยกกำลังพลทั้งหมด บรรดาอาณาจักรในแผ่นดินซึ่งอยู่ใต้ปกครอง และประชากรทั้งหลายมาโจมตีกรุงเยรูซาเล็มและทุกหัวเมืองในบริเวณนั้น 2“พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ จงไปทูลกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ว่า ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ ดูซิ เราจะมอบเมืองนี้ไว้ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลน และกษัตริย์พระองค์นี้จะทรงจุดไฟเผาเมือง 3พระองค์จะทรงหนีไม่พ้นพระหัตถ์ของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ แต่จะทรงถูกจับอย่างแน่นอน และจะทรงถูกมอบไว้ในมือของกษัตริย์พระองค์นี้ พระองค์จะทรงเผชิญหน้าสนทนากับกษัตริย์แห่งบาบิโลน และพระองค์จะทรงถูกนำไปยังกรุงบาบิโลน’ 4ถึงกระนั้น ข้าแต่กษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ ขอทรงฟังพระวาจาของพระยาห์เวห์เถิด พระยาห์เวห์ตรัสเกี่ยวกับพระองค์ว่า พระองค์จะไม่ทรงถูกประหารด้วยดาบ 5แต่จะสิ้นพระชนม์อย่างสงบ เขาเคยเผาเครื่องหอมถวายพระศพบรรพบุรุษของพระองค์ คือบรรดากษัตริย์ซึ่งทรงครองราชย์อยู่ก่อนหน้านั้นฉันใด เขาก็จะเผาเครื่องหอมถวายพระองค์และร้องเพลงคร่ำครวญถวายพระองค์ว่า ‘อนิจจาเอ๋ย พระองค์ทรงสิ้นแล้ว’ ฉันนั้น เพราะเราได้พูดไว้แล้ว” พระยาห์เวห์ตรัส

          6ประกาศกเยเรมีย์ทูลถ้อยคำเหล่านี้ต่อกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ที่กรุงเยรูซาเล็ม 7ขณะที่กองทัพของกษัตริย์แห่งบาบิโลนกำลังโจมตีกรุงเยรูซาเล็ม และหัวเมืองต่างๆ ที่ยังไม่ถูกทำลายแห่งยูดาห์ คือเมืองลาคีชและเมืองอาเซคาห์ เพราะสองเมืองนี้เท่านั้นเป็นเมืองป้อมแห่งยูดาห์ที่ยังเหลืออยู่b

เรื่องของทาสที่ได้รับอิสรภาพc

          8พระยาห์เวห์ตรัสกับประกาศกเยเรมีย์ หลังจากที่กษัตริย์เศเดคียาห์ทรงทำพันธสัญญาdกับประชาชนทุกคนในกรุงเยรูซาเล็ม จะออกพระราชกฤษฎีกาให้อิสรภาพแก่ทุกคนที่เป็นทาส 9ให้แต่ละคนปล่อยทาสชาวฮีบรูของตนทั้งชายและหญิงเป็นอิสระ เพื่อจะไม่มีผู้ใดบังคับพี่น้องชาวยูดาห์ของตนมาเป็นทาสอีก 10บรรดาเจ้านายและประชากรทุกคนที่ได้ทำพันธสัญญาว่าจะปล่อยทาสของตนทั้งชายและหญิงให้เป็นอิสระ และจะไม่บังคับให้เป็นทาสอีก ก็เชื่อฟัง และปล่อยทาสให้เป็นอิสระ 11แต่ต่อมาเขาเปลี่ยนใจ จับทาสชายและหญิงที่ได้ปล่อยเป็นอิสระนั้นให้กลับมาเป็นทาสอีก 12พระยาห์เวห์จึงตรัสeกับประกาศกเยเรมีย์ว่า 13“พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ เราได้ทำพันธสัญญากับบรรพบุรุษของท่าน เมื่อเรานำเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ที่ท่านเคยอยู่เป็นทาสว่า 14เมื่อครบเจ็ดปีแล้ว แต่ละคนจะต้องปล่อยพี่น้องชาวฮีบรูที่มาขายตนแก่ท่าน เมื่อเขาเป็นทาสรับใช้ท่านมาหกปีแล้ว ท่านจะต้องปล่อยเขาให้เป็นอิสระ แต่บรรพบุรุษของท่านไม่ยอมเชื่อฟังเราและไม่เงี่ยหูฟังเรา 15วันนี้ท่านทั้งหลายได้เปลี่ยนใจและทำสิ่งที่เราเห็นว่าถูกต้อง ประกาศให้อิสรภาพแก่เพื่อนบ้าน ท่านได้ทำพันธสัญญาต่อหน้าเราในวิหารที่ได้รับชื่อตามนามของเรา 16แต่แล้วท่านก็เปลี่ยนใจกลับไปทำให้นามของเราเป็นมลทิน เมื่อแต่ละคนจับทาสชายหญิงที่ได้ปล่อยให้เป็นอิสระไปตามความปรารถนาของเขาแล้ว บังคับให้กลับเป็นทาสอีก”

          17“พระยาห์เวห์จึงตรัสดังนี้ ‘ท่านทั้งหลายไม่เชื่อฟังเราที่จะประกาศอิสรภาพให้แก่พี่น้องและเพื่อนบ้านของตน บัดนี้ พระยาห์เวห์ตรัส เราประกาศอิสรภาพแก่ดาบ โรคระบาด และการขาดแคลนอาหาร ให้ทำกับท่านตามใจชอบ เราจะทำให้ท่านเป็นที่น่าสยดสยองแก่อาณาจักรทั้งหลายของแผ่นดิน 18คนที่ละเมิดพันธสัญญาของเรา ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่งพันธสัญญาซึ่งเขาได้ทำต่อหน้าเรา เราจะทำให้เขาเหล่านั้นเป็นดังลูกโคที่ถูกผ่าเป็นสองซีกเพื่อเดินผ่านระหว่างซากทั้งสองซีกนี้f 19บรรดาเจ้านายแห่งยูดาห์และเจ้านายแห่งกรุงเยรูซาเล็ม บรรดาขันที สมณะและประชากรของแผ่นดิน ซึ่งเคยทำพันธสัญญาโดยเดินผ่านระหว่างซากลูกโคสองซีกนั้น 20เราจะมอบเขาไว้ในมือของศัตรูและในมือของบรรดาผู้ที่ต้องการจะเอาชีวิตของเขา ศพของเขาจะเป็นอาหารของนกในอากาศและของสัตว์ป่า 21ส่วนกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์และบรรดาเจ้านายของพระองค์ เราจะมอบไว้ในมือของศัตรู ในมือของบรรดาผู้ที่ต้องการจะเอาชีวิตของเขา และในมือของกองทัพของกษัตริย์แห่งบาบิโลนที่เพิ่งถอยไป 22ดูซิ พระยาห์เวห์ตรัส เราจะสั่งและจะนำกองทัพนี้กลับมายังเมืองนี้อีก เขาจะโจมตี ยึด และจุดไฟเผาเมืองนี้ เราจะทำให้หัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์เป็นที่ร้างไม่มีผู้คนอาศัย’”

 

34 a เรื่องที่กล่าวถึงนี้คงเกิดขึ้นในเดือนแรกๆ ที่กรุงเยรูซาเล็มถูกล้อมในปี 588-587 ก่อน ค.ศ. เมื่อกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ยังไม่รวมกำลังพลทั้งหมดมาล้อมกรุงเยรูซาเล็ม แต่ยังคงสู้รบอยู่ทางใต้และตะวันออกเฉียงใต้ด้วย (ข้อ 7) กษัตริย์เศเดคียาห์ยังทรงมีเวลาที่จะหลีกเลี่ยงหายนะครั้งนี้ได้โดยยอมจำนน เหมือนกับที่กษัตริย์เยโฮยาคิมได้ทรงทำในปี 605 ก่อน ค.ศ.

b เมืองอาเซคาห์อยู่ที่ Tell-Zakariyeh ราว 30 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเยรูซาเล็ม และเมืองลาคีช (Tell ed-Duweir) ซึ่งอยู่ราว 20 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอาเซคาห์ เป็นเมืองป้อม 2 เมืองที่ได้ยืนหยัดต่อสู้กับกำลังพลของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์อยู่ได้นานที่สุด เศษกระเบื้องจากสมัยนั้น ซึ่งพบได้ที่ Tell ed-Duweir เป็นพยานถึงการต่อต้านครั้งนี้

c เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่ชาวบาบิโลนยกเลิกการล้อมกรุงเยรูซาเล็มเป็นการชั่วคราว (ข้อ 21-22)

d “พันธสัญญา” อาจจะแปลว่า “ข้อตกลง” แต่คำภาษาฮีบรู (berit) ใช้หมายถึงข้อตกลงใดๆ ระหว่างสองฝ่าย (ดู เช่น 2 พกษ 11:4; โยบ 31:1) เช่นเดียวกับในความหมายถึงพันธสัญญาระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ ซึ่งถูกใช้เพื่อเน้นความแตกต่างกับที่นี่ในข้อ 13

e “พระยาห์เวห์ตรัส” แปลตามตัวอักษรว่า “พระวาจาพระยาห์เวห์มาจากพระยาห์เวห์” ต้นฉบับภาษากรีกละ “จากพระยาห์เวห์”

f เกี่ยวกับพิธีกรรมโบราณที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเดินผ่านซากสัตว์ที่ถวายเป็นบูชาและถูกผ่าเป็นสองซีก ดู ปฐก 15:17 เชิงอรรถ f

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก