“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ความแห้งแล้งครั้งยิ่งใหญ่a

14 1เมื่อเกิดความแห้งแล้งแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า

                2“ยูดาห์กำลังไว้ทุกข์

                                หัวเมืองต่างๆb อ่อนกำลัง

ประชาชนโศกเศร้าประดุจกลิ้งเกลือกอยู่บนแผ่นดิน

กรุงเยรูซาเล็มส่งเสียงร้องขึ้นไปเบื้องบน

3ผู้มีสกุลส่งผู้รับใช้ให้ไปตักน้ำ

เขาก็ไปยังที่เก็บน้ำ

แต่ไม่พบน้ำ

จึงกลับมาพร้อมกับภาชนะเปล่า

เขาผิดหวังและอับอาย

จึงเอาผ้าคลุมศีรษะ

                4พื้นดินแห้งแล้ง

เพราะไม่มีฝนตกบนแผ่นดิน

ชาวนาอับอาย

จึงเอาผ้าคลุมศีรษะ

                5แม้แต่แม่กวางที่ตกลูกในท้องทุ่ง

ก็ยังทิ้งลูก เพราะไม่มีหญ้า

                6ลาป่ายืนอยู่บนที่สูงโล่งเตียน

หายใจหอบเหมือนหมาใน

ตามืดมัว

เพราะไม่มีหญ้าเขียว”               

7ข้าแต่พระยาห์เวห์

แม้ความผิดเป็นพยานกล่าวโทษข้าพเจ้าทั้งหลาย

โปรดทรงช่วยให้รอดพ้นเพราะเห็นแก่พระนามพระองค์เถิด

ความไม่ซื่อสัตย์ของข้าพเจ้าทั้งหลายมีมากมาย

ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาปผิดต่อพระองค์

                8ข้าแต่พระยาห์เวห์c ผู้ทรงเป็นความหวังของอิสราเอล

                    เป็นพระผู้ช่วยอิสราเอลให้รอดพ้นในยามลำบาก

ทำไมพระองค์จึงทรงเป็นเหมือนคนต่างถิ่นในแผ่นดินนี้

หรือเหมือนคนเดินทางที่แวะมาค้างเพียงคืนเดียว

                9ทำไมพระองค์ทรงเป็นเหมือนคนมึนงง

เหมือนคนมีกำลังแต่ช่วยเหลือผู้ใดไม่ได้

ถึงกระนั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์

พระองค์ประทับอยู่ในหมู่ข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นประชากรของพระองค์

โปรดอย่าทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเลย

                10พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ถึงประชากรนี้ว่า “เขาทั้งหลายชอบเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ ไม่ยั้งเท้าเลย พระยาห์เวห์จึงไม่พอพระทัยเขา พระองค์ทรงระลึกถึงความผิดและจะทรงลงโทษบาปของเขา”    

                11แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อย่าอธิษฐานภาวนาเพื่อความอยู่อย่างเป็นสุขของประชากรนี้  12ถึงเขาจะจำศีลอดอาหาร เราก็จะไม่ฟังเสียงร้องของเขา ถึงเขาจะถวายเครื่องเผาบูชาและธัญบูชา เราก็จะไม่รับ แต่เราจะทำลายล้างเขาด้วยดาบ ด้วยการขาดแคลนอาหาร และด้วยโรคระบาด”

                13ข้าพเจ้าจึงทูลตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า ดูซิ บรรดาประกาศกบอกเขาว่า ‘ท่านทั้งหลายจะไม่เห็นดาบ การขาดแคลนอาหารจะไม่เกิดแก่ท่าน แต่เราจะให้สันติภาพแท้จริงแก่ท่านในสถานที่นี้’”

                14แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ประกาศกเหล่านี้ประกาศความเท็จในนามของเรา เราไม่ได้ส่งเขา เราไม่ได้สั่งเขา ไม่เคยพูดกับเขาเลย เขาประกาศนิมิตเท็จ คำพยากรณ์ไร้สาระ เป็นความเพ้อฝันจากจิตใจของเขาเอง 15ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงตรัสดังนี้เกี่ยวกับบรรดาประกาศกที่ประกาศวาจาในนามของเรา ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ส่งเขามา และพูดว่า ‘จะไม่มีดาบและการขาดแคลนอาหารในแผ่นดินนี้’ บรรดาประกาศกเหล่านี้จะถูกทำลายด้วยดาบและการขาดแคลนอาหาร 16ส่วนประชากรที่ได้ฟังประกาศกเหล่านี้จะถูกโยนทิ้งอยู่ตามถนนของกรุงเยรูซาเล็ม เป็นเหยื่อของการขาดแคลนอาหารและดาบ จะไม่มีผู้ใดฝังศพของเขา รวมทั้งศพของภรรยา บุตรชาย และบุตรหญิง เราจะทำให้ความชั่วของเขาตกเหนือพวกเขา”

                17พระยาห์เวห์ตรัสสั่งข้าพเจ้า

                    ให้ไปประกาศถ้อยคำนี้แก่เขาทั้งหลายว่าd

          “ตาของเราน่าจะหลั่งน้ำตาทั้งคืนทั้งวันโดยไม่หยุด

                    เพราะบุตรหญิงพรหมจารีของประชากรของเราได้รับภัยพิบัติยิ่งใหญ่

          เป็นบาดแผลสาหัสไม่มีทางรักษาให้หายได้

          18ถ้าเราออกไปในทุ่งนา ก็เห็นผู้ถูกฆ่าด้วยดาบ

                    ถ้าเราเข้าไปในกรุง ก็เห็นผู้ที่อดอาหารตาย

          ทั้งบรรดาประกาศกและสมณะเดินไปมาในแผ่นดิน

                    โดยไม่รู้ว่าจะไปไหน”

          19ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงทอดทิ้งยูดาห์โดยสิ้นเชิงแล้วหรือ

                    พระองค์ทรงรังเกียจศิโยนแล้วหรือ

          ทำไมพระองค์จึงทรงเฆี่ยนตีข้าพเจ้าทั้งหลาย

ให้บาดเจ็บจนไม่มีทางรักษา

ข้าพเจ้าทั้งหลายรอคอยสันติภาพ แต่ไม่มีอะไรดีเกิดขึ้น

รอคอยเวลาให้หายจากโรค ก็มีแต่ความน่าสยดสยอง

20ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าทั้งหลายยอมรับความเลวร้ายของตน

และความชั่วร้ายของบรรพบุรุษ

ข้าพเจ้าได้ทำบาปผิดต่อพระองค์

21เพราะเห็นแก่พระนามพระองค์

ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าทั้งหลาย

ขออย่าทรงปล่อยให้ที่ประทับแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์eถูกลบหลู่

โปรดทรงระลึกถึงข้าพเจ้าทั้งหลาย

และอย่าทรงเพิกถอนพันธสัญญาที่ทรงทำไว้กับข้าพเจ้าทั้งหลายเลย

22ในบรรดารูปเคารพของนานาชาติ มีรูปเคารพใดบ้างทำให้ฝนตกได้

ท้องฟ้าจะให้ฝนตกหนักได้โดยลำพังตนเองหรือ

ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย

มิใช่พระองค์หรือที่ทรงทำเช่นนี้

ข้าพเจ้าทั้งหลายจึงวางใจในพระองค์

เพราะพระองค์ทรงทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด

 

14 a ความแห้งแล้งครั้งใหญ่นี้คงเกิดขึ้นในรัชสมัยของกษัตริย์เยโฮยาคิม (609-598 ก่อน ค.ศ.) คำสนทนาโต้ตอบของพระยาห์เวห์กับประกาศกเยเรมีย์มีลักษณะคล้ายกับเพลงคร่ำครวญที่ใช้ในพิธีกรรม (เทียบ สดด 74; 79; ยอล 1-2) ข้อความนี้มีโครงสร้างดังนี้ (1) ข้อ 2-6 บรรยายถึงความแห้งแล้งและการขาดแคลนอาหาร (2) ข้อ 7-9 คำคร่ำครวญของประชากร (3) ข้อ 10-12 พระดำรัสตอบของพระยาห์เวห์ (4) ข้อ 13-16 การร้องทุกข์ของประกาศกเยเรมีย์ (5) ข้อ 17-18 กล่าวอีกครั้งหนึ่งถึงความแห้งแล้งนี้ (6) ข้อ 19-22 ประชากรคร่ำครวญอีกครั้งหนึ่ง (7) 15:1-4 พระยาห์เวห์ตรัสตอบอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าประชาชนยอมรับผิดตามที่ประกาศกเยเรมีย์ขอร้อง พระยาห์เวห์ก็มิได้ทรงช่วยเหลือเขาตามคำวอนขอนั้น และยังทรงเสริมอีกว่า นอกจากความแห้งแล้งแล้ว ประชาชนจะต้องถูกศัตรูเข้าโจมตีอีกด้วย

b “หัวเมืองต่างๆ” แปลตามตัวอักษรว่า “บรรดาประตูของเธอ” (เทียบ ฉธบ 12:17; 16:15)

c “พระยาห์เวห์” ตามต้นฉบับคัดลอกภาษากรีก 13 ฉบับ และตามสำนวนแปลโบราณภาษาละติน (Vetus Latina) ต้นฉบับภาษาฮีบรูละพระนาม “พระยาห์เวห์”

d ข้อความนี้เป็นถ้อยคำของผู้เรียบเรียง เพื่อนำพระวาจาที่พระยาห์เวห์ตรัสบรรยายถึงความทุกข์ยากที่ประชากรกำลังได้รับ

e “ที่ประทับแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์” หมายถึงเนินเขาศิโยนที่ตั้งพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก