“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

เพลงบทที่สองของผู้รับใช้พระยาห์เวห์a            

49 1ดินแดนชายทะเลและเกาะทั้งหลายเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้าเถิด

                    ประชาชนที่อยู่สุดแดนไกล จงตั้งใจฟังเถิด

          พระยาห์เวห์ทรงเรียกข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าเกิด

                    ทรงขานชื่อข้าพเจ้าbตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา

            2พระองค์ทรงทำให้ปากข้าพเจ้าเป็นเสมือนดาบคม

                    ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาพระหัตถ์พระองค์

          ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นเสมือนลูกศรแหลมคม

                    และทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในแล่งเก็บลูกศรของพระองค์

          3พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลเอ๋ยc ท่านเป็นผู้รับใช้ของเรา

                    เราจะแสดงสิริรุ่งโรจน์ของเราโดยทางท่าน”

          4แต่ข้าพเจ้ากลับคิดว่า “ข้าพเจ้าได้ทำงานเหนื่อยเปล่า

                    ข้าพเจ้าเสียแรงไปเปล่าๆ ไร้ประโยชน์”

          ถึงกระนั้น รางวัลของข้าพเจ้าอยู่กับพระยาห์เวห์อย่างแน่นอน

                    และค่าตอบแทนของข้าพเจ้าก็อยู่กับพระเจ้าของข้าพเจ้า

          5พระยาห์เวห์ทรงสร้างข้าพเจ้ามาในครรภ์มารดาให้เป็นผู้รับใช้พระองค์

เพื่อนำยาโคบกลับมาหาพระองค์

และรวบรวมอิสราเอลมาอยู่กับพระองค์d

บัดนี้ พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้รับเกียรติเฉพาะพระพักตร์พระองค์

พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า

6พระองค์ตรัสว่า “เป็นการน้อยไปที่ท่านจะเป็นผู้รับใช้ของเรา

เพื่อสถาปนาเผ่าพันธุ์ยาโคบขึ้นใหม่

และรวบรวมอิสราเอลที่เหลืออยู่อีกครั้งหนึ่ง

เราจะให้ท่านเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ

เพื่อความรอดพ้นที่เรานำมาให้จะได้แผ่ไปจนสุดปลายแผ่นดิน”

7พระยาห์เวห์ผู้ไถ่กู้ และพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลe

ตรัสแก่ผู้ถูกดูหมิ่นและเป็นที่รังเกียจfของนานาชาติ

และเป็นทาสผู้ปกครองทั้งหลายว่า

“บรรดากษัตริย์จะทอดพระเนตรและทรงลุกขึ้น

บรรดาเจ้านายจะเห็นและจะกราบนมัสการ

เพราะพระยาห์เวห์ทรงซื่อสัตย์

พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลทรงเลือกท่าน”

ชาวอิสราเอลเดินทางกลับจากแดนเนรเทศ

            8พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า

“ในเวลาแห่งความโปรดปราน เราจะตอบท่าน

ในวันแห่งความรอดพ้น เราจะช่วยเหลือท่าน

เราจะปกป้องท่าน และให้ท่านเป็นพันธสัญญาของประชากร

เพื่อทำให้แผ่นดินกลับเป็นเหมือนเดิม

เพื่อจะคืนมรดกที่ถูกทำลายแล้วให้ท่าน

9บอกผู้ถูกจองจำว่า ‘จงออกมาเถิด’

บอกผู้ที่อยู่ในความมืดว่า ‘จงแสดงตัวเถิด’

เขาทั้งหลายจะเป็นเหมือนฝูงแกะที่หากินตามถนน

และที่สูงโล่งจะเป็นทุ่งหญ้าของเขาg

10เขาจะไม่หิวหรือกระหายอีก

ลมร้อนและดวงอาทิตย์จะไม่ทำร้ายเขา

เพราะพระองค์ผู้ทรงสงสารเขาจะทรงนำเขา

จะทรงนำเขาไปยังพุน้ำ

11เราจะทำให้ภูเขาทุกลูกของเราเป็นทางเดิน

ทางหลวงของเราจะอยู่บนที่สูง

12ดูซิ คนเหล่านี้จะมาจากแดนไกล

บางคนจะมาจากทิศเหนือ

บางคนจะมาจากทิศตะวันตก

บางคนจะมาจากแผ่นดินซีนิมh

13ท้องฟ้าเอ๋ย จงโห่ร้องเถิด

แผ่นดินเอ๋ย จงชื่นชมเถิด

ภูเขาทั้งหลาย จงโห่ร้องด้วยความยินดี

เพราะพระยาห์เวห์ทรงปลอบโยนประชากรของพระองค์

และทรงสงสารผู้มีความทุกข์

14แต่ศิโยนพูดว่า “พระยาห์เวห์ทรงละทิ้งข้าพเจ้า

องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทรงลืมข้าพเจ้าแล้ว”

15“หญิงคนหนึ่งจะลืมบุตรที่ยังกินนม

และจะไม่สงสารบุตรที่เกิดจากครรภ์ของนางได้หรือ”

แม้หญิงเหล่านี้จะลืมได้

เราจะไม่มีวันลืมเจ้าเลยi

16ดูซิ เราได้สลักเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา

กำแพงเมืองของเจ้าอยู่ต่อหน้าเราเสมอ

17ผู้ก่อสร้างเจ้าขึ้นใหม่jกำลังรีบมา

ผู้ทำลายเจ้าให้รกร้างได้ออกไปไกลจากเจ้าแล้ว

18จงเงยหน้าขึ้น และมองดูโดยรอบเถิด

เขาทั้งหลายชุมนุมกันมาหาเจ้า

พระยาห์เวห์ตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด

คนเหล่านี้จะเป็นเหมือนเครื่องประดับที่เจ้าสวมแน่ฉันนั้น

เจ้าจะผูกพวกเขาไว้เหมือนเจ้าสาวสวมเครื่องประดับของตน

19เพราะซากปรักหักพังที่ร้าง

และแผ่นดินที่ถูกทำลายของเจ้า

บัดนี้จะแคบเกินไปสำหรับรองรับผู้อาศัยของเจ้าk

บรรดาผู้ที่เคยทำร้ายเจ้าจะอยู่ห่างไกล

20บรรดาบุตรที่ถูกพรากไปจากเจ้า

จะพูดให้เจ้าได้ยินว่า

“สถานที่นี้แคบเกินไปสำหรับฉันแล้ว

จงหาที่ให้ฉันอยู่เถิด”

21แล้วเจ้าจะคิดว่า

“ใครได้ให้ฉันคลอดเด็กเหล่านี้

ฉันถูกพรากจากลูกไป และเป็นหมัน

ถูกจับเป็นเชลยและถูกขับไล่ออกจากบ้าน

แล้วใครได้เลี้ยงดูเด็กเหล่านี้

ดูซิ ฉันถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว

แล้วเด็กเหล่านี้มาจากไหนกัน”

22พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า

“ดูซิ เราจะยกมือเรียกนานาชาติ

และยกธงสัญญาณให้ประชาชนทั้งหลายแลเห็น

เขาจะอุ้มlบรรดาบุตรชายของเจ้ามา

และนำบุตรหญิงของเจ้าใส่บ่าแบกมาด้วย

23บรรดากษัตริย์จะเป็นพ่อเลี้ยง

และบรรดาเจ้าหญิงจะเป็นแม่เลี้ยงของเจ้า

เขาทั้งหลายจะก้มหน้าจรดพื้นดินกราบเจ้า

เขาจะเลียฝุ่นดินที่เท้าของเจ้า

แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์

ทุกคนที่ไว้ใจเราจะไม่ต้องอับอาย”

24ใครจะแย่งเหยื่อไปจากผู้มีกำลัง

ใครจะช่วยเชลยให้หนีพ้นจากทรราชmได้

25แล้วพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า

“เชลยจะถูกแย่งจากผู้มีกำลัง

เหยื่อจะหนีพ้นทรราชได้

เราจะต่อสู้กับคู่อริของเจ้า

เราจะช่วยบรรดาบุตรของเจ้าให้รอดพ้น

26เราจะทำให้ผู้เบียดเบียนเจ้าต้องกินเนื้อของตน

เขาจะดื่มเลือดของตนจนมึนเมา

เหมือนดื่มเหล้าองุ่นใหม่

แล้วมนุษย์ทุกคนจะรู้ว่า

เราคือพระยาห์เวห์ ผู้ช่วยเจ้าให้รอดพ้น

เราคือผู้ไถ่กู้เจ้า ผู้ทรงอานุภาพของยาโคบ”

 

49 a นักวิชาการบางคนคิดว่าบทเพลงบทนี้จบที่ข้อ 6 แต่บางคนคิดว่าต้องเพิ่มข้อ 7-9 เข้าไปด้วย บทเพลงของผู้รับใช้บทที่สองนี้แสดงความคิดเดียวกันกับบทเพลงบทแรก (42:1-8) และเน้นคุณลักษณะเฉพาะบางประการของภารกิจของผู้รับใช้พระยาห์เวห์ คือการที่พระเจ้าทรงกำหนดภารกิจนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว (ข้อ 1 และ 5) ภารกิจของผู้รับใช้ไม่ครอบคลุมเพียงการรวบรวมอิสราเอลไว้ด้วยกันเท่านั้น แต่ยังต้องนำแสงสว่างไปให้แก่นานาชาติ (ข้อ 6) และต้องนำคำสอนใหม่น่าสนใจมาให้ทุกคนอีกด้วย (ข้อ 2) คำสอนนี้จะนำแสงสว่างและความรอดพ้นมาให้ (ข้อ 6) บทเพลงบทนี้ยังเพิ่มข้อความที่กล่าวถึงความล้มเหลวของผู้รับใช้ (ข้อ 4 และ 7ก) แต่เขาจะวางใจในพระเจ้าเท่านั้น (ข้อ 4 และ 5) และจะประสบชัยชนะในที่สุด (ข้อ 7) ส่วนบทเพลงบทที่สาม (50:4-9,[10-11]) และบทเพลงบทที่สี่ (52:13 – 53:12) จะเพิ่มรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับบุคลิกภาพและภารกิจของผู้รับใช้ฯ

b “ขานชื่อข้าพเจ้า” พระเจ้าทรงกำหนดภารกิจของผู้รับใช้ไว้ล่วงหน้า เช่นเดียวกับทรงกำหนดภารกิจของประกาศกเยเรมีย์ (ดู ยรม 1:5)

c “อิสราเอลเอ๋ย” นักวิชาการส่วนใหญ่คิดว่าคำนี้เป็นคำที่ผู้คัดลอกเขียนเพิ่มเข้ามาตามข้อความใน 44:21 ที่กล่าวว่า “อิสราเอลคือผู้รับใช้พระยาห์เวห์” แต่ความคิดนี้ขัดแย้งกับข้อ 5-6 ที่ผู้รับใช้ฯเป็นอีกบุคคลหนึ่งแตกต่างจากอิสราเอล ถึงกระนั้น คำนี้ปรากฏอยู่ในสำเนาคัดลอกทุกฉบับ จึงไม่น่าจะเป็นคำที่ผู้คัดลอกเพิ่มเติมเข้ามา และอาจอธิบายได้ว่าคำ “ผู้รับใช้” หมายถึงประชากรอิสราเอลทั้งชาติ หรือหมายถึงปัจเจกบุคคลซึ่งเป็นผู้นำ และผู้นำความรอดพ้นมาให้อิสราเอล

d “รวบรวม...มาอยู่กับพระองค์” แปลตามสำนวนแปลโบราณ และสำเนาโบราณซึ่งพบได้ที่ “กุมราน” ส่วนต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “และจะไม่รวบรวม”

e ถ้าข้อ 7 นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของ “บทเพลงของผู้รับใช้พระยาห์เวห์” บทที่ 2 (ดู 49:1 เชิงอรรถ a) ข้อความนี้ก็เป็นการกล่าวพยากรณ์ถึงการที่เขาจะถูกดูหมิ่นและได้รับเกียรติ ซึ่งจะได้รับการกล่าวถึงอย่างยืดยาวในบทเพลงบทที่ 4 แต่ถ้าข้อ 7 นี้ต้องรวมกับข้อความตอนต่อไป ข้อความนี้ก็กล่าวถึงการที่อิสราเอลได้รับการดูถูกเหยียดหยามเป็นเวลา 40 ปีในช่วงเวลาการถูกเนรเทศ และกำลังจะได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่อย่างน่าพิศวงจากพระเจ้า

f “ถูกดูหมิ่น” และ “เป็นที่รังเกียจ” อิสราเอลเป็นผู้ถูกกระทำ (passive) ตามสำเนาโบราณซึ่งพบได้ที่กุมราน 1QIsa ตามต้นฉบับภาษาฮีบรู อิสราเอลเป็นผู้กระทำ (active)

g ข้อ 9-11 ซ้ำความคิดหลักเรื่องการเดินทางกลับจากเนรเทศตามทางหลวงอย่างสะดวกสบาย (ดู 35:5-10; 41:17-20; 43:19-20)

h “ซีนิม” อาจหมายถึง “สเวเน” หรือ “อัสสวน” ในปัจจุบัน ที่ชาวกรีกเคยเรียกว่า “Elephantine” ซึ่งมีนิคมของชาวยิวตั้งอยู่

i ข้อความในข้อเหล่านี้ชวนให้คิดถึงคำสอนของประกาศกโฮเชยา เยเรมีย์ และสำนักเฉลยธรรมบัญญัติ ( ดู 54:8 เชิงอรรถ c)

j “ผู้ก่อสร้างเจ้าขึ้นใหม่” ตามสำเนาโบราณซึ่งพบได้ที่กุมราน 1QIsa ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “บรรดาบุตรของเจ้า”

k “แคบเกินไป...ของเจ้า” แปลตามสำนวนแปลโบราณต่างๆ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เจ้าคับแคบ” ประชาชนที่กลับจากแดนเนรเทศจะมีจำนวนมากกว่าประชากรดั้งเดิม จำนวนคนที่เพิ่มขึ้นนี้จะรวมผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วย (ข้อ 22-23)

l “อุ้ม” เป็นกริยาที่แสดงความรักในการนำบุตรไปกับตน

m “ทรราช” ตามสำนวนแปลโบราณภาษาซีเรียค ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ผู้ชอบธรรม” การช่วยให้รอดพ้นดูเหมือนจะไม่มีทางเป็นไปได้ แต่พระเจ้าจะทรงทำให้สำเร็จ (เทียบ ข้อ 22)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก