“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ประชากรรอคอยการปลดปล่อยa

33 1วิบัติจงเกิดแก่ท่านผู้ทำลายที่ไม่ได้ถูกทำลาย

                    ท่านผู้ทรยศที่ไม่ถูกทรยศ

เมื่อท่านทำลายผู้อื่นแล้ว ท่านจะถูกทำลาย

เมื่อท่านทรยศผู้อื่นแล้วb ท่านก็จะถูกทรยศด้วย

                2ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงพระกรุณาข้าพเจ้าทั้งหลาย

ข้าพเจ้าทั้งหลายวางใจในพระองค์

ขอทรงเป็นพละกำลังcของข้าพเจ้าทั้งหลายทุกเช้า

เป็นความรอดพ้นในยามยากลำบาก

                3เมื่อได้ยินเสียงอึกทึก ประชาชนทั้งหลายจะหนีไป

เมื่อทรงลุกขึ้น นานาชาติจะกระจัดกระจายไป

                4ของที่ริบได้จากท่านจะถูกรวบรวมเหมือนตั๊กแตนรวมตัวกัน

ผู้คนจะกระโดดเข้าตะครุบของเหล่านั้นเหมือนฝูงตั๊กแตน

                5พระยาห์เวห์ทรงสูงส่ง เพราะประทับอยู่บนที่สูง

ทรงบันดาลให้ศิโยนมีความยุติธรรมและความชอบธรรมอย่างเต็มเปี่ยม

                6พระองค์จะทรงเป็นความมั่นคงของท่านตลอดเวลา

ทรงเป็นความรอดพ้น ปรีชาญาณ และความรู้อย่างอุดมสมบูรณ์

ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นทรัพย์สมบัติของศิโยน

                7ดูซิ ชาวกรุงเยรูซาเล็มdส่งเสียงร้องอยู่ตามถนน

บรรดาทูตสันติภาพร่ำไห้อย่างขมขื่น

                8ทางหลวงถูกทิ้งร้าง

ไม่มีผู้ใดเดินผ่านทางนั้น

เขาละเมิดพันธสัญญา

ดูหมิ่นพยานe ไม่เคารพนับถือผู้คน

                9แผ่นดินไว้ทุกข์และหมดกำลัง

เลบานอนเหี่ยวแห้งเพราะความอับอาย

ที่ราบชาโรนเป็นเหมือนถิ่นทุรกันดาร

แคว้นบาชานและภูเขาคารเมลไม่มีใบไม้เหลืออยู่เลย

                10พระยาห์เวห์ตรัสว่า “บัดนี้ เราจะลุกขึ้น

บัดนี้ เราจะยืนขึ้น

บัดนี้ เราจะได้รับการยกย่อง

                11แผนการของท่านเป็นเหมือนฟางข้าว

กิจการของท่านก็เป็นเหมือนซังข้าว

ลมหายใจของเราfเป็นไฟที่จะเผาผลาญท่าน

                12ประชาชนทั้งหลายจะเป็นเหมือนเตาปูน

                    เป็นเหมือนกอหนามที่ถูกตัดเพื่อเผาไฟ”

                13ท่านทั้งหลายที่อยู่ห่างไกล จงฟังเถิดว่าเราได้ทำอะไร

                    ท่านทั้งหลายที่อยู่ใกล้ จงรับรู้กำลังของเรา

          14คนบาปในศิโยนมีความกลัว

                    ความตกใจเข้าครอบงำคนไม่ยำเกรงพระเจ้า

          “ใครในหมู่พวกเราจะอยู่กับไฟที่เผาผลาญได้

                    ใครในหมู่พวกเราจะทนอยู่กับการไหม้ตลอดไปได้”

          15ผู้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมและพูดจาซื่อตรง

                    ผู้ไม่ยอมรับผลประโยชน์จากการข่มเหง

          ผู้สลัดมือไม่ยอมรับสินบน

                    อุดหูไม่ยอมฟังแผนการหลั่งโลหิต

          และปิดตาไม่มองความชั่วร้าย

          16บุคคลเช่นนี้จะพำนักอยู่บนที่สูง

                    ที่มั่นของเขาจะเป็นป้อมหิน

          เขาจะมีอาหารกินและมีน้ำดื่มไม่มีวันขาดแคลนg

การกลับมาที่กรุงเยรูซาเล็ม

            17ตาของท่านจะเห็นกษัตริย์ทรงความรุ่งโรจน์

                    จะเห็นแผ่นดินที่แผ่ขยายกว้างไกล

                18ใจของท่านจะคิดถึงความหวาดกลัวในอดีต

                    ถามตนเองว่า “ผู้จดบัญชีอยู่ที่ไหน

          ผู้ชั่งเงินภาษีอยู่ที่ไหน

                    ผู้นับหอคอยอยู่ที่ไหน”

19ท่านจะไม่เห็นประชาชนที่โหดร้ายอีก

ประชาชนซึ่งพูดภาษาแปลกๆ ที่ท่านฟังไม่ออก

พูดภาษาต่างชาติที่ท่านไม่เข้าใจ

20จงมองดูศิโยน เมืองแห่งเทศกาลฉลองของเรา

ดวงตาของท่านจะเห็นกรุงเยรูซาเล็ม

เป็นที่พำนักสงบ เป็นกระโจมที่ไม่ต้องเคลื่อนย้าย

หลักกระโจมจะไม่ต้องถอนขึ้น

เชือกผูกกระโจมจะไม่ถูกตัด

21ที่นั่น พระยาห์เวห์จะทรงสำแดงความยิ่งใหญ่แก่พวกเรา

เหมือนสถานที่ของแม่น้ำและคลองกว้าง

ที่ไม่มีผู้ใดแจวเรือเข้ามา

ไม่มีเรือใหญ่hผ่านไป

22เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้พิพากษาของเรา

พระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้ออกกฎหมายของเรา

พระยาห์เวห์ทรงเป็นกษัตริย์ของเรา

พระองค์จะทรงช่วยเราให้รอดพ้น

23สายโยงของท่านหย่อนลงจนยึดเสากระโดงให้มั่นคงไม่ได้

ยึดใบเรือให้กางก็ไม่ได้

เวลานั้นจะมีของที่ริบได้มากมายมาแบ่งกัน

จนคนง่อยก็จะเข้ามาร่วมยึดด้วย

24ไม่มีชาวเมืองคนใดจะพูดว่า “ข้าพเจ้ากำลังป่วย”

ประชาชนผู้อาศัยอยู่ที่นั่นจะได้รับการอภัยความผิด

 

33 a แม้ว่าบทนี้จะมีข้อความพาดพิงถึงความคิดหลายเรื่องของประกาศกอิสยาห์ แต่ลีลาการเขียนและคำศัพท์ทีใช้แสดงว่าประกาศกอิสยาห์ไม่ใช่ผู้ประพันธ์ข้อความเหล่านี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับเพลงสดุดี ชวนให้คิดว่าบทประพันธ์บทนี้แต่งขึ้นโดยประกาศกที่ประกาศพระวาจาในพิธีกรรมสมัยหลังกลับจากเนรเทศ การไม่กล่าวถึงชื่อบุคคลหรือเหตุการณ์ใดโดยเจาะจงทำให้กำหนดไม่ได้ว่าบทประพันธ์บทนี้เขียนขึ้นเมื่อใด

b “ทรยศผู้อื่นแล้ว” แปลตามสำเนาโบราณซึ่งพบที่กุมราน 1QIsa ต้นฉบับภาษาฮีบรูเข้าใจไม่ได้

c “พละกำลัง” แปลตามตัวอักษรว่า “แขน” “ของข้าพเจ้าทั้งหลาย” แปลตามสำนวนแปลโบราณต่างๆ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ของเขาทั้งหลาย”

d “ชาวกรุงเยรูซาเล็ม” แปลโดยคาดคะเน (เทียบ 29:1) ต้นฉบับภาษาฮีบรูเข้าใจไม่ได้ แต่มีรากศัพท์คล้ายกับ ‘Ariel’ ซึ่งหมายถึงกรุงเยรูซาเล็ม การพรรณนาถึงภัยพิบัติต่างๆ ของกรุงเยรูซาเล็มเป็นความคิดหลักที่พบได้บ่อยๆ ในเพลงสดุดีประเภท “คำอ้อนวอน”

e “พยาน” แปลตามสำเนาโบราณซึ่งพบที่กุมราน 1QIsa ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เมือง”

f “ของเรา” แปลตามสำนวนแปลโบราณภาษาอาราเมอิก (Targum) ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ของท่านทั้งหลาย”

g คำถามและคำตอบในข้อ 14-16 กล่าวถึงคุณลักษณะที่จำเป็นของบุคคลที่อยากเข้ามาใกล้พระเจ้า มีลักษณะคำโต้ตอบที่ใช้ในพิธีกรรม เช่นเดียวกับใน สดด 15; 24:3-5

h ข้อความตอนนี้อาจหมายความว่าพระยาห์เวห์จะทรงเป็นเหมือนแม่น้ำ ซึ่งในอียิปต์และอัสซีเรียเป็นสิ่งประกันถึงความมั่งคั่งและความปลอดภัยของแผ่นดิน หรืออาจหมายความว่าพระยาห์เวห์เองจะประทานให้อิสราเอลมีแม่น้ำไหลผ่านเป็นเหมือนบ่อเกิดพระพรต่างๆ แต่เรือที่เป็นศัตรูจะไม่ใช้ทางน้ำเหล่านี้ ** ภาพอุปมาในข้อ 21 จะดำเนินต่อไปในข้อ 23 ส่วนข้อ 22 น่าจะถูกเสริมเข้ามาในภายหลัง

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก