“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

กล่าวโทษการส่งทูตไปอียิปต์a 

30 1พระยาห์เวห์ตรัสว่า

“วิบัติจงเกิดแก่ท่านทั้งหลาย บุตรที่เป็นกบฏ

ท่านปฏิบัติตามแผนที่ไม่ใช่แผนของเรา

ท่านทำข้อตกลงที่เราไม่ดลใจให้ทำ

ดังนี้ท่านจึงทำบาปมากยิ่งขึ้น

2ท่านออกเดินทางไปอียิปต์โดยไม่ปรึกษาเรา

ไปขอความอารักขาจากกษัตริย์ฟาโรห์

ไปหาที่หลบภัยใต้ร่มเงาของอียิปต์

3ความอารักขาของกษัตริย์ฟาโรห์จะกลับเป็นความอับอายของท่าน

และที่หลบภัยใต้ร่มเงาของอียิปต์จะกลับเป็นความอัปยศของท่าน

4เมื่อบรรดาเจ้านายของท่านมาถึงเมืองโศอัน

และทูตของท่านไปถึงเมืองคาเนสb

5ทุกคนจะผิดหวังที่ชนชาตินี้ไม่เป็นประโยชน์แก่ท่าน

ไม่นำความช่วยเหลือหรือผลประโยชน์ใด

 แต่นำความอับอายและความอัปยศมาให้

กล่าวโทษอีกครั้งหนึ่งที่ส่งทูตc

          6คำพยากรณ์กล่าวโทษสัตว์ป่าแห่งเนเกบ

ในแผ่นดินแห่งความทุกข์ยากและความกังวล

ซึ่งเป็นที่อาศัยของสิงโตเพศเมียและสิงโตเพศผู้ที่คำรามd

ที่งูพิษและมังกรบินอาศัยอยู่

เขาทั้งหลายบรรทุกทรัพย์สมบัติบนหลังลา

และบรรทุกทรัพย์สินบนหลังอูฐ

ไปยังประชาชนชาติหนึ่งซึ่งจะช่วยเขาไม่ได้เลย

7ความช่วยเหลือของอียิปต์นั้นไร้ค่าและเปล่าประโยชน์

ดังนั้น เราจึงเรียกเขาว่า “ราหับผู้อยู่เฉย”e

อนาคตของประชากรที่ไม่ยอมเชื่อฟังf

          8บัดนี้ จงไปเขียนเรื่องนี้ลงบนแผ่นจารึกต่อหน้าเขา

จงจดไว้ในม้วนหนังสือ

เพื่อเป็นสักขีพยานถาวรในอนาคตตลอดไป

9เพราะเขาทั้งหลายเป็นประชากรที่เป็นกบฏ เป็นลูกที่ชอบพูดเท็จ

เป็นบุตรที่ไม่ยอมฟังคำสั่งสอนของพระยาห์เวห์

10เขาพูดกับบรรดาผู้ทำนายว่า “อย่าเห็นนิมิตเลย”

พูดกับบรรดาประกาศกว่า “อย่าประกาศความจริงแก่เรา

แต่จงพูดถ้อยคำที่รื่นหู

จงบรรยายถึงนิมิตที่หลอกลวง

11จงออกจากทาง จงหันออกไปจากทางเดิน

จงให้พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลพ้นจากสายตาของเรา”

12ดังนั้น พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า

“ท่านทั้งหลายดูหมิ่นถ้อยคำนี้

ไว้วางใจการข่มเหงและการทุจริต

ยึดสิ่งเหล่านี้เป็นที่พึ่ง

13ความผิดนี้ของท่านจะเป็นเหมือนช่องในกำแพงสูงมีรอยร้าว

ที่จะพังทลายลงทันทีภายในพริบตาเดียว

14พระองค์จะทรงทำให้กำแพงนี้แตกเหมือนภาชนะดินเผา

ซึ่งแตกเป็นชิ้นๆ จนซ่อมไม่ได้

ชิ้นที่แตกเหล่านั้นไม่พบชิ้นดีใด

ที่จะใช้ตักไฟออกจากเตา

หรือใช้ตักน้ำออกจากบ่อเก็บน้ำได้เลย”

15พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า

พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลตรัสดังนี้

“ถ้าท่านกลับใจและอยู่โดยสงบ

ท่านทั้งหลายจะรอดพ้น

ถ้าท่านไว้ใจเราและอยู่ในความสงบ

ท่านจะมีกำลังเข้มแข็ง

แต่ท่านไม่ยอมทำเช่นนี้g

16ท่านทั้งหลายพูดว่า

‘ไม่ใช่ เราจะขี่ม้าหนีไป’

ท่านทั้งหลายจงหนีไปเถิด

ท่านพูดว่า ‘เราจะขี่ม้าเร็ว’

แต่ผู้ไล่ตามท่านจะเร็วกว่า

17ท่านทั้งหลายหนึ่งพันคนจะหนีhเพราะคำข่มขู่ของคนคนเดียว

ท่านทั้งหลายจะหนีไปเพราะคำข่มขู่ของคนห้าคน

จนท่านจะเหลืออยู่เหมือนเสาธงบนยอดเขา

เหมือนสัญญาณบนเนินเขา”                         

พระเจ้าจะทรงอภัยโทษi

          18แต่พระยาห์เวห์ทรงคอยที่จะทรงพระกรุณาท่านทั้งหลาย

พระองค์จะทรงลุกขึ้นเพื่อแสดงพระเมตตาต่อท่าน

เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าผู้เที่ยงธรรม

ทุกคนที่วางใจในพระองค์ย่อมเป็นสุข

19ประชากรแห่งศิโยน

ผู้อาศัยที่กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงฟังเถิด

ท่านทั้งหลายจะไม่ต้องร้องไห้อีกเลย

เมื่อท่านร้องขอความช่วยเหลือ

พระองค์จะทรงพระเมตตาต่อท่าน

เมื่อทรงได้ยิน พระองค์จะทรงตอบท่าน

20แม้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานความยากลำบากให้เป็นเหมือนอาหาร

และประทานความทุกข์ใจให้เป็นเหมือนน้ำดื่ม

ถึงกระนั้นพระอาจารย์ของท่านจะไม่ซ่อนพระองค์อีก

ตาของท่านจะเห็นพระอาจารย์

21หูของท่านจะได้ยินถ้อยคำนี้จากเบื้องหลังว่า

“นี่เป็นหนทาง จงเดินในทางนี้เถิด”

ไม่ว่าท่านจะหันไปทางขวาหรือหันไปทางซ้าย

22ท่านจะคิดว่ารูปเคารพหุ้มเงินของท่านมีมลทิน

ท่านจะทิ้งรูปเคารพหุ้มทองคำเหมือนทิ้งสิ่งสกปรก

ท่านจะพูดว่า “ไปให้พ้น”

23แล้วพระองค์จะประทานฝนแก่เมล็ดพืชที่ท่านได้หว่านลงในดิน

ข้าวสาลีผลิตผลของดินจะอุดมสมบูรณ์

วันนั้น สัตว์เลี้ยงของท่านจะหากินอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่

24โคและลาที่ใช้ทำนาจะกินหญ้าหมักรสอร่อย

ที่ใช้พลั่วและส้อมซัดตักมาให้

25บนภูเขาและเนินสูงทุกแห่งจะมีลำธารและคูน้ำไหล

ในวันที่ศัตรูจำนวนมากจะถูกฆ่า

เมื่อหอคอยจะพังทลาย

26ในวันที่พระยาห์เวห์จะทรงพันบาดแผลให้ประชากรของพระองค์

และจะทรงรักษาบาดแผลซึ่งเขาถูกพระองค์ทรงโบยตี

แสงของดวงจันทร์จะเป็นเหมือนแสงของดวงอาทิตย์

และแสงของดวงอาทิตย์จะสว่างเป็นเจ็ดเท่า

จะเป็นเหมือนแสงสว่างของเจ็ดวัน

กล่าวโทษอัสซีเรียj

          27ดูซิ พระนามพระยาห์เวห์มาจากแดนไกล

พระพิโรธร้อนเป็นไฟ

ความกริ้วของพระองค์เป็นเหมือนควันที่ปกคลุม

ริมพระโอษฐ์เต็มด้วยความกริ้ว

พระชิวหาเป็นเหมือนไฟเผาผลาญ

28พระปัสสาสะเป็นเหมือนลำธารเอ่อท่วมท้นถึงคอ

เพื่อทรงใช้ตะแกรงที่ทำลายร่อนนานาชาติ

และเพื่อจะทรงใส่บังเหียนที่ขากรรไกรของประชาชาติ

นำเขาให้หลงทาง

29ท่านทั้งหลายจะร้องเพลงเหมือนในคืนที่มีการฉลอง

ใจของท่านจะยินดีเหมือนคนที่ออกเดินตามเสียงปี่

ไปยังภูเขาของพระยาห์เวห์ ไปถึง “พระศิลา” แห่งอิสราเอล

30พระยาห์เวห์จะทรงบันดาลให้พระสุรเสียงกัมปนาทของพระองค์เป็นที่ได้ยิน

และจะทรงสำแดงพระกรที่ฟาดลงด้วยพระพิโรธที่ลุกร้อนเหมือนไฟ

เหมือนเปลวเพลิงที่เผาผลาญ

พร้อมกับฟ้าแลบ ฝนหนัก และลูกเห็บ

31ชาวอัสซีเรียจะกลัวลานเมื่อได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์

พระองค์จะทรงใช้พระคทาโบยตีเขา

32แต่ละครั้งที่พระยาห์เวห์ทรงใช้พระคทาโบยตีเพื่อลงโทษเขาk

จะมีเสียงรำมะนาและเสียงพิณเขาคู่ควบไปด้วย

พระองค์จะทรงกวัดแกว่งพระกรใส่เขา

33เพราะที่เผาlจัดไว้นานแล้ว

ถูกแล้ว จัดไว้สำหรับกษัตริย์

ที่เผาก็ลึกและกว้าง มีไฟและฟืนมากมาย

พระปัสสาสะของพระยาห์เวห์จะเป็นเหมือนธารกำมะถันมาจุดไฟให้ลุกไหม้

 

30 a ประกาศกประกาศคำกล่าวโทษนี้เมื่อคณะทูตของกษัตริย์เฮเซคียาห์ออกเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ เพื่อต่อต้านการจู่โจมจากอัสซีเรีย (การส่งทูตคราวนี้เกิดขึ้นราวปี 703-702 ก่อน ค.ศ.)

b “โศอัน” คือเมืองทานิส “คาเนส” คือเมืองอานูซิส ที่เฮโรโดตัส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกกล่าวถึง หรือที่ชาวโรมันเรียกว่า “Heracleopolis Magna” เมืองทั้งสองเมืองตั้งอยู่ในดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ของอียิปต์

c อาจเป็นทูตคณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวโทษในคำประกาศพระวาจาบทก่อน ชื่อของคำประกาศพระวาจานี้ (“คำพยากรณ์กล่าวโทษสัตว์ป่าแห่งเนเกบ”) เป็นคำแรกของการประกาศพระวาจา เช่นเดียวกับใน 21:13 เชิงอรรถ I ประกาศกกล่าวถึงความยากลำบากและอันตรายของการเดินทาง เมื่อเทียบกับผลประโยชน์น้อยนิดที่ได้มาจากการส่งทูตไป

d “ที่คำราม” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ของมัน”

e “ผู้อยู่เฉย” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูเข้าใจไม่ได้ “ราหับ” เป็นสัตว์มหึมาตามตำนานเทพเช่นเดียวกับ “เลวีอาธาน” (ดู 27:1) ในสมัยดึกดำบรรพ์ก่อนสร้างโลก (51:9; โยบ 2:6; 12:13; ดู 9:13; สดด 89:11) ที่นี่ เช่นเดียวกับใน สดด 87:4 “ราหับ” หมายถึงอียิปต์ บางคนแปลว่า “ราหับซึ่งล้มลง” การแปลว่า “ราหับผู้นั่งเฉย” (หรือ “ราหับซึ่งล้มลง”) หมายความว่าสัตว์มหึมาตัวนี้ (คืออียิปต์) ทำอันตรายใครไม่ได้ (เทียบ โยบ 40:25-26) เทียบกับเลวีอาธานซึ่งหมายถึงจระเข้แห่งอียิปต์

f ข้อ 9-17 ของบทประพันธ์แต่งขึ้นตอนต้นรัชกาลของกษัตริย์เฮเซคียาห์ ประกอบด้วยคำประกาศพระวาจา 3 ครั้งต่างกัน (ข้อ 9-11; 12-14; 15-17) ซึ่งกล่าวย้ำข้อความที่ประกาศกกล่าวโทษประชาชนร่วมสมัย เมื่อประชาชนไม่ยอมฟัง ประกาศกจึงเขียนคำขู่เหล่านี้ลงเป็นลายลักษณ์อักษร เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อมาจะพิสูจน์ว่าประกาศกพูดถูก (ข้อ 8) ช่วงเวลานี้ดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มของช่วงเวลาที่ประกาศกหยุดไม่ประกาศพระวาจา จนกระทั่งถึงเวลาที่กษัตริย์เซนนาเคริบแห่งอัสซีเรียกำลังจะยกทัพมาจู่โจมยูดาห์อีก ช่วงเวลาเงียบของประกาศกอีกครั้งหนึ่งอาจจะเห็นได้จากข้อความใน 8:16-18 หลังจากสงครามซีโรเอฟราอิม (ดู “ความรู้เกี่ยวกับหนังสือประกาศก” ข้อ 8)

g ตั้งแต่สมัยสงครามซีโรเอฟราอิมแล้ว (ดู 7:9) พระเจ้าทรงเรียกร้องเพียงแต่ให้ยูดาห์วางใจในพระองค์เท่านั้น (ดู 28:16) แทนที่จะไปร่วมเป็นพันธมิตรกับชนต่างชาติ ในกรณีนี้ ประกาศกหมายถึงการไปร่วมเป็นพันธมิตรกับอียิปต์เพื่อขอความช่วยเหลือให้มาช่วยต่อต้านการรุกรานของอัสซีเรีย

h “หนี” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “หนึ่ง”

i ข้อความตอนนี้ นอกจากข้อ 18 มีฉันทลักษณ์ไม่ชัดเจน รวมทั้งเนื้อหาก็ไม่ชัดเจนด้วย เพราะเป็นการรวบรวมความคิดที่พบได้ในภาคที่ 2 และ 3 ของหนังสืออิสยาห์ (เทียบ เช่น 44:9; 60:20; 63:10) เป็นความคิดสมัยหลังกลับจากการเนรเทศ และข้อ 18 เป็นตัวเชื่อมกับคำประกาศพระวาจาที่อยู่ก่อนหน้านั้น

j อาจเป็นการประกาศพระวาจาที่ประกาศกประกาศเมื่อกษัตริย์เซนนาเคริบกำลังคุกคามกรุงเยรูซาเล็ม ประกาศกบรรยายอย่างแข็งขันถึงการที่พระยาห์เวห์ทรงเข้ามาช่วยเหลืออย่างน่ากลัว

k “เพื่อลงโทษเขา” แปลตามสำเนาโบราณบางฉบับ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “รากฐาน” ข้อความตอนปลายของข้อนี้มีปัญหา ยังอาจแปลตามตัวอักษรได้อีกว่า “ในการยกพระหัตถ์ขึ้นสู้รบ พระองค์จะทรงต่อสู้กับเขา” วลีที่แปลว่า “กวัดแกว่งพระกร” โดยทั่วไปในพระคัมภีร์ หมายถึงท่าทางของสมณะที่แกว่งชูของถวายแด่พระเจ้า แต่ใน 19:16 เป็นท่าทีของการคุกคาม

l “ที่เผา” ภาษาฮีบรูว่า “tophet” เป็นสถานที่ในหุบเขาเบนฮินโนมที่มีการเผาเด็กทารกเป็นเครื่องบูชาถวายแด่เทพ “โมเลค” (ดู ลนต 18:21 เชิงอรรถ b) คำ “โมเลค” อาจชวนให้คิดถึงคำว่า “กษัตริย์” (ภาษาฮีบรูว่า “เมเลค”) ในบรรทัดต่อมาก็ได้ ถ้าคำนี้ไม่ได้หมายถึง “กษัตริย์” แห่งอัสซีเรีย

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก