“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

จ. บทประพันธ์กล่าวถึงอิสราเอลและยูดาห์

 

กล่าวโทษกรุงสะมาเรียa

28 1วิบัติจงเกิดแก่มงกุฎดอกไม้ที่สง่างาม

ของบรรดาผู้นำขี้เมาแห่งเอฟราอิม

วิบัติจงเกิดแก่ดอกไม้งดงามรุ่งเรืองของเขาที่กำลังร่วงโรย

ซึ่งอยู่บนยอดเนินเหนือหุบเขาอุดมสมบูรณ์

วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่เมาเหล้าองุ่น

2ดูซิ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีผู้หนึ่ง

ที่แข็งแรงและทรงอำนาจ

เหมือนพายุลูกเห็บ เหมือนพายุหมุนที่ทำลาย

เหมือนพายุฝนหนักทำให้เกิดน้ำท่วม

เขาจะขว้างทุกอย่างลงที่พื้นดินด้วยความรุนแรง

3เขาจะเหยียบมงกุฎดอกไม้

ของผู้นำขี้เมาแห่งเอฟราอิมอยู่ใต้เท้า

4ดอกไม้งดงามรุ่งเรืองของเอฟราอิมที่กำลังร่วงโรย

ซึ่งอยู่บนยอดเนินเหนือหุบเขาอุดมสมบูรณ์

จะเป็นเหมือนผลมะเดื่อเทศรุ่นแรกที่สุกก่อนฤดูร้อน

ผู้ใดเห็นเข้าก็จะหยิบมากินทันที

5วันนั้นb พระยาห์เวห์จอมจักรวาลจะทรงเป็นมงกุฎรุ่งโรจน์

จะทรงเป็นเครื่องประดับศีรษะงดงาม

สำหรับผู้ที่รอดชีวิตในประชากรของพระองค์

6พระองค์จะทรงดลใจผู้นั่งบนบัลลังก์พิพากษา

ให้ตัดสินอย่างยุติธรรม

จะประทานกำลังแก่ผู้ผลักไสศัตรู

ที่เข้าโจมตีประตูเมืองให้ถอยกลับไป

กล่าวโทษประกาศกเทียมc

          7ยังมีผู้เดินโซเซเพราะเมาเหล้าองุ่น

                    และเดินหลงทางเพราะสุราเมรัย

          คือสมณะและประกาศก

ที่เดินโซเซเพราะสุราเมรัย

เขาทั้งหลายดื่มเหล้าองุ่นจนมึนเมา

เขาหลงทางเพราะสุราเมรัย

เดินโซเซเมื่อเห็นนิมิต

โอนเอนเมื่อให้คำพิพากษา

8ทุกโต๊ะเต็มไปด้วยอาเจียน

ไม่มีที่ใดที่ไม่สกปรก

9เขาพูดว่า

“อิสยาห์คนนี้คิดจะสอนความรู้แก่ผู้ใด

เขาจะแจ้งข่าวแก่ผู้ใด

ให้แก่คนที่เพิ่งหย่านม

ให้แก่ทารกจากอกแม่หรือ

10เขาสอนพยางค์ต่อพยางค์

คำต่อคำ ประโยคต่อประโยค

ที่นั่นนิด ที่นี่หน่อย”d

11แต่พระเจ้าจะทรงใช้ปากที่ติดอ่าง

และพูดภาษาต่างด้าว

ตรัสกับประชากรชาตินี้

12พระองค์ทรงเคยตรัสกับเขาว่า

“นี่คือการพักผ่อน

จงให้คนเหน็ดเหนื่อยได้พักผ่อนเถิด

และนี่คือการพักผ่อน”

แต่เขาทั้งหลายไม่ยอมฟัง

13ดังนั้น พระยาห์เวห์จะทรงสอนเขาว่า

“พยางค์ต่อพยางค์

คำต่อคำ ประโยคต่อประโยค

ที่นั่นนิด ที่นี่หน่อย”

เพื่อเมื่อเขาเดิน เขาจะหงายหลังล้มลง

และแขนขาจะหัก

จะติดกับดัก และจะถูกจับเป็นเชลย

กล่าวโทษที่ปรึกษา

            14ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชอบเยาะเย้ยเอ๋ย

จงฟังพระวาจาของพระยาห์เวห์เถิด

ท่านผู้ปกครองประชากรนี้ที่กรุงเยรูซาเล็ม

15ท่านพูดว่า “พวกเราได้ทำพันธสัญญาไว้กับความตาย

ได้ทำข้อตกลงไว้กับแดนมรณะe

เมื่อภัยพิบัติจะมาเหมือนน้ำท่วม ก็จะไม่มาถึงเรา

เพราะเราใช้การมุสาเป็นที่ลี้ภัย

ใช้ความเท็จเป็นที่กำบัง”

16ดังนั้น พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่าf

“ดูซิ เราวางศิลาไว้บนเนินศิโยน

เป็นศิลาที่เลือกสรร

เป็นศิลาหัวมุมประเสริฐ

เป็นรากฐานมั่นคง

ผู้ที่วางใจในศิลานี้จะไม่สะดุดล้ม

17เราจะทำให้ความยุติธรรมเป็นมาตรฐาน

ทำให้ความชอบธรรมเป็นสายดิ่ง”

ลูกเห็บจะกวาดการมุสาซึ่งเป็นที่ลี้ภัย

และน้ำจะท่วมที่กำบัง

18พันธสัญญาที่ท่านทั้งหลายทำไว้กับความตายจะเป็นโมฆะg

ข้อตกลงที่ท่านทำไว้กับแดนมรณะจะไม่คงอยู่

เมื่อภัยพิบัติจะมาเหมือนน้ำท่วม

ท่านก็จะถูกภัยพิบัติเหยียบย่ำ

19ทุกครั้งที่ภัยพิบัติจะมา ท่านก็จะประสบภัยพิบัตินั้น

ภัยพิบัตินั้นจะมาถึงทุกเช้า

ทุกวันและทุกคืน

ความหวาดกลัวเท่านั้นจะทำให้ท่านเข้าใจสิ่งที่ท่านได้ยิน

20ที่นอนจะสั้นเกินกว่าที่คนหนึ่งจะเหยียดตัวอยู่บนนั้น

ผ้าห่มก็จะแคบไม่พอคลุมตัวh

21เพราะพระยาห์เวห์จะทรงลุกขึ้นเหมือนที่เคยทรงทำบนภูเขาเปริซิม

จะทรงพระพิโรธเหมือนในหุบเขากิเบโอน

เพื่อทรงทำพระราชกิจของพระองค์ให้เป็นพระราชกิจที่ลึกลับ

เพื่อทรงทำงานของพระองค์ให้เป็นงานซึ่งไม่เคยมีมาก่อน

22ดังนั้น ท่านทั้งหลายอย่าเป็นคนชอบเยาะเย้ย

มิฉะนั้นพันธนาการของท่านจะแน่นยิ่งขึ้น

เพราะข้าพเจ้าได้ยินกฤษฎีกา

กำหนดการทำลายทั่วแผ่นดิน

จากพระยาห์เวห์จอมจักรวาลแล้ว

เรื่องอุปมาi

            23จงเงี่ยหู และฟังเสียงของข้าพเจ้าเถิด

                    จงตั้งใจฟังคำพูดของข้าพเจ้า

          24ชาวนาย่อมไม่ไถนาทุกวันเพื่อจะหว่านข้าว

ย่อมไม่เบิกดินและคราดดินทุกวัน

25เมื่อเขาเกลี่ยผิวดินแล้ว

เขาย่อมหว่านเทียนแดงและยี่หร่า

หว่านข้าวสาลีเป็นแถว หว่านข้าวบาร์เลย์jในที่เหมาะสม

และหว่านธัญพืชอื่นๆ ไว้เป็นขอบ

26เพราะพระเจ้าทรงสอนเขาให้ทำเช่นนี้

พระเจ้าของเขาทรงสั่งสอน

27เขาไม่ใช้เลื่อนนวดข้าวkนวดเทียนแดง

และไม่ใช้ล้อเกวียนกลิ้งทับยี่หร่า

แต่ใช้ท่อนไม้ตีเทียนแดง

ใช้ไม้ตียี่หร่าให้หลุดออก

28ผู้นวดข้าวสาลีทำขนมปังย่อมไม่บดข้าวจนเป็นแป้ง

เขานำล้อเกวียนเทียมม้ามานวดข้าวนั้น

แต่ไม่บดจนเป็นแป้ง

29ทั้งหมดนี้เป็นของประทานจากพระยาห์เวห์จอมจักรวาล

คำแนะนำของพระองค์น่าอัศจรรย์

ทำให้เกิดผลสำเร็จยิ่งใหญ่

 

28 a ประกาศกอิสยาห์น่าจะกล่าวคำประกาศพระวาจานี้ไม่นานก่อนที่กรุงสะมาเรียจะถูกทำลายในปี 721 ก่อน ค.ศ. กรุงสะมาเรียซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา เปรียบได้กับมงกุฎดอกไม้อย่างที่ในสมัยโบราณบรรดาแขกรับเชิญในงานเลี้ยงมักจะสวมบนศีรษะ ประกาศกอื่นๆ (ฮชย 7:5-7; อมส 3:9, 15 ฯลฯ) ยังกล่าวพาดพิงถึงความร่ำรวยและความประพฤติเหลวแหลกของชาวสะมาเรียด้วย

b ตรงข้ามกับมงกุฎที่ร่วงโรยของกรุงสะมาเรีย ข้อ 5-6 จะกล่าวถึงความรุ่งโรจน์ที่พระยาห์เวห์จะทรงเป็นสำหรับประชากรส่วนที่เหลือของพระองค์ การกล่าวถึง “ผู้รอดชีวิต” (ramnant) ชวนให้คิดว่าข้อความนี้เขียนขึ้นในภายหลัง (ดู 4:3 เชิงอรรถ c) การใช้ภาพเปรียบเทียบเหมือนๆ กันอาจเป็นเหตุผลให้ข้อความตอนนี้ถูกจัดวางไว้ถัดจากคำประกาศพระวาจาในข้อก่อนหน้านี้

c คำประกาศพระวาจาในข้อ 7-22 แต่งขึ้นไม่นานก่อนที่กษัตริย์เซนนาเคริบจะทรงยกทัพมาจู่โจมยูดาห์ในปี 701 ก่อน ค.ศ. เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงคิดจะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับต่างชาติเพื่อต่อต้านอำนาจของอัสซีเรีย คำประกาศพระวาจาบทแรกเป็นการกล่าวโทษผู้ที่ร่วมงานเลี้ยงทางศาสนาในพระวิหาร ซึ่งคิดว่าคำพูดของประกาศกอิสยาห์เป็นเหมือนคำพูดของเด็กหัดพูด ในไม่ช้าเขาจะพบว่าภาษาของทหารชาวอัสซีเรียที่พระยาห์เวห์จะทรงปล่อยให้เขาได้ยินนั้นก็จะเข้าใจได้ยากไม่น้อยกว่าเลย

d “พยางค์ต่อพยางค์...ที่นั่นนิด ที่นี่หน่อย” เป็นการเลียนเสียงเด็กหัดพูดภาษาฮีบรูเป็นคำๆ “sav lasav, sav lasav, kav lakav, kav lakav, zeer sham, zeer sham” ซึ่งแปลตามตัวอักษรได้ว่า “คำสั่งต่อคำสั่ง คำสั่งต่อคำสั่ง กฎต่อกฎ กฎต่อกฎ นิดหน่อยที่นี่ นิดหน่อยที่นั่น” บางคนไม่แปลข้อความนี้ เพราะเป็นการเลียนเสียงเด็กหัดพูดเท่านั้น

e การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อต่อต้านอำนาจของอัสซีเรียที่ผู้ปกครองชนชาติต่างๆ เสนอแนะ จะกลายเป็นการร่วมชะตากรรมกับความตายและแดนมรณะ

f ข้อ 16-17ก เป็นคำประกาศพระวาจาสั้นๆ ที่ขัดจังหวะของบทประพันธ์นี้ พระผู้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่จะทรงวางความยุติธรรมและความชอบธรรมเป็นรากฐาน ซึ่งอาจจะมีนามจารึกไว้ด้วยว่า “ไม่มีผู้ใดที่วางใจในศิลานี้จะสะดุดล้ม” เทียบ ชื่อที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น “นครแห่งความชอบธรรม” “เมืองที่ซื่อสัตย์” ใน 1:26

g “เป็นโมฆะ” แปลตามสำนวนแปลโบราณภาษาอาราเมอิก (Targum) ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ถูกปิดไว้”

h ดูเหมือนว่าประกาศกกำลังอ้างถึงคำพังเพยซึ่งคนทั่วไปรู้จักดี

i ความเฉลียวฉลาดของกสิกรที่ปลูกและเก็บพืชผลแต่ละชนิดด้วยวิธีการแตกต่างกัน นับเป็นวิธีการที่พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระปรีชาญาณแก่ประชากรของพระองค์ในแบบต่างๆ

j หลังจากคำ “ข้าวบาร์เลย์” ต้นฉบับภาษาฮีบรูเพิ่มคำอีกคำหนึ่งที่เราไม่รู้จัก อาจเป็นชื่อธัญพืชอีกชนิดหนึ่งก็ได้

k “เลื่อนนวดข้าว” เป็นเลื่อนที่มีล้อหรือหินคมใช้นวดให้เมล็ดข้าวหลุดจากรวงข้าว

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก