“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

การเนรเทศสิ้นสุดa

14 1พระยาห์เวห์จะทรงพระเมตตายาโคบ จะทรงเลือกอิสราเอลอีก จะทรงให้เขาทั้งหลายตั้งหลักแหล่งในแผ่นดินของตน คนต่างด้าวจะมาอยู่ร่วมกับเขาและผูกพันกับเชื้อสายของยาโคบ 2ประชาชนทั้งหลายจะรับเขาและนำเขากลับไปยังถิ่นเดิม เชื้อสายของอิสราเอลจะมีกรรมสิทธิ์ในคนเหล่านี้ ซึ่งเป็นทาสชายหญิงในแผ่นดินของพระยาห์เวห์ ชาวอิสราเอลจะจับผู้ที่เคยจับเขาเป็นเชลย และจะปกครองผู้ที่เคยข่มเหงเขา

การสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์แห่งบาบิโลนb

          3วันนั้น พระยาห์เวห์จะทรงให้อิสราเอลได้พักผ่อนพ้นจากความเจ็บปวด ความวิตกกังวล และการเป็นทาสที่ถูกบังคับให้ทำงานหนัก 4ท่านจะขับร้องเพลงเย้ยหยันกษัตริย์แห่งบาบิโลนดังนี้

          “ดูซิ ผู้ข่มเหงถึงจุดจบเสียแล้ว

                    ความทะนงตนcของเขาก็จบลงด้วย

          5พระเจ้าทรงหักไม้ตะบองของคนอธรรม

                    ทรงหักคทาของผู้มีอำนาจปกครอง

          6ซึ่งตีนานาชาติด้วยความโกรธจัด

อย่างไม่ยั้งมือ

          เขาปกครองนานาชาติด้วยความโกรธ

                    ด้วยการข่มเหงที่ไร้ความปรานี

          7ทั่วแผ่นดินพักผ่อนอย่างสงบ

                    ทุกคนเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี

          8แม้กระทั่งต้นสนสามใบก็ยินดีที่ท่านล้ม

                    ต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอนก็ยินดีด้วย

          พูดว่า “ตั้งแต่ท่านล้มลง

                    ก็ไม่มีผู้ใดขึ้นมาโค่นพวกเราอีก”d

          9แดนผู้ตายเบื้องล่างก็กระวนกระวาย

                    เพื่อต้อนรับเมื่อท่านมา

          แดนนี้ปลุกบรรดาผู้ตายให้มาต้อนรับท่าน

                    ทุกคนที่เคยปกครองแผ่นดิน

          ทำให้ผู้ที่เคยเป็นกษัตริย์แห่งนานาชาติ

                    ลุกขึ้นจากบัลลังก์ของตน

          10ทุกคนจะทักทายท่าน พูดว่า

                    “ท่านก็อ่อนเปลี้ยเหมือนพวกเรา

          ท่านกลายเป็นเหมือนพวกเรา

          11ความหยิ่งยโสโอ่อ่าของท่านถูกโยนลงมาถึงแดนผู้ตาย

                    รวมทั้งเสียงพิณของท่านด้วย

          ตัวหนอนจะเป็นเสมือนที่นอนอยู่ใต้ท่าน

                    และจะเป็นเสมือนผ้าห่มคลุมท่าน

          12ดาวประจำรุ่งe บุตรแห่งรุ่งอรุณเอ๋ย               

                    ท่านตกลงมาจากท้องฟ้าได้อย่างไร

          ท่านผู้เคยพิชิตนานาชาติ

ถูกตัดลงมานอนราบบนพื้นดินได้อย่างไร

13ท่านเคยคิดในใจว่า

‘ฉันจะขึ้นไปบนท้องฟ้า

จะตั้งบัลลังก์เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า

จะนั่งบนภูเขาที่เทพมาชุมนุม

ทางทิศเหนือไกลโพ้น

14ฉันจะขึ้นไปสูงกว่าเมฆ

จะทำตนเหมือนพระผู้สูงสุด’

15แต่ท่านถูกโยนลงมาในแดนผู้ตาย

ลงไปในหลุมลึก

16บรรดาผู้ตายที่เห็นท่านจะจ้องมองท่าน

และจะพินิจพิจารณาสภาพของท่าน ถามว่า

‘คนนี้หรือที่เคยทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน

เคยเขย่าอาณาจักรทั้งหลาย

17ผู้ทำให้โลกเป็นเหมือนถิ่นทุรกันดาร

ทำลายเมืองต่างๆ ไม่ยอมปล่อยให้เชลยกลับไปบ้านของตน’

18กษัตริย์ทุกพระองค์ของนานาชาติทอดพระกายอยู่อย่างมีเกียรติ

                    แต่ละพระองค์อยู่ในที่ฝังพระศพ

          19แต่ท่านถูกโยนออกไปนอกหลุมศพ

                    เป็นศพน่ารังเกียจf อยู่ใต้ศพของบรรดาทหารที่ถูกฆ่าด้วยดาบ

          ศพของเขาถูกโยนลงไป มีก้อนหินทับอยู่

                    แต่ศพของท่านเป็นเหมือนซากสัตว์ที่ถูกเหยียบย่ำ  

          20ท่านจะไม่ได้รับการฝังศพเหมือนกษัตริย์อื่นๆ

                    เพราะท่านได้ทำลายแผ่นดินของท่าน

          ได้สังหารประชาชนของท่าน

                    จะไม่มีผู้ใดเอ่ยถึงชื่อเชื้อสายของผู้ทำความชั่วอีกเลย

          21จงเตรียมสังหารบรรดาบุตรของเขา

                    เพราะการทำชั่วของบิดาเถิด

          เขาจะได้ไม่ลุกขึ้นมาครอบครองแผ่นดิน

                    และทำให้พื้นโลกมีเมืองเต็มไปหมด”        

          22พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัสว่า “เราจะลุกขึ้นต่อสู้กับเขาทั้งหลาย จะลบล้างชื่อกรุงบาบิโลนและผู้รอดชีวิตที่นั่น รวมทั้งลูกหลานและเชื้อสาย” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ 23“เราจะทำให้กรุงบาบิโลนเป็นที่อยู่ของนกฮูกและเป็นพรุ และจะทำลายให้เรียบเหมือนกวาดบ้าน” พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัสดังนี้g

กล่าวโทษอัสซีเรียh

          24พระยาห์เวห์จอมจักรวาลทรงปฏิญาณว่า

                    “เราวางแผนไว้อย่างไร ก็จะเป็นไปอย่างนั้น

          เราตัดสินใจอย่างไร ก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น

          25เราจะหักชาวอัสซีเรียในแผ่นดินของเรา

                    จะเหยียบย่ำเขาไว้บนภูเขาของเรา

          แอกที่เขาวางไว้บนประชากรของเรา

                    รวมทั้งภาระหนักที่เขาวางบนบ่าจะถูกยกออกไป”

          26นี่คือการตัดสินใจที่เรากำหนดไว้สำหรับทั่วแผ่นดิน

                    คือมือที่เราเหยียดออกเหนือประชาชาติทั้งปวง      

          27พระยาห์เวห์จอมจักรวาลทรงตั้งพระทัยเช่นนี้

                    ผู้ใดจะทำให้แผนการนี้ล้มเหลวได้

          พระหัตถ์พระองค์เหยียดออก

                    ผู้ใดจะทำให้หันกลับมาได้

กล่าวโทษชาวฟีลิสเตีย

          28ในปีที่กษัตริย์อาคัสสิ้นพระชนม์i พระเจ้าทรงประกาศว่า

          29“ชาวฟีลิสเตียทั้งหลายเอ๋ย อย่ายินดีไปเลย

                    ที่ไม้ตะบองซึ่งตีท่านนั้นหักเสียแล้ว

          เพราะถ้างูตาย งูพิษจะออกมาแทน

                    และมังกรจะเกิดมาจากงูพิษนี้        

30คนยากจนที่สุดจะมีอาหารกินในทุ่งนาของเรา

                    คนขัดสนจะพักผ่อนอย่างปลอดภัย

          แต่เราจะทำให้เชื้อสายของท่านต้องตายเพราะความอดอยาก

                    เราจะฆ่าjผู้รอดชีวิตทุกคนของท่าน        

31ประตูเมืองเอ๋ย จงร้องโหยหวนเถิด

เมืองเอ๋ย จงร้องตะโกน

ฟีลิสเตียทั้งหมดเอ๋ย จงกลัวตัวสั่นเถิด

เพราะควันออกมาจากทิศเหนือk

และไม่มีทหารคนใดหนีทัพเลย

32เราจะตอบผู้ถือสารlของชนชาตินั้นว่าอย่างไร

จะตอบว่า “พระยาห์เวห์ได้ทรงสถาปนาศิโยน

และประชากรของพระองค์ที่ถูกข่มเหง

จะพบที่ลี้ภัยที่นั่น”

 

14 a การกล่าวล่วงหน้าถึงการกลับจากเนรเทศและการกลับใจของนานาชาติอยู่ผิดที่ในข้อความกล่าวโทษนานาชาติชุดนี้ แต่มีความคิดคล้ายกันกับข้อความใน 49:22; 66:20 (ดู 45:14 เชิงอรรถ h)

b คำเย้ยหยัน (mashal) ทรราชที่หมดอำนาจเป็นการกล่าวโทษกษัตริย์แห่งบาบิโลน อาจเป็นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์หรือนาโบนิดัส ดังนั้นจึงรวมอยู่ในคำประกาศพระวาจาในสมัยเนรเทศ แต่ก็ยังอาจเป็นไปได้อีกว่าบทประพันธ์นี้แต่เดิมอาจแต่งขึ้นก่อนหน้านั้น เพื่อเย้ยหยันกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย เช่น กษัตริย์ซาร์กอนที่ 2 หรือเซนนาเคริบ แล้วในภายหลังถูกประยุกต์นำมาใช้กับสมัยเนรเทศ

c “ความทะนงตน” แปลตามสำนวนแปลโบราณต่างๆ และเอกสารที่กุมราน 1QIsa ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่สมบูรณ์

d กษัตริย์แห่งอัสซีเรียและบาบิโลนเคยมาโค่นต้นไม้จากภูเขาเลบานอนไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง

e ข้อ 13-15 ดูเหมือนจะเลียนแบบมาจากบทประพันธ์ของชาวฟีนีเซีย ในเหตุการณ์ที่กล่าวถึง มีข้อความหลายแห่งคล้ายกับบทประพันธ์ซึ่งพบได้ที่ Ras Shamra ** “ดาวประจำรุ่ง” และ “รุ่งอรุณ” เป็นชื่อเทพเจ้าสององค์ ** “ที่เทพมาชุมนุม” เป็นสถานที่บรรดาเทพเจ้ามาประชุมกัน เช่นเดียวกับภูเขาโอลิมปัสในตำนานเทพของชาวกรีก บรรดาปิตาจารย์เปรียบเทียบการตกของ “ดาวประจำรุ่ง” (ภาษาละตินว่า “Lucifer”) ว่าเป็นเหมือนจอมปีศาจตกจากสวรรค์

f “เป็นศพน่ารังเกียจ” แปลตามตัวอักษรว่า “เหมือนหน่อน่ารังเกียจ” ซึ่งเป็นการเล่นคำกับชื่อของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ (“knnezer” = “เหมือนหน่อ” พระนามของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ประกอบด้วยอักษร k-n-z-r) ** การที่ศพไม่ได้รับการฝังนับว่าเป็นการถูกสาปแช่งร้ายแรงที่สุด (ดู 1 พกษ 13:21-22; ยรม 22:19)

g ข้อความร้อยแก้ว 2 ข้อนี้ดูเหมือนจะถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อเน้นตอนจบของบทประพันธ์

h ประกาศกอิสยาห์น่าจะประกาศคำกล่าวโทษอัสซีเรียนี้ในปี 701 ก่อน ค.ศ. เมื่อกษัตริย์เซนนาเคริบทรงยกทัพมารุกรานอาณาจักรยูดาห์ (เทียบ 10:24-27; 30:27-33; 31:4-9; 37:22-29)

i คำประกาศพระวาจานี้อาจเกิดขึ้นก่อนที่กษัตริย์เซนนาเคริบจะทรงยกทัพมาจู่โจมอาณาจักรยูดาห์ “ไม้ตะบอง” ที่ตีชาวฟีลิสเตียน่าจะหมายถึงกษัตริย์ซาร์กอนที่ 2 ซึ่งทรงเคยจู่โจมแคว้นฟีลิสเตียหลายครั้ง การจู่โจมครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 711 ก่อน ค.ศ. (ดู 20:1ฯ) กษัตริย์ซาร์กอนสิ้นพระชนม์ในปี 705 แต่กษัตริย์เซนนาเคริบผู้ทรงสืบตำแหน่งต่อจากพระองค์เปรียบได้กับ “งูพิษ” หรือ “มังกร” จะทรงแสดงพระองค์เป็นศัตรูที่น่ากลัวว่า ถ้าคำอธิบายเช่นนี้ถูกต้อง การกล่าวถึงการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์อาคัสในข้อความนำหน้าน่าจะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง แต่ก็ยังอธิบายได้อีกแบบหนึ่งด้วยว่า “งูพิษ” และ “มังกร” คือกษัตริย์เฮเซคียาห์พระโอรสของกษัตริย์อาคัส ซึ่ง 2 พกษ 18:18 เล่าว่าได้ทรงทำลายแผ่นดินฟีลิสเตีย

j “เราจะฆ่า” แปลตามสำนวนแปลภาษาละตินฉบับ Vulgata และเอกสารที่กุมราน 1QIsa ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เขาจะฆ่า”

k กองทัพอัสซีเรียและบาบิโลนจะยกมาทางทิศเหนือเสมอเพื่อจู่โจมแผ่นดินปาเลสไตน์ (ดู ยรม 1:3; 4:6; 6:1, 27; อสค 26:7)

l “ผู้ถือสาร” อาจเป็นทูตที่ชาวฟีลิสเตียส่งมาเชิญชวนอาณาจักรยูดาห์ให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อต่อต้านกองทัพอัสซีเรีย แต่ตัวบทไม่บอกอะไรชัดเจน อย่างไรก็ตาม คำตอบยืนยันว่ากรุงเยรูซาเล็ม (ศิโยน) ไม่มีวันจะถูกโจมตีได้เพราะพระยาห์เวห์ทรงปกป้องไว้

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก