“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ความวุ่นวายที่กรุงเยรูซาเล็มa

3 1ดูซิ จากกรุงเยรูซาเล็มและจากอาณาจักรยูดาห์

                        องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์จอมจักรวาล

          กำลังจะทรงถอนเครื่องค้ำจุนทุกชนิด

                    อาหารและน้ำทั้งหมดที่เก็บสำรองไว้

          2ทหารชำนาญศึกและนักรบ

                    ผู้พิพากษาและประกาศก

          ผู้ทำนายและผู้อาวุโส

          3นายทหาร และผู้มีสกุล

                    ที่ปรึกษาและช่างฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญทำเวทมนตร์คาถา

          4เราจะตั้งเด็กหนุ่มให้เป็นเจ้านาย

                    เด็กเกเรbจะปกครองเขา

          5ประชากรจะข่มเหงกัน

                    แต่ละคนจะข่มเหงเพื่อนบ้าน

          คนหนุ่มจะลบหลู่ดูหมิ่นผู้อาวุโส

                    คนต่ำช้าจะดูถูกผู้มีเกียรติ

          6ใช่แล้ว คนหนึ่งจะไปยึดตัวพี่น้องของตนในบ้านของบิดา พูดว่า

                    “ท่านมีเสื้อคลุม จงเป็นผู้นำพวกเราเถิด

          จงปกครองซากปรักหักพังเหล่านี้ไว้เถิด”

          7แต่วันนั้น คนนั้นจะค้านว่า

                    “ข้าพเจ้าช่วยอะไรไม่ได้

          ในบ้านข้าพเจ้าไม่มีทั้งอาหารและเสื้อคลุม

                    อย่าตั้งข้าพเจ้าให้เป็นผู้นำประชากรเลย”

          8ใช่แล้ว กรุงเยรูซาเล็มกำลังสะดุด

                    อาณาจักรยูดาห์กำลังล้ม

          เพราะคำพูดและกิจการของเขาต่อต้านพระยาห์เวห์

                    จนลบหลู่พระพักตร์รุ่งโรจน์ของพระองค์

          9ความลำเอียงของเขาเป็นพยานกล่าวโทษเขาทั้งหลาย

                    เขาอวดบาปของตนเหมือนเมืองโสโดม

          เขาไม่ซ่อนบาปของตนไว้เลย

                    วิบัติจงเกิดแก่เขา เพราะเขาได้นำหายนะมาเหนือตนเอง

          10ผู้ชอบธรรมย่อมเป็นสุข เพราะทุกสิ่งจะดี

                        เขาจะได้รับผลดีจากการกระทำของตน

          11วิบัติจงเกิดแก่คนอธรรม เพราะทุกอย่างจะเลวร้าย

                    เขาจะได้รับผลเลวร้ายจากการกระทำของเขาเช่นเดียวกันc

          12เด็กๆ เป็นผู้ข่มเหงประชากรของเรา

                    ผู้หญิงปกครองเขาd

          ประชากรของเราเอ๋ย ผู้นำของท่านทำให้ท่านหลงทาง

                    ทำลายทางที่ท่านต้องเดิน

          13พระยาห์เวห์ทรงลุกขึ้นเพื่อสู้คดี

                    พระองค์ประทับยืนเพื่อพิพากษาประชากรของพระองค์

          14พระยาห์เวห์กำลังจะทรงพิพากษา

                        บรรดาผู้อาวุโสและเจ้านายประชากรของพระองค์

          “ท่านทั้งหลายได้ทำลายสวนองุ่น

                    สิ่งที่ท่านปล้นมาจากคนยากจนอยู่ในบ้านของท่าน

          15ท่านมีสิทธิอะไรที่จะข่มเหงประชากรของเรา

                    และที่จะบดขยี้ใบหน้าของคนยากจน”

          องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัสดังนี้

การประณามความฟุ้งเฟ้อของสตรีชาวกรุงเยรูซาเล็ม

            16พระยาห์เวห์ตรัสว่า

          “เพราะบรรดาธิดาแห่งศิโยนหยิ่งผยอง

                    เดินชูคอ ชายตายั่วยวน

          เดินก้าวสั้นๆ ขยับเท้าทำให้กำไลส่งเสียง

          17องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงจะทรงทำให้ผมร่วงจากศีรษะของบรรดาธิดาแห่งศิโยน

                    พระยาห์เวห์จะทรงทำให้เธอทั้งหลายศีรษะโล้น”

          18วันนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงนำเครื่องประดับเหล่านี้ออกไป คือกำไลข้อเท้า รัดเกล้า จี้รูปจันทร์เสี้ยว 19ตุ้มหู กำไลข้อมือ ผ้าคลุมศีรษะ 20ผ้าคลุมผม พาหุรัด ผ้าคาดสะเอว ขวดน้ำหอม ตะกรุด 21แหวนตรา และแหวนจมูก 22เสื้อวันฉลอง เสื้อคลุม ผ้าคลุมไหล่ และกระเป๋าถือ 23กระจกเงา เสื้อผ้าลินิน ผ้าโพกศีรษะ และผ้าคลุมตัวe       

          24แทนน้ำหอม จะมีแต่กลิ่นเหม็นเน่า

                    แทนผ้าคาดสะเอว จะมีเชือก

          แทนผมดัดสวยงาม จะมีแต่ศีรษะโล้น

                    แทนเสื้อผ้าหรูหรา จะต้องสวมผ้ากระสอบf

          แทนความงดงาม จะมีรอยไหม้g

ความอัปยศของกรุงเยรูซาเล็ม

            25บรรดาชายฉกรรจ์ของเจ้าจะถูกดาบฟันล้มลง

                    ทหารชำนาญศึกของเจ้าจะล้มในการสู้รบ

          26จะได้ยินเสียงคร่ำครวญและไว้ทุกข์ที่ประตูเมือง

                    กรุงเยรูซาเล็มจะนั่งอยู่บนพื้นดินอย่างโดดเดี่ยว

 

3 a บทประพันธ์บทนี้คงจะเขียนขึ้นในช่วงต้นรัชสมัยของกษัตริย์อาคัส ราวปี 735 ก่อน ค.ศ. เพราะกษัตริย์ยังขาดวุฒิภาวะ และกองกำลังต่างชาติกำลังคุกคามอาณาจักรยูดาห์ (ดู 2 พกษ 15:37) บ้านเมืองอยู่ในอันตรายที่จะเผชิญกับความวุ่นวาย ข้อความนี้ดูเหมือนจะประกอบด้วยบทประพันธ์สองบทซึ่งแต่เดิมแยกกันอยู่ ข้อ 1-9ก และ 12-15 ส่วนข้อ 9ข-11 ถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง

b “เด็กเกเร” หมายถึงเด็กที่ทำอะไรตามใจตนเองเท่านั้น

c ข้อ 10-11 มีลักษณะเหมือนสุภาษิตแทรกเข้ามาในการบรรยายถึงสภาพความวุ่นวายของบ้านเมือง ข้อ 10 ในภาษากรีกแตกต่างจากภาษาฮีบรูมากทีเดียว (แปลได้ดังนี้ พูดว่า “ให้เรามัดผู้ชอบธรรมไว้ เพราะเขาไม่มีประโยชน์สำหรับเรา ดังนั้น เขาจะกินผลของการงานเหล่านั้น”)

d “ผู้หญิงปกครองเขา” บางคนแปลโดยคาดคะเนว่า “ผู้ปล้นปกครองเขา”

e รายชื่อของเครื่องประดับต่างๆ ในข้อ 18-23 อาจถูกเสริมเข้ามาในภายหลัง เราไม่รู้ว่าคำบางคำหมายถึงอะไรแน่ จึงแปลโดยคาดคะเน

f “ผ้ากระสอบ” หมายถึงผ้าเนื้อหยาบที่ใช้ทำกระสอบบรรจุสิ่งของ (ปฐก 42:25 ฯลฯ) ผ้านี้ยังใช้สวมเพื่อชดเชยบาปหรือไว้ทุกข์ และสวมโดยไม่มีเสื้อผ้าชั้นในรองรับ (อสค 20:2; ปฐก 37:34; 1 พกษ 20:31; 21:27; อมส 8:10 ฯลฯ)

g “รอยไหม้” คำนี้ไม่มีในต้นฉบับภาษาฮีบรู แต่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ได้ความครบ “รอยไหม้” หมายถึงรอยประทับตราบนร่างของสัตว์ ทาส หรือเชลย เพื่อแสดงว่าใครเป็นเจ้าของ แต่บางคนแปลโดยคาดคะเนว่า “ความอับอาย”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก