“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ข้อกำหนดเรื่องความประพฤติและศาสนพิธีa

19 1พระยาห์เวห์ตรัสสั่งโมเสส

          2ให้บอกชุมชนชาวอิสราเอลทั้งปวงว่า

          “ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเรา พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์”

          3“ท่านแต่ละคนจะต้องนับถือบิดามารดา

          และรักษาวันสับบาโตของเราไว้เป็นวันหยุดพัก เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน”

          4“ท่านจะต้องไม่กราบไหว้รูปเคารพb หรือหลอมโลหะทำเป็นรูปเคารพสำหรับท่าน เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน”

          5“เมื่อท่านถวายศานติบูชาแด่พระยาห์เวห์ ท่านจะต้องปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ เพื่อเราจะพอใจรับเครื่องบูชานั้น 6ท่านถวายสัตว์เป็นเครื่องบูชาในวันใด จงกินเนื้อสัตว์นั้นให้หมดในวันนั้นหรือในวันรุ่งขึ้น สิ่งใดที่เหลือในวันที่สาม จะต้องนำไปเผาเสีย 7ถ้าผู้ใดกินในวันที่สาม เนื้อนั้นเป็นเนื้อเน่าแล้ว เราจะไม่พอใจรับเครื่องบูชาของผู้นั้น 8ผู้ที่กินเนื้อนั้น จะต้องรับโทษเพราะความผิดของตน เพราะเขาทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่พระยาห์เวห์มีมลทิน เขาจะต้องถูกขับไล่ออกจากประชากรของตน”

          9“เมื่อท่านเก็บเกี่ยวผลผลิตจากแผ่นดินของท่าน ท่านจะต้องไม่เกี่ยวรวงข้าวที่ขอบนาจนหมด หรือหวนกลับไปเก็บรวงข้าวที่เหลืออยู่ 10ท่านจะต้องไม่หวนกลับไปเก็บผลองุ่นที่เหลือติดเถา หรือที่ตกหล่นอยู่บนพื้นดิน ท่านจะต้องทิ้งไว้ให้คนยากจนและคนต่างด้าวมาเก็บ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน”

          11c“ท่านจะต้องไม่ลักขโมย ฉ้อโกง หรือพูดเท็จต่อกัน 12ท่านจะต้องไม่สาบานเท็จโดยใช้นามของเรา มิฉะนั้น ท่านจะลบหลู่พระนามพระเจ้าของท่าน เราคือพระยาห์เวห์ 13ท่านจะต้องไม่เอารัดเอาเปรียบหรือปล้นเพื่อนบ้าน ท่านจะต้องไม่ยึดค่าจ้างของลูกจ้างไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น 14ท่านจะต้องไม่สาปแช่งคนหูหนวกd เอาของไปวางขวางทางคนตาบอด แต่ท่านจะต้องยำเกรงพระเจ้าของท่าน เราคือพระยาห์เวห์”

          15“ท่านจะต้องไม่ตัดสินคดีอย่างอยุติธรรม ท่านจะต้องไม่ลำเอียงเข้าข้างคนยากจนหรือคนมีอำนาจ แต่จงตัดสินคดีของเพื่อนบ้านอย่างยุติธรรมe 16ท่านจะต้องไม่โพนทะนาใส่ร้ายชนชาติเดียวกับท่าน และไม่ซ้ำเติมเพื่อนบ้านของท่านให้ถูกประหารชีวิตf เราคือพระยาห์เวห์ 17ท่านจะต้องไม่เก็บความเกลียดชังพี่น้องไว้ในใจ แต่จงตักเตือนเพื่อนบ้านอย่างตรงไปตรงมา ท่านจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบบาปของเขา 18ท่านจะต้องไม่แก้แค้น หรืออาฆาตชนชาติเดียวกับท่าน แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือพระยาห์เวห์”

          19ท่านจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของเรา

          “ท่านจะต้องไม่ผสมพันธุ์สัตว์เลี้ยงต่างชนิดกัน ท่านจะต้องไม่ปลูกพืชสองชนิดในนาแปลงเดียวกัน ท่านจะต้องไม่สวมเสื้อผ้าที่ทอด้วยใยผ้าสองชนิดต่างกัน”g

          20“ถ้าหญิงทาสคนหนึ่งมีสามีแล้ว แต่สามียังไม่จ่ายเงินค่าตัวไถ่นางให้เป็นอิสระ หรือเจ้าของยังไม่ปล่อยให้เป็นอิสระ แล้วเจ้าของมีเพศสัมพันธ์กับนาง ทั้งสองคนจะต้องรับโทษ แต่ไม่ถึงตาย เพราะนางยังไม่เป็นอิสระ 21เจ้าของที่มีเพศสัมพันธ์กับหญิงทาสจะต้องนำแกะเพศผู้ตัวหนึ่งมาที่ทางเข้ากระโจมนัดพบ เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาชดเชยเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ 22สมณะจะทำพิธีชดเชยบาปเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เพราะบาปที่เขาได้ทำ และบาปของเขาจะได้รับการอภัย”

          23เมื่อท่านทั้งหลายจะเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน และปลูกไม้ผลทุกชนิด ท่านจะต้องถือว่าผลไม้เหล่านั้นมีมลทินh ผลไม้เหล่านี้มีมลทินตลอดสามปี ท่านจะนำมากินไม่ได้ 24ในปีที่สี่ ผลไม้ทั้งหมดจะเป็นของศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่พระยาห์เวห์เพื่อสรรเสริญพระองค์ 25และในปีที่ห้า ท่านจึงจะกินผลไม้จากต้นนั้นได้ ถ้าท่านปฏิบัติเช่นนี้ ต้นไม้ของท่านจะให้ผลเพิ่มขึ้น เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน”

          26“ท่านจะต้องไม่กินเนื้อสัตว์ที่ยังมีเลือดสดติดอยู่ ท่านจะต้องไม่ทำนายโชคชะตาหรือใช้เวทมนตร์คาถา”

          i27“ท่านจะต้องไม่ตัดผมด้านข้างหรือขริบหนวดเครา 28ท่านจะต้องไม่กรีดร่างกายเป็นการไว้ทุกข์ให้ผู้ตาย ท่านจะต้องไม่สักตามเนื้อตัว เราคือพระยาห์เวห์”

          29“ท่านจะต้องไม่ลบหลู่ศักดิ์ศรีของบุตรหญิงของท่านโดยบังคับนางให้เป็นโสเภณีตามสักการสถาน มิฉะนั้น ประชากรทั่วแผ่นดินจะประพฤติผิดในกามมากขึ้น”

          30“ท่านจะต้องรักษาวันสับบาโตของเราไว้เป็นวันหยุดพัก และเคารพสักการสถานของเรา เราคือพระยาห์เวห์”

          31“ท่านจะต้องไม่ไปหาคนทรงหรือไปปรึกษาหมอผี มิฉะนั้น เขาจะทำให้ท่านมีมลทิน เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน”

          32“ท่านจะต้องลุกขึ้นต่อหน้าผู้อาวุโสและแสดงความเคารพต่อผู้ชรา ดังนี้ท่านจะยำเกรงพระเจ้า เราคือพระยาห์เวห์”

          33“ท่านจะต้องไม่ข่มเหงคนต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในแผ่นดินของท่าน 34ท่านจะต้องปฏิบัติต่อคนต่างด้าวเหมือนท่านปฏิบัติต่อชาวอิสราเอลด้วยกัน และรักเขาเหมือนรักตนเอง อย่าลืมว่าท่านทั้งหลายเคยเป็นคนต่างด้าวในแผ่นดินอียิปต์มาแล้ว เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน”

          35“ท่านจะต้องไม่ชั่ง ตวง วัด อย่างไม่ยุติธรรม 36ท่านจะต้องใช้ตราชั่งที่เที่ยงตรง ใช้น้ำหนักที่ถูกต้อง ใช้ถัง ใช้ทะนานที่ถูกขนาด เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ 37เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ที่เราให้ไว้อย่างเคร่งครัด เราคือพระยาห์เวห์”

 

19 a บทนี้รวบรวมข้อกำหนดต่างๆ สำหรับชีวิตประจำวัน ข้อกำหนดเหล่านี้เรียงกันโดยไม่มีความคิดต่อเนื่องแต่ประการใด นอกจากการอ้างบ่อยๆ ถึงพระยาห์เวห์และความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ข้อกำหนดเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับบทบัญญัติสิบประการอย่างชัดเจน

b แปลตามตัวอักษรว่า “ความเปล่า” (ดู 26:1; อสย 2:8)

c ข้อ 11-18 เป็นข้อกำหนดพฤติกรรมในสังคมและสรุปได้ด้วยบทบัญญัติให้รักพี่น้องของตน คำสั่งคล้ายๆ กันนี้จะพบได้ในทุกตอนที่เป็นกฎในหนังสือปัญจบรรพ

d คนหูหนวกมักจะเป็นใบ้ด้วย จึงสาปแช่งกลับไม่ได้

e ความชอบธรรมของมนุษย์ เช่นเดียวกับความเที่ยงธรรมของพระเจ้า (สดด 7:9) ซึ่งเป็นที่มา เรียกร้องให้ปฏิบัติมากกว่าการมีพฤติกรรมเช่นพลเมืองดีในสังคมเท่านั้น ความชอบธรรมนี้เรียกร้องให้มนุษย์ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าโดยสมบูรณ์ (ปฐก 6:9; 7:1; โยบ 12:4; อสย 1:26; 3:10; 56:1; ดนล 4:24; ฮชย 14:10) หลังจากสมัยเนรเทศ ความชอบธรรมของมนุษย์ หมายถึง ความซื่อสัตย์ต่อธรรมบัญญัติ (สดด 1:6; 119:7; ปญจ 11:5; 15:9; ปชญ 1:1) การเรียกร้องให้มนุษย์เจริญชีวิตประจำวันในความสัมพันธ์กับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์อย่างดีที่สุดนี้ ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นและเน้นถึงเจตนาภายในมากกว่าเพียงการปฏิบัติภายนอก พระเยซูเจ้าจะพัฒนาแนวโน้มนี้ต่อไป (มธ 3:15; 5:17 เชิงอรรถ h, 20; ดู รม 1:17เชิงอรรถ j)

f แปลตามตัวอักษรว่า “อย่ายืนปรักปรำเลือด” หมายถึง การปรักปรำผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน เช่น ในเรื่องนาโบท (1 พกษ 21)

g การเอาสิ่งที่ต่างกันตามธรรมชาติมาผสมกัน นับว่าเป็นการทำลายระเบียบที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ คนโบราณคิดว่าการผสมสิ่งที่ต่างกันตามธรรมชาตินี้เป็นการกระทำคล้ายกับการใช้เวทมนตร์คาถาที่เอาสิ่งต่างๆ มาผสมกัน

h แปลตามตัวอักษร “ผลไม้นั้นไม่เข้าสุหนัต” ชาวอิสราเอลคิดว่าการเข้าสุหนัตทำให้มนุษย์ “สุก” แล้ว (ปฐก 17:10 เชิงอรรถ d) ส่วนคนที่ยังไม่ได้เข้าสุหนัตเป็นผู้มีมลทิน ผลจากต้นไม้ที่ยังไม่โตเต็มที่จึงเป็นผลจากต้นไม้ที่ยัง “ไม่สุก” หรือ “ยังไม่เข้าสุหนัต” และมีมลทินจนกว่าจะนำมาถวายแด่พระเจ้าเสียก่อน

i ข้อ 27-28 ห้ามประเพณีการไว้ทุกข์อย่างที่คนต่างศาสนากระทำ (ดู 21:5; ฉธบ 14:1) กระนั้นก็ดี ข้อความในพระคัมภีร์หลายตอนกล่าวว่า ชาวอิสราเอลยังปฏิบัติเช่นนี้ด้วย (โยบ 1:20; อสย 3:24; ยรม 16:6; 41:5; 47:5; 48:37; อมส 8:10) และการกล่าวถึงการปฏิบัติเช่นนี้ใน อสค 7:18 แสดงว่า แม้จะมีการห้าม ประชาชนก็ยังปฏิบัติกันต่อไป เพราะชาวอิสราเอลคงคิดว่า การปฏิบัตินี้มีความหมายทางศาสนาเป็นการชดเชยบาปด้วย (ดู อสย 22:12)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก