“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

วาจาสุดท้ายของยาโคบa

49 1ยาโคบเรียกบรรดาบุตรมา แล้วพูดว่า “จงมาหาพ่อพร้อมหน้ากันเถิด แล้วพ่อจะบอกให้ลูกรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

2บุตรของยาโคบเอ๋ย จงมารวมกันฟัง

                    จงฟังคำของอิสราเอลบิดาของลูก

          3รูเบนเอ๋ย ลูกเป็นบุตรคนแรกของพ่อ

                    เป็นกำลังและผลแรกของความเป็นชายของพ่อ

          เป็นยอดแห่งความภูมิใจและพละกำลัง

          4ลูกดุดันเหมือนน้ำเชี่ยว แต่จะไม่อยู่เหนือผู้อื่น

                    เพราะลูกล่วงเข้าไปถึงที่นอนของบิดาของลูก

          และทำให้ที่นอนของบิดาเป็นมลทิน ยังความเศร้าแก่พ่อb

          5สิเมโอนและเลวีcเป็นพี่น้องกัน

                    มีดของเขาเป็นอาวุธแห่งความรุนแรงd

          6อย่าให้วิญญาณของพ่อเข้าไปในที่ประชุมของเขา

อย่าให้ใจของพ่อเข้าร่วมสมาคมกับเขาเลย

          เพราะเขาได้ฆ่าคนด้วยความโกรธ

                    ทำให้โคพิการตามอำเภอใจ

          7ความโกรธของเขาจงถูกสาปแช่งเพราะรุนแรง

                    โทสะของเขาจงถูกสาปแช่งเพราะทารุณ

          พ่อจะแบ่งเขาทั้งสองในยาโคบ

                    พ่อจะทำให้เขาทั้งสองกระจัดกระจายไปทั่วอิสราเอล

          8ยูดาห์เอ๋ยe บรรดาพี่น้องจะสรรเสริญลูกf

                    มือของลูกจะจับคอศัตรู

          บุตรของบิดาของลูกจะกราบไหว้ลูก

          9ยูดาห์เป็นเหมือนลูกสิงโต

                    ลูกเอ๋ย ลูกฆ่าเหยื่อแล้วกลับมา

          ลูกเป็นเหมือนสิงโตตัวผู้ที่ซุ่มหมอบ

                    เหมือนสิงโตตัวเมียที่นอนอยู่ ใครเล่าจะกล้าทำให้ลุกขึ้น

          10คทาจะไม่ไปจากยูดาห์

                    และไม้เท้าของผู้ปกครองจะไม่ถูกยกไปจากระหว่างเท้าของเขา

          จนกว่าผู้ที่เป็นเจ้าของจะมาg

                    และประชาชาติจะนอบน้อมต่อเขาh

          11เขาผูกลาไว้กับเถาองุ่น

                    ผูกลูกลาไว้กับเถาที่ดีที่สุด

          เขาซักเสื้อผ้าของตนในเหล้าองุ่น

                    ซักเสื้อคลุมในน้ำองุ่นสีเลือด

          12ตาของเขาแดงเพราะเหล้าองุ่น

                    ฟันของเขาขาวเพราะน้ำนม

          13เศบูลุนจะอาศัยอยู่ตามชายทะเล

                    และจะเป็นท่าจอดเรือi

          อาณาเขตของเขาจะขยายไปถึงเมืองไซดอน

          14อิสสาคาร์jเป็นเหมือนลาแข็งแรง

                    หมอบอยู่ระหว่างต่างสองใบ

          15เขาเห็นว่าที่พักสวยดี

                    และแผ่นดินน่าอยู่

          เขาจึงก้มหลังแบกภาระ

                    ยอมเป็นทาสถูกบังคับใช้แรงงาน

          16ดานkจะปกครองประชาชนของตน

                    เหมือนเผ่าอื่นๆ ของอิสราเอล

          17ขอให้ดานเป็นเหมือนงูบนถนน

                    เป็นอสรพิษlตามทางเดิน

          ซึ่งกัดส้นเท้าม้า

                    ให้คนขี่หงายหลังตกลงมา

          18ข้าแต่พระยาห์เวห์m ข้าพเจ้าเฝ้ารอคอยพระองค์ เพื่อทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น

          19กาดจะถูกกลุ่มโจรจู่โจม

                    แต่เขาจะจู่โจมตอบกลับไปด้วยn

          20อาหารของอาเชอร์อุดมสมบูรณ์

                    เขาจะจัดอาหารอร่อยเหมาะกับกษัตริย์

          21นัฟทาลีเป็นเหมือนแม่กวางที่รวดเร็ว

                    มีลูกที่น่ารักo

          22โยเซฟเป็นเหมือนต้นไม้มีผลดก เป็นต้นไม้ที่ขึ้นใกล้ตาน้ำ

                    แผ่กิ่งก้านเหนือกำแพงp

          23บรรดานักแม่นธนูเบียดเบียนเขา

                    ทั้งยิงและข่มขู่

          24แต่ธนูของเขายังมั่นคงอยู่

                    ลำแขนของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

          เดชะพระหัตถ์พระเจ้าผู้ทรงอานุภาพแห่งยาโคบ

                    เดชะพระนามของผู้เลี้ยงแกะ คือศิลาแห่งอิสราเอลq

          25ขอพระเจ้าของบิดาของลูกทรงช่วยเหลือลูก

                    ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพrทรงอวยพรลูก

          ประทานพระพรจากฟ้าเบื้องบน

                    พระพรจากห้วงสมุทรเบื้องล่างs

          พระพรให้ทั้งคนและสัตว์มีลูกดก

          26พระพรจากบิดาของลูกใหญ่กว่าพระพรแห่งภูเขาเก่าแก่t

                    ใหญ่กว่าความอุดมสมบูรณ์แห่งเนินเขานิรันดร

          พระพรเหล่านี้ลงมาเหนือศีรษะของโยเซฟ

                    เหนือกระหม่อมของเจ้านายu ในระหว่างบรรดาพี่น้อง

          27เบนยามินvเป็นเหมือนสุนัขป่านักล่าเหยื่อ

                    เวลาเช้า เขากินเหยื่อ

          เวลาเย็น เขาแบ่งปันส่วนที่เหลือ”

          28เผ่าเหล่านี้ทั้งหมด คือเผ่าทั้งสิบสองของอิสราเอล นี่คือถ้อยคำที่บิดาพูดไว้เมื่ออวยพรเขา ยาโคบให้พรที่เหมาะสมแก่บุตรแต่ละคนw

 

วาระสุดท้ายและมรณกรรมของยาโคบx

          29แล้วยาโคบสั่งบรรดาบุตรว่า “บัดนี้ พ่อกำลังจะไปอยู่รวมกับบรรพบุรุษของพ่อ จงฝังพ่อไว้กับบรรพบุรุษของพ่อในถ้ำที่อยู่ในนาของเอโฟรนชาวฮิตไทต์ 30คือในถ้ำที่อยู่ในทุ่งนาแห่งมัคเปลาห์ ตรงข้ามมัมเร ในแผ่นดินคานาอัน อับราฮัมซื้อถ้ำและทุ่งนาyจากเอโฟรนชาวฮิตไทต์ไว้เป็นที่ฝังศพของตน 31ที่นั่น เขาได้ฝังศพของอับราฮัมและนางซาราห์ผู้เป็นภรรยา ที่นั่น เขาฝังศพของอิสอัคและนางเรเบคาห์ผู้เป็นภรรยา และที่นั่น พ่อก็ฝังนางเลอาห์ไว้ด้วย 32ทุ่งนาและถ้ำซึ่งอยู่ในทุ่งนานั้นซื้อมาจากชาวฮิตไทต์”

          33เมื่อยาโคบสั่งเสียบรรดาบุตรเสร็จแล้ว เขาล้มตัวลงนอนบนเตียงและสิ้นใจ ไปรวมอยู่กับบรรพบุรุษ

 

49 a ข้อความในบทนี้แต่เดิมเรียกกันว่า “คำอวยพรของยาโคบ” แต่น่าจะเป็นคำทำนายมากกว่า (ดู ข้อ 1) ยาโคบกล่าวถ้อยคำซึ่งเกิดผลอย่างแน่นอน เป็นการทำนายถึงชะตากรรมของบรรดาบุตรของเขา คือ ชะตากรรมของเผ่าต่างๆ ซึ่งมีชื่อของบุตรเหล่านั้น คำทำนายนี้พูดพาดพิงถึงเหตุการณ์ในสมัยของบรรพบุรุษอย่างไม่ต้องสงสัย (รูเบน สิเมโอน เลวี) แต่ยังพูดถึงสถานการณ์ประวัติศาสตร์ในยุคหลังอีกด้วย เกียรติสูงส่งที่ให้กับยูดาห์และการยกย่องตระกูลของโยเซฟ (เอฟราอิมและมนัสเสห์) ชวนให้เราคิดถึงช่วงเวลาที่เผ่าเหล่านี้มีบทบาทเป็นผู้นำชาติ  บทประพันธ์ในรูปแบบปัจจุบันคงจะแต่งขึ้นในสมัยของกษัตริย์ดาวิด แต่รายละเอียดหลายประการน่าจะมีอยู่ก่อนสมัยมีกษัตริย์ปกครอง ผู้เรียบเรียงหนังสือปฐมกาลนำบทประพันธ์บทนี้มาแทรกไว้ในภายหลัง เราไม่อาจกำหนดได้แน่นอนว่าบทประพันธ์นี้มาจากตำนานไหน (JEP) เทียบบทประพันธ์นี้กับบทเพลงของเดโบราห์ (วนฉ 5) และคำอวยพรของโมเสสซึ่งเท้าความถึงเผ่าต่างๆ ด้วย (ฉธบ 33)

b “ยังความเศร้าแก่พ่อ” เป็นการแปลโดยคาดคะเน ภาษาฮีบรูว่า “ขึ้นไป” รูเบนสูญเสียสิทธิเป็นบุตรคนแรก เพราะได้หลับนอนกับนางบิลฮาห์ภรรยาของบิดา เผ่ารูเบนยังมีความสำคัญในสมัยของนางเดโบราห์ (วนฉ 5) แต่ในคำอวยพรของโมเสส กำลังทางทหารของเผ่านี้ไม่มีความสำคัญอีกแล้ว (ฉธบ 33:6)

c สิเมโอนและเลวีถูกสาปแช่งเพราะได้หักหลังและฆ่าชาวเชเคม เผ่าทั้งสองต้องกระจัดกระจายอยู่ทั่วอิสราเอล ต่อมาไม่นาน เผ่าสิเมโอนถูกเผ่ายูดาห์กลืน ทำให้ไม่เป็นเผ่าเอกเทศอีกต่อไป ส่วนเผ่าเลวีหมดความสำคัญในด้านการเมือง แต่จะมีความสำคัญในด้านศาสนาตาม ฉธบ 33:8-11 ซึ่งไม่มีพูดถึงในที่นี้

d “มีดของเขา…ความรุนแรง”  ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน

e ยาโคบทำนายว่าเผ่ายูดาห์จะเป็นเอกและมีอำนาจเหนือเผ่าอื่นๆ (ข้อ 8-9) ทั้งยังกล่าวทำนายถึงพระเมสสิยาห์อีกด้วย (ข้อ 10-12) ใน ฉธบ 33:7 เผ่ายูดาห์แยกอยู่ต่างหาก เพราะเวลานั้น อาณาจักรถูกแบ่งแยกแล้ว

f ในข้อนี้ภาษาฮีบรูเล่นคำ “ยูดาห์” (yehudah) กับ “สรรเสริญ” (yoduka) (ดู 29:35)

g “ผู้ที่เป็นเจ้าของ” ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน วลีนี้คงหมายถึงกษัตริย์ดาวิดในฐานะผู้ก่อตั้งราชอาณาจักร และเป็นรูปแบบของพระเมสสิยาห์ด้วย

h “นอบน้อมต่อเขา” แปลตามต้นฉบับภาษาฮีบรู คำแปลโบราณบางฉบับว่า “เป็นความหวังของนานาชาติ” จึงเป็นการกล่าวพาดพิงถึงพระเมสสิยาห์อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

i “ท่าจอดเรือ” เผ่าเศบูลุนจะตั้งหลักแหล่งอยู่ตามชายทะเล ใกล้กับแคว้นฟีนีเซีย (เมืองไซดอน)

j เผ่าอิสสาคาร์ซึ่งตั้งหลักแหล่งอยู่ในที่ราบเอสเดรโลนอันอุดมกลับอ่อนแอลง และตกอยู่ในปกครองของชาวคานาอัน

k “ดานจะปกครอง” (dan yadin) เป็นการเล่นคำเช่นเดียวกับใน 30:6

l ไม่ชัดเจนว่าทำไมจึงมีการเปรียบเทียบกับงูพิษ บางคนอธิบายว่าเผ่าดานอยู่ติดชายแดนทางเหนือจึงมีหน้าที่คอยเฝ้าไม่ให้ศัตรูรุกราน

m ข้อนี้มีลักษณะเป็นการอ้อนวอนพระเจ้าเหมือนในบทเพลงสดุดี อยู่ตรงกึ่งกลางของบทประพันธ์โดยประมาณ

n ข้อ 19 นี้ในภาษาฮีบรูมีการเล่นคำที่มีเสียงคล้ายกัน เผ่ากาดตั้งหลักแหล่งอยู่ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ต้องป้องกันจากการปล้นของพวกเร่ร่อน

o ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน

p ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจนเช่นเดียวกัน

q ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน วลี “ศิลาแห่งอิสราเอล” มีความหมายเดียวกันกับคำว่า “ศิลา” เป็นสมญาของพระยาห์เวห์ที่พบบ่อยๆ ในเพลงสดุดี

r เทียบ บทที่ 17 ข้อ 1 เชิงอรรถ b

s หมายถึง น้ำใต้พื้นดิน ซึ่งพลุ่งขึ้นมาให้ความชุ่มชื่นแก่แผ่นดิน (ฉธบ 8:7)

t “ภูเขาเก่าแก่” เป็นการเดาต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน ส่วนต้นฉบับภาษากรีก และ ฉธบ 33:15 ว่า “ภูเขานิรันดร”

u “เจ้านาย” ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า nazir (ดู กดว 6)

v ภาพของเบนยามินที่เป็นนักรบ สอดคล้องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของเผ่านี้ในภายหลัง (ดู วนฉ 3:15; 5:14; 19-20) และชีวิตของกษัตริย์ซาอูล (1 ซมอ)

w “แต่ละคน” แปลตามสำนวนแปลโบราณหลายฉบับและตามภาษากรีก

x เรื่องราวของยาโคบตามตำนานสงฆ์จบที่นี่

y “ถ้ำและทุ่งนา” นี้ อับราฮัมซื้อไว้เพื่อฝังศพนางซาราห์ (ดูบทที่ 23 เทียบ 50:13)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก