“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ยูดาห์กับนางทามาร์a

38 1ในเวลานั้น ยูดาห์แยกตนจากพี่น้องไปอาศัยอยู่กับชาวอดุลลัมคนหนึ่งชื่อฮีราห์ 2เมื่ออยู่ที่นั่น ยูดาห์เห็นบุตรหญิงของชูวา ชาวคานาอันคนหนึ่งก็แต่งงานและหลับนอนกับนาง 3นางตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย ตั้งชื่อเขาว่าเอร์ 4นางตั้งครรภ์อีกและคลอดบุตรชาย ตั้งชื่อเขาว่าโอนัน 5นางคลอดบุตรชายอีกคนหนึ่ง ตั้งชื่อเขาว่าเชลาห์ นางอยู่ที่เคซีบเมื่อคลอดเชลาห์

          6ยูดาห์หาภรรยาให้เอร์บุตรชายคนโต นางมีชื่อว่าทามาร์ 7แต่เอร์บุตรคนโตของยูดาห์ประพฤติชั่วร้ายเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์จึงทรงประหารชีวิตเขา 8ยูดาห์พูดกับโอนันว่า “ลูกจงไปหลับนอนกับภรรยาม่ายของพี่ชายลูกเถิด จงทำหน้าที่ของน้องชายสามีของนางb ทำให้พี่ชายของลูกมีผู้สืบสกุลต่อไป” 9โอนันรู้ว่าบุตรที่เกิดจะไม่ได้เป็นบุตรของตน ดังนั้น ทุกครั้งที่เขาหลับนอนกับภรรยาม่ายของพี่ชาย เขาก็ปล่อยน้ำอสุจิทิ้งไป เพื่อจะไม่มีบุตรสืบสกุลของพี่ชาย 10พระยาห์เวห์cไม่พอพระทัยที่เขากระทำเช่นนี้ จึงทรงประหารชีวิตเขาด้วย 11ยูดาห์จึงบอกทามาร์บุตรสะใภ้ว่า “จงกลับไปอยู่บ้านdบิดาของลูกก่อนเถิด เป็นม่ายคอยไปจนกว่าเชลาห์ลูกของพ่อจะโตพอที่จะมีภรรยาได้ ยูดาห์พูดดังนี้ เพราะกลัวว่าเชลาห์จะตายเหมือนพี่ชายทั้งสองคน” นางทามาร์จึงกลับไปอยู่บ้านบิดาของตน

          12หลายปีต่อมา บุตรหญิงของชูวาภรรยาของยูดาห์ถึงแก่กรรม เมื่อพ้นเวลาไว้ทุกข์แล้วe ยูดาห์กับเพื่อนชื่อฮีราห์ชาวอดุลลัมก็ไปพบคนตัดขนแกะที่เมืองทิมนาห์ 13มีผู้บอกนางทามาร์ว่า “บิดาของสามีเธอกำลังไปเมืองทิมนาห์เพื่อตัดขนแกะ” 14นางจึงถอดชุดแม่ม่ายที่สวมอยู่ออก เอาผ้าคลุมหน้าพรางตัว ไปนั่งอยู่ตรงทางเข้าเอนาอิม ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปเมืองทิมนาห์ นางเห็นว่าเชลาห์โตแล้ว แต่ยูดาห์ยังไม่ให้นางเป็นภรรยาของเขาf

          15เมื่อยูดาห์เห็นนางเข้า ก็คิดว่านางเป็นหญิงโสเภณี เนื่องจากนางมีผ้าปิดหน้าไว้ 16จึงเข้าไปหานางที่ริมถนน พูดว่า “ขอให้ฉันหลับนอนกับเธอเถิด” ยูดาห์ไม่รู้ว่านางเป็นบุตรสะใภ้ของตน นางถามว่า “ท่านจะให้อะไรดิฉันถ้าดิฉันหลับนอนกับท่าน” 17ยูดาห์ตอบว่า “ฉันจะส่งลูกแพะจากฝูงมาให้ตัวหนึ่ง” นางตอบว่า “ตกลง ท่านจะให้อะไรไว้เป็นมัดจำจนกว่าจะส่งลูกแพะมาให้” เขาถามว่า 18“ฉันจะต้องให้อะไรเป็นมัดจำแก่เธอล่ะ” นางตอบว่า “ขอตรา เชือกร้อยตรา และไม้เท้าที่ท่านถืออยู่นี้”g เขาก็ส่งสิ่งเหล่านี้ให้นาง และไปหลับนอนกับนาง นางก็ตั้งครรภ์กับเขา 19แล้วนางก็จากไป เอาผ้าคลุมออก สวมชุดแม่ม่ายตามเดิม

          20ยูดาห์ให้เพื่อนชาวอดุลลัมนำลูกแพะไปแลกเอาของมัดจำคืนจากหญิงคนนั้น แต่เขาหานางไม่พบ 21เขาจึงถามผู้คนที่อยู่แถบนั้นว่า “หญิงโสเภณีhซึ่งเคยอยู่ริมถนนที่เอนาอิมไปไหน” คนเหล่านั้นตอบว่า “ที่นั่นไม่เคยมีหญิงโสเภณีเลย” 22เขาจึงกลับไปหายูดาห์ บอกว่า “ข้าพเจ้าหาหญิงนั้นไม่พบ ยิ่งกว่านั้น ผู้คนแถวนั้นบอกว่า ที่นั่นไม่เคยมีหญิงโสเภณีเลย” 23ยูดาห์ก็พูดว่า “ให้นางเก็บของมัดจำไว้เถิด มิฉะนั้น คนจะหัวเราะเยาะเรา ข้าพเจ้าได้ส่งลูกแพะตัวนี้ไปให้นางแล้ว แต่ท่านหานางไม่พบ”

          24ประมาณสามเดือนต่อมา มีผู้มาบอกยูดาห์ว่า “ทามาร์บุตรสะใภ้ของท่านมีชู้ และตั้งครรภ์แล้ว” ยูดาห์จึงสั่งว่า “จงนำตัวนางไปเผาไฟ”i 25ขณะที่เขาพานางออกไป นางก็ฝากคนไปบอกบิดาของสามีว่า “ดิฉันตั้งครรภ์กับชายที่เป็นเจ้าของสิ่งของเหล่านี้” และยังเสริมว่า “ดูให้ดีซิว่า ตรา เชือกร้อยตรา และไม้เท้านี้เป็นของใคร” 26ยูดาห์ก็จำของของตนได้ และพูดว่า “นางทำถูกต้อง ข้าพเจ้าซิเป็นฝ่ายทำผิด ที่ไม่ได้ยกนางให้เชลาห์บุตรชายของข้าพเจ้า” ยูดาห์ก็ไม่ได้หลับนอนกับนางอีก

          27เมื่อถึงกำหนดคลอด ก็ปรากฏว่านางมีบุตรฝาแฝด 28ระหว่างการคลอด บุตรคนหนึ่งยื่นมือออกมาก่อน หญิงทำคลอดจึงเอาด้ายแดงผูกข้อมือไว้ พลางพูดว่า “คนนี้เกิดก่อน” 29แต่เด็กนั้นหดมือกลับ บุตรอีกคนหนึ่งจึงคลอดออกมาก่อน หญิงทำคลอดก็ว่า “ทำไมเจ้าจึงแหวกออกมาก่อน” เขาจึงได้ชื่อว่าเปเรศ 30แล้วคนพี่ก็คลอดออกมามีด้ายแดงผูกข้อมืออยู่ เขาจึงได้ชื่อว่าเศราห์j

38 a เรื่องนี้มาจากตำนานยาห์วิสต์พูดถึงต้นกำเนิดของเผ่ายูดาห์ ยูดาห์แยกจากพี่น้องไปอาศัยอยู่กับชาวคานาอัน บุตรทั้งสองคนของยูดาห์ที่เกิดจากนางทามาร์บุตรสะใภ้คือเปเรศและเศราห์จะเป็นต้นตระกูลสองตระกูล (กดว 26:20-21; 1 พศด 2:4) เปเรศเป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์ดาวิด (นรธ 4:18) จึงเป็นบรรพบุรุษของพระเมสสิยาห์ด้วย (มธ 1:3; ลก 3:33) จากเรื่องนี้เรารู้ว่าเผ่ายูดาห์มีเลือดผสมต่างชาติและมีชะตากรรมพิเศษต่างจากเผ่าอื่น (ฉธบ 33:7; วนฉ 1:3; ดู ประวัติศาสตร์ทั้งหมดของอิสราเอลที่พระคัมภีร์จะเล่าต่อไป)

b ตามกฎการแต่งงานกับหญิงม่ายเพื่อสืบสกุลให้สามีที่ถึงแก่กรรมแล้ว (ดู ฉธบ 25:5 เชิงอรรถ a)

c พระยาห์เวห์ทรงลงโทษโอนันเพราะเขาเห็นแก่ตัว ไม่ยอมทำหน้าที่ต่อครอบครัวและต่อชาติ

d การส่งหญิงม่ายกลับไปอยู่กับบิดา หมายความว่า หญิงมีอิสระจะแต่งงานใหม่ได้ แต่ยูดาห์ทำผิดที่บอกนางทามาร์ว่าจะให้นางแต่งงานกับบุตรชายของตน นางจึงต้องรอต่อไป แต่งงานกับผู้อื่นไม่ได้

e ดู ยรม 16:7

f นางทามาร์ปลอมตัวเป็นหญิงโสเภณี รอยูดาห์ที่ริมทาง ไม่ใช่เพราะความใคร่ แต่เพราะต้องการมีบุตรจากสายเลือดของสามีที่ถึงแก่กรรมแล้วในภายหลัง (ในข้อ 26) ยูดาห์เห็นด้วยกับการกระทำของนาง และชนรุ่นหลังจะยกย่องนาง (นรธ 4:12)

g ตราที่ใช้เชือกร้อยแขวนคอและไม้เท้า เป็นของส่วนตัวโดยเฉพาะจึงทำให้รู้ได้แน่ว่าใครเป็นเจ้าของ

h “หญิงโสเภณี” คำภาษาฮีบรู หมายถึง “โสเภณีตามสักการสถาน” คือ หญิงที่ให้บริการแก่ผู้มานมัสการเทพเจ้าตามสักการสถานของชาวคานาอัน

i ตามกฎการแต่งงานกับหญิงม่ายเพื่อสืบสกุลให้สามีที่ถึงแก่กรรมแล้ว (ดู ฉธบ 25:5 เชิงอรรถ a) ทามาร์ภรรยาม่ายของเอร์เป็นคู่หมั้นของเชลาห์ ดังนั้น แม้นางจะอยู่กับบิดา นางก็ยังอยู่ในปกครองของยูดาห์  และยูดาห์เป็นผู้ตัดสินลงโทษนาง ในกรณีมีชู้ (ลนต 20:10; ฉธบ 22:22 ดู ยน 8:5) ในสมัยต่อมา การลงโทษเผาไฟจะใช้กับบุตรหญิงของสมณะเท่านั้น (ลนต 21:9)

j “เปเรศ” (Peretz) หมายถึง “แหวก” “เปิดช่อง” “เศราห์” (zerah) หมายถึง สีแดงของแสงเงินแสงทองเวลาเช้าตรู่ ซึ่งเป็นสีของด้ายที่ผูกข้อมือของทารกเมื่อคลอดออกมา

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก