“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

การแต่งงานของอิสอัคa

24 1ขณะนั้น อับราฮัมชรามากแล้ว พระยาห์เวห์ทรงอวยพรอับราฮัมทุกด้าน 2อับราฮัมบอกผู้รับใช้อาวุโสที่สุดในบ้าน ผู้ดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาว่า “จงวางมือที่โคนขาของฉันเถิดb 3ฉันจะให้ท่านสาบานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งสวรรค์และแผ่นดินว่าc แม้ฉันจะอาศัยในหมู่ชาวคานาอัน ท่านก็อย่าเลือกลูกสาวของเขาเป็นภรรยาลูกชายของฉัน 4ท่านจงไปยังบ้านเกิดเมืองนอนของฉัน ไปพบญาติของฉัน เพื่อเลือกภรรยาให้อิสอัคลูกชายของฉัน” 5ผู้รับใช้จึงถามว่า “ถ้าหญิงคนนั้นไม่ยอมตามข้าพเจ้ามายังแผ่นดินนี้ ข้าพเจ้าจะต้องพาบุตรชายของท่านกลับไปยังแผ่นดินที่ท่านจากมาหรือไม่” 6อับราฮัม ตอบว่า “ท่านอย่านำลูกชายของฉันกลับไปที่นั่นเป็นอันขาด 7พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งสวรรค์และแผ่นดิน ทรงนำฉันออกจากบ้านของบิดาและจากแผ่นดินของญาติพี่น้องของฉัน ทรงสัญญากับฉันโดยทรงปฏิญาณไว้ว่า ‘จะประทานแผ่นดินนี้ให้แก่ลูกหลานของฉัน’ พระองค์จะทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์นำหน้าท่านไป เพื่อท่านจะหาภรรยาจากที่นั่นให้ลูกชายของฉันได้ 8แต่ถ้าหญิงคนนั้นไม่ยอมตามท่านมา ท่านก็พ้นจากคำสาบานที่ให้ไว้กับฉัน แต่ท่านอย่าพาลูกชายของฉันกลับไปที่นั่นเป็นอันขาด” 9ผู้รับใช้ก็เอามือวางไว้ที่โคนขาของอับราฮัม และสาบานว่าจะทำดังนั้น

          10ผู้รับใช้นำอูฐสิบตัวบรรทุกของกำนัลทุกชนิดของนาย แล้วออกเดินทางไปยังเมืองที่นาโฮร์อาศัยอยู่ในแคว้นเมโสโปเตเมียd 11เมื่อเขามาถึง ก็ให้อูฐหมอบลงข้างๆ บ่อน้ำนอกเมือง เวลานั้นเย็นแล้ว เป็นเวลาที่บรรดาผู้หญิงออกมาตักน้ำ 12ผู้รับใช้อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าประสบความสำเร็จในวันนี้ และโปรดแสดงความรักมั่นคงต่ออับราฮัมนายของข้าพเจ้าด้วยเถิด” 13ข้าพเจ้าจะยืนอยู่ข้างบ่อน้ำเมื่อบรรดาหญิงชาวเมืองออกมาตักน้ำ 14ข้าพเจ้าจะพูดกับหญิงคนหนึ่งว่า “ขอให้ข้าพเจ้าดื่มน้ำในไหน้ำของท่านบ้างเถิด” ถ้าหญิงนั้นตอบว่า “เชิญซิคะ ดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย” หญิงนั้นแหละจะเป็นหญิงที่พระองค์ทรงเลือกไว้ให้อิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์ และดังนี้ ข้าพเจ้าก็จะรู้ว่า พระองค์ทรงแสดงความรักมั่นคงต่อนายของข้าพเจ้า”

          15เขาอธิษฐานยังไม่ทันจบ เรเบคาห์ก็แบกไหน้ำมาถึงที่นั่น นางเป็นบุตรสาวของเบธูเอล เบธูเอลเป็นบุตรชายของนางมิลคาห์ภรรยาของนาโฮร์น้องชายของอับราฮัม 16เรเบคาห์มีรูปร่างหน้าตางดงามมาก เป็นสาวพรหมจารี ยังไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายใด นางไปที่บ่อน้ำ ตักน้ำใส่ไหจนเต็มแล้วกลับขึ้นมา 17ผู้รับใช้จึงวิ่งไปพบนาง พูดว่า “ขอให้ฉันดื่มน้ำจากไหของท่านบ้างเถิด” 18หญิงสาวผู้นั้นตอบว่า “เชิญซิคะ” แล้วรีบเอาไหน้ำลงจากบ่า เทให้เขาดื่ม 19เมื่อนางให้เขาดื่มเสร็จแล้ว ก็พูดว่า “ดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านดื่มจนอิ่มด้วย” 20นางรีบเทน้ำจากไหใส่ราง และวิ่งกลับไปตักน้ำจากบ่อมาให้อูฐทุกตัวได้ดื่ม 21ผู้รับใช้ผู้นั้นเฝ้าดูนางอยู่เงียบๆ คอยดูให้รู้ว่าพระยาห์เวห์ทรงทำให้การเดินทางของเขาประสบความสำเร็จแล้วหรือไม่

          22เมื่ออูฐดื่มน้ำเสร็จแล้ว ชายผู้นั้นก็เอาห่วงทองคำประดับจมูกหนักสองสลึงสวมให้นางe นำกำไลทองคำหนักสิบบาทสวมแขนทั้งสองข้างของนาง 23พลางถามว่า “ช่วยบอกฉันเถิดว่า ท่านเป็นบุตรหญิงของใคร ที่บ้านบิดาของท่านมีที่พอให้ฉันกับผู้คนที่มาด้วยพักแรมสักคืนหนึ่งได้ไหม” 24หญิงสาวตอบว่า “ดิฉันเป็นบุตรหญิงของเบธูเอล คุณพ่อของดิฉันเป็นบุตรชายของนาโฮร์และมิลคาห์” 25แล้วเสริมว่า “ที่บ้านของเรามีฟาง มีหญ้ามาก และมีที่ให้ท่านพักแรมได้ด้วย” 26แล้วชายนั้นกราบลงนมัสการพระยาห์เวห์ 27พูดว่า “ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมเจ้านายของข้าพเจ้า พระองค์มิได้ทรงหยุดยั้งที่จะแสดงความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ของพระองค์fต่อเจ้านายของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าตรงมาถึงบ้านน้องชายของเจ้านายข้าพเจ้าแล้ว”

          28หญิงสาววิ่งไปบ้านของมารดา และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง 29เรเบคาห์มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อลาบัน ลาบันจึงวิ่งออกไปหาชายผู้นั้นที่บ่อน้ำ 30ทั้งนี้เพราะเขาเห็นห่วงที่จมูก และกำไลที่แขนทั้งสองข้างของน้องสาว และได้ยินเรเบคาห์น้องสาวเล่าว่า ชายผู้นั้นบอกอะไรแก่นาง เขาจึงไปหาผู้ชายคนนั้นที่ยังยืนอยู่กับอูฐใกล้บ่อน้ำ 31พูดว่า “เชิญครับ ท่านเป็นผู้ที่พระยาห์เวห์ทรงอวยพร ทำไมท่านจึงยืนอยู่ข้างนอก ในเมื่อข้าพเจ้าได้จัดเตรียมที่พักไว้ให้ท่านในบ้านแล้ว ทั้งยังหาที่ให้อูฐด้วย” 32ชายนั้นจึงเข้าไปในบ้าน และลาบันปลดสัมภาระลงจากหลังอูฐ หาฟางและหญ้ามาให้อูฐกิน และตักน้ำมาให้ผู้รับใช้ของอับราฮัมกับผู้คนที่มาด้วยได้ล้างเท้า

          33เมื่อทุกคนพร้อมที่จะกินอาหารร่วมกัน ผู้รับใช้ของอับราฮัมพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่กินจนกว่าจะพูดเรื่องธุระที่จะต้องพูดเสียก่อน” ลาบันตอบว่า “เชิญท่านพูดเถิด” 34เขาจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของอับราฮัม 35พระยาห์เวห์ทรงอวยพรนายของข้าพเจ้าอย่างมาก ให้เขาเป็นคนมั่งคั่ง พระองค์ประทานฝูงสัตว์ แกะ แพะ โค เงิน ทองคำ ทาสชายหญิง อูฐและลาให้นายของข้าพเจ้า 36นางซาราห์ภรรยาของนายของข้าพเจ้าให้กำเนิดบุตรชายให้นายเมื่อเขาชราแล้วg และเขามอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้บุตรชายคนนี้ 37นายให้ข้าพเจ้าสาบานว่าจะทำตามคำสั่งของเขาที่ว่า ‘แม้ฉันจะอาศัยในหมู่ชาวคานาอัน ท่านก็อย่าเลือกลูกสาวของเขามาเป็นภรรยาลูกชายของฉันเลย 38แต่ท่านจงไปยังบ้านบิดาของฉัน ไปหาญาติพี่น้องของฉัน เพื่อเลือกภรรยาสำหรับลูกชาย’ 39ข้าพเจ้าจึงถามนายของข้าพเจ้าว่า ‘ถ้าหญิงผู้นั้นไม่ยอมตามข้าพเจ้ามาเล่า’ 40นายของข้าพเจ้าก็ตอบว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าซึ่งฉันปฏิบัติตามพระประสงค์อยู่เสมอ จะทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์ไปกับท่าน จะทรงให้การเดินทางของท่านประสบความสำเร็จ เพื่อท่านจะหาภรรยาให้ลูกชายของฉันจากญาติพี่น้องและจากวงศ์ตระกูลของบิดา 41ท่านจะพ้นคำสาปแช่งของฉันก็ต่อเมื่อท่านไปพบญาติพี่น้องของฉัน และถ้าพวกเขาไม่ยอมให้นางแก่ท่าน ท่านจะพ้นคำสาปแช่งของฉันเช่นเดียวกัน’ 42วันนี้ เมื่อข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำ ข้าพเจ้าอธิษฐานว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพเจ้า โปรดให้การเดินทางที่ข้าพเจ้ากำลังทำอยู่นี้ประสบผลสำเร็จเถิด’ 43ข้าพเจ้ากำลังยืนอยู่ที่บ่อน้ำนี้ ถ้าหญิงสาวคนหนึ่งมาตักน้ำ และข้าพเจ้าจะพูดกับนางว่า ‘ขอให้ข้าพเจ้าดื่มน้ำจากไหของท่านบ้างเถิด’ 44และนางจะตอบว่า ‘เชิญซิคะ ดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย’ ผู้นี้แหละจะเป็นหญิงที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกให้เป็นภรรยาบุตรชายของนายข้าพเจ้า 45ข้าพเจ้าอธิษฐานในใจยังไม่ทันจบ เรเบคาห์ก็แบกไหน้ำมาตักน้ำที่บ่อ ข้าพเจ้าจึงพูดกับนางว่า ‘ขอน้ำให้ฉันดื่มบ้างเถิด’ 46นางก็รีบเอาไหน้ำลงจากบ่า พลางพูดว่า ‘เชิญซิคะ แล้วดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านดื่มด้วย’ ข้าพเจ้าได้ดื่ม และนางก็ได้ตักน้ำให้อูฐดื่มด้วย

47ข้าพเจ้าถามนางว่า ‘ท่านเป็นบุตรหญิงของใคร’ นางก็ตอบว่า ‘ดิฉันเป็นบุตรหญิงของเบธูเอล คุณพ่อของดิฉันเป็นบุตรชายของนาโฮร์และมิลคาห์’ ข้าพเจ้าจึงเอาห่วงใส่จมูก และสวมกำไลแขนทั้งสองข้างให้นาง 48ข้าพเจ้ากราบลงนมัสการพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามาในทางที่ถูกต้อง เพื่อเลือกบุตรหญิงของน้องชายนายของข้าพเจ้าให้เป็นภรรยาบุตรชายของเขา 49โปรดบอกข้าพเจ้าเถิดว่า บัดนี้ ถ้าท่านตั้งใจจะแสดงความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ต่อนายของข้าพเจ้าแล้ว ก็จงบอกข้าพเจ้าเถิด แต่ถ้าท่านไม่ตั้งใจจะแสดง ก็จงบอกด้วยเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะได้ไปที่อื่น”

          50ลาบันและเบธูเอลตอบว่า “เรื่องนี้มาจากพระยาห์เวห์ เราไม่อาจตัดสินอะไรได้ 51เรเบคาห์ก็อยู่ที่นี่ต่อหน้าท่านแล้ว จงพานางไปเถิด และให้นางเป็นภรรยาบุตรชายของนายของท่าน ดังที่พระยาห์เวห์ตรัสไว้” 52เมื่อผู้รับใช้ของอับราฮัมได้ยินดังนี้ก็กราบลงที่พื้นดิน นมัสการพระยาห์เวห์ 53แล้วนำเครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง และเสื้อผ้าออกมามอบให้แก่เรเบคาห์ เขายังมอบของกำนัลมีค่าแก่พี่ชายและมารดาของนางด้วย

          54ผู้รับใช้และผู้คนที่มาด้วยก็กินอาหาร ดื่ม และค้างคืนอยู่ที่นั่น เมื่อทุกคนลุกขึ้นในเวลาเช้า ผู้รับใช้พูดว่า “ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปหานายของข้าพเจ้าเถิด” 55แต่พี่ชายและมารดาของเรเบคาห์ตอบว่า “ขอให้หญิงสาวพักอยู่กับเราสักอาทิตย์หนึ่ง หรือสิบวันเถิด แล้วท่านจึงค่อยเดินทางไป” 56เขาตอบว่า “อย่าให้ข้าพเจ้าอยู่ต่อไปเลย พระยาห์เวห์ทรงทำให้การเดินทางของข้าพเจ้าประสบความสำเร็จแล้ว ให้ข้าพเจ้ากลับไปหานายของข้าพเจ้าเถิด” 57เขาเหล่านั้นตอบว่า “เราจงเรียกหญิงสาวมา ถามดูซิว่าเธอจะว่าอย่างไร” 58เขาจึงเรียกเรเบคาห์มาถามว่า “เธอจะไปกับชายผู้นี้หรือ” นางตอบว่า “ไปค่ะ” 59ลาบันจึงอนุญาตให้เรเบคาห์ น้องสาวพร้อมกับแม่นมของเธอ ออกเดินทางไปกับผู้รับใช้ของอับราฮัมและผู้คนที่มาด้วย 60บรรดาญาติพี่น้องอวยพรเรเบคาห์ กล่าวแก่นางว่า

          “น้องสาวของเราเอ๋ย จงมีลูกหลาน

                    นับพันนับหมื่นเถิด

          ขอให้ลูกหลานของท่าน

                    ยึดครองประตูเมืองของศัตรูเถิด”

          61เรเบคาห์และหญิงรับใช้ทั้งหลายของนางเตรียมตัวออกเดินทางขึ้นบนหลังอูฐ เดินทางตามชายนั้นไป ผู้รับใช้ของอับราฮัมก็พานางออกเดินทาง

          62ขณะนั้น อิสอัคกลับจากบ่อน้ำลาไคโรอี เขาอาศัยอยู่ในดินแดนเนเกบ 63เย็นวันหนึ่ง อิสอัคออกไปเดินเล่นhในทุ่งนา เขาเงยหน้าขึ้นเห็นอูฐหลายตัวกำลังเดินตรงมา 64เรเบคาห์เงยหน้าขึ้นเห็นอิสอัค จึงลงจากหลังอูฐ 65และถามผู้รับใช้ว่า “ชายที่กำลังเดินอยู่ในทุ่งนาตรงมาหาเราเป็นใครคะ” ผู้รับใช้ตอบว่า “เขาคือนายของข้าพเจ้า” เธอจึงเอาผ้าคลุมหน้าไว้ 66ผู้รับใช้เล่าให้อิสอัครู้ทุกสิ่งที่เขาได้ทำ 67อิสอัคจึงพาเรเบคาห์เข้าไปในกระโจมที่เคยเป็นของนางซาราห์มารดาของตนi เขาแต่งงานกับเรเบคาห์ และรักนางมาก อิสอัคจึงได้รับการปลอบใจหลังจากมารดาเสียชีวิต

 

24 a เรื่องนี้มาจากตำนานยาห์วิสต์เป็นเรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับอับราฮัม ข้อ 1-9 ชี้ให้เห็นว่าอับราฮัมกำลังจะสิ้นใจ (ดู 47:29-31) เรื่องเล่านี้แต่เดิมคงกล่าวถึงมรณกรรมของอับราฮัมด้วย แต่ในตัวบทที่เรามีในปัจจุบัน มรณกรรมของอับราฮัมถูกเลื่อนออกไปอยู่หลัง 25:1-6 นอกจากนั้น ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ต่อไปนี้คือ ในข้อ 48 เรเบคาห์เป็นบุตรหญิงของนาโฮร์ ซึ่งเป็นน้องชายของอับราฮัม ข้อมูลนี้สอดคล้องกับ 29:5 แต่ในธรรมประเพณีอีกสายหนึ่ง นางเรเบคาห์เป็นบุตรหญิงของเบธูเอล (25:20; 28:2, 5) ซึ่งเป็นบุตรของนาโฮร์ (22:22-23) ดังนั้น จึงมีการกล่าวถึงเบธูเอลเพิ่มเข้ามาในข้อ 15, 24, 47, 50 อย่างไรก็ตาม ลาบันทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวในฐานะที่เป็นพี่ชายของเรเบคาห์ (ข้อ 29) และเป็นบุตรของนาโฮร์ (29:5)

b การสาบานโดยวางมือที่โคนขายังพบได้อีกใน 47:29 ตามความคิดของคนโบราณการสัมผัสอวัยวะเพศทำให้การสาบานเป็นการกระทำที่ละเมิดไม่ได้ ธรรมประเพณีในภายหลังสันนิษฐานว่าผู้รับใช้ผู้นี้ของอับราฮัมคือเอลีเยเซอร์ (ดู 15:2) แต่ต้นฉบับไม่ได้บอกว่าเป็นใคร

c แปลตามตัวอักษร “และพระเจ้าแห่งแผ่นดิน” (ดู ข้อ 7 ด้วย)

d “เมโสโปเตเมีย” แปลตามตัวอักษรว่า “อารัมแห่งแม่น้ำทั้งสอง” เมืองฮาราน บ้านเกิดเมืองนอนของอับราฮัม ตั้งอยู่ในดินแดนแถบนี้ (11:31)

e “สวมให้นาง” แปลตามสำเนาปัญจบรรพของชาวสะมาเรีย (ดู ข้อ 47)

f คำภาษาฮีบรู hesed we’emet (ดู ข้อ 49; 32:11; 47:29; อพย 34:6; ยชว 2:14; 2 ซมอ 2:6; 15:20) หมายถึง ความรักที่ซื่อสัตย์ ความกรุณาที่ไม่มีวันเหือดหายของพระเจ้าต่อมนุษย์ ความศรัทธามั่นคงของมนุษย์ต่อพระเจ้า หรือความจงรักภักดีเปี่ยมด้วยความรักต่อกันของมนุษย์ (ดู ฮชย 2:21 เชิงอรรถ u)

g “เมื่อเขาชราแล้ว” แปลตามต้นฉบับของชาวสะมารีตัน และฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เมื่อนางชราแล้ว”

h “เดินเล่น” คำภาษาฮีบรูมีความหมายไม่แน่ เพราะพบเพียงครั้งเดียวในพระคัมภีร์

i “ที่เคยเป็นของนางซาราห์มารดาของตน” อาจเป็นคำอธิบายเพิ่มเติมของผู้คัดลอกในภายหลัง

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก