“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

พระเจ้าทรงทำลายเมืองโสโดมa

19 1เมื่อทูตสวรรค์สององค์มาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทกำลังนั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นเข้า เขาก็ลุกขึ้นไปต้อนรับ กราบลงกับพื้นดิน 2พูดว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า เชิญมาที่บ้านผู้รับใช้ของท่านเถิด ท่านจะได้ล้างเท้าและพักแรมที่นั่น ท่านจะได้ออกเดินทางต่อไปแต่เช้าตรู่” ทูตสวรรค์ตอบว่า “อย่าเลย เราจะพักค้างคืนที่ลานเมือง” 3แต่โลทยังรบเร้าจนเขาทั้งสองคนยอมเข้าไปในบ้านกับโลท โลทจัดเตรียมอาหารสำหรับเขา ปิ้งขนมปังไร้เชื้อ และเขาทั้งสองคนก็กินอาหาร

          4ก่อนที่ทุกคนจะเข้านอน บรรดาชายชาวเมืองโสโดมทั้งหมด ทั้งหนุ่มและแก่ เข้ามาล้อมบ้านไว้ 5พากันร้องเรียกโลทว่า “ผู้ชายที่มาค้างคืนที่บ้านของท่านอยู่ที่ไหน จงพาออกมาให้เรามีเพศสัมพันธ์กับเขาเถิด”b

          6โลทจึงออกมาพบเขาที่ประตู แต่ปิดประตูไว้ 7พูดว่า “พี่น้องทั้งหลาย อย่าทำชั่วช้าเช่นนี้เลย 8ฟังเถิด ข้าพเจ้ามีลูกสาวสองคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน ข้าพเจ้าจะพาเขาออกมาให้ท่านทำกับเขาตามใจชอบc แต่อย่าทำอะไรกับชายเหล่านี้เลย เพราะเขาเป็นแขกที่ข้าพเจ้าต้องป้องกันไว้” 9แต่คนเหล่านั้นตอบว่า “หลีกไป ท่านเป็นคนต่างถิ่นมาอยู่ที่นี่ แล้วยังมาบอกให้เราทำโน่นทำนี่ เราจะทำกับท่านให้เลวร้ายกว่าทำกับเขาทีเดียว” คนเหล่านั้นผลักโลทให้พ้นทาง แล้วพากันเข้ามาจะพังประตู 10แต่ทูตสวรรค์ทั้งสององค์ยื่นมือออกมาฉุดโลทเข้าไปในบ้าน และปิดประตู 11แล้วใช้แสงสว่างจ้าทำให้ตาของทุกคนที่ประตูบ้านบอดไปจนหาประตูไม่พบ

          12ทูตสวรรค์ถามโลทว่า “ยังมีใครอยู่ที่นี่กับท่านอีกไหม จงพาบุตรชายd บุตรสาว และคนของท่านในเมืองนี้ออกไปจากที่นี่เถิด 13เพราะเรากำลังจะทำลายเมืองนี้ เสียงกล่าวโทษคนเหล่านี้เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ดังมากจนพระองค์ทรงส่งเรามาทำลายเขา” 14โลทจึงออกมาบอกชายที่จะแต่งงานกับบุตรหญิงของตนว่า “จงลุกขึ้น ออกไปจากที่นี่เถิด เพราะพระยาห์เวห์กำลังจะทรงทำลายเมืองนี้” แต่เขาคิดว่าโลทพูดเล่น

          15ครั้นรุ่งเช้า ทูตสวรรค์ก็เร่งโลทว่า “ลุกขึ้นเถิด จงพาภรรยาและบุตรหญิงทั้งสองคนของท่านที่อยู่ที่นี่ออกไป ท่านจะได้ไม่ถูกทำลายพร้อมกับความพินาศของเมืองนี้” 16โลทยังรีรอ แต่พระยาห์เวห์ทรงพระเมตตาต่อเขา ทูตสวรรค์ทั้งสององค์จึงจูงมือโลท ภรรยาและบุตรหญิงทั้งสองคนของเขา พาออกไปปล่อยไว้นอกเมือง

          17เมื่อพาออกมานอกเมืองแล้ว ทูตสวรรค์องค์หนึ่งกล่าวว่า “จงหนีให้รอดชีวิต อย่าเหลียวหลังกลับ หรือหยุดในที่ลุ่มแม่น้ำ จงหนีไปที่ภูเขาเถิด มิฉะนั้น ท่านจะถูกทำลายไปด้วย” 18แต่โลทตอบว่า “อย่าเลย เจ้านายของข้าพเจ้า 19เมื่อท่านโปรดปรานผู้รับใช้ของท่าน ท่านได้แสดงความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ช่วยชีวิตข้าพเจ้าไว้แล้ว แต่ข้าพเจ้าจะหนีไปถึงภูเขาไม่ได้ ก่อนที่ภัยพิบัติจะมาถึงและข้าพเจ้าจะตาย 20ท่านเห็นเมืองเล็กๆ เมืองนั้นไหม เมืองนั้นอยู่ใกล้พอที่จะหนีไปถึง ขอให้ข้าพเจ้าหนีไปที่นั่นเถิด เมืองนั้นเป็นเมืองเล็กๆ และข้าพเจ้าจะรอดชีวิตได้” 21ทูตสวรรค์ตอบว่า “เรายอมตามคำขอของท่านในเรื่องนี้ เราจะไม่ทำลายเมืองที่ท่านพูดถึง 22เร็วเข้าเถิด จงหนีไปที่นั่นเพราะเราจะทำสิ่งใดไม่ได้จนกว่าท่านจะไปถึงที่นั่น” ดังนั้น เมืองนั้นจึงมีชื่อว่าโศอาร์e

          23ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว เมื่อโลทมาถึงเมืองโศอาร์ 24พระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้กำมะถันและไฟตกจากฟ้าfเผาเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ 25พระองค์ทรงทำลายสองเมืองนี้ ลุ่มแม่น้ำทั้งหมดพร้อมกับชาวเมือง และพืชต่างๆ ที่นั่นg 26ส่วนภรรยาของโลทเหลียวหลังกลับไปดูจึงกลายเป็นเสาเกลือh

          27เช้าวันรุ่งขึ้น อับราฮัมรีบกลับไปยังที่ที่เขาได้ยืนเฝ้าพระยาห์เวห์ 28มองลงไปทางเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำ เห็นควันพลุ่งขึ้นจากพื้นดินเหมือนควันจากเตาไฟ

          29เมื่อพระเจ้าทรงทำลายเมืองในลุ่มแม่น้ำ พระองค์ทรงระลึกถึงอับราฮัม ทรงพาโลทออกไปให้พ้นจากความหายนะ เมื่อทรงทำลายเมืองที่โลทอาศัยอยู่i

 

ต้นตระกูลของชาวโมอับ และชาวอัมโมนj

          30โลทออกจากเมืองโศอาร์ไปอาศัยอยู่บนภูเขากับบุตรหญิงทั้งสองคนเพราะกลัว ไม่กล้าอยู่ที่เมืองโศอาร์ เขาอาศัยอยู่ในถ้ำกับบุตรหญิงทั้งสองคน

          31บุตรคนโตพูดกับน้องสาวว่า “พ่อของเราแก่แล้ว บนแผ่นดินนี้ไม่มีใครเหลืออยู่ที่จะมาแต่งงานกับเราตามธรรมเนียมทั่วไป 32มาเถิด เราจงมอมเหล้าพ่อ แล้วเราจะหลับนอนกับพ่อ เราจะรักษาเชื้อสายของพ่อของเราไว้” 33คืนนั้น เขาทั้งสองคนจึงมอมเหล้าบิดา แล้วบุตรหญิงคนโตก็ไปหลับนอนกับบิดา แต่โลทไม่รู้ตัวว่านางมาและจากไปเมื่อไร 34วันรุ่งขึ้น บุตรหญิงคนโตก็พูดกับน้องสาวว่า “ดูซิ เมื่อคืนที่แล้ว พี่ได้หลับนอนกับพ่อ คืนนี้เราจงมอมเหล้าพ่ออีก แล้วน้องจงไปหลับนอนกับพ่อ เราจะได้รักษาเชื้อสายของพ่อของเราไว้” 35คืนนั้น เขาทั้งสองคนมอมเหล้าบิดาอีก แล้วน้องสาวก็ไปหลับนอนกับบิดา แต่โลทไม่รู้ว่านางมาและจากไปเมื่อไร 36บุตรหญิงทั้งสองคนของโลทจึงตั้งครรภ์กับบิดาของตน 37บุตรหญิงคนโตคลอดบุตรชาย และตั้งชื่อว่าโมอับ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวโมอับในปัจจุบันนี้ 38บุตรหญิงคนเล็กก็คลอดบุตรชาย และตั้งชื่อว่าเบนอัมมี เขาเป็นบรรพบุรุษของชาวอัมโมนในปัจจุบันนี้k

 

19 a เรื่องนี้สัมพันธ์กับบทที่ 18 โดย 18:16-32 เป็นการปูทางนำเรื่อง เราจะเห็นว่าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในบทนี้อาจจะลึกลับเช่นเดียวกับในบทที่ 18 “ทูตสวรรค์” สององค์ใน 19:1 ก็คือ “ชาย” ทั้งสองคนซึ่งจากพระยาห์เวห์ไปใน 18:22 หลังจากที่ “ชายสามคน” ได้มาเยี่ยมอับราฮัม (18:2) แต่ในข้ออื่นๆ ในบทที่ 19 นี้ ทูตสวรรค์ทั้งสององค์ยังถูกเรียกว่า “ชาย” เรื่องเล่าโบราณนี้สอนอย่างชัดเจนว่าศาสนาของอิสราเอลเน้นถึงจริยธรรมของความประพฤติของมนุษย์ และพระอานุภาพของพระยาห์เวห์ซึ่งครอบคลุมไปทั่วจักรวาล บทสอนจากเรื่องนี้ยังพบได้อีกหลายครั้งในพระคัมภีร์โดยเฉพาะใน ฉธบ 29:22; ปชญ 10:6-7; อสย 1:9; 13:19; ยรม 49:18; 50:40; อมส 4:11; มธ 10:15; 11:23-24; ลก 17:28; 2 ปต 2:6; ยด 7

b การมีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันเป็นบาปผิดต่อธรรมชาติ ซึ่งต่อมาจะเรียกตามชื่อของเมืองโสโดมนี้ว่า “sodomy” เป็นสิ่งน่ารังเกียจสำหรับชาวอิสราเอล (ลนต 18:22) และผู้ทำผิดเช่นนี้จะถูกลงโทษประหารชีวิต   (ลนต 20:13) แต่การประพฤติเช่นนี้เป็นพฤติกรรมธรรมดาของชนชาติที่อยู่รอบๆ  (ลนต 20:23; ดู วนฉ 19:22ฯ)

c ในสมัยนั้นถือกันว่า การต้อนรับและปกป้องแขกที่มาขออาศัยในบ้านเป็นหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ สำคัญกว่าการป้องกันศักดิ์ศรีของสตรีด้วย (12:13 ดู 12:10 เชิงอรรถ d)

d ก่อนคำ “บุตรของท่าน” ต้นฉบับภาษาฮีบรูเสริม “บุตรเขย” ด้วย แต่อาจเป็นการต่อเติมเพื่อให้ตรงกับข้อ 14

e ผู้เขียนทำให้ชื่อเมืองโศอาร์ในที่นี้ มาจากศัพท์ mitze'ar หมายถึง “สิ่งเล็กน้อยไม่มีค่าอะไร” เมืองนี้ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลตาย (13:10; ฉธบ 34:3; อสย 15:5; ยรม 48:34) ในยุคโรมัน ได้เกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งหนึ่งและเมืองนี้ถูกน้ำท่วม ต่อมาเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ให้สูงกว่าระดับน้ำทะเลตาย และมีผู้อาศัยอยู่จนถึงยุคกลาง

f ในต้นฉบับภาษาฮีบรูยังย้ำอีกว่า “จากพระยาห์เวห์”

g รายละเอียดของเรื่องนี้ทำให้เราคิดว่าภัยพิบัติที่เกิดขึ้นมาจากแผ่นดินไหวร่วมกับแก๊สระเบิดทางตอนใต้ของทะเลตาย นักธรณีวิทยาคำนวณว่าส่วนใต้ของทะเลตายได้จมลงก่อนนี้ไม่กี่พันปี และบริเวณนี้ทั้งหมดยังเกิดแผ่นดินไหวได้บ่อยๆ นอกจากเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์แล้ว (อสย 1:9, 10; อมส 4:11) ยังมีเมืองอื่นที่ถูกทำลายด้วย คือ เมืองอัดมาห์และเมืองเศโบยิม (ปฐก 14; ฉธบ 29:22; ฮชย 11:8)

h เรื่องภรรยาของโลทกลายเป็นเสาเกลือเป็นตำนานชาวบ้านที่อธิบายที่มาของหินเกลือรูปร่างแปลกๆ ในบริเวณนั้น

i ข้อ 29 เป็นการแสดงความคิดเห็นของผู้เขียน

j บทผนวกเรื่องนี้มาจากตำนานของชาวโมอับและชาวอัมโมน ชนสองชาตินี้คงภูมิใจที่มีโลทเป็นต้นตระกูลโดยไม่มีสายเลือดจากชนต่างชาติ ในเรื่องนี้ พระคัมภีร์มิได้ตำหนิบุตรหญิงของโลทว่าได้ทำผิด คล้ายกับเรื่องของนางทามาร์ใน ปฐก 38 เพราะบุตรหญิงของโลทคิดว่าไม่มีมนุษย์คนใดเหลือรอดจากภัยพิบัติครั้งนั้น และต้องการให้เผ่าพันธุ์ของบิดาไม่สูญไป แต่ชาวอิสราเอลเล่าเรื่องนี้เป็นการประชดชาวโมอับและชาวอัมโมน ศัตรูคู่ปรับของตน

k เป็นการอธิบายรากศัพท์แบบชาวบ้าน โมอับได้รับคำอธิบายว่ามาจากคำว่า me'ab “จากพ่อ (ของข้าพเจ้า)” ben 'ammi “บุตรของประชากรของข้าพเจ้า” มีเสียงคล้ายกับ bene 'ammon “บุตรของอัมโมน”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก