“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

พระสัญญาและพันธสัญญาa

15 1หลังจากนั้น พระยาห์เวห์ตรัสกับอับรามในนิมิตว่า

          “อับรามเอ๋ย อย่ากลัวเลย

                    เราเป็นโล่ป้องกันท่าน

          บำเหน็จรางวัลของท่านจะยิ่งใหญ่มาก”

          2แต่อับรามทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้ายังคงไม่มีบุตร เอลีเอเซอร์ชาวดามัสกัสก็จะเป็นผู้รับมรดกของข้าพเจ้าb 3อับรามทูลอีกว่า “พระองค์ไม่ได้ประทานบุตรให้แก่ข้าพเจ้า ดังนั้น บ่าวที่เกิดในบ้านของข้าพเจ้าก็จะได้รับมรดก” 4แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับอับรามอีกว่า “บ่าวผู้นี้จะไม่เป็นผู้รับมรดกของท่าน แต่บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก” 5พระองค์ทรงพาอับรามออกไปข้างนอก แล้วตรัสว่า “จงมองดูท้องฟ้า นับจำนวนดวงดาวเถิด ถ้าท่านนับได้” พระองค์ทรงเสริมว่า “ลูกหลานของท่านจะมีจำนวนมากเช่นนี้” 6อับรามเชื่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขาc

          7พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เราคือพระยาห์เวห์ ผู้พาท่านออกจากเมืองอูร์ของชาวเคลเดีย เพื่อจะมอบแผ่นดินนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของท่าน” 8อับรามทูลตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า ข้าพเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่า แผ่นดินนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของข้าพเจ้า” 9พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงนำลูกโคตัวเมียอายุสามปี แพะตัวเมียอายุสามปี และแกะตัวผู้อายุสามปี นกเขาและนกพิราบอย่างละตัวมาให้เรา” 10อับรามก็ไปนำสัตว์เหล่านี้ทั้งหมดมา ผ่าครึ่งตัววางไว้ตรงกันเป็นสองแถว แต่ไม่ได้ผ่านก 11เมื่อแร้งบินลงมาที่ร่างสัตว์เหล่านี้ อับรามก็ไล่มันไป

          12ขณะที่ดวงอาทิตย์จวนจะตก อับรามก็หลับสนิท ความมืดมิดที่น่ากลัวอย่างยิ่งdมาครอบคลุมเขาไว้ 13แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับอับรามว่า “จงรู้ไว้เถิดว่า ลูกหลานของท่านจะเป็นคนแปลกถิ่นอยู่ในต่างแดน เขาจะตกเป็นทาสและถูกกดขี่เป็นเวลาสี่ร้อยปี 14แต่เราจะพิพากษาลงโทษชนชาติที่เขาเป็นทาสรับใช้ หลังจากนั้น เขาจะออกมาจากดินแดนนั้น โดยมีทรัพย์สมบัติมากมาย 15ส่วนท่าน ท่านจะมีชีวิตอย่างผาสุกจนถึงวัยชรา จะไปพบบรรพบุรุษของท่านโดยสงบและถูกฝัง 16เมื่อสี่ชั่วอายุคนผ่านไปแล้ว ลูกหลานของท่านจะกลับมาอยู่ที่นี่อีก เพราะขณะนี้ ความชั่วร้ายของชาวอาโมไรต์จะยังไม่ถึงขั้นสูงสุด”e

          17เมื่อดวงอาทิตย์ตกและมืดลงแล้ว ก็มีหม้อไฟที่มีควันพวยพุ่งและคบเพลิงที่ลุกอยู่ลอยผ่านระหว่างกลางสัตว์ที่ผ่าซีกเหล่านั้นf 18ในวันนั้นพระยาห์เวห์ทรงกระทำพันธสัญญาไว้กับอับรามว่า

          “เรามอบแผ่นดินนี้ให้แก่ลูกหลานของท่าน ตั้งแต่แม่น้ำแห่งอียิปต์ไปจนถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส 19แผ่นดินของชาวเคไนต์ ชาวเคนัส ชาวขัดโมไนต์ 20ชาวฮิตไทต์ ชาวเปริสซี 21ชาวเรฟาอิม ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวเกอร์กาซี และชาวเยบุส”

 

15 a ข้อความในบทนี้มาจากตำนานยาห์วิสต์ โดยมีข้อความจากตำนานเอโลฮิสต์เริ่มแทรกเข้ามาบ้างแล้ว พระเจ้าทรงทดลองความเชื่อของอับราฮัมโดยทรงชะลอไม่ให้พระสัญญาสำเร็จเป็นความจริง พระองค์จะทรงรื้อฟื้นพระสัญญาและจะทรงกระทำพันธสัญญารับรองพระสัญญาที่จะประทานแผ่นดินให้มีความสำคัญเป็นอันดับแรก พันธสัญญาใหม่จะเอาพระสัญญาที่ประทานแก่บรรดาบรรพบุรุษ เมื่อพระองค์ทรงสัญญาจะแสดงพระเมตตาอย่างมั่นคงนี้มาสัมพันธ์กับพระบุคคลและกิจการของพระเยซูคริสตเจ้า ซึ่งทำให้พระสัญญาเหล่านั้นเป็นความจริง (ดู กจ 2:39 เชิงอรรถ z; รม 4:13 เชิงอรรถ f)

b ต้นฉบับไม่สมบูรณ์ ข้อความนี้เป็นคำพูดครั้งแรกของอับราม แสดงความไม่แน่ใจต่อพระสัญญา ข้อ 3 ข เป็นข้อความเพิ่มเติมในภายหลัง

c ความเชื่อของอับราฮัมแสดงความไว้วางใจในพระสัญญา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ตามประสามนุษย์ พระเจ้าทรงรับว่า การกระทำนี้สมควรได้รับบำเหน็จรางวัล (ดู ฉธบ 24:13; สดด 106:31) จึงทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมของอับราฮัม ความชอบธรรมหมายถึง คุณธรรมทุกอย่างและความเชื่อฟังอย่างถ่อมตน ซึ่งทำให้มนุษย์เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า เปาโลใช้ข้อความนี้พิสูจน์ว่าความชอบธรรมขึ้นอยู่กับความเชื่อ ไม่ได้ขึ้นกับกิจการตามธรรมบัญญัติ แต่เนื่องจากความเชื่อของอับราฮัมเป็นที่มาของกิจการดีของเขา จดหมายของยากอบจึงอ้างถึงข้อความเดียวกันนี้เมื่อประณาม “ความเชื่อที่ตายแล้ว” คือความเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดกิจการดี

d “ความมืดมิดที่น่ากลัว” อาจเป็นข้อความที่เพิ่มเติมเพื่ออธิบายคำ “มืดลง” ในข้อ 17

e ข้อ 13-16 เป็นข้อความจากตำนานเอโลฮิสต์ที่แทรกเข้ามา

f พิธีทำพันธสัญญาในสมัยโบราณ (ยรม 34:18)  คือ การที่คู่สัญญาจะเดินผ่านซากสัตว์ที่ผ่าเป็นสองซีก และขอให้ผู้ที่ละเมิดคำสัญญาตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันคือถูกฆ่า ไฟเป็นสัญลักษณ์ของพระยาห์เวห์ (เทียบ พุ่มไม้ลุกเป็นไฟใน อพย 3:2; เสาเพลิงใน อพย 13:21; ควันที่ภูเขาซีนายใน อพย 19:18) ในที่นี้พระยาห์เวห์แต่พระองค์เดียวทรงพระดำเนินผ่านซากสัตว์ เพราะพันธสัญญานี้เป็นสัญญาของพระองค์แต่ฝ่ายเดียว เป็นการริเริ่มของพระองค์  (ดู ปฐก 9:9 เชิงอรรถ d) เป็นการสัญญาอย่างสง่าที่พระยาห์เวห์ทรงกระทำโดยทรงสาบาน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก