“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

หอบาเบลa

11 1มนุษย์ทั่วโลกพูดภาษาเดียวกัน ใช้ถ้อยคำเดียวกัน 2เมื่อเขาอพยพมาจากทิศตะวันออก ก็พบที่ราบในแผ่นดินชินาร์b จึงตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่น 3ต่างก็พูดกันว่า “มาเถิด เราจงทำอิฐ เผาให้สุกจนแข็ง” เขาใช้อิฐแทนหิน และใช้ยางมะตอยต่างปูนสอ 4แล้วพูดว่า “มาเถิด เราจงสร้างเมืองและสร้างหอให้ยอดสูงเทียมฟ้าc เราจงสร้างชื่อเสียงไว้ เพื่อเราจะไม่ต้องกระจัดกระจายกันไปทั่วแผ่นดิน”

          5พระยาห์เวห์เสด็จลงมาทอดพระเนตรเมืองและหอซึ่งมนุษย์ได้สร้างขึ้น 6พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ดูซิ เขาทุกคนเป็นชนชาติเดียวกัน มีภาษาเดียวกัน นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นการงานของเขา บัดนี้ ไม่มีอะไรที่เขาอยากทำแล้วทำไม่ได้ 7มาเถิด เราจงลงไปและทำให้ภาษาของมนุษย์สับสนวุ่นวาย จนเขาไม่เข้าใจกันอีกต่อไป” 8พระยาห์เวห์จึงทรงกระทำให้เขากระจัดกระจายจากที่นั่นไปทั่วแผ่นดิน เขาจึงเลิกสร้างเมือง 9เพราะฉะนั้น เมืองนี้จึงมีชื่อว่าบาเบล เพราะว่าที่นั่นพระยาห์เวห์ทรงกระทำให้ภาษาทั่วแผ่นดินสับสนวุ่นวายd และที่นั่นพระยาห์เวห์ทรงกระทำให้มนุษย์กระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน

 

บรรดาบรรพบุรุษหลังน้ำวินาศe

          10ต่อไปนี้เป็นลำดับวงศ์ตระกูลของเชม

          เมื่อเชมอายุหนึ่งร้อยปี เขามีบุตรชื่ออารปัคชาดสองปีหลังจากน้ำวินาศ 11หลังจากให้กำเนิดอารปัคชาดแล้ว เชมยังมีชีวิตต่อไปอีกห้าร้อยปี และมีบุตรชายหญิงอีกหลายคน

          12เมื่ออารปัคชาดอายุสามสิบห้าปี เขามีบุตรชื่อเชลาห์ 13หลังจากให้กำเนิดเชลาห์แล้ว อารปัคชาดยังมีชีวิตต่อไปอีกสี่ร้อยสามปี และมีบุตรชายหญิงอีกหลายคน

          14เมื่อเชลาห์อายุสามสิบปี เขามีบุตรชื่อเอเบอร์ 15หลังจากให้กำเนิดเอเบอร์แล้วเชลาห์ยังมีชีวิตต่อไปอีกสี่ร้อยสามปี และมีบุตรชายหญิงอีกหลายคน

          16เมื่อเอเบอร์อายุสามสิบสี่ปี เขามีบุตรชื่อเปเลก 17หลังจากให้กำเนิดเปเลกแล้วเอเบอร์ยังมีชีวิตต่อไปอีกสี่ร้อยสามสิบปี และมีบุตรชายหญิงอีกหลายคน

          18เมื่อเปเลกอายุสามสิบปี เขามีบุตรชื่อเรอูล 19หลังจากให้กำเนิดเรอูล เปเลกยังมีชีวิตต่อไปอีกสองร้อยเก้าปี และมีบุตรชายหญิงอีกหลายคน

          20เมื่อเรอูลอายุสามสิบสองปี เขามีบุตรชื่อเสรุก 21หลังจากให้กำเนิดเสรุกแล้ว เรอูลยังมีชีวิตต่อไปอีกสองร้อยเจ็ดปี และมีบุตรชายหญิงอีกหลายคน

          22เมื่อเสรุกอายุสามสิบปี เขามีบุตรชื่อนาโฮร์ 23หลังจากให้กำเนิดนาโฮร์แล้ว เสรุกยังมีชีวิตต่อไปอีกสองร้อยปี และมีบุตรชายหญิงอีกหลายคน

          24เมื่อนาโฮร์อายุยี่สิบเก้าปี เขามีบุตรชื่อเทราห์ 25หลังจากให้กำเนิดเทราห์แล้ว นาโฮร์ยังมีชีวิตต่อไปอีกหนึ่งร้อยสิบเก้าปี และมีบุตรชายหญิงอีกหลายคน

          26เมื่อเทราห์อายุเจ็ดสิบปี เขามีบุตรชื่อ อับราม นาโฮร์ และฮาราน

ลำดับวงศ์ตระกูลของเทราห์f

          27ต่อไปนี้เป็นลำดับวงศ์ตระกูลของเทราห์

          เทราห์มีบุตรชื่ออับราม นาโฮร์ และฮาราน ฮารานมีบุตรชื่อโลท 28ฮารานถึงแก่กรรมก่อนเทราห์ผู้เป็นบิดาในถิ่นกำเนิดของตน คือที่เมืองอูร์ของชาวเคลเดีย 29ทั้งอับรามและนาโฮร์ได้แต่งงาน ภรรยาของอับรามชื่อซาราย ภรรยาของนาโฮร์ชื่อมิลคาห์ เป็นบุตรสาวของฮาราน ผู้เป็นบิดาของมิลคาห์และอิสคาห์ 30นางซารายเป็นหมัน และไม่มีบุตร

          31เทราห์พาอับรามบุตรของตน พาหลานของตนชื่อโลทซึ่งเป็นบุตรของฮาราน และพานางซารายบุตรสะใภ้ซึ่งเป็นภรรยาของอับรามบุตรของตนออกจากgเมืองอูร์ของชาวเคลเดีย ไปยังดินแดนคานาอัน แต่เมื่อมาถึงเมืองฮาราน ก็ได้ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่นh

          32เทราห์มีชีวิตอยู่สองร้อยห้าปีi และถึงแก่กรรมที่เมืองฮาราน

 

11 a เรื่องหอบาเบลเป็นเรื่องเล่าจากตำนานยาห์วิสต์ซึ่งอธิบายอีกแบบหนึ่งว่าทำไมมนุษยชาติจึงมีหลายชาติ หลายภาษา สาเหตุก็คือบาปซึ่งถูกพระเจ้าทรงลงโทษ เป็นบาปแห่งความหยิ่งจองหอง (ข้อ 4) เหมือนกับบาปของบิดามารดาเดิม (บทที่ 3) มนุษย์จะร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งหนึ่งในพระคริสตเจ้าพระผู้ไถ่ (ดู เรื่องวันเปนเตกอสเต เมื่อพระจิตเจ้าทรงบันดาลให้บรรดาอัครสาวกพูดภาษาต่างๆ ได้ กจ 2:5-12) และเรื่องชนนานาชาติจะชุมนุมกันในสวรรค์ (วว 7:9-10)

b แผ่นดินชินาร์ คือ ดินแดนซึ่งต่อมาจะเรียกว่า “เมโสโปเตเมีย” (ดู 10:10; อสย 11:11; ดนล 1:2)

c เรื่องหอบาเบลได้เค้าความคิดมาจากซากปรักหักพังของหอมีขั้นบันไดขึ้นในแคว้นเมโสโปเตเมียโบราณ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสถานที่พำนักของเทพเจ้า ผู้สร้างหอคงปรารถนาจะพบกับพระเจ้าของตน แต่ผู้เขียนตำนานยาห์วิสต์เห็นเป็นการกระทำที่แสดงความหยิ่งจองหองอย่างสุดๆ ความคิดเรื่องหอถูกนำมารวมกับความคิดเรื่องสังคมเมือง เพื่อประณามอารยธรรมเมือง (ดู 4:17 เชิงอรรถ h)

d “บาเบล” ในที่นี้ถูกอธิบายแบบชาวบ้านด้วยรากศัพท์ bll  “ทำให้วุ่นวาย” แต่ความหมายแท้จริงของคำ “บาเบล” คือ “ประตูของเทพเจ้า”

e ข้อ 10-27, 31-32 มาจากตำนานสงฆ์ต่อจาก 10:32 และเป็นการต่อเนื่องลำดับวงศ์ตระกูลในบทที่ 5  ลำดับวงศ์ตระกูลของมนุษยชาติถูกจำกัดลงมากล่าวถึงบรรพบุรุษของอับราฮัมเท่านั้น

f ข้อ 28-30 มาจากตำนานยาห์วิสต์ เป็นเรื่องของบรรพบุรุษของประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรรโดยแนะนำให้รู้จักต้นตระกูลสองท่าน คืออับรามและนางซาราย ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นอับราฮัมและนางซาราห์ (17:5, 15) มีการแนะนำให้รู้จักนาโฮร์ ซึ่งเป็นปู่ของนางเรเบคาห์ (24:24) และให้รู้จักโลท บรรพบุรุษของชาวโมอับและอัมโมน (19:30-38)

g ต้นฉบับภาษาฮีบรู มีว่า “พวกเขาได้ออกไปพร้อมกับพวกเขา” ซึ่งไม่ชัดเจน

h การเดินทางไปยังดินแดนคานาอันมี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกจากเมืองอูร์ในเมโสโปเตเมียตอนล่างไปยังเมืองฮารานทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมโสโปเตเมีย บางคนตั้งข้อสงสัยว่าการเดินทางที่เล่านี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานจากธรรมประเพณีโบราณหลายสาย เช่น ใน 11:28 และ 15:7 ซึ่งถูกเรียบเรียงในสมัยที่เมืองอูร์ไม่เป็นที่รู้จักอีกแล้ว เมืองอูร์เคยเป็นศูนย์กลางสำคัญในตอนต้นสหัสวรรษที่สองก่อนคริสตกาล และมีความสัมพันธ์ทางศาสนาและการค้ากับเมืองฮาราน ดังนั้น การเดินทางที่เล่านี้น่าจะเป็นไปได้

i หนังสือปัญจบรรพของชาวสะมาเรียกล่าวว่า เทราห์มีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งร้อยสี่สิบห้าปี ถ้าเป็นจริงเช่นนี้อับราฮัมก็ออกจากเมืองฮารานหลังจากที่บิดาถึงแก่กรรมแล้ว (ดู 11:26 และ 12:4 ดู กจ 7:4)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก