“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

การรื้อฟื้นพันธสัญญาa แผ่นศิลาจารึกพระบัญญัติชุดที่สอง

34 1พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงสกัดศิลาสองแผ่นให้เหมือนสองแผ่นแรก และขึ้นมาหาเราบนภูเขาb บนแผ่นศิลาใหม่สองแผ่นนี้เราจะเขียนถ้อยคำเหมือนถ้อยคำบนศิลาสองแผ่นแรกที่ท่านทำแตก 2พรุ่งนี้เช้าท่านจงเตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้เช้าท่านจะขึ้นมาบนภูเขาซีนาย และจะคอยพบเราที่นั่นบนยอดเขา 3อย่าให้ใครขึ้นมากับท่าน และอย่าให้มีใครอยู่บนส่วนใดๆ ของภูเขาเป็นอันขาด อย่าให้แพะแกะหรือโคมาเล็มหญ้าที่ด้านหน้าภูเขานี้ด้วย” 4โมเสสก็สกัดศิลาสองแผ่นเหมือนสองแผ่นแรก เช้าวันรุ่งขึ้นเขาขึ้นไปบนภูเขาซีนาย ถือศิลาสองแผ่นตามที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชา 5พระยาห์เวห์เสด็จมาในเมฆ ประทับอยู่กับโมเสสที่นั่น ทรงประกาศพระนามยาห์เวห์

 

พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์

6พระยาห์เวห์เสด็จผ่านไปข้างหน้าโมเสส ทรงประกาศว่าc “เราเป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เมตตาและกรุณา ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักมั่นคง และความซื่อสัตย์ 7เรารักษาความรักมั่นคงของเราไว้แก่ชนหลายพันชั่วอายุคน และอภัยความผิด อภัยการล่วงเกินและอภัยบาป แต่เราไม่ละเลยที่จะลงโทษ เราจะลงโทษความผิดของบิดาในลูกหลานเหลนจนถึงสามสี่ชั่วอายุคน” 8โมเสสรีบก้มกราบกับพื้นดินนมัสการพระองค์ 9เขาทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ถ้าข้าพเจ้าเป็นผู้ที่พระองค์โปรดปราน ขอพระองค์เสด็จไปกับข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด ประชากรเหล่านี้ดื้อดึงก็จริงอยู่ แต่ขอพระองค์ทรงยกโทษความผิดและบาปของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด ขอพระองค์ทรงรับข้าพเจ้าทั้งหลายไว้เป็นสมบัติของพระองค์ด้วยเถิด”

 

พันธสัญญาdครั้งที่สอง

10พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ดูซิ เรากำลังจะทำพันธสัญญากับท่านทั้งหลายต่อหน้าประชากรทั้งปวงของท่าน เราจะทำสิ่งมหัศจรรย์ ซึ่งไม่เคยทำในแผ่นดินใด หรือในหมู่ชนชาติใด ประชากรทั้งปวงที่อยู่กับท่านจะเห็นกิจการของพระยาห์เวห์ เพราะเราตั้งใจจะทำสิ่งประหลาดมหัศจรรย์โดยอาศัยท่าน 11จงปฏิบัติตามที่เราบัญชาท่านในวันนี้ เรากำลังจะขับไล่ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์และชาวเยบุสข้างหน้าท่าน 12จงระวัง อย่าทำสนธิสัญญากับผู้อาศัยในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไป มิฉะนั้น เขาจะเป็นอันตรายต่อท่านเหมือนเป็นหลุมพรางดักท่าน 13ท่านจะต้องรื้อแท่นบูชาของเขาทิ้ง ทำลายเสาหินศักดิ์สิทธิ์และเสาไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาe 14ท่านจะต้องไม่กราบไหว้พระเจ้าอื่น เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าที่ไม่ทรงยอมให้มีคู่แข่ง ทรงพระนามอีกว่า ‘พระผู้หวงแหน’ 15ท่านอย่าทำสนธิสัญญาใดๆ กับผู้อาศัยในแผ่นดินนั้น มิฉะนั้น เมื่อเขาขายตัวเหมือนหญิงแพศยานมัสการเทพเจ้าของเขาf และถวายเครื่องบูชาแก่เทพเจ้าเหล่านั้นแล้ว เขาจะชักชวนท่านให้กินอาหารที่ถวายแก่รูปเคารพด้วย แล้วท่านจะกิน 16อย่าไปขอบุตรหญิงของเขามาแต่งงานกับบุตรชายของท่าน มิฉะนั้น เมื่อบุตรหญิงของเขาขายตัวเหมือนหญิงแพศยานมัสการเทพเจ้าของเขา เขาจะชักชวนบุตรชายของท่านให้ขายตัวนมัสการเทพเจ้าของเขาด้วย”

17“อย่าใช้โลหะหล่อเป็นรูปเคารพ เพื่อกราบไหว้”

18“ท่านจงฉลองเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ ท่านจะต้องกินขนมปังไร้เชื้อเป็นเวลาเจ็ดวันในเดือนอาบีบ ดังที่เราได้บัญชาไว้แก่ท่าน เพราะท่านได้ออกจากอียิปต์ในเดือนอาบีบ

19บุตรชายคนแรกทุกคนหรือสัตว์เพศผู้ตัวแรกทุกตัว ไม่ว่าสัตว์ใหญ่หรือสัตว์เล็กจะต้องเป็นของเราg 20แต่ท่านจะต้องไถ่ลูกลาตัวแรก โดยใช้ลูกแกะเป็นเครื่องบูชาถวายแลกเปลี่ยน ถ้าท่านไม่ไถ่ ท่านจะต้องหักคอมัน ท่านจะต้องไถ่บุตรชายคนแรกทุกคนของบุตรหลานของท่านด้วย และอย่าให้ผู้ใดเข้าเฝ้าเราโดยไม่มีของถวาย”

21“ท่านจะต้องทำงานหกวัน แต่จะต้องหยุดงานในวันที่เจ็ด ท่านจะต้องหยุดทำงานในวันที่เจ็ด แม้กระทั่งในฤดูหว่านและฤดูเก็บเกี่ยวด้วย”

22“ท่านจะต้องฉลองเทศกาลสัปดาห์ คือเทศกาลเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวสาลี และเทศกาลเก็บเกี่ยวพืชผลตอนสิ้นปี”

23ผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงเป็นเจ้าพระเจ้าของอิสราเอลปีละสามครั้ง 24เพราะเราจะขับไล่ชนชาติต่างๆ ข้างหน้าท่าน และจะขยายเขตแดนของท่านออกไป ดังนั้น เมื่อท่านจะขึ้นไปเฝ้าพระพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านปีละสามครั้ง จะไม่มีผู้ใดคิดจะเข้ายึดครองแผ่นดินของท่าน

25“ท่านต้องไม่ถวายเลือดของเครื่องบูชาแก่เราพร้อมกับขนมปังใส่เชื้อ สัตว์ที่ฆ่าบูชาในพิธีฉลองปัสกาจะต้องไม่เหลืออยู่จนถึงเช้า”

26“ท่านจะต้องนำพืชผลแรกที่ดีที่สุดของแผ่นดินมาถวายในพระวิหารของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน”

“ท่านจะต้องไม่ต้มเนื้อลูกแพะในน้ำนมแม่ของมัน”

27พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงเขียนถ้อยคำเหล่านี้ไว้ เพราะนี่เป็นถ้อยคำที่เราทำพันธสัญญาไว้กับท่านและกับชาวอิสราเอล”

28โมเสสอยู่ที่นั่นกับพระยาห์เวห์เป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน โดยไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเลย พระยาห์เวห์ทรงhจารึกถ้อยคำของพันธสัญญา คือบทบัญญัติสิบประการไว้บนแผ่นศิลาทั้งสองแผ่น

 

โมเสสลงมาจากภูเขาi

29เมื่อโมเสสถือแผ่นศิลาจารึกพระบัญญัติสองแผ่นลงมาจากภูเขาซีนาย เขาไม่รู้ว่าใบหน้าของเขามีแสงเรืองเพราะเขาได้สนทนากับพระยาห์เวห์ 30อาโรนกับชาวอิสราเอลทั้งปวงมองดูโมเสส ก็เห็นว่าใบหน้าของเขามีแสงเรือง เขาทั้งหลายกลัวไม่กล้าเข้ามาใกล้ 31แต่โมเสสเรียกอาโรนกับบรรดาหัวหน้าประชากรให้เข้ามาหา แล้วพูดกับเขา 32หลังจากนั้น ชาวอิสราเอลทั้งหมดก็เข้ามาใกล้ โมเสสเล่าให้เขารู้ทุกอย่างที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาแก่เขาบนภูเขาซีนาย 33เมื่อโมเสสพูดจบ เขาเอาผ้าคลุมมาปิดหน้าไว้ 34ทุกครั้งที่โมเสสเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์เพื่อสนทนากับพระองค์ เขาจะปลดผ้าคลุมหน้าออกจนกระทั่งเขากลับออกมา เมื่อเขาออกมา เขาจะเล่าให้ชาวอิสราเอลรู้ถึงพระบัญชาที่เขาได้รับ 35เมื่อชาวอิสราเอลมองใบหน้าของโมเสส ก็เห็นใบหน้าของเขามีแสงเรืองj แล้วโมเสสจะเอาผ้าคลุมปิดหน้าไว้ จนกว่าเขาจะเข้าไปสนทนากับพระองค์ในครั้งต่อไป

 

34 a บทที่ 34 เป็นเรื่องเล่าตามตำนานยาห์วิสต์เกี่ยวกับพันธสัญญาที่ภูเขาซีนาย สำหรับความคิดเรื่อง “การรื้อฟื้นพันธสัญญา” ดู 32:1 เชิงอรรถ a

b “ขึ้นมาหาเราบนภูเขา” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูละประโยคนี้

c พระยาห์เวห์ทรงทำตามพระสัญญา (33:19-23) และทรงเผยให้รู้ถึงลักษณะของพระองค์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับความรักมั่นคงของพระองค์

d พันธสัญญาประกอบด้วยทั้งพระสัญญาและพระบัญชา ไม่มีการขัดแย้งกันระหว่าง “พระกรุณา” และ “กฎ” บางครั้ง ข้อ 14-26 ได้ชื่อว่า “บทบัญญัติสิบประการเกี่ยวกับพิธีกรรม” (แม้ยังถกเถียงกันว่า บทบัญญัติในที่นี้แยกออกเป็นสิบประการได้หรือไม่) หรือยังได้ชื่ออีกว่าประมวลกฎหมายพันธสัญญาตามตำนานยาห์วิสต์ ข้อกำหนดเหล่านี้วางเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับพันธสัญญา ได้แก่ การห้ามนมัสการรูปเคารพ การฉลองวันสับบาโต ซึ่งเหมือนกับบทบัญญัติสิบประการในบทที่ 20 นอกจากนั้น ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับพิธีกรรม ได้แก่ วันฉลอง การถวายผลิตผลแรก และการถวายเครื่องบูชา

e เรื่อง “เสาหินศักดิ์สิทธิ์” ดู 23:24 เชิงอรรถ k ส่วน “เสาศักดิ์สิทธิ์” หรือ asherah เป็นสัญลักษณ์ของเทพีอาเชราห์ (ภาษากรีกว่า Astarte) เทพีแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์

f การนมัสการพระยาห์เวห์เปรียบได้กับการสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการนมัสการพระเท็จเทียมเปรียบได้กับการขายตัวเหมือนหญิงแพศยา (ดู อสค 16 และ 23; ฮชย 1-3; วว 17)

g ตัวบทภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน คำแปลของเราจึงใช้ตัวบทภาษากรีกเป็นหลัก

h ในต้นฉบับไม่ชัดว่าใครเป็นผู้จารึกถ้อยคำของพันธสัญญา อาจเป็นพระยาห์เวห์ (ตาม ข้อ 1; ฉธบ 10:4) หรืออาจหมายถึง “โมเสส” (ตามข้อ 27) ส่วนวลี “บทบัญญัติสิบประการ” อาจจะเป็นคำอธิบายที่เพิ่มเติมในภายหลัง

i เราไม่รู้ที่มาของข้อ 29-35 ข้อความนี้บันทึกธรรมประเพณีเกี่ยวกับความสุกใสบนใบหน้าของโมเสสด้วยคำกริยา qaran ซึ่งมาจากคำว่า qeren “เขาสัตว์” ดังนั้น ในพระคัมภีร์ภาษาละตินฉบับ Vulgate จึงแปลตอนนี้ว่า “ใบหน้าของโมเสสมีเขา” (หรือมีแสงสว่างเหมือนเขาสัตว์)

j ต้นฉบับภาษาฮีบรูอ่านว่า “ผิวหนังบนใบหน้าของโมเสส” แต่ต้นฉบับภาษากรีกไม่มีคำว่า “ผิวหนัง”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก