“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

พระเจ้าทรงบัญชาให้ชาวอิสราเอลออกเดินทางa

33 1พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “เร็วเข้า จงเดินทางจากที่นี่เถิด ทั้งท่านและประชากรที่ท่านพาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อไปยังแผ่นดินที่เราสาบานไว้กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบว่า เราจะยกให้แก่ลูกหลานของเขา 2เราจะส่งทูตสวรรค์นำหน้าท่าน และจะขับไล่ชาวคานาอัน ชาวอาโมไรต์ ชาวฮิตไทต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุสออกไป 3ท่านจงไปยังแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ แต่เพราะท่านเป็นประชากรดื้อรั้น เราจึงจะไม่ไปกับท่าน เพื่อจะไม่ต้องทำลายท่านตามทาง” 4เมื่อประชากรได้ยินถ้อยคำที่ดุดันเช่นนี้ ทุกคนรู้สึกเป็นทุกข์มาก ไม่มีใครสวมเครื่องประดับเลย

          5พระยาห์เวห์จึงตรัสกับโมเสสว่า “จงบอกชาวอิสราเอลว่า ท่านทั้งหลายเป็นประชากรที่ดื้อดึง ถ้าเราไปกับท่านแม้เพียงชั่วครู่ก็ตาม เราอาจทำลายท่านเสียหมดก็ได้ บัดนี้ ท่านทั้งหลายจงถอดเครื่องประดับออกเสีย แล้วเราจะรู้ว่า เราจะทำอย่างไรกับท่านดี”

6ดังนั้น เมื่อเดินทางจากภูเขาโฮเรบ ชาวอิสราเอลจึงไม่สวมเครื่องประดับอีกเลยb

 

กระโจมนัดพบc

          7โมเสสเคยตั้งกระโจมไว้นอกค่าย ห่างออกไปเล็กน้อย เขาเรียกกระโจมนี้ว่า กระโจมนัดพบd ผู้ใดต้องการคำแนะนำจากพระยาห์เวห์e ผู้นั้นจะออกไปยังกระโจมนัดพบที่ตั้งอยู่นอกค่าย 8เมื่อใดที่โมเสสออกไปยังกระโจมนัดพบ ประชากรทั้งปวงจะยืนขึ้นหน้าประตูกระโจมของตน ดูโมเสสเดินผ่านจนกระทั่งเขาเข้าไปในกระโจมนัดพบ 9เมื่อโมเสสเข้าไปในกระโจม จะมีเมฆเป็นลำลอยลงมาอยู่ที่ประตูกระโจม แล้วพระยาห์เวห์ก็ตรัสกับโมเสส 10ประชากรทั้งปวงเห็นเมฆเป็นลำที่ประตูกระโจมนัดพบ ทุกคนจะยืนขึ้น และกราบลงที่ประตูกระโจมของตน 11พระยาห์เวห์ทรงสนทนากับโมเสสตามลำพังเหมือนเพื่อนคุยกัน แล้วโมเสสก็กลับเข้าค่าย แต่ชายหนุ่มที่รับใช้โมเสส ชื่อโยชูวาบุตรของนูน ไม่ได้ออกจากกระโจมนัดพบ

 

โมเสสอธิษฐานอ้อนวอนเพื่อประชากร

12โมเสสทูลพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงนำประชากรนี้ไป’ แต่พระองค์ยังไม่ทรงบอกเลยว่า จะทรงส่งผู้ใดมากับข้าพเจ้า พระองค์ตรัสแต่ว่า ‘เรารู้จักท่านดี และเราโปรดปรานท่าน’ 13บัดนี้ ถ้าพระองค์โปรดปรานข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงชี้ทางของพระองค์แก่ข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะรู้จักพระองค์ และเป็นผู้ที่พระองค์โปรดปราน ขอทรงระลึกด้วยว่า ชนชาตินี้เป็นประชากรของพระองค์” 14พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เราจะไปกับท่าน และจะให้ท่านได้พักผ่อน”f 15โมเสสทูลว่า “ถ้าพระองค์ไม่เสด็จไปกับข้าพเจ้าทั้งหลาย ก็อย่าได้ทรงให้ข้าพเจ้าทั้งหลายไปจากที่นี่เลย 16ถ้าพระองค์เสด็จไปกับข้าพเจ้าทั้งหลายเท่านั้น ทุกคนจะรู้ว่าพระองค์โปรดปรานข้าพเจ้าและประชากรของพระองค์ ดังนี้ ข้าพเจ้าและประชากรของพระองค์จะต่างจากบรรดาประชาชาติทั้งหลายบนแผ่นดิน” 17พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “เราจะทำตามที่ท่านพูด เพราะท่านเป็นผู้ที่เราโปรดปราน และเรารู้จักท่านดี”

 

โมเสสทูลขอพระยาห์เวห์ให้ทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์

18โมเสสทูลว่า “ขอให้ข้าพเจ้าแลเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์เถิด”g 19พระยาห์เวห์ตรัสตอบว่า “เราจะบันดาลให้ความรุ่งเรืองทั้งหมดของเราปรากฏต่อหน้าท่าน และเราจะประกาศนามยาห์เวห์ของเราต่อหน้าท่านh เราจะโปรดปรานผู้ที่เราต้องการจะโปรดปราน และเราจะเมตตากรุณาผู้ที่เราต้องการจะเมตตากรุณา” 20พระองค์ตรัสต่อไปว่า “ท่านจะดูหน้าเราไม่ได้ เพราะไม่มีมนุษย์คนใดที่เห็นหน้าเราแล้วจะมีชีวิตอยู่ได้”i 21พระยาห์เวห์ทรงเสริมอีกว่า “ที่นี่มีหินก้อนใหญ่อยู่ข้างเรา ท่านจงยืนบนนั้นเถิด 22เมื่อเราผ่านไป และสำแดงสิริรุ่งโรจน์ของเรา เราจะเอาท่านซ่อนไว้ในซอกหินนั้น และจะใช้มือของเราบังท่านไว้จนกว่าเราจะผ่านพ้นไป 23แล้วเราจะเอามือของเราออก ท่านจะได้เห็นด้านหลังของเรา แต่ท่านจะไม่เห็นหน้าของเรา”

33 a บทที่ 33 รวบรวมธรรมประเพณีหลายสายซึ่งไม่ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเล่า แต่กล่าวถึงเรื่องคล้ายๆ กันเกี่ยวกับการประทับอยู่ของพระเจ้าในหมู่ประชากรของพระองค์

b ข้อ 1-6 ซึ่งมีลีลาการเขียนแบบหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ ไม่ค่อยสมเหตุสมผล เพราะพระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้ประชากรทำสิ่งที่เขาสมัครใจทำอยู่แล้ว

c ข้อความนี้เป็นข้อความเก่าแก่ที่สุดตอนหนึ่งที่กล่าวถึงกระโจมนัดพบ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระยาห์เวห์ “ทรงพบ” กับโมเสสและประชากรอิสราเอล (กดว 11:16ฯ; 12:4-10 ดู อพย 29:42-43; ลนต 1:1)

d “กระโจมนัดพบ” นี้เป็นสักการสถานที่เก็บหีบพันธสัญญา ขณะที่ชาวอิสราเอลเดินทางในถิ่นทุรกันดาร และตามข้อ 11 โยชูวาเป็นผู้ดูแลกระโจมนัดพบนี้

e “คำแนะนำจากพระยาห์เวห์” หมายถึง คำตอบที่พระยาห์เวห์ประทานให้ผ่านทางโมเสส ซึ่งสนทนากับพระเจ้าในกระโจมนัดพบ (ดู 18:15) ในสมัยต่อมา พระยาห์เวห์ให้คำปรึกษาโดยใช้คนกลางคือคนของพระเจ้า หรือประกาศก (1 พกษ 14:5; 22:5, 8; 2 พกษ 3:11; 8:8; ฯลฯ) หรือโดยใช้อุปกรณ์เสี่ยงทาย (ดู 1 ซมอ 2:28 เชิงอรรถ l; 14:41 เชิงอรรถ r)

f การพักผ่อนเป็นความคิดหลักในธรรมประเพณีเฉลยธรรมบัญญัติ (ดู ฉธบ 12:10; 25:19; ยชว 1:13; 22:4; 23:1 ดู สดด 95:11) “การพักผ่อน” หมายความว่า พระสัญญาเป็นความจริงแล้ว

g ดู 24:16 เชิงอรรถ f

h การที่พระเจ้าทรงบอกพระนามของพระองค์แก่โมเสส เป็นการเปิดเผยให้มนุษย์รู้ถึงพระธรรมชาติแท้จริงและเอกลักษณ์ของพระองค์ (ดู 3:13-15, 13 เชิงอรรถ g)

i คนโบราณคิดว่าพระเจ้าทรงความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ห่างไกลจากมนุษย์ซึ่งไม่สมควรจะเข้ามาใกล้พระองค์ (ลนต 17:1 เชิงอรรถ a) จนกระทั่งว่า ผู้ใดมองดูพระเจ้า (ดู อพย 19:21; ลนต 16:2; กดว 4:20; ดู กดว 6:27 เชิงอรรถ b) หรือเพียงได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ (อพย 20:19; ฉธบ 5:24-26; 18:16) ผู้นั้นจะต้องตาย เพราะเหตุนี้ โมเสส (3:6) เอลียาห์ (1 พกษ 19:13) แม้กระทั่งทูตสวรรค์เซราฟิม (อสย 6:2) ยังต้องปิดหน้าของตนเมื่ออยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ใครที่ยังคงมีชีวิตอยู่หลังจากเห็นพระเจ้าแล้วจึงมีความประหลาดใจและรู้คุณ (ปฐก 32:31; ฉธบ 5:24) และมีความเกรงกลัว (วนฉ 6:22-23; 13:22; อสย 6:5) แต่พระเจ้าประทานพระคุณนี้น้อยครั้งมาก (24:10-11) พระองค์ประทานแก่โมเสสผู้เป็น “เพื่อน” ของพระองค์ (33:11; กดว 12:7-8; ฉธบ 34:10) และแก่เอลียาห์ (1 พกษ 19:11ฯ) ท่านทั้งสองนี้จะมาเป็นพยานในพันธสัญญาใหม่ เมื่อพระคริสตเจ้าทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์บนภูเขา (มธ 17:3//) ในพันธสัญญาใหม่ “พระสิริรุ่งโรจน์” ของพระเจ้า (ดู 24:16 เชิงอรรถ f และ 33:18) ปรากฏชัดในพระเยซูเจ้า (ยน 1:14 เชิงอรรถ i; 11:40; ดู 2 คร 4:4, 6) พระองค์เท่านั้นทรงแลเห็นพระบิดา (ยน 1:18; 6:46; 1 ยน 4:12) ไม่มีมนุษย์คนใดมองพระพักตร์พระเจ้าได้ยกเว้นในสวรรค์ (มธ 5:8; 1 คร 13:12; 1 ยน 3:2)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก