“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

V. ลูกโคทองคำและการรื้อฟื้นพันธสัญญาa

 

ลูกโคทองคำb

32 1เมื่อประชากรเห็นว่าโมเสสอยู่บนภูเขานานแล้ว ยังไม่ลงมา เขาจึงมาชุมนุมกันรอบอาโรนพูดว่า “เร็วเข้า ท่านจงสร้างรูปเคารพให้เราสักรูปหนึ่งเพื่อเป็นผู้นำทางพวกเราเถิด เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสคนนั้น คนที่นำเราออกมาจากแผ่นดินอียิปต์” 2อาโรนบอกว่า “จงถอดต่างหูทองคำที่ภรรยาและบุตรชายบุตรหญิงของท่านสวมอยู่นำมาให้ข้าพเจ้า” 3ประชากรทุกคนก็ถอดต่างหูทองคำนำมาให้อาโรน 4อาโรนรับต่างหูจากมือของประชากร แล้วนำมาหลอมในเบ้า หล่อเป็นรูปลูกโคตัวหนึ่ง ประชากรต่างร้องว่า “ชาวอิสราเอลทั้งหลาย นี่แหละเป็นพระเจ้าของท่าน ผู้ทรงนำท่านทั้งหลายออกมาจากแผ่นดินอียิปต์”c 5เมื่ออาโรนเห็นเช่นนี้ เขาก็สร้างพระแท่นบูชาขึ้นไว้เบื้องหน้ารูปลูกโคนั้น แล้วประกาศว่า “พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองเพื่อเป็นเกียรติแด่พระยาห์เวห์” 6เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เขาทั้งหลายถวายเครื่องเผาบูชาและศานติบูชา ประชากรต่างนั่งลงกินและดื่ม แล้วลุกขึ้นเล่นสนุกสนาน

 

พระยาห์เวห์ทรงเตือนโมเสส

7พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงรีบลงไปข้างล่างเถิด เพราะประชากรของท่านซึ่งท่านได้นำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ได้ทำผิดอย่างสาหัส 8เขาเปลี่ยนวิถีทางอย่างรวดเร็วออกจากทางที่เราได้สั่งให้เขาเดิน เขาหล่อรูปลูกโคขึ้น แล้วกราบนมัสการ ทั้งยังถวายบูชาแก่รูปนั้น พร้อมกับกล่าวว่า ชาวอิสราเอลทั้งหลาย นี่แหละเป็นพระเจ้าของท่านผู้ทรงนำท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์” 9dพระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสต่อไปว่า 10“เรารู้จักคนเหล่านี้ดี เขาดื้อดึงเหลือเกิน อย่าห้ามเราเลย ความโกรธของเราจะเผาผลาญเขาทั้งหลาย และเราจะทำลายเขา เราจะทำให้ท่านเป็นชนชาติใหญ่”

 

คำอ้อนวอนของโมเสสe

11โมเสสอ้อนวอนพระยาห์เวห์พระเจ้าของตนว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ทำไมพระองค์ทรงปล่อยให้พระพิโรธเผาผลาญประชากรของพระองค์ ที่พระองค์ได้ทรงนำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยอานุภาพยิ่งใหญ่และด้วยพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ 12ทำไมจะให้ชาวอียิปต์เยาะเย้ยได้ว่า ‘พระองค์ทรงนำเขาออกมาด้วยความประสงค์ร้าย จะฆ่าเสียที่ภูเขา จะทำลายให้หมดสิ้นจากแผ่นดิน’ ขอทรงระงับพระพิโรธเถิด ขอทรงเปลี่ยนพระทัยอย่าทำร้ายประชากรของพระองค์เลย 13ขอทรงระลึกถึงอับราฮัม อิสอัค และยาโคบผู้รับใช้พระองค์เถิด พระองค์ทรงสัญญากับเขาโดยทรงสาบานอาศัยพระนามพระองค์ว่า เราจะให้ลูกหลานของท่านมีจำนวนมากมายเหมือนดาวในท้องฟ้า เราจะให้แผ่นดินที่เราสัญญาไว้นี้ทั้งหมดแก่ลูกหลานของท่าน และเขาจะครอบครองเป็นมรดกตลอดไป” 14พระยาห์เวห์จึงทรงเปลี่ยนพระทัยไม่ทรงลงโทษประชากรของพระองค์

 

โมเสสทำลายศิลาจารึกพระบัญญัติ

          15โมเสสกลับลงมาจากภูเขาถือแผ่นศิลาจารึกสองแผ่นที่จารึกพระบัญญัติไว้ทั้งสองด้าน คือด้านหน้าและด้านหลัง 16ศิลาจารึกนั้นเป็นฝีพระหัตถ์พระเจ้า ตัวอักษรที่จารึกนั้นเป็นตัวอักษรที่พระเจ้าทรงจารึกลงบนแผ่นศิลา

17โยชูวาได้ยินเสียงประชากรร้องตะโกน ก็บอกโมเสสว่า “มีเสียงรบกันดังมาจากค่าย” 18โมเสสตอบว่า

“นั่นไม่ใช่เสียงร้องของผู้ชนะ

ไม่ใช่เสียงคร่ำครวญของผู้แพ้

แต่ข้าพเจ้าได้ยินเสียงเพลงฉลอง”

19เมื่อโมเสสเข้ามาใกล้ค่าย เขาก็เห็นรูปลูกโคและเห็นประชากรกำลังเต้นรำ โมเสสโกรธมาก ทุ่มแผ่นศิลาที่ถืออยู่ลงไปจนแตกที่เชิงเขา 20เขาเอารูปลูกโคที่ประชากรหล่อมาเผา แล้วบดเป็นผงละเอียด โปรยลงในน้ำและบังคับให้ชาวอิสราเอลดื่มน้ำนั้นf 21โมเสสถามอาโรนว่า “ประชาชนเหล่านี้ทำอะไรท่าน ท่านจึงทำให้เขาทำบาปหนักเช่นนี้” 22อาโรนตอบว่า “ขอเจ้านายอย่าได้โกรธข้าพเจ้าเลย ท่านรู้แล้วว่า ประชากรนี้มีความโน้มเอียงจะทำชั่วอยู่เสมอ 23เขาบอกข้าพเจ้าว่า ‘จงสร้างรูปเคารพให้เราสักรูปหนึ่ง เพื่อเป็นผู้นำทางพวกเราเถิด เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสคนนั้น คนที่นำเราออกมาจากแผ่นดินอียิปต์’ 24ข้าพเจ้าจึงบอกเขาว่า ‘ใครมีทองคำบ้าง’ คนที่มีทองคำเป็นเครื่องประดับ ก็ถอดมาให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเอาทองหลอมในไฟ ก็ได้ลูกโคตัวนี้ออกมา”

 

ความกระตือรือร้นของชาวเลวี

25โมเสสเห็นว่าไม่มีทางควบคุมประชากรไว้ได้ เพราะอาโรนได้ปล่อยให้เขาทั้งหลายทำตามใจชอบเป็นที่เยาะเย้ยgของบรรดาศัตรู 26โมเสสจึงยืนอยู่ที่ประตูค่าย ตะโกนว่า “ใครบ้างที่เป็นฝ่ายพระยาห์เวห์ จงก้าวออกมาหาข้าพเจ้าเถิด” ชาวเลวีทุกคนก็มาชุมนุมรอบโมเสส 27โมเสสพูดว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ ให้แต่ละคนคาดดาบไว้กับตัว จงเดินผ่านจากประตูด้านหนึ่งไปถึงประตูอีกด้านหนึ่งของค่าย จงฆ่าผู้ที่ทำผิด ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง เพื่อนบ้านหรือญาติของตน” 28ชาวเลวีก็ทำตามที่โมเสสสั่ง ในวันนั้นมีคนประมาณสามพันคนถูกฆ่า 29แล้วโมเสสบอกชาวเลวีว่า “วันนี้ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นสมณะรับใช้พระยาห์เวห์h เพราะแต่ละท่านไม่ลังเลที่จะประหารชีวิตบุตรหรือพี่น้องของท่าน ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพระพรท่านทั้งหลายในวันนี้เถิด”

 

โมเสสอธิษฐานภาวนาอีก

30วันรุ่งขึ้น โมเสสกล่าวแก่ประชากรว่า “ท่านทั้งหลายได้ทำบาปหนักมาก บัดนี้ข้าพเจ้าจะขึ้นไปเฝ้าพระยาห์เวห์ บางทีคำอ้อนวอนของข้าพเจ้าจะทำให้พระองค์ทรงอภัยบาปของท่าน” 31โมเสสกลับขึ้นไปเฝ้าพระยาห์เวห์ ทูลว่า “ประชากรนี้ได้ทำบาปหนักมาก เขาได้นำทองคำมาสร้างรูปเคารพ 32บัดนี้ ขอพระองค์ทรงอภัยบาปให้เขาทั้งหลายเถิด มิฉะนั้น ขอทรงลบชื่อของข้าพเจ้าออกจากหนังสือที่พระองค์ทรงเขียนไว้เถิด” 33พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “คนที่ทำบาปต่อเราต่างหากที่เราจะลบชื่อของเขาออกจากหนังสือของเรา[1] 34บัดนี้ ท่านจงไปนำประชากรไปยังสถานที่ที่เราสั่งท่านเถิด ทูตสวรรค์ของเราจะนำหน้าท่าน แต่เมื่อถึงเวลากำหนด เราจะลงโทษเขาทั้งหลายที่ทำบาป” 35พระยาห์เวห์ทรงลงโทษประชากร เพราะเขาได้บังคับอาโรนให้ทำรูปลูกโค

 

32 a เมื่อวิเคราะห์บทที่ 32-34 ในด้านวรรณกรรม จะเห็นได้ว่าข้อความนี้รวมตำนานยาห์วิสต์และเอโลฮิสต์เข้าด้วยกันจนแยกรายละเอียดจากกันได้ยาก เรื่องการทำพันธสัญญาในบทที่ 34 ตามตำนานยาห์วิสต์ เป็นการเล่าเรื่องเดียวกันกับการทำพันธสัญญาจากตำนานเอโลฮิสต์ในบทที่ 24 แต่ยังเล่าด้วยว่าชาวอิสราเอลได้ละเมิดพันธสัญญาโดยการนมัสการลูกโคทองคำในบทที่ 32 เรื่องราวการทำพันธสัญญาในบทที่ 34 จึงเป็นการรื้อฟื้นพันธสัญญา เพื่อจะได้รักษาตำนานทั้งสองไว้ได้

b “ลูกโคทองคำ” น่าจะเป็นรูปโคโตเต็มที่มากกว่า แต่ชาวอิสราเอลเรียกโคนี้อย่างประชดประชันว่า “ลูกโค” “โคผู้” นี้เป็นสัญลักษณ์ของการประทับอยู่ของเทพเจ้าในตะวันออกกลางโบราณ ในความเป็นจริง อาจมีชาวอิสราเอลกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคู่แข่งกับกลุ่มของโมเสสต้องการให้มีรูปโคเป็นสัญลักษณ์ของการประทับอยู่ของพระเจ้าแทนหีบพันธสัญญา แต่พระเจ้าของพวกนี้ยังคงเป็นพระยาห์เวห์ (ข้อ 5) ซึ่งทรงนำชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์ (ข้อ 4 และ 8) นักวิชาการบางคนคิดว่า เรื่องนี้เป็นการนำเหตุการณ์มาเล่าในเรื่องการอพยพ แต่ความจริงอาจจะตรงกันข้าม คือ กษัตริย์เยโรโบอัมทรงรื้อฟื้นประเพณีโบราณเมื่อทรงสั่งให้สร้างรูปโคทองคำ (1 พกษ 12:28 เชิงอรรถ d)

c รูปโคไม่ได้เป็นรูปของพระยาห์เวห์ แต่เป็นเพียงที่รองพระบาทของเทพเจ้าที่มองไม่เห็น ตามความคิดของคนโบราณในตะวันออกกลาง รูปโคทำหน้าที่เป็นผู้นำทางเช่นเดียวกับหีบพันธสัญญา (ดู ข้อ 1)

d ข้อ 9 ไม่มีในต้นฉบับภาษากรีก

e พระคัมภีร์กล่าวถึงโมเสสในฐานะที่เป็นคนกลางผู้ยิ่งใหญ่ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ในสมัยที่เกิดภัยพิบัติ (5:22-23; 8:4; 9:28; 10:17) วอนขอพระเจ้าให้ทรงรักษามีเรียมพี่สาว (กดว 12:13) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวอนขอพระเจ้าให้ทรงพระกรุณาต่อประชาชนขณะที่เดินทางในถิ่นทุรกันดาร (5:22-23; 32:11-14, 30-32; กดว 11:2; 14:13-19; 16:22; 21:7; ฉธบ 9:25-29) พระคัมภีร์ยังกล่าวถึงหน้าที่เป็นคนกลางของโมเสสนี้อีกใน สดด 99:6; 106:23; บสร 45:3; ยรม 15:1; ดู 2 มคบ 15:14 เชิงอรรถ e

f น้ำนี้จึงได้ชื่อว่า “น้ำแห่งการสาปแช่ง” (ดู กดว 5:11-31) แต่ในกรณีนี้ไม่ได้ใช้น้ำให้ดื่มเพื่อพิสูจน์ว่า ใครเป็นผู้ทำผิดดังที่จะกล่าวในหนังสือ กดว เพราะในกรณีนี้ประชาชนทุกคนได้ทำผิด ธรรมประเพณีโบราณคงเล่าว่าการที่ชาวเลวีลงโทษผู้ทำผิดนั้นเป็นพระบัญชาจากพระเจ้า (ดู ข้อ 25ฯ) ส่วน ฉธบ 9:21 เล่าเหตุการณ์เดียวกันคนละแบบ

g “เยาะเย้ย” ศัตรูชื่นชมเพราะคิดว่าพระยาห์เวห์จะต้องทรงลงโทษทำลายล้างชาวอิสราเอล

h “ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นสมณะรับใช้พระยาห์เวห์” แปลตามตัวอักษรว่า “ท่านได้ถวายมือของท่านแด่พระยาห์เวห์” (ดู 28:41 เชิงอรรถ j)

[1] หมายถึง หนังสือที่พระเจ้าทรงบันทึกกิจกรรมของมนุษย์ และกำหนดชะตากรรมของเขา (ดู สดด 69:28; 139:16)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก